Gate of God - ตอนที่ 685 อยากให้ข้าล้างแค้นงั้นหรือ?
เสียงของเหยียน ซิว ดังไปทั่วศาลาเต๋าสวรรค์!
เหล่าศิษย์ต่างนิ่งเงียบ
เพื่อนแบบนั้นมีอยู่บนโลกด้วยงั้นหรือ?
ยอมเป็นศัตรูกับศาลาเต๋าสวรรค์เพื่อคนคนเดียว?
แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจว่ามิตรภาพระหว่างเหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ แน่นแฟ้นแค่ไหน แต่พวกเขาเห็นสายตาที่มุ่งมั่นของ เหยียน ซิว
”เหยียนซิว…เจ้า ทำไมถึงทำแบบนี้?” หลิน มู่ไป่ จ้องไปที่ เหยียน ซิว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล แต่มันก็ไร้ประโยชน์
”ฝ่าบาทท่านไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวข้า ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะขอเดิมพันชีวิตของข้ากับความเป็นไปได้หนึ่งในล้านนี้ ข้าจะต้องช่วยเขาต่อให้ข้าต้องตายก็ตาม!” เหยียน ซิว พูดขณะที่แสงสีแดงในตาของเขายิ่งสว่างขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็หยิบพัดสีเงินขึ้นมา
สายลมสั่นไหวในทันที
”เหยียนซิว เจ้ามั่นใจแล้วใช่ไหม?” ผู้อาวุโสมองที่ เหยียน ซิว พร้อมขมวดคิ้ว
”ข้าไม่มีทางเสียใจ!”เหยียน ซิ ตะโกน ก่อนจะพุ่งไปด้านหน้า
เขาใช้การกระทำเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองพูด
จากนั้นเขาก็สะบัดพัดไปด้านหน้า
เส้นสีแดงเลือดมากมายพวยพุ่งออกมาจากพัดในทันทีก่อนจะรวมกันเป็นก้อนกลมที่ปลายพัด เหยียน ซิว ยิงมันไปทางผู้อาวุโสห้าทันที
ตูม!
เขตแดนถูกกลืนกินด้วยสีแดงทันที
จากนั้นไม่นานเหยียน ซิว ก็พุ่งมาถึงข้างหน้าผู้อาวุโสห้า เขาสะบัดพัดใสอย่างไม่ลังเล
”เจ้ามันช่างไร้เดียงสา!”สายตาของผู้อาวุโสห้าเต็มไปด้วยความเย็นชา เขารู้หลายอย่างเกี่ยวกับ เหยียน ซิว จากอาณาจักรเซี่ย แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไร
เมื่ออยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์ต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็เป็นได้แค่คนธรรมดาเท่านั้น
ตูม!
เถาวัลย์หนามนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากพื้นดินแต่ละเถานั้นมีความใหญ่เกือบเท่าตัวมนุษย์ ไม่นานภายในพื้นที่รัศมีห้าเมตรรอบๆตัวผู้อาวุโสห้าก็เต็มไปด้วยเถาวัลย์
ก้อนพลังสีแดงสั่นไหวราวกับจะพังทลายลงได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตามเหยียน ซิว ยังคงมุ่งมั่น
ร่างกายของเขาเปล่งแสงสีแดงเข้มออกมาทำให้ก้อนพลังสีแดงนั้นทรงพลังมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เขายังใช้พัดเงินตัดเถาวัลย์ที่ขวางทางเพื่อจะสามารถเข้าไปใกล้ผู้อาวุโสห้าได้
”หึเต๋าอาชูร่าพลังช่างรุนแรงเหลือเกิน!” ผู้อาวุโสห้าจ้องไปที่ เหยียน ซิว ด้วยแววตาอันดุร้าย จากนั้นอักขระสีเขียวบนหน้าผากของเขาก็เปล่งแสงออกมา “เขาถึงพลังแห่งธรรมชาติ!!” ตูม!
เมื่อพูดจบแสงสีเขียวจำนวนมากได้ไหลทะลักออกมาจากร่างของผู้อาวุโสห้า เมื่อมันสัมผัสเข้ากับเถาวัลย์ พวกมันก็เริ่มบิดไปมาราวกับมีชีวิตเป็นของตัวอง ก่อนทีพวกมันจะพุ่งเข้าใส่ เหยียน ซิว ในทันที
เถาวัลย์แทงเข้าไปในร่างของเหยียน