Gate of God - ตอนที่ 638 ไม่จบสิ้น
”อาาอั้ก”
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังไปทั่วเมืองเศษหินดินกระเด็นไปทุกทิศทาง
มันเป็นอุบัติเหตุ
ทหารองครักษ์ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบกับกับดักมากมายขณะที่เข้ามายังหมู่บ้าน ในทางกลับกันชาวบ้านก็ไม่รู้เช่นกันว่าทหารจะมา
ม้าต่างพุ่งเข้าไปในหลุมกับดักก่อนที่พวกเขาจะหยุดได้ทัน
เสียงร้องของม้าเสียงความเจ็บปวดของผู้คนสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
มันเป็นภาพที่แปลกมากแม่ทัพไม่น่าจะติดกับดักง่ายๆ เขารีบปีนออกจากหลุมกับดักทันที ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นและเห็นชายคนหนึ่งในชุดสีน้ำเงินในมือถือขนมปังอยู่
แม่ทัพตกตะลึงในทันที
”ท่านฟาง?”ทหารไม่คิดว่าจะได้เห็น ฟาง เจิ้งจือ ในลักษณะนี้
เพราะตอนนี้ข่าวของฟาง เจิ้งจือ ได้แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรเซี่ย
เหลือเพียงครึ่งปี
เขาไม่ควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่างั้นหรือทำไมเขาไม่พยายามฝึกเพื่อให้กลายเป็นเซียน?
ทำไมเขามายืนโง่ๆอยู่แบบนี้?
ฟางเจิ้งจือ กลืนขนมปังทั้งหมดด้วยความแปลกใจ
เขาสามารถจำลักษณะของทหารองครักษ์ได้แต่เขาไม่อยากใส่ใจมากนัก เขาเงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์ยามเช้าก่อนจะพึมพัมออกมา “อากาศดีจังน้า”
ความวุ่นวายที่ทางเข้าหมู่บ้านดึงดูดความสนใจของชาวบ้าน
พวกเขาต่างมุงดูด้วยใบหน้าอันกังวล
”พวกเขาเป็นทหารองครักษ์งั้นหรือ?”
”ใช้ข้าได้ยินว่าเขาเป้นทหารส่วนตัวขององค์จักรพรรดิพวกเขาได้รับมอบหมายให้ปกป้องพระราชวัง ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่?”
”ท่านหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าพวกเขาอาจจะมาเพื่อจับตัวฟาง เจิ้งจือ!”
”จับฟาง เจิ้งจือ? ทำไมกัน? ฟาง เจิ้งจือ เป็นเจ้าหน้าหน้าที่ระดับสามแล้วนะ!”
”ข้าได้ยินมาว่าเขาสั่งการทหารตามอำเภอใจ”
”เป็นแบบนั้นได้ยังไง?เจิ้งจือ พึ่งกลับมาที่นี่้เองนะ เราต้องปกป้องเขา!”
ชาวบ้านต่างพูดคุยไปในทางเดียวกันใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
จางหยางปิง และชาวน้าทั้งสองได้มาถึงพอดี พวกเขาจ้องมองไปยังทหารด้วยความไม่สบายใจยิ่งขึ้น
พวกเขาจะแก้สถานการณ์นี้ยังไงดี?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทหารที่ติดกับดักโกรธขึ้นมา
”ท่านแม่ทัพพวกเราไม่รู้ว่าท่านจะเข้ามาเลยไม้ได้เอากับดักออก” จาง หยางปิง จ้องไปที่พื้นเงียบๆ
“ไม่จำเป็นต้องขอโทษ มันเป็นเพราะความประมาทของพวกเราเอง ไม่ใช่ความผิดของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ!” แม่ทัพตอบกลับทันที ก่อนจะเดินเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ “ท่านฟาง องค์จักรพรรดิมีสารถึงท่าน!”
”สาร?”
”เขาต้องสั่งให้จับตัวฟาง เจิ้งจือ แน่นอน!”
”นี่เป็นความผิดของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ!”
”อย่าทำอะไรฟาง เจิ้งจือ!” เหล่าชาวบ้านต่างตะโกนขึ้นมา
ทันใดนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็ช่วยพยุง จาง หยางปิง ขึ้นจากการคุกเข่า “มีอะไรพูดมา”
”พูด?”
ชาวบ้านต่างเต็มไปด้วยความตกใจทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงไม่คุกเข่า?
พูด
เขาหมายความว่ายังไง?
