Gate of God - ตอนที่ 608 แค่อสูรธรรมดา!
ท่าทีของราชาหลี่ฉินแข็งค้าง
กลับกันเฉียน วู่ กลับเต็มไปด้วยความโกรธที่เห็น ฟาง เจิ้งจือ วิ่งหนีไปพร้อมประตูชีวิตของเขา
เขาวิ่งหนี?
พร้อมกับประตูชีวิตของข้า
เขาจงใจงั้นหรือ?ถ้าเขาต้องการจะหนีเอาตัวรอดจริงๆ ทำไมไม่ทิ้งประตูชีวิตเอาไว้?
เฉียนวู่ เริ่มสับสน แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ ออกจากวังแน่
”คืนประตูชีวิตมาให้ข้า!”
”เจ้าเข้าใจผิดแล้วนี่มันประตูชีวิตของข้า!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับโดยทันที
มีคำกล่าวว่าความสำเร็จของคนๆ นั้นขึ้นอยู่กับความกล้าหาญของเขา
เขาจะคืนสิ่งที่ชิงมาได้ไปทำไม?
มีแต่คนโง่ที่ทำแบบนั้น!
แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะสละชีวิตเพื่อราชาหลี่ฉิน
”ตูม!”
เขาฟาดประตูชีวิตใส่ผู้ที่ขวางทางเขา
จากนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็ใช้ประตูชีวิตยันพื้นไว้ขณะที่เขาเหวียงตัวลอยข้ามเหล่าทหารไป
พวกเขาต่างมองดูฟาง เจิ้งจือ ที่ลอยหายไป …
ความโกรธเฉียน วู่ แทบจะปะทุออกมาอยู่แล้ว เขาต้องการให้ราชาเซี่ยโหลวไล่ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไปแต่เขารู้ราชาเซี่ยโหลวอยู่ใกล้จักรพรรดิจึงเกิดความลังเล
แต่ราชาเซี่ยโหลวไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เขาสะบัดไหล่ออกจากมือของราชาหลี่ฉินแสงที่กดไหล่ของเขาเลือนหายไปจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปทาง ฟาง เจิ้งจือ ทันที
ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ราชาหลี่ฉินถอยไปทางหลิน มู่ไป่ เขาขมวดคิ้วแต่เขาไม่ได้ไล่ตามราชาเซี่ยโหลวไป
เขาไม่มั่นใจว่าราชาเซี่ยโหลวจะกลับมาหรือไม่
”ท่านลุงข้าจะจัดการที่นี่เอง ได้โปรดไปที่ประตูวัง!”ในขณะเดียวกัน หลิน มู่ไป่ ก็มองดูราชาเซี่ยโหลวพุ่งไปหา ฟาง เจิ้งจือ เขาพูดด้วยสีหน้าที่ซีดขาว
เมื่อราชาหลี่ฉินได้ยินเช่นนั้นแววตาของเขาก็จับจ้องไปที่ราชาเซี่ยโหลวที่ค่อยๆห่างออกไป และ มองไปรอบๆ
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป
”ข้าจะไปฝ่าบาท!”หลังจากที่พูดจบราชาหลี่ฉินก็ไล่ตามราชาอสูรไปทันที
ทุกอย่างกระทันหันมากฟาง เจิ้งจือ วิ่งหนีไป แต่แบกประตูชีวิตไปด้วย นั่นหมายความว่าเขาช่วยพระราชวังเอาไว้จากภัยพิบัติ
แม้ว่าความปลอดภัยของจักรพรรดิจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแต่ถ้าประตูชีวิตตกอยู่ในมือของคนผิดก็อาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดได้
แสงสีรุ้งส่องประกายอีกครั้ง
