Gate of God - ตอนที่ 624 การโจมตีของ ปิง หยาง
”นี่มันสายเลือดพิเศษ…แค่ก” เหยียน ซิว เริ่มพูดขึ้น ร่างของเขาสั่นเทา
เขาไม่ได้เข้าใจแบบเดียวกันกับฉาน ยู่ แต่เขารู้ถึงพื้นฐานของมัน ว่าขีดจำกัดทางสายเลือดบางอย่างสามารถเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างโลกกับมนุษย์ได้
มันเป็นส่วนสำคัญที่อยู่ในร่างกายมนุษย์
การที่ปิง หยาง ถูกโจมตีและมีแสงเปล่งออกมาจากตัวนาง มันราวกับเป็นพลังที่ไม่ได้เกิดออกมาจากตัวนางเอง
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือราชาอสูรถูกโจมตีและนี่เป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะโจมตีซ้ำ
เหยียนซิว รีบลงไปจากกำแพงเพื่อช่วย ฟาง เจิ้งจือ แต่เขารู้ดีว่าไม่ควรพลาดโอกาสเช่นนี้
แม้จะบาดเจ็บสาหัส
ฉานยู่ เองก็คิดเหมือน เหยียน ซิว พวกเขาต่างสบตา และรีบพุ่งเข้าหาราชาอสูรและ ฟาง เจิ้งจือ ในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตามมีร่างๆหนึ่งนำไปก่อนแล้ว
เหยียนเฉียนหลี่!
เขารู้สึกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีเวลาให้คิดแล้ว
ภารกิจเพียงหนึ่งเดียวจบชีวิตราชาอสูร
ร่างทั้งสามร่างพุ่งไปหาราชาอสูรทันที
”โฮก!”ราชาอสูรแผดเสียงด้วยร่างกายที่สันเทาในขณะที่มองเห็นทั้งสามกำลังพุ่งเข้ามา
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยเขาจ้องมองไปที่ร่างที่สวมชุดสีแดง
ผมสีดำพริ้วไหวท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำชุดสีแดงรัดกุมร่างของนางอย่างแน่นหนา
แสงสว่างจำนวนมากยังคงส่องสว่างรอบร่างกายของนาง
ราวกับนางถูกห้องล้อมด้วยแสงหิ่งห้อย
มันเป็นฉากที่แปลกมาก
”ปิงหยาง!”ราชาอสูรเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายมากมายทำให้บรรยากาศสั่นสะเทือน
”ฝูงสัตว์ร้าย!”
”พวกมันมาถึงแล้ว!”
”ตั้งแถว!”
กองทหารเมฆาหันกลับเมื่อได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายไม่มีใครหวาดกลัวหรือคิดจะหลบหนี
…
ฟางเจิ้งจือ สับสนแต่นั่นไม่ใช่เพราะพลังของ ปิง หยาง แต่เขารู้สึกว่าแสงรอบๆร่างกายของนางกำลังดับลง
เขาเรียนรู้และเติบโตมากขึ้นในหนึ่งปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตอนนี้ยังคงสร้างความสับสนในใจ
”เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของปิง หยาง?”เขากังวลในเรื่องที่ต่างไปจากคนอื่น
เช่นเรื่องที่ว่าแสงมาจากที่ไหน?
จากจี้?
ถ้ามันเป็นเพราะจี้จริงๆเขาจะรู้สึกถึงแสงสว่างได้อย่างไร?
ฟางเจิ้งจือ ตัดสินว่าจี้ที่คอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
และเกิดอะไรขึ้นที่ดวงตาของนาง?ทำไมมันถึงไร้ซึ่งจิตวิญญาณเช่นนั้น? นอกจากนี้ทำไมจู่ๆนางก็โผล่ออกมา นึกว่าตายไปแล้วเสียอีก?
