Gate of God - ตอนที่ 634 การตัดสินใจ
เป็นหรือตาย?
แม่ที่สั่งให้พาลูกสาวกลับมาอย่างไรก็ตาม นางกลับออกคำสั่งไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?
มีเรื่องเล่าว่าเสือจะไม่กินลูกของตัวเองถ้านี่เป็นเรื่องจริง สำหรับแม่ของ ปิง หยาง ผู้เป็นที่เคารพนับถือจากผู้คน องค์ราชินีแห่งอาณาจักรเซี่ย
”ท่านแม่…พูดอย่างนั้นจริงหรือ?”ปิง หยาง พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน จากนั้นนางก็กัดริมฝีปากแน่น
”ข้าจะไปบังคับให้นางพูดได้อย่างนั้นรึ?เจ้าตัดสินใจได้หรือยัง?”คังเยว่ จ้องมอง ปิง หยาง ด้วยสายตาที่เย็นชา
”ข้าบอกว่าเจ้าจะไม่ได้ตัว ปิง หยาง กลับไป!”ฟาง เจิ้งจือ วางมือลงที่ไหล่ของ ปิง หยาง อีกครั้งในตอนนั้นเขานึกถึงครั้งแรกที่ได้พบกับนาง
ในวันนั้นปิง หยาง สวมชุดคลุมสีม่วง นางสวมเครื่องประดับหัวราวกับแพหางของนกยูง ในตอนนี้ที่นางมอบม้าหิมะขาวให้กับเขา
”เอาม้าของข้าไปและให้อาหารที่ดีที่สุดกับมันเข้าใจไหม เจ้าคนรับใช้!”
ตั้งแต่วันนั้นชะตากรรมของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความแปลกประหลาดอย่างที่สุด
ความเย่อหยิ่งจองหอง และพฤติกรรมที่ดื้อรั้นของนาง
หรือพูดอีกอย่างได้ว่าปิง หยาง มีข้อเสียมากมาย
อย่างไรก็ตามคนๆนี้ก็ยังเข้ามาปกป้องเขาจากการโจมตีของหยิง ชาน ในโลกแห่งเซียน
ปิงหยาง สร้างแต่ปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่แล้ว?
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงยืนหยัดเพื่อปกป้อง ปิง หยาง ถ้าจะให้บอกเหตุผลก็คงเป็นเรื่องที่ว่า ปิง หยาง ไม่เหมาะจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่หอคอยหลิงหยุน
องค์หญิงที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในทุกๆวันจะใช้ชีวิตอยู่รอดที่หอคอยหลิงหยุนได้ยังไง?คำกล่าวทั้งหมดของ คัง เยว่ ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ สรุปได้เช่นนี้
”ข้าไม่มีทางให้เจ้าพาปิง หยาง ไปอย่างแน่นอน!”
”ข้าด้วย!”
”คังเยว่ แม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าตัวคนเดียว!”
ฉานยู่, เหยียน ซิว, เหยียน เฉียนหลี่ ต่างคัดค้านเช่นเดียวกับ ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่ วู่ จวี้เอ๋อ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของ ปิง หยาง
”คังเยว่ ข้าทำให้ เยว่ เอ๋อ ผิดหวังจริงๆ อย่างไรก็ตามข้าไม่ยอมให้เจ้าพา ปิง หยาง กลับไป!”หลิน มู่ไป่ ตะโกนลั่น
ในขณะที่เสียงของหลิน มู่ไป่ ดังสะท้อนทั้งกองทัพทลายภูผาและกองทหารเมฆาต่างก็เตรียมความพร้อมในทันที พวกเขาจับอาวุธในมือแน่น
”พวกเราจะไม่ยอม!
พวกเขาตะโกนพร้อมกัน
ทหารองครักษ์และหน่วนเกราะมังกรที่มาถึงต่างก็ตะโกนขึ้นพร้อมกันสายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ คัง เยว่
พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นทหารของอาณาจักรเซี่ยนั่นก็เพียงพอแล้ว
”โอ้?่มันชักน่าสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้ว!” คัง เยว่ กวาดสายตามองพวกของ ฟาง เจิ้งจือ และเหล่ากองทัพทหาร
และเหยียน เฉียนหลี่ นางไม่สามารถต่อสู้กับคนทั้งอาณาจักรได้แม้จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม
”คังเยว่ จงกลับไปและบอกกับ เยว่ เอ๋อ ว่าข้าจะชดใช้ในสิ่งที่ข้าทำ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ยอมให้พา ปิง หยาง กลับไปเด็ดขาด!”หลิน มู่ไป่ ค่อยๆลุกจากพื้นพร้อมกับแววตาที่เชื่อมั่น
”จะเอาอย่างนั้นหรือ?”คังเยว่ กำมือแน่น ในเวลาเดียวกันแสงสว่างมากมายก็ส่องประกายขึ้นรอบตัวนางราวกับดวงดาวบนทางช้างเผือก
นางไม่สามารถรับมือกับคนทั้งอาณาจักรได้อย่างไรก็ตาม ด้วยชื่อของหอคอยหลิงหยุน นางไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ โดยเฉพาะกับ หลิน มู่ไป่
”เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้!”หลิน มู่ไป่ กำหมัดแน่น ในเวลาเดียวกัน มังกรสีทองก็พุ่งขึ้นมาจากด้านหลังของ หลิน มู่ไป่ ดวงตาของเขาส่องแสงสีทองออกมา
”ดวงตามังกรมรกต?เจ้ารู้หรือไม่จะเป็นยังไงถ้าทำแบบนั้น?”คัง เยว่ เงยหน้ามาอง นางรู้ดีว่าดวงตามังกรมรกตอยู่กับเขา
ดวงตามรกตเป็นที่รู้จักกันดีถึงความสามารถในการป้องกันอย่างไรก็ตามพลังของมันไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะจริงๆแล้วมันเป็นสมบัติสายโจมตี!
