Gate of God - ตอนที่ 630 ด้วยสองนิ้ว?
ทุกคนนั้นควรมีความกล้าหาญแต่มันก็ควรจะมีข้อจำกัด ตัวอย่างเช่นหญิงสาวที่แม้แต่องค์จักรพรรดิและ เหยียน เฉียนหลี่ ยังกลัว
แม้แต่คนโง่ก็ยังรู้ว่าผลของการโจมตีผู้หญิงคนนั้น
ฟางเจิ้งจือ โง่หรือไงกัน?
ไม่มีใครคิดแบบนั้นแต่เขากลับทำมันอย่างไม่ลังเล
ในสายตาของทุกคนฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นคนที่กลัวความตายอย่างมาก แต่การกระทำของเขาในตอนนี้ยังขัดแย้ง
ปิงหยาง ยิ้มออกมาอีกครั้ง นางไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือคิดอะไรอยู่ แม้นางจะรู้ว่าการโจมตีนี้เพื่อช่วยชีวิตนาง
หญิงสาวปล่อยมือออกจากคอของปิง หยาง
นั่นเป็นเพราะการโจมตีครั้งนี้เร็วมาก
ขณะที่นางจ้องมองสายฟ้าที่พุ่งเข้ามานางไม่หลบแต่นางกลับยกสองนิ้วขึ้นมาและโจมตีสวนไปที่สายฟ้านั้น
แกร้ง!ราวกับเสียงดาบปะทะกัน
ทุกคนสามารถได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน
นางกล้าจะรับการโจมตีจากฟาง เจิ้งจือ ด้วยนิ้วเพียงสองนิ้ว
มันเป็นฉากที่น่าตกใจอย่างมาก
ทุกคนต่างมองไปที่หญิงสาวนางนั้นด้วยความตกตะลึงพวกเขารู้ดีว่านางนั้นทรงพลัง แต่มันยังทำให้พวกเขาหวาดกลัวไปถึงกระดูกสันหลังเมื่อเห็น
อย่างไรก็ตามหลังจากเสียงเหล็กดังขึ้นนางขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนนางจะประหลาดใจ ก่อนที่นางจะยกมือขวาขึ้นอย่างรวดเร็ว
มือขวาของนางทำอะไรบางอย่างเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปอยู่ข้างตัวเหมือนเดิม มือซ้ายของนางก็สะบัดไปที่สายฟ้านั้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
นางดีดนิ้วทั้งสองออกไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อจากนั้นนางก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ในที่สุดการโจมตีก็หยุดลง
”นางป้องกันมันได้จริงๆ?”
”นางป้องกังการโจมตีจากฟาง เจิ้งจือ ได้ด้วยนิ้วเพียงสองนิ้ว?”
”เป็นไปได้ยังไง?!”
แววตาของเหล่าทหารเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
มันน่าตกใจจริงๆที่มีคนที่สามารถป้องกันการโจมตีจากฟาง เจิ้งจือ ได้เพียงนิ้วสองนิ้ว
อย่างไรก็ตาม…
มีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อการโจมตีแรกถูกหยุด การโจมตีที่สองของ ฟาง เจิ้งจือ ก็มาถึง
”ฟางเจิ้งจือ เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้!” เสียงของ เหยียน เฉียนหลี่ ดังขึ้น เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ โจมตีครั้งแรก เหยียน เฉียนหลี่ ไม่ได้หยุดเขา
เพราะเขาอยากให้ฟาง เจิ้งจือ รู้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตามโจมตีอีกครั้ง
เหยียนเฉียนหลี่ ต้องหยุด ฟาง เจิ้งจือ เพราะถ้าการป้องกันครั้งนี้ไม่ได้ถูกป้องกันอย่างสมบูรณ์ ผลสะท้อนกลับจะเกินกว่าที่ ฟาง เจิ้งจือ จะคาดคิดได้
หญิงสาวนางนั้นก็ไม่ได้คิดถึงการโจมตีที่สองจากฟาง เจิ้งจือ และมันเกิดจากความไม่ลังเลใดๆทั้งสิ้น
”เจ้ามันช่างไร้เดียงสา!”เสียงอันหยิ่งยโสของนางดังขึ้น ราวกับนางเป็นเทพที่ก้มหน้ามองคนธรรมดา
อย่างไรก็ตามนางไม่สามารถหยุดการโจมตีที่เข้ามาได้
สายฟ้าสี่ม่วงพุ่งเข้าหานางอย่างรวดเร็วมันอันตรายและแข็งแกร่งกว่าอันแรกมาก
นางขมวดคิ้วขณะมองการโจมตีที่ใกล้เข้ามาจากนั้นางก็ค่อยๆยกมือขวาขึ้น
ครั้งนี้นางยกมือทั้งสองข้างขึ้่นเพื่อป้องกันการโจมตีจากเขา.ไอรีนโนเวล.
