Gate of God - ตอนที่ 644 กักขัง
หยุนชิงวู หลับตาลง แต่ใบหน้าของนางยังคงประดับด้วยรอยยิ้มเช่นเคยขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ พุ่งเข้ามา
นางไม่ได้หลบไปไหน…
ใกล้ขึ้นใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ฟางเจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆจากตัวนาง
การที่รอบตัวนางไม่มีปีศาจคอยป้องกันเป็นโอกาสดีที่สุด
แม้ฟาง เจิ้งจือ จะรู้สึกผิดเล็กน้อยก็ตาม แต่เขาไม่มีทางเลือก
”ตึง”ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็พุ่งถึงร่างของ หยุน ชิงวู แต่มันไม่ได้นิ่มนวลอย่างที่เขาคิดไว้
เขาก้มลงมองมีแต่หญ้าและดินเท่านั้น
เขาพลาดงั้นหรือ?
เขาตระหนักถึงพลังของหยุน ชิงวู แต่เขาก็รู้ว่านางไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงพลาด?
ฟางเจิ้งจือ เงยหน้ามอง หยุน ชิงวู ยังคงนอนอยู่ในท่าทางเดิมที่เดิม แต่เขานอนอยู่ห่างออกมา
”ช่างเป็นคาถาลวงตาที่ยอดเยี่ยม!”ฟาง เจิ้งจือ อุทานภายในใจ เขาต้องยอมรับว่าวิชาลวงตาของนางแข็งแกร่งจริงๆ
หรือนางเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว?
เป็นไปไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือ ล้มความคิดนั้นออกไป เขารู้ว่า หยุน ชิงวู ไม่ได้ย้ายที่แม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือร่างของเขาที่ไม่หล่นลงตรงเป้าหมาย
ดังนั้นหมายความว่า…..
เมื่อเขาหล่นลงพื้นสถาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปทันที
”ข้าคิดว่าครั้งนี้เจ้าคงทำลายวิชาลวงตาไม่ได้!”หยุน ชิงวู พูดออกมาขณะที่มอง ฟาง เจิ้งจือ อยู่ นางหยิบผลไม้ขึ้นมาและเคี้ยวมันอย่างใจเย็น
”ข้าชื่นชมในความมั่นใจของเจ้าแต่ข้าอยากลอง” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”เจ้าจะพุ่งเข้ามาหาข้าอีกครั้งหรือไง?”หยุน ชิงวู ถามอีกครั้ง
”ไม่ครั้งนี้ข้าจะเข้าไปหาเขาช้าๆ!” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวก่อนจะเดินเข้าไปหา หยุน ชิงวู อย่างระมัดระวัง
เขาไม่ได้ระวังหยุน ชิงวู แต่เขาสังเกตุสิ่งรอบๆอย่างระมัดระวัง
เข้าไปใกล้มากยิ่งขึ้น
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆจากตัวหยุน ชิงวู
ทั้งคู่ยังคงเงียบ
ทันใดนั้นเองฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆยกมือขึ้น
ทีละนิดทีละนิด ไปที่หน้าอกของ หยุน ชิงวู
เขาพยายามที่จะจับมัน
หยุนชิงวู มองมือที่ใกล้เข้ามาด้วยสีหน้าแปลกๆ “ช่างเป็นคนที่ไร้ยางอายจริงๆ!”
”ขอบคุณสำหรับคำชม!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย
เพราะเขาสัมผัสได้ถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วยิ่งเขาเคลื่อนไหวเร็วเท่าไร สภาพแวดล้อมก็จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเท่านั้น ดังนั้นการเคลื่อนไหวช้าๆจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
มันใกล้จริงๆ
เขาเกือบจะรู้สึกถึงความนุ่มนวลของชุดที่หยุน ชิงวู ใส่แล้ว
เขาคว้ามันเอาไว้
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย!
