Gate of God - ตอนที่ 679 ความเจ็บปวด
สวรรค์ทรงโปรด
เขาไม่คาดคิดว่าฟาง เจิ้งจือ จะกล้าโจมตีเข้าที่ทวารหนักของผู้อาวุโสสาม และมันก็สำเร็จเป็นอย่างยิ่ง
”….” ปากของ มู่ ฉิงเฟิง อ้าค้าง เขาต้องการพูดอะไรบางอย่างเพื่อปลอบโยนผู้อาวุโสสาม แต่เขาก็เลือกที่จะกลืนคำพูดกลับไป เพราะเขารู้อารมณ์ของผู้อาวุโสสามในตอนนี้ดี
ในสถานการณ์เช่นนี้เขาทำได้เพียงแกล้งทำเป็นตาบอดราวกับเขาไม่ได้เห็นเรื่องน่าอับอายที่เกิดขึ้น
ความเงียบปกคลุมไปทั่วศาลาเต๋าสวรรค์
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ยืนนิ่งแต่ทันทีหลังจากได้สติพวกเขาก็รีบก้มหัวลงทันที
”ข้าไม่เห็นอะไรเลยข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น… ”
”ข้าก็ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!” ”ดูนั่นสิทุกคนดวงอาทิตย์สวยมาก!”
หยานฉิง และ เฉียน วู่ รวมถึงผู้เข้าสอบคนอื่นๆต่างมองหน้ากันด้วยความสับสน
สำหรับฟาง เจิ้งจือ…เขาไม่มีเวลามาลังเล
เขาไม่คิดจะให้โอกาสผู้อาวุโสสามฟื้นตัวอย่างที่พูดการแสดงความเมตตากับศัตรูนั้นเป็นความคิดที่ผิด
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าผู้อาวุโสสามต้องกำลังเจ็บปวดรวดร้าวจากการโจมตีของเขาอย่างแน่นอน ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะปล่อยโอกาสนี้ไป
ฟางเจิ้งจือ ตัดสินใจจะโจมตีอีกครั้ง
เขาไม่มีเวลามาคิดว่าสิ่งที่เขาทำจะทำให้ศาลาเต๋าสวรรค์หรือผู้อาวุโสคนไหนไม่พอใจหรือไม่เขาต้องมีชีวิตรอดไปให้ได้เสียก่อน
การโจมตีครั้งที่สองของฟาง เจิ้งจือ ยังคงรวดเร็วเช่นเคย แม้ว่าผู้อาวุโสจะบินออกไปประมาณห้าถึงหกก้าวก็ไม่ได้เป็นปัญหากับ ฟาง เจิ้งจือ แสงสีฟ้าแผ่กระจายออกมาทั่วอากาศ
เขาตัดสินใจใช้ก้าวพริบตา ร่างกายของฟาง เจิ้งจือ กลายเป็นแสงสลังๆ ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นคังหยางใช้วิชานี้มาก่อน
ในพริบตาเขาก็มาถึงด้านหลังผู้อาวุโสสาม
ไม่มีการเคลื่อนไหวที่ฟุ่มเฟือยหรือคำพูดใดๆเหมือนครั้งก่อน
การโจมตีแบบเดียวกับครั้งก่อนหน้า…แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำแบบเดิมเพราะตอนนี้ร่างของผู้อาวุโสสามล้มลงนอนอยู่บนพื้นแล้ว เขาไม่สามารถใช้การโจมตีแบบแรกได้
เขาเตะไปที่คอและหัวของผู้อาวุโสสาม
”ตึง!”เสียงอันดังก้องปะทุขึ้นมา จากนั้นร่างของผู้อาวุโสสามก็บินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง ก่อนที่จะพุ่งกระแทกเข้ากับรั้วหยกขาวบริเวณแท่นบูชาจนมันแตกละเอียด
ร่างของผู้อาวุโสยังคงกลิ้งไปต่อเล็กน้อยก่อนจะหยุดลงร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น
”เจ้ากล้าดียังไงเจ้าเด็กเหลือขอ… ” ในที่สุดเสียงของผู้อาวุโสห้าก็ดังขึ้น เขากำหมัดแน่น แสงสีขาวเปล่งออกมาจากหน้าผากของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธแค้นเป็นอย่างมาก!
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือผู้อาวุโสสามแต่เขากลับยืนตัวสั่นไม่ขยับไปไหน
”ไร้ยางอายไร้ยางอายที่สุด!”
”เขาโจมตีผู้อาวุโสสามตอนที่เขายังล้มอยู่!”
”โหดร้ายเกินไปแล้ว!” ไอลีนโนเวล
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างด่าทอฟาง เจิ้งจือ แต่ไม่มีใครเคลื่อนไหวไปช่วยผู้อาวุโสสาม แม้แต่สีหน้าของพวกเขาก็ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด
”แค่นี้ยังไม่พอ!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจฝูงชนที่รุมล้อม
เขายังคงกังวลมาก…โจมตีผู้อาวุโสอีกครั้งในทันที
เขาลังเลแต่เขาก็รีบตัดสินใจในทันที ฟาง เจิ้งจือ เริ่มการโจมตีครั้งที่สาม เขากำหมัดแน่นทั้งสองข้าง แสงสีฟ้าเปล่งออกมาจากร่างกายของเขา พร้อมกับดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ ก็กลายเป็นสีฟ้าเช่นกัน
จากนั้นไม่นานแสงสีฟ้าก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของผู้อาวุโสสามเช่นกัน
ทันใดนั้นสิ่งแปลกประหลาดก็เกิดขึ้นร่างของ ฟาง เจิ้งจือ หายไปทิ้งเงาดำไว้ในจุดเดิม
จากนั้นกำปั้นของฟาง เจิ้งจือ ก็โผล่ออกมาจากแสงสีฟ้าเหนือหัวผู้อาวุโสสาม ก่อนที่ตัวและหัวของ ฟาง เจิ้งจือ จะโผล่ตามมา …
”นั่นมันวิชาทลายสวรรค์!”