คำถามเหล่านี้ยังคงปรากฏอยู่ในใจของเขาต่อไป
หลังจากที่เขาเห็นการโจมตีของราชาอสูรเห็นได้ชัดเลยว่า ปิง หยาง คงไม่รอดแน่
แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
หรือว่าจี้ที่คอของนางจะเป็นสมบัติพิเศษ?
ไม่ดูเหมือนจะไม่ใช่
ถ้าเป็นเช่นนั้นนางก็น่าจะใช้พลังจากจี้ตั้งแต่แรก ไม่น่าจะรอจนกระทั่งได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้
ที่สำคัญยิ่งกว่า…
สิ่งที่ปิง หยาง กำลังพูดออกมาตอนนี้
”ท่านแม่!”
นางพูดออกมาว่าแม่อยู่ข้างนางตลอดราวกับนางเห็นแม่ของนางจริงๆ
หรือมันเป็นเพียงแค่ภาพหลอน?
นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนคิด
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้คิดแบบนั้น
เพราะว่า
สิ่งที่ปิง หยาง พูดนั้นเป็นเรื่องจริง
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่า ปิง หยาง ไม่มีทางโกหก โดยเฉพาะเรื่องของแม่ตัวเอง
”ครืด!”.ไอรีนโนเวล.
เหยียนเฉียนหลี่, เหยียน ซิว และ ฉาน ยู่ มาถึงด้านหน้าราชาอสูร พวกเขายืนอยู่สามด้านของราชาอสูรและเข้าโจมตีพร้อมกัน
พวกเขาไม่ได้สนใจถึงเรื่องที่เหล่าสัตว์ร้ายจะเข้ามาเพราะปัญหาทุกอย่างจะหมดไปถ้าราชาอสูรตาย
”โฮกโฮก!”
เสียงคำรามของเหล่าสัตว์ร้ายดังมาแต่ไกล
ร่างกายของราชาอสูรถูกล้อมรอบได้แสงสีทองอีกครั้ง
สำหรับฟาง เจิ้งจือ …
เขายังคงให้ความสนใจกับปิง หยาง
”เจ้าไร้ยางอายข้าบอกแล้วไงว่าข้าแข็งแกร่ง! เจ้าเชื่อข้าแล้วหรือยัง?” ปิง หยาง ยิ้มด้วยความพึ่งพอใจ
”แข็งแกร่ง?เพียงเพราะเจ้าสามารถจัดการ…” ฟาง เจิ้งจือ หยุดพูดครึ่งหนึ่ง ก่อนที่ร่างกายของเขาจะสั่นสะท้านเล็กน้อย “ก็ได้ เจ้าแข็งแกร่ง!”
ฟางเจิ้งจือ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมาก ขณะที่ดวงตาอันงดงามของ ปิง หยาง ยังคงจับจ้องมาที่เขาอยู่
ขณะที่เขากำลังมองดวงตาคู่นั้นความคิดแปลกๆก็ผุดขึ้นมา
ปิงหยาง!
นางไม่ได้กลับมามีชีวิต
หรืออาจจะพูดได้ว่าถ้าทุกอย่างยังเป็นแบบนี้ต่อไปปิง หยาง ต้องไม่รอดแน่นอน
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากเพราะ ปิง หยาง ลุกขึ้นอีกครั้งและนางแข็งแกร่งพอที่จะทำให้ราชาอสูรบาดเจ็บได้
แต่ฟาง เจิ้งจือ ยังคงเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจ เมื่อเขาเห็นแสงเปล่งออกมาจากร่างกายของ ปิง หยาง มันให้ความรู้สึกที่น่าเศร้าและทุกข์ใจ
”ฮ่าฮ่าฮ่า…ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับว่าข้าแข็งแกร่ง!”ปิง หยาง เพราะขณะที่นางหันไปมอง เหยียน เฉียนหลี่, เหยียน ซิว และ ฉาน ยู่ ที่กำลังสู้กับราชาอสูรอยู่ “เดี๋ยวข้าจะแสดงพลังอันแข็งแกร่งของข้าให้เจ้าดู!”