…
ไม่มีแล้ว
กลายเป็นหยุน ชิงวู อยู่ห่างออกจากเขาไปสามก้าว ใบหน้าของนางยังคงมีรอยยิ้มเช่นเคย
”หา?”ฟาง เจิ้งจือ ตกใจ
การเคลื่อนไหวนั้นเร็วเกินไปจนเขาไม่มีเวลาสังเกตุว่าอะไรเปลี่ยนแปลงไป
เขารู้สึกสับสนโดยสมบูรณ์เพราะระยะห่างระหว่างเขากับหยุน ชิงวู เปลี่ยนไป แต่สภาพแวดล้อมรอบๆไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
เกิดอะไรขึ้น?
ฟางเจิ้งจือ ไม่สามารถเข้าใจในสถานการณ์นี้ได้
เขาพยายามทำเหมือนเดิมอีกครั้ง
เขาคว้าไปข้างหน้าอีกครั้ง!
แต่มันเปล่าประโยชน์!
”ลองอีกครั้ง!”
เปล่าประโยชน์
เขาทำซ้ำมากกว่าสิบครั้งจนดวงตาของเขาแดงก่ำทุกครั้งที่เขาทำมันเปล่าประโยชน์ เขาไม่สามารถคว้าจับอะไรไว้ได้
นางทำแบบนั้นได้ยังไง?
”โอ้เจ้าหยุดแล้วงั้นหรือ? ไม่ทำต่อแล้วหรอ?” หยุน ชิงวู ถาม ขณะมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ รอยยิ้มบนใบหน้าของนางดูสดใสยิ่งกว่าเดิม
มันดูน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น
นางยิ้มออกมาราวกับตัวเองอยู่เหนือกว่าฟาง เจิ้งจือ
มากเกินไปแล้ว!
ฟางเจิ้งจือ ทนไม่ได้อีกต่อไป!
แต่เขาจะทำอะไรได้?พยายามต่อไปก็ไม่ได้อะไร ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกท้อแท้ขึ้นมาทันที
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเปลี่ยนวิธีการ
ฟางเจิ้งจือ ครุ่นคิดอยู่สักครู่
”ข้าจะพักสักครู๋”ฟาง เจิ้งจือ พูดก่อนจะหยิบขนมขึ้นมากิน
หยุนชิงวู ไม่ได้คิดจะห้ามเขาแม้แต่น้อย
ความมั่นใจนั้น….ไอลีนโนเวล.
มาจากก้นเบื้องหัวใจของนาง
แม้ฟาง เจิ้งจือ จะนั่งอยู่ข้างๆนาง หยุน ชิงวู ก็เลือกที่จะหลับตาด้วยความสงบ นางไม่กลัวที่ ฟาง เจิ้งจือ จะโจมตีใส่นางแม้แต่น้อย
หรือเขาจะควรโจมตีใส่นางตอนนี้ตอนที่นางกำลังเผลออยู่
แต่เขาตัดสินใจเลือกที่จะทนต่อไปอีกหน่อย
ในเมื่อนางกล้าหลับตาแสดงว่านางมั่นใจว่านางต้องปลอดภัย ดังนั้นเขาจะต้องอดทนรอก่อน
ล่อให้หยุน ชิงวู ลดการป้องกันลง นี่คือความคิดของ ฟาง เจิ้งจือ
”ช่างเถอะข้ายอมแพ้แล้ว!” ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เปิดปาก “ข้าไม่สามารถทำลายมันได้”
”อืม”หยุน ชิงวู พยักหน้าราวกับรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะพูดอะไรออกมาอยู่แล้ว
ฟางเจิ้งจือ ยิ่งหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น
คิดว่าเจ้ามีความสามารถด้านการแสดงคนเดียวงั้นหรือข้าก็ทำได้ !
เขาจะโน้มน้างให้หยุน ชิงวู เชื่อว่าเขายอมแพ้แล้วจริงๆ!