”ข้าจะตาย!”หลินมู่ไป่ ตอบกลับอย่างไม่ลังเล ในเวลาเดียวกันเขาก็จ้องมอง ปิง หยาง ด้วยแววตาที่หนักแน่นก่อนจะพูด “ข้าไม่เสียใจเลย”
”การที่คนเห็นแก่ตัวอย่างเจ้ายอมสละชีวิตเพื่อองค์หญิงถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เอาล่ะ ข้าจะสนองความต้องการของเจ้าเอง! พวกเราต้องตายกันทั้งหมด ฮ่าฮ่า!”คัง เยว่ พูดเช่นนั้นก่อนจะก้าวออกไปข้างหน้า
ตูม!.Aileen-novel.
ดวงแสงนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและล่วงหล่นราวกับว่ามีทางช้างเผือกไหลลงมาจากสวรรค์ มันส่องสว่างท่ามกลางสายฝน
”แข็งกร่งอะไรขนาดนี้!”
ทุกคนสั่นสะท้านเมื่อเห็นฉากนี้ความแข็งแกร่งของ คัง เยว่ เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของพวกเขา
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ล่าถอย
”ฆ่านาง!”
”เพื่อองค์หญิง!”
”เราจะไม่ยอมแพ้!”
เสียงของสงครามครั้งใหม่ดังสะท้านไปทั่วท้องฟ้า
ฟางเจิ้งจือ ถือดาบไร้ร่องรอยในมือไว้อย่างมั่นคง เขาไม่เข้าใจถึงสิ่งที่นางพูดกับ หลิน มู่ไป่ ว่าจะตายด้วยกันแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ให้นางพา ปิง หยาง ไปได้
วู่จวี้เอ๋อ ,เหยียน เฉียนหลี่ และคนอื่นๆต่างแสดงสีหน้าที่จริงจังออกมาสายตาของพวกเขาจ้องไปที่ คัง เยว่
”ข้าจะไปกับเจ้า!”ในตอนนั้นเองเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นมาท่ามกลางสายฝน ร่างๆนั้นคลายตัวออกจากมือของ ฟาง เจิ้งจือ และก้าวไปข้างหน้า
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ
มันทำให้ชุดสีแดงของนางเปียกโชกแต่ยังคงสง่างาม
”องค์หญิงปิง หยาง…” ฉาน ยู่ จ้องมองไปที่ ปิง หยาง และต้องการจะก้าวออกไปเพื่อหยุดยั้งนางอย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นแววตาที่มุ่งมั่นของ ปิง หยาง นางก็กลืนคำพูดกลับเข้าไปหมด
”ปิงหยาง เจ้าจะไปกับนางไม่ได้! ถ้า เยว่ เอ๋อ ไม่ได้พูดเช่นนั้น ข้าคงปล่อยให้เจ้าไปเจอนางอย่างไรก็ตาม … “หลิน มู่ไป่ จ้องไปที่ ปิง หยาง ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
”ท่านพ่อนางยังเป็นแม่ของข้า!”ปิง หยาง มองขึ้นไปที่ขอบฟ้า
”นั่นเป็นอดีตแต่ตอนนี้ … ” หลิน มู่ไป่ พยายามโน้มน้าว
”นางยังคงเป็นแม่!”ปิงหยาง มองราวกับไม่ได้ใส่ใจสิ่งใดทั้งนั้น
”ปิงหยาง … ” หลิน มู่ไป่ ยังคงโน้มน้าวแม้จะได้ยินคำพูดของ ปิง หยาง
”ปิงหยาง เจ้าตัดสินใจแล้วหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ จ้องมอง ปิง หยาง ในขณะที่ยังคงจับดาบไร้ร่องรอยไว้แน่น เขาไม่สงสัยว่าทำไมนางถึงตัดสินใจเช่นนี้
เขาเข้าใจการตัดสินใจของปิง หยาง
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด
”ใช่”ปิง หยาง พยักหน้าตามที่นางพูด
”หลินมู่ไป่ ข้าล่ะอิจฉาเจ้า ดูเหมือนว่าลูกสาวของเจ้าช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้เสียแล้ว!”ในที่สุด คัง เยว่ ก็หยุดเส้นแสงพวกนั้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของนาง นางหันไปแล้วพูดขึ้น “เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็หยุดพูดเรื่องไร้สาระแล้วมาหาข้าซะ!”