”มันถูกบันไว้ในหนังสือโบราณผู้ที่เชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์เท่านั้นถึงจะสามารถใช้วิชาเช่นนี้ได้!”
”เจ้าสารเลวนั่นอายุเท่าไรกัน?จากเสียงอายุเขาไม่น่าเกินยี่สิบเจ็ดปี เขาจะเป็นครึ่งเซียนได้ยังไงกัน?”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างตกตะลึง
แม้ตอนแรกพวกเขาจะรู้ว่าฟาง เจิ้งจือ นั้นเชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์ แต่เมื่อพวกเขาเห็น ฟางเจิ้งจือ ใช้วิชาทลายสวรรค์ พวกเขายิ่งมั่นใจว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง
ครึ่งเซียน!
”เขาสามารถใช้ทลายสวรรค์ได้ถ้าอยู่ในอาณาจักรข้าเขาคงถูกยกย่องเทียบเท่าราชาแล้ว!” !
”จากที่ข้ารู้มีเพียงคังหยางแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจเท่านั้นที่สามารถใช้เต๋าสวรรค์ได้อย่างเชี่ยวชาญ!”
”.ใช้ข้าไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอีก! พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามาจากดินแดนไหน!”
เหล่าจักรพรรดิต่างแปลกใจ
”เจ้าเด็กนั่นไม่ใช่เล่นๆแล้ว!” ผู้อาวุโสห้าปิดตาลง แม้แต่ตัวเขาเองก็ยากที่จะเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถใช้ทลายสวรรค์ได้
”ศิษย์พี่กงฉิงตัวปลอมแข็งแกร่งมาก…ยิ่งกว่าตัวจริงเสียอีก!”
”ทลายสวรรค์!”
”ข้าอยากให้เขาเป็นตัวจริงเหลือเกินไม่เพียงแต่ข้าจะได้ปรึกษาเขาเท่านั้น ข้ายังจะได้เรียนรู้เต๋าสวรรค์จากเขา เห้อน่าเสียดาย…”
เมื่อเห็นภาพนี้ผู้เข้าสอบบางคนก็ถอนหายใจออกมา พวกเขาทั้งตื่นเต้นและผิดหวัง
สำหรับหนานกง มู่, เหยียน ซิว, เฉียน วู่ และ หยาน ฉิง ต่างมองไปที่ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ
”ตูม!”เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไปทั่ว
ชิ้นส่วนหินสีขาวนับไม่กระจายไปในอากาศบนพื้นนั้นก็เต็มไปด้วยรอยแตกนับไม่ถ้วน ่
ร่างกายของฟาง เจิ้งจือ ถุกหยุดอยู่กลางอากาศ ที่ปลายเท้าของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีฟ้าหนาแน่นเป็นพิเศษ มันดูแปลกมาก
”แค่กแค่ก… ” เสียงกระแอมสองครั้งดังขึ้น จากนั้นก็มีร่างๆหนึ่งลุกขึ้นมา
ฟางเจิ้งจือ!
ท่าทีของผู้อาวุโสสามดูเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดความเจ็บปวดที่ขาทั้งสองข้างทำให้เขายืนได้ไม่มั่นคงนัก
เขาพูดอะไรไม่ออกมีแต่คนที่เคยพบกับความเจ็บปวดแบบนี้เท่านั้นที่จะสามารถรู้ถึงความรู้สึกของผู้อาวุโสสามได้
”ทลายสวรรค์ข้าไม่ได้เห็นวิชานี้เป็นเวลานานมากแล้ว ข้าควรรู้สึกเป็นเกียรติไหม?”ผู้อาวุโสสามมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ยืดแขนออกไปด้านหน้าและกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ
”ไม่จำเป็นหรอกท่านผู้อาวุโส ท่านฝืนยืนขึ้นมาเช่นนี้ ไม่เป็นไรงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถามด้วยใบหน้าที่สงสัย
”เจ้า…ข้าจะฆ่าเจ้า!”สีหน้าของผู้อาวุโสสามเปลี่ยนไปอีกครั้ง
”ผู้อาวุโสสามอย่ารีบร้อนนักเลย ท่านพึ่งรับการโจมตีของข้าไปสามกระบวนท่า ท่านคงไม่คิดจะผิดสัญญาหรอกใช่ไหม?”ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ค่อยเปล่งแสงสีฟ้าลางๆ และจ้องมองไปที่ผู้อาวุโส
”หยุดไร้สาระได้แล้วเจ้าเหลืออีกสองครั้ง!”ผู้อาวุโสสามกัดริมฝีปากของเขาแน่นเขารู้ชัดว่า ฟาง เจิ้งจือ หมายถึงอะไร ห้ากระบวนท่า!
เมื่อผู้อาวุโสสามยอมรับการตัดสินใจของมู่ ฉิงเฟิง เพื่อยอมรับคำขอของ ฟาง เจิ้งจือ เขาหัวเราะเยาะด้วยความโล่งอกและพอใจ
แต่ตอนนี้…ถ้าสวรรค์ให้โอกาสที่สองแก่เขา เขาจะบอกกับ มู่ ฉิงเฟิง ว่า “ห้ากระบวนท่ากับผีสิ! ทำไมไม่ให้เขาโจมตีท่านแทนล่ะ!”