ที่ด้านหลังของราชาเซี่ยโหลวมีร่างสองร่างกำลังวิ่งตามติดๆพวกเขาคือ เหยียน ซิว และ ฉาน ยู่ ความเร็วของทั้งคู่เกือบเทียบเท่ากับเขา
”ท่านปู่พาข้าไปด้วย!”ปิง หยาง พูดขึ้น
ราชาหลี่ฉินเหลือบมองและกระจายแสงรุ้งด้วยการขยับมือเพียงครั้งเดียวแสงสีรุ้งก็ลอยไปห่อหุ้มร่างของ ปิง หยาง และพานางไปพร้อมกัน
สำหรับหลิน มู่ไป่ แล้ว ถ้า ปิง หยาง อยู่ที่นี่จะเป็นอันตราย
ราชาหลี่ฉินจึงพานางไปด้วยเพื่อคลายความกังวลของจักรพรรดิมันจะทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ในวังได้ง่ายขึ้น
”พวกเขาทั้งหมดวิ่งหนีไป?”เฉียนวู่ สงสัยในขณะที่เขาเห็นราชาหลี่ฉินพา ปิง หยาง ไปด้วย เขามองไปที่จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ และ เฉิน เฟยฮัว ที่รายล้อมไปด้วยการป้องกันของเหล่าทหาร
เขารู้สึกว่าเขาควรจะอยู่ที่วังต่อไป
แต่
เพื่ออะไร?.ไอลีนโนเวล.
เพื่อฆ่าจักรพรรดิหลิน มู่ไป่? ถ้าไม่มีราชาเซี่ยโหลวและประตูชีวิต มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าจักรพรรดิ หลิน มู่ไป่
แต่เขาก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้
สู้จนกว่าจะสูญสิ้น!
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารก่อนที่จะกระโจนเข้าไปหาองค์จักรพรรดิ
…
ยามค่ำคืนร่างหนึ่งในชุดสีม่วงกระโดดข้ามกำแพงวังก่อนจะพุ่งเข้าไปในวังด้วยความเร็วสูงสุด
ฉือเฮา จากกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์
น้อยครั้งมากที่เขาจะแอบเข้ามาในวังเช่นนี้แต่เขาไม่อยากจะเสียเวลากับทหารบริเวณหน้าประตูวัง
แต่ขณะที่เขาเข้าใกล้โถงบัลลังก์
เขากลับยืนนิ่งด้วยความตกใจเพราะโถงบัลลังก์หายไป
”โถงบัลลังก์หายไปไหน?”ฉือ เฮา ตกตะลึง จากนั้นความคิดที่น่ากลัวก็ปรากฎขึ้น “โถงบัลลังก์ถูกทำลายไปแล้ว?!”
เขาตัวแข็งทันที
”เจ้าเป็นใครกัน?!”ทันใดนั้น ฉือ เฮา สัมผัสได้ถึงเงาร่างหนึ่งที่ค่อยๆเข้ามาใกล้
เขาเคลื่อนไหวเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
สัตว์ร้ายงั้นหรือ?
เขาพยายามเพ่งสายตามองทันใดนั้นเองปากของเขาก็อ้าค้าง
มันน่าตกใจยิ่งกว่าการที่โถงบัลลังก์หายไปเสียอีก!
”ฟางเจิ้งจือ?!”
พลังของเขาไม่ได้หายไปแล้วงั้นหรือ?
เขาเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
นอกจากนี้เขายังถือประตูขนาดใหญ่อยู่
เขายกมันได้ยังไงกัน?
เดี๋ยวก่อนนะ
ประตูนี้ทำไมถึงดูคุ้นเคยมาก…
ฉือเฮา พยายามคิด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่
ด้านฟาง เจิ้งจือ ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีที่เห็น ฉือ เฮา
สวรรค์รู้ถึงคำอ้อนวอนของเขาแล้วใช่ไหม?