นางรีบวิ่งออกไปทันทีจนร่างของนางกลายเป็นลำแสงอันสดใส
”เดี๋ยว…นางคิดจะไปตายหรือไง?!”ฟาง เจิ้งจือ ตกใจมาก
ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าถ้าแสงที่เปล่งออกมาจากตัวปิง หยาง นั้นหมดไป นางไม่มีทางรกษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ได้แน่นอน
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกๆ
ไม่มีหลกฐานใดๆแต่ ฟาง เจิ้งจือ มั่นใจว่า ปิง หยาง ต้องวางแผนจะใช้แสงที่หล่อเลี้ยงชีวิตของนางทั้งหมดแน่
”ตูม!”เสียงดังขึ้นมา
หินแตกกระจายไปทั่ว
ร่างของปิง หยาง พุ่งลงมาจากบนอากาศอย่างรวดเร็ว
มันน่าตกตะลึงอย่างมาก
ราชาอสูรนอนอยู่ที่พื้นอย่างสมบูรณ์
ทุกคนต่างเบิกตากว้าง
หากการระเบิดพลังโจมตีครั้งก่อนนั้นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ …… .
ใครจะสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้บ้าง?
แม้ว่าเหยียน เฉียนหลี่, เหยียน ซิว และ ฉาน ยู่ ร่วมมือกันโจมตีราชาอสูร แต่ก็แทบทำอะไรเขาไม่ได้ แต่แค่ ปิง หยาง โจมตีเพียงครั้งเดียวกลับส่งเขาไปนอนที่พื้น
แส่งยังคงส่องออกมาจากร่างของปิง หยาง อย่างต่อเนื่อง
ไม่มีใครเข้าใจว่าปิง หยาง เอาชนะราชาอสูรได้ยังไง
แต่
หลังจากที่เห็นราชาอสูรนอนจมกองเลือกเหล่าทหารต่างส่งเสียงด้วยความยินดี
”องค์หญิงปิง หยาง!”
”องค์หญิงปิง หยาง!”
”องค์หญิงปิง หยาง!”
”…”
พวกเขาราวกับเห็นแสงแห่งชัยชนะ
”ฮ่าฮ่าฮ่า…องค์หญิงของพวกเจ้าเก่งกาจใช่ไหมล่ะ? ราชาเหยียนท่านยินดีใช่ไหม? เหยียน ซิว, ฉาน ยู่ ข้างแข็งแกร่งมากใช่ไหม?ฮ่าฮ่า…” ปิง หยาง หัวเราะออกมาอย่างรุนแรง ขณะที่ผมของนางพัดสยายอย่างบ้าคลั่งไปกลางสายลม
แต่ทันใดนั้นน้ำตาของนางก็เริ่มไหลรินไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพราะฝนที่ตกหนักหรือเปล่า
”อัก!”ราชาอสูรพยายามลุกขึ้นยืนแต่เขากลับล้มลงไปที่พื้นอีกครั้ง “แม่ของเจ้าเป็นใครกัน?”
”เย่เอ๋อร์!” ปิง หยาง ตอบทันที
”ไม่ข้าไม่ได้ถามชื่อ ข้าถามเกี่ยวกับฐานะของนาง นางไม่มีทางเป็นราชินีของอาณาจักรเซี่ยได้!” ใบหน้าของราชาอสูรซีดขาวขณะพูดออกมา
”นางเป็นราชินีของอาณาจักรเซี่ยแน่นอนและนางจะเป็นตลอดไป!” ท่าทีของ ปิง หยาง เต็มไปด้วยความมั่นใจ
”องค์ราชินีองค์ราชินี!”
”องค์หญิงปิง หยาง!”
”…”
เหล่าทหารต่างโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี
อย่างไรก็ตามราชาอสูรยังคงจับดาบไว้แน่นเขารู้ว่าแสงรอบๆ ปิง หยาง เริมอ่อนแอลงแล้ว