”เจ้ามาถึงที่นี่เพื่อกักตัวข้าไว้นี่นะ?”ฟาง เจิ้งจือ พูดต่อ
”ข้าต้องการขังเจ้าไว้ในนี้แต่เป้าหมายของข้าไม่ใช่เจ้า” หยุน ชิงวู พูดพร้อมกับค่อยๆลืมตาขึ้นมา
”ไม่ใช่ข้า?แล้วเพราะอะไร?”ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกแปลก ๆ
”ฆ่าเจ้า!”หยุน ชิงวู พูดออกมาด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆ
”ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงไม่เริ่มล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ ผงะไป
”เจ้าก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวนี่?”หยุน ชิงวู ให้เหตุผล
”ข้าไม่ได้คิดจะฆ่าเจ้าจะปล่อยข้าไปได้หรือยัง?” ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับ
”หืมนั่นเป็นเพียงเป้าหมายรองเท่านั้น ” หยุน ชิงวู ส่ายหน้า
”เจ้าจะไม่ฆ่าข้างั้นหรือ?”
”ตามจริงแล้วความตั้งใจของข้าคือการล่อลวงและฆ่าเจ้าตรงๆจากนั้นก็เอาศิลาเต๋าสวรรค์มาจากเจ้า แต่ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” หยุน ชิงวู อธิบาย
”ศิลา…”ฟางเจิ้งจือ แปลกใจเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มออกมา “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดเรื่องอะไร ข้าไม่ได้มีมันอยู่กับตัวเสียหน่อย”
”ข้าไม่ได้ต้องการฟังความเห็นของเจ้า”
”แล้ว?ตอนนี้เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”
”ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”
”แล้วจากนั้นล่ะ?”
”ไม่มีอะไรอีกแล้ว”
”เจ้าจะไม่ทำอย่างอื่นงั้นหรือ?ทรมารข้า? หรือล้างแค้น?” ฟาง เจิ้งจือ พูดขณะที่สังเกตุสภาพแวดล้อมไปด้วย
”ตอนนี้ไม่”หยุน ชิงวู ส่ายหัว
”งั้นก็ขอบคุณมากแล้วเจ้าคิดจะปล่อยข้าเมื่อไหร่?” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าพร้อมกับขยับร่างเข้าใกล้ หยุน ชิงวู
”ข้าจะขังเจ้าไว้ในนี้ให้นานที่สุด”หยุน ชิงวู ตอบกลับโดยไม่ต้องคิด
”เจ้า…. ” ฟาง เจิ้งจือ จ้องมองนางด้วยความโกรธ ก่อนจะขยับร่างเข้าหานาง “เจ้าวางแผนจะขังข้าไว้จนตายเลยหรือไง?”
”ใช่!”หยุน ชิงวู ยิ้มให้ ฟาง เจิ้งจือ
ร่างกายของฟาง เจิ้งจือ แข็งค้าง
เขาพอคาดเดาเป้าหมายของหยุน ชิงวู ได้ แต่เขาไม่คิดว่านางคิดจะขังเขาจนตายแบบนี้
ขังเขาไว้ในนี้ให้นานที่สุด!
หากเป็นคนอื่น
การถูกขังอยู่ในนี้ร่วมกับหยุน ชิงวู อาจจะเป็นเหมือนสวรรค์ แต่ไม่ใช่สำหรับ ฟาง เจิ้งจือ เขาเหลือเวลาอยู่แค่หกเดือน
มีหลายอย่างที่ฟาง เจิ้งจือ ต้องการทำ
ทั้งช่วยปิง หยาง ทั้งสัญญาที่ให้ไว้กับ ฉือ กูเหยียน รวมถึงพ่อแม่ของเขา
เขาไม่สามารถหายตัวไปอย่างนี้ได้
เพียงเพราะเขาฟังแค่เพลงเดียว?
มันมีราคาเท่ากับชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา
”ข้ารออยู่นี่ไม่ได้ข้ามีเรื่องต้องทำอีกหลายอย่าง!”ฟาง เจิ้งจือ เริ่มจริงจังเป็นครั้งแรก
”แต่เจ้าไม่สามารถออกไปไหนได้”หยุน ชิงวู ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเช่นกัน
”ถ้าข้าต้องไปล่ะ?”
”ข้าพึ่งพูดไปว่าเจ้าออกไปไม่ได้!”
”กักตัวข้าไว้ที่นี่เพื่ออะไรกัน?”
”เห็นแก่ศิลาเซียนข้าจะไม่ฆ่าเจ้าและข้าจำเป็นต้องใช้มัน ดังนั้น เมื่อเจ้าตายไปแล้วมันจะกลายเป็นของข้าในทันที!”