”ท่านฉือ เฮา โปรดช่วยข้าด้วย หยุดอสูรข้างหลังข้าที!” ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นมาโดยไม่ลังเล
”อสูร?อสูรอะไร? พลังของเจ้ายังไม่หายไปงั้นหรือ? เจ้าหลอกข้ามาตลอดเลยงั้นรึ?” ฉือ เฮา ยิงคำถามใส่ ฟาง เจิ้งจือ ทันที
”มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับท่านมากเลยที่จะเอาชนะอสูรตัวนั้นแต่ข้าไม่สามารถจัดการมันได้ ข้าจะอธิบายเรื่องอื่นๆให้ท่านฟังที่หลัง!”
”อสูรธรรมดา?”ฉือ เฮา ลังเล แต่เขาก็จำจุดประสงค์ของเขาได้ทันที เขามาที่นี่เพื่อช่วยองค์จักรพรรดิ แค่อสูรธรรมดาเขาต้องจัดการมันอย่างแน่นอน จากนั้นเขาค่อยไปเค้นความจริงจาก ฟาง เจิ้งจือ “ได้ ปล่อยให้ข้าจัดการ!”
”ขอบคุณท่านฉือ เฮา มาก!” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มก่อนจะวิ่งผ่าน ฉือ เฮา ไป
ฉือเฮา ยังคงมุ่งหน้าไปที่โถงบัลลังก์
แต่
เขายังวิ่งไปไม่ไกล
เพราะสักพักเขาก็เห็นร่างหนึ่งพุ่งมา
ร่างนั้นแต่งกายด้วยชุดนักปราชญ์สีขาวหน้าตาของเขาซีดเซียว
แต่ที่สำคัญที่สุดดวงตาของเขาดูประหลาดและชั่วร้าย
ดวงตาที่เป็นสีเขียวบนหน้าผากของเขามีแผลเป็นคล้ายรูปดาบอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นบนหัวของเขามีเขาโค้งงออยู่คู่หนึ่ง
”คนงั้นหรือ?!”ฉือเฮา หยุดนิ่งทันที ร่างนั้นพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ” เชี่ย อสูรธรรมดารึ?!”
ฉือเฮา อยากตะโกนร้องใส่ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะจับเขาสับเป็นพันๆชิ้น
เขาทนได้ที่ฟาง เจิ้งจือ ปิดบังเรื่องพลังกับเขา
แต่เขากล้าหลอกเรื่องอสูรที่อยู่ตรงหน้า?
”ฟาง เจิ้งจือ หยุดอยู่ตรงนั้น!” ฉือ เฮา ตะโกนใส่ ฟาง เจิ้งจือ
”ข้าเชื่อว่าท่านทำได้ก็แค่ราชาอสูรเอง!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับไป
ฉือเฮา พูดไม่ออก
จากนั้นดวงตาของเขาก็เลื่อนไปมองประตูบานใหญ่ที่ฟาง เจิ้งจือ ถืออยู่ และเขาก็นึกได้ทันที
ประตูชีวิต!
เดี๋ยวนะเขาถือประตูชีวิตอยู่?
เหลือเชื่อ!
แน่นอนว่าฉือ เฮา เคยเห็นมันมาก่อน แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนยกมันและวิ่งหนีแบบ ฟาง เจิ้งจือ ?
หรือเขาเข้าใจเต๋าแห่งชีวิตแล้ว?เป็นไปไม่ได้ มันเป็นวิชาลับของพวกคนเถื่อน ฟาง เจิ้งจือ จะรู้ได้ยังไง?
ยิ่งเขาคิดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งสับสน
จากนั้น…
เขาก็วิ่ง
เขาทำอะไรไม่ถูกขณะที่ราชาอสูรเข้ามาใกล้
เขาคิดว่าการที่ประตูชีวิตอยู่ในมือฟาง เจิ้งจือ แล้วมีราชาอสูรไล่ตาม แสดงว่าประตูชีวิตนั้นมีความสำคัญมาก
มันทำให้ฉือ เฮา วิ่งโดยไม่กังวลอะไรทั้งสิ้น
”เฮ้ฟาง เจิ้งจือ หยุดอยู่ตรงนั้น บอกมาเจ้าถือประตูชีวิตของพวกคนเถื่อนอยู่ใช่ไหม?!” ฉือ เฮา ตะโกนขณะวิ่งเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ
”โอ้?่ท่านฉลาดมาก แต่ตอนนี้ประตูเป็นของข้า!” ฟาง เจิ้งจือ แก้ไขคำพูด ฉือ เฮา
”ประตูชีวิตเป็นของเจ้า?เจ้ามันหน้าด้านเหลือเกิน!” ฉือ เฮา บ่น
แต่เขาก็แปลกใจมาก
มันเป็นประตูชีวิตจริงหรือ?เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นในวัง?