ตูม!
รอยแตกกระจายเต็มพื้นที่หญิงสาวคนนั้นยืนอยู่และรอยแตกกระจายออกไปทั่วบริเวณ
นางก้าวถอยไปเล็กน้อยชุดกระโปรงยาวสีม่วงของนางถูกโจมตี เผยให้เห็นเรียวขาที่งดงาม
นางดูต่างกับตอนที่ป้องกันการโจมตีในตอนแรกอย่างสิ้นเชิงแม้จะใช้มือทั้งสองข้างรับการโจมตี แต่กลับถอยออกไปมากกว่าสิบก้าว
การโจมตีครั้งที่สองหายไปแล้ว
หญิงสาวใช้มือรับการโจมตีของฟาง เจิ้งจือ จนเกิดบาดแผลที่ฝ่ามือมากมาย เลือดหลั่งไหลออกจากฝ่ามือของนาง
หยดลงสู่พื้นดิน
มันเกิดขึ้นเร็วมาก
เป็นเวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้นตั้งแต่ ฟาง เจิ้งจือ ยัดไข่มุกอสูรเข้าปากของ ปิง หยาง จนกระทั่งโจมตีออกไปถึงสองครั้ง
ในที่สุดร่างของหญิงสาวก็ถอยห่างจากปิง หยางผมสีดำเงาของนางกระพือไปในอากาศ
บรรยากาศเงียบสงบและน่าหวาดกลัว
ทุกคนต่างหันมองไปทางหญิงสาวสีหน้าของนางไม่ได้สงบนิ่งอีกต่อไปหน้าอกของนางเริ่มสั่นเทา
ทุกคนกำลังรอให้นางเอ่ยพูด
ในตอนนั้นเองฟาง เจิ้งจือ ก็เคลื่อนไหว เขาค่อยๆเดินเข้าไปหา ปิง หยาง
”ฟางเจิ้งจือ เจ้าไร้ยางอาย …” ปิง หยาง จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ในขณะที่เขาเคลื่อนไหวนางชอบในความมุ่งมั่นของเขา
ในตอนนั้นเองนางเริ่มรู้สึกแปลกๆมันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ อย่างไรก็ตาม มันรู้สึกอบอุ่นมาก มากจนทำให้นางลืมการกระทำของเขาไปเสียหมด
ฟางเจิ้งจือ ค่อยๆโอบกอด ปิง หยางเขาค่อยๆอุ้มนางขึ้นมาจากพื้นดิน
จากนั้นก็หันมองหญิงสาวคนนั้น
”เจ้ากล้าดียังไงถึงฆ่าคนที่ข้าช่วยเอาไว้?”
ฟางเจิ้งจือ พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ แต่ก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน
”เจ้ากล้าดียังไงถึงฆ่าคนที่ข้าช่วยเอาไว้?”