”แล้วถ้าข้าให้ศิลาเซียนกับเจ้าล่ะ?”ฟางเจิ้งจือ จ้องไปที่ หยุน ชิงวู พร้อมกำมือแน่น
ศิลาเซียน
เซียนสวรค์พักพิงเป็นคนนำกลืนกินโลกใส่เข้ามาในกระจกป้องกันใจของเขาอีกครั้งฟาง เจิ้งจือ จึงรู้ว่าตัวเองมีศิลาเซียนอยู่
ส่วนเหตุผลที่ทำเช่นนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดแต่ก็รู้ถึงที่มาของมัน
นั้นเพื่อให้หยุน ชิงวู ใช้มันเพื่อล่อ ซิง หยวนกัว และ ฉือ กูเหยียน ที่ภูเขาคังหลิง
ตามรูปการณ์แล้ว…
ศิลาเซียนต้องเป็นของเผ่าปีศาจ
”ตั้งแต่ที่เจ้าก้าวเข้ามาในดวงตาเงาศิลาเซียนก็ตกอยู่ในมือของข้าแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าใช้ศิลาเซียนเป็นตัวต่อรองงั้นหรือ?”หยุน ชิงวู พูดขึ้นในที่สุด
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้ตอบกลับ
เขาค่อยๆสูดหายใจผ่านไปไม่นาน เขาค่อยๆหลับตาลง “คิดๆดูแล้วมันก็ดีไม่น้อยเลยที่เจ้าจะอยู่กับข้าที่นี่ถึงหกเดือน!”
”ความลุ่มหลงในความรักมันยังแน่นอยู่ในอก ชีวิตนี้…” หยุน ชิงวู มอง ฟาง เจิ้งจือ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร นางขยับริมฝีปากเล็กน้อย
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ ยังคงปิดอยู่
เขาฟังเสียงที่ไพเราะของหยุน ชิงวู อย่างตั้งใจ มันยอดเยี่ยมมาก
ลมหายใจของฟาง เจิ้งจือ มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ มือของเขาขยับไปยังทิศทางของ หยุน ชิงวู
จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่ม
นั่นคือผิวที่เรียบเนียนของนาง
ในตอนนั้นเองฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสั่นเทาเล็กน้อย แต่ในที่สุดเขาก็สงบใจลง
ลมหายใจค่อยๆแผ่วลงดูเหมือนว่าเขาจะผลอยหลับไป แต่มือของเขายังคงขยับอยู่
ผ่านไปไม่นาน
เขารู้สึกถึงเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่มอีกครั้ง
มีเสียงสั่นเล็กน้อย
และหยุดไป
ให้ความรู้สึกราวกับว่านางรอคอยฟาง เจิ้งจือ ได้ตราบนานเท่านาน
ร่างที่สั่นเทาหยุดลงแต่ผิวสัมผัสยังไม่หายไป ยังคงแนบชิดกับ ฟาง เจิ้งจือ อยู่อย่างนั้น
ไม่นานก็มีสัมผัสของเส้นผมที่หน้าผากของเขาเกิดจากสายลมที่พัดผ่านมา
ในตอนนั้นเอง…
ฟางเจิ้งจือ ก็กระโดดขึ้น
มันเป็นความเร็วที่อธิบายได้ยาก
”มาดูกันว่าเจ้าจะหนีไปได้ไกลแค่ไหน!”ฟางเจิ้งจือ พูดขึ้นในขณะที่เอื้อมมือไปที่หัวของนาง
เขาไม่รู้ว่าคว้าอะไรไว้ได้เขารู้เพียงว่า หยุน ชิงวู ก็หลบอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เขาคว้ามันเอาไว้ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวบและเด้งดึ๋งในเวลาเดียวกัน
รู้สึกว่า…..
ฟางเจิ้งจือ ลืมตาขึ้น ในขณะที่เขาจ้องไปที่ใบหน้าที่งดงาม ก็พบว่าดวงตาคู่โตก็กำลังจ้องกลับมาที่เขาเช่นกัน
”กรี๊ดด!”หยุนชิงวู ร้องออกมา