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก่อนที่เขาจะหันไปมองด้านหลัง
”เชี่ยท่านจะตามข้ามาทำไม ไปสู้กับมันสิ!”
”ไปตายซะนั่นมันใช่อสูรธรรมดาที่ไหน เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไงกัน? นั่นมันราชาอสูรชัดๆ!” ฉือ เฮา ตะโกนใส่ ฟาง เจิ้งจือ
”แต่ท่านเป็นถึงผู้นำของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ท่านจัดการราชาอสูรไม่ได้งั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับไป
”ไม่ข้าเอาชนะเขาไม่ได้!” ฉือ เฮา พูดอย่างไม่อายแม้แต่น้อยจากนั้นเขาก็ถามว่า”เกิดอะไรขึ้นในวัง? ฝ่าบาทเป็นยังไงบ้าง?”
”คำถามที่ดีข้าจะบอกถ้าท่านให้เงินข้าแสนเหรียญเงิน!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับทันที
”เจ้ายังมาสนใจเรื่องเงินอีกงั้นรึ?ไม่คิดว่าข้าจะกลับคำพูดหรือไงกัน?”
”โอ้ข้าคิดว่าถ้าข้าเอาเรื่องที่ผู้นำกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์วิ่งหนีราชาอสูรไปเล่าในร้านอาหารให้คนอื่นฟังคงน่าสนุกไม่น้อย!”
”เจ้าขู่ข้างั้นรึ?!”ฉือ เฮา ตะลึง ก่อนที่เขาจะกัดฟันพูด “ได้ แสนเหรียญเงิน!”
”โถงบัลลังก์ถูกทำลายองค์จักรพรรดิยังมีชีวิตอยู่!”
”แล้ว?”
”ไม่มีอะไรแล้ว”
”…”
ฉือเฮา รู้สึกว่าเขาพึ่งเอาเงินจำนวนมากโยนทิ้งท่อระบายน้ำไป แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าองค์จักรพรรดิยังปลอดภัย
”เฮ้รอข้าด้วย!”
”ท่านโง่หรือไงข้ารอท่านข้าก็ตายสิ!” ฟาง เจิ้งจือ วิ่งไปที่ทางออกวังด้วยความเร็วสูงสุด
”…”ฉือ เฮา พูดไม่ออก
ด้านทหารป้องกันเมืองพวกเขาตกใจมากเมื่อเห็นฟาง เจิ้งจือ เข้ามาใกล้ก่อนที่จะยกหอกขึ้นทันที
เหมือนกับตอนที่ฉือ เฮา เห็น ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาเต็มไปด้วยคำถามมากมายในใจ
แต่คำถามเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่สำคัญอีกต่อไป
เพราเหมือนว่าประตูชีวิตที่ฟาง เจิ้งจือ ถืออยู่กำลังพุ่งลงไปที่พื้น
”ตูม!”เสียงดังก้องปะทุขึ้น
หินจำนวนมากกระเด็นไปทั่วคลื่นกระแทกขนาดใหญ่ทำให้เหล่าทหารต้องถอยออกไป
ฟางเจิ้งจือ ฉวยโอกาสนั้นรีบกระโดดข้ามกำแพงวังไปทันที
”เจ้านี่..”ฉือ เฮา ตกตะลึงอีกครั้ง