คำพูดอันหยิ่งยโสมันเป็นความหยิ่งผยองที่ออกมาจากจิตใจ
ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นมันยังคงดังอยู่ในหัวของพวกเขา พวกเขาหันมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความตกตะลึงฟาง เจิ้งจือ คนที่พวกเขาคิดว่าเป็นไอ้ขี้ขลาด
”รนหาที่ตาย!”แววตาของหญิงสาวจับจ้องมาที่เขาผมของนางยังคงโบกสะบัดตามสายลม ให้ความรู้สึกที่เย็นเยือกเมื่อได้เห็น
หญิงสาวเริ่มเคลื่อนไหว
พื้นที่ทั่วบริเวณบิดเบี้ยวในทันทีที่นางเคลื่อนไหวฝนที่ตกลงมาระเหยกลายเป็นเมฆหมอกในทันที
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
หญิงสาวคนนั้นก้าวเข้าไปในหมอกและเดินเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ ช้าๆแสงสว่างปรากฎขึ้นในมือของนาง
อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนได้เห็นแสงนั้นพวกเขารู้สึกราวกับว่าอยู่ที่ก้นเหวลึก
”ไม่!”
”ฟางเจิ้งจือ ระวังตัวด้วย!”
ในตอนนั้นเองเสียงสองเสียงก็ดังขึ้นพร้อมๆกัน ตอนนั้นเอง ร่างสีแดงเลือดก็ปรากฎขึ้นที่ด้านหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง
เขาคือเหยียน เฉียนหลี่
เมื่อฟาง เจิ้งจือ โจมตีเข้าไปถึงสองครั้ง เขาจึงตอบสนอได้อย่างรวดเร็ว
วู่จวี้เอ๋อ เป็นคนต่อมาที่ตอบสนอง นางอยู่ใกล้ชิดกับพวกเขาตลอดเวลา นั้นทำให้นางรับมือสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
”รนหาที่ตาย?”สายตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชาขณะมองไปที่ วู่ จวี้เอ๋อ และ เหยียน เฉียนหลี่ นางไม่คิดจะหยุดก่อนที่จะตะโกนออกมา “ข้าไม่ขัดความปรารถนาของพวกเจ้า!”
”คังเยว่ หยุด!” ทันใดนั้นเสียงจากในเมืองก็ดังขึ้นมา แม้มันจะดูอ่อนแอแต่กลับเต็มไปด้วยอำนาจ
นางเงยหน้ามองไปยังกำแพงปราสาท
หลินมู่ไป ยืนมองหญิงสาวคนนั้นโดยมี เฉิน เฟยฮัว พยุงอยู่ข้างๆ มีหน่วยเกราะมังกรและทหารองครักษ์ยืนอยู่ด้านหลังจำนวนมาก
”ในที่สุดเจ้าก็มาแต่มันสายเกินไปแล้ว!” นางหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ รวมถึงคนที่ขวางนางเอาไว้อีกครั้ง ดวงแสงในมือของนางแยกออกเป็นสองก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็นนับไม่ถ้วน
พวกมันดูเหมือนดวงดาว!
แบบเดียวที่ปรากฎจากปิง หยาง
อย่างไรก็ตามมันยังมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับของปิง หยาง เพราะนางสามารถควบคุมดวงดาวเหล่านี้ได้ตามปรารถนา
ใบหน้าของเหยียน เฉียนหลี่ ซีดขาว จากนั้นเขาก็ปล่อยคลื่นพลังสีแดงเข้มเพี่อป้องกันร่างกาย
ในเวลาเดียวกันฝ่ามือของเขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและสร้างเมฆสีแดงเข้มบังด้านหน้าเขาเอาไว้
ท่าทีของวู่ จวี้เอ๋อ ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ดวงตาที่เย้ายวนของเธอกลายเป็นจริงจังอย่างยิ่ง
นางจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวนางนั้นอย่างไรก็ตามแทนที่จะเตรียมร่ายวิชานางกลับเอามือไปจับไว้ที่เอวแน่น