ขณะที่ชาวบ้านจะเตือนฟาง เจิ้งจือ นั้นเอง ทหารก็หยิบกระดาษสีทองขึ้นมา ราวกับเขาไม่สนใจกับท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ
”ผู้ช่วยรัฐมนตรีกรมพิธีการฟาง เจิ้งจือ ได้สร้างความดีความชอบเป็นอย่างมากในการต่อสู้ที่เมืองหลวง เขาจะถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองอันเป่ย รวมถึงเขาจะถูกบันทึกเรื่องราวไว้ในหอประวัติศาสตร์และเลื่อนระดับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสอง!”
”เจ้าเมืองอันเป่ย?”
”หอประวัติศาสตร์?”
เหล่าชาวบ้านไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
แต่มันก็เป็นความจริง
เจ้าหน้าระดับสอง!
มันเทียบเท่ากับยศของรัฐมนตรีทั้งหก!
ทหารไม่เพียงแต่ต่อว่าฟาง เจิ้งจือ แต่กลับเลื่อนยศให้เขา?! มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้คาดคิดแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามหลังจากความเงียบก็มีเสียงพูดขึ้นต่อ
”ข้าจาง หยางปิง หัวหน้าหมู่บ้านขอขอบคุณองคืจักรพรรดิแทน ฟาง เจิ้งจือ เป็นอย่างสูง!”
”ขอบคุณสำหรับความเมตตา!”.Aileen-novel.
เสียงของเหล่าชาวบ้านดังขึ้นบางคนถึงกลับน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน
”เจ้าหน้าที่ระดับสอง?”ฟาง เจิ้งจือ พึมพัมก่อนจะมองไปที่ชาวบ้านที่กำลังคุกเข่าอยู่ เขาอยากจะหยุดราวชาวบ้าน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
ถ้าเขาพูดอะไรผิดขึ้นมาอีกอาจจะโดน จาง หยางปิง บ่นก็ได้
ในขณะนั้นเสียงกีบม้าก็ดังขึ้นอีกครั้งจากนั้นทหารองครักษ์อีกกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามา
”ทำไมยังมีทหารองครักษ์เข้ามาอีก?”
”หรือองค์จักรพรรดิเปลี่ยนใจ?”
”มันเป็นไปไม่ได้?องค์จักรพรรดิไม่มีทางกลับคำพูด!”
”หรือเขาจะแยกสารออกเป็นสองฉบับ?ข้าได้ยินมาว่าองค์จักรพรรดิมีความยุติธรรมมาก ฟาง เจิ้งจือ ช่วยเหลือการสงคราม แต่เขาก็มีความผิดเช่นกัน…”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของชาวบ้านเปลี่ยนไปทันที
ทหารองครักษ์กลุ่มที่สองเดินเข้ามาหาฟาง เจิ้งจือ
”ท่านฟางสารจากองค์จักรพรรดิ!”
พวกเขาพูดออกมาทันที
”พูด”ฟาง เจิ้งจือ ก็ตอบกลับแบบเดิมอีกครั้ง
ชาวบ้านเริ่มชินกับนิสัยของฟาง เจิ้งจือ แล้ว แต่ในใจของพวกเขายังกังวลอยู่ดี
”เจ้าเมืองอันเป่ยได้ยุติความวุ่นวายในแดนเหนือช่วยชีวิตคนนับล้านท่านได้เลื่อนขั้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่ง!”
”ระดับหนึ่ง?!”
เนื้อหาของสารฉบับนี้ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่า
ระดับหนึ่ง!
มันเป็นเกีรติยศอันสูงสุด!
หากตระกูลไหนมีลูกหลานได้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่งพวกเขาสามารถดอ้อวดไปได้หลายชั่วอายุคน คนในหมู่บ้านธรรมดาๆอย่างพวกเขาจะกล้าฝันถึงเรื่องนี้ได้ยังไง?
อย่างไรก็ตาม
ฟางเจิ้งจือ ทำมันได้แล้ว!
ฟางเจิ้งจือ จากครอบครัวที่ยากจนธรรมดา กลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่งของอาณาจักรเซี่ย
”ขอบคุณสวรรค์!”
”เจิ้งจือเร็วเข้า….ขอบคุณองค์จักรพรรดิ!”
”ใช่แล้วเจิ้งจือ อย่ายืนนิ่งสิ เจ้าได้ถูกแต่งตั้งเป็นถึงเจ้าเมืองเชียวนะ!”
”หมู่บ้านภูเขาทางเหนือช่างโชคดีอย่างแท้จริงกาอนหน้านี้แม้แต่เจ้าหน้าที่ธรรมดาๆหมู่บ้านของเรายังไม่มี แต่ตอนนี้เรามีเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่ง!”
ชาวบ้านตื่นเต้นอย่างมากบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปิติยินดีออกมา
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่เหล่าชาวบ้าน ให้เขาคุกเข่า? เขาต้องนั่งคุกเข่านานเท่าไรกัน?
”ยังมีอีก!”ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปยังจุดไกลๆ
”ยังมีอีก?”จาง หยางปิง มองไปตามที่ ฟาง เจิ้งจือชี้และเห็นทหารอีกกลุ่มเดินเข้ามา
”ฟางเจิ้งจือ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพแห่งอันเป่ย ผู้ปกป้องความวุ่นวาย ผู้พิทักษ์อาณาจักร!”
”ผู้หิทักษ์อาณาจักร!”
”ข้าฟังผิดไปหรือไม่?”
”แม่ทัพหมู่บ้านของเรามีแม่ทัพแล้ว!”
ใบหน้าของจาง หยางปิง เป็นสีแดงจากความตื่นเต้น เขาไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนในชีวิตของเขา
นี่มันเกือบเป็นยศที่สูงที่สุดในอาราจักรเซี่ยแล้ว!
ฟางเจิ้งจือ อายุเท่าไหร่?
เกือบจะสิบแปดปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตามไม่นาน…
พวกเขาก็ต้องตกใจอีกครั้ง
นั่นเป็นเพราะทหารอีกกลุ่มกำลังเข้ามา
”ยังมีอีก?”
”ยังมีมากกว่านี้อีกงั้นหรือ?”
พวกเขารู้สึกกังวลและกลัวในสามครั้งแรกเท่านั้นอย่างไรก็ตามครั้งนีเพวกเขาไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว
มียศสูงกว่าเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่งอีกงั้นหรือ?
อย่างไรก็ตาม
มันไม่มีทางเจ้าหน้าที่ระดับหนึ่งเป็นยศที่สูงสุดแล้ว! นอกจากนี้เขายังเป็นแม่ทัพด้วย
ทหารองครักษ์หยุดหน้าฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง
”ท่านฟางสารจากองค์จักรพรรดิ!”
”พูด!”ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกพูดไม่ออก เขารู้เลยว่า หลิน มู่ไม่ จงใจทำแบบนี้แน่นอน
เขาสามารถเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังได้
ในอดีตการเลื่อนยศนั้นเกิดขึ้นอย่างเข้มงวดเขาไม่ต้องการเลื่้อนระดับของ ฟาง เจิ้งจือ มากเกินไปในทีเดียว
เขาเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับสามในตอนแรก
หลินมู่ไป่ ค่อยๆเลื่อนเขาเป็นระดับสองและหนึ่งตามลำดับ
ฟางเจิ้งจือ เงยหน้ามองท้องฟ้า ถ้าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับเก้าจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่า หลิน มู่ไป่ จะพดใจกันนะ?
”องค์จักรพรรดิได้เลื่อนยศให้ครอบครัวของท่านกลายเป็นชุนนางแห่งเมืองอันเป่ยฉิน ซูหลินได้รับตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่ง ส่วนพ่อของท่าน ฟาง เฮ่าเตอ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งการสั่งสอน!”
”เหลือเชื่อ!ฟาง เจิ้งจือ กลายเป็นขุนนางแล้ว แม้แต่ ฉิน ซูเหลียน และ ฟาง เฮ่าเตอ ก็ด้วย!”
ชาวบ้านต่างตกใจและยินดีเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม
ในตอนนั้นเอง…
ทหารองครักษ์อีกกลุ่มหนึ่งได้ปรากฎตัวขึ้นมา
จางหยางปิง และเหล่าชาวบ้านต่างตัวแข็งอีกครั้ง
”เจ้าเมืองอันเป่ยโปรดรับสารของท่าน!”แม่ทัพของทหารองครักษ์เดินออกมา
”พวกเจ้าเป้นกลุ่มสุดท้ายแล้วใช่ไหมจะมีอีกไหมเนี่ย?” ฟาง เจิ้งจือ พยายามมองไปด้านหลังกองทหารองครักษื โชคไม่ดีที่เขาถูกบังอยู่ทำให้ไม่เห็นอะไรเลย
”ข้าไม่รู้ขออภัยด้วย” แม่ทัพตกใจและส่ายหัวทันที
”ช่างเถอะพูดมา!”ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจก่อนจะมองไปยังทิศทางของเมืองหลวง “เห้อ ขนมปังที่ข้าเตรียมไว้ที่บ้านคงเย็นหมดแล้ว!”