”ถ้าข้าไปกับท่านข้าจะได้พบท่านแม่ใช่ไหม?”ปิง หยาง กำมือแน่นในขณะที่พูด
”ใช่”คัง เยว่ พยักหน้า
”งั้นข้าจะไปกับท่าน”ปิง หยาง พูดพร้อมกัดฟันแน่น
”ฮ่าฮ่ามีสิ่งหนึ่งที่ข้าลืมบอก เจ้าจะไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกนะ” คัง เยว่ พูด
”ไม่สามารถกลับมาได้อีก?”ปิงหยาง สั่นเทาขณะที่พึมพำ นางเหลือบมอง หลิน มู่ไป่ ก่อนจะมอง ฟาง เจิ้งจือ นางลังเลใจ
”เจ้าคิดว่าหอคอยหลิงหยุนเป็นสถานที่แบบไหนกัน?เจ้าคิดว่าจะไปจะกลับยังไงก็ได้งั้นหรือ?ข้าจะบอกให้ว่าเมื่อเจ้าก้าวเท้าเข้าหอคอยหลิงหยุน เจ้าจะไม่ใช่องค์หญิงของอาณาจักรเซี่ยอีกต่อไป เจ้าจะเป็นสามัญชนธรรมดา ไม่มีใครยอม ไม่มีใครสนใจว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย เจ้ายังอยากจะไปอีกไหม?”คัง เยว่ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
”ข้า…ข้าจะไป!”ปิง หยาง กัดริมฝีปากแน่นด้วยความหวาดกลัว แต่นางพยักหน้ารับในที่สุด ก่อนจะหันไปหา ฟาง เจิ้งจือ แล้วพูดว่า “เจ้าไร้ยางอาย ข้าคงกลับมาที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว เจ้าต้องอยู่ต่อไป และ …พี่กูเหยียน นางคิดกับเจ้า …”
”ข้าจะตามหาเจ้า!”ฟางเจิ้งจือ พูดแทรก ปิง หยาง ขึ้นมานี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไร้พลัง ไม่ใช่เพราะความกลัว
นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่ายังไงปิง หยาง ก็จะไปกับ คัง เยว่ แม้ว่าเขาจะสละชีวิตก็ตาม นี่คือการตัดสินใจของ ปิง หยาง
”หาข้า?”ปิงหยาง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจ
”ใช่แล้วข้าจะไปที่หอคอยหลิงหยุน และตามหาเจ้า” ฟาง เจิ้งจือ กล่าว
”เจ้าจะหาข้าจริงๆเหรอ?เจ้าไม่ได้บอกว่าข้าทั้งหยิ่งผยอง ทั้งดื้อรั้นอย่างนั้นหรือ?”ริมฝีปากของ ปิง หยาง สั่นเล็กน้อยในขณะที่พึมพำ
”ถึงเจ้าจะไม่ได้มีนิสัยแบบที่ข้าชอบแต่ข้าจะตามหาเจ้า เจ้าต้องรอข้า” ฟาง เจิ้งจือ เผยรอยยิ้มออกมา
”ข้าต้องรอ…หึหึ …ได้เลย ข้าจะรอเจ้าสักครึ่งปี เจ้าต้องมาหาข้า!”ใบหน้าของ ปิง หยาง ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย ราวกับแสงแห่งความหวังยังคงส่องสว่าง
”ฮึ่มดูแลตัวเองด้วย ข้าอาจจะอยู่ที่นั่นได้ไม่กี่วัน เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าพร้อมกับพูด รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา
”ได้!””ปิงหยาง หัวเราะ จากนั้นนางก็รีบเดินไปหา คัง เยว่
”ไร้เดียงสาจริง!”คังเยว่ จ้องไปที่ ปิง หยาง ก่อนจะเหลือบมอง ฟาง เจิ้งจือ “คนที่อยู่ในระดับอภินิหารและมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปีอย่างเจ้า คิดจะมาที่หอคอยหลิงหยุน! ฟาง เจิ้งจือ เจ้าเคยได้ยินไหมว่าคนเราควรจะรู้จักเจียมตัวบ้าง?”
”ข้ารู้แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเข้าใจ? เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าเป็นแค่ลูกศิษย์?”ฟาง เจิ้งจือ เหลือบมอง คัง เยว่
”แม้ว่าเจ้ากำลังจะตายก็ยังปากดีไม่น้อยครึ่งปี? ถูกแล้ว ไม่มีทางที่จะมากกว่านั้นไปได้ “คัง เยว่ เหล่มองไปที่เขา นางดูไม่ได้โกรธในคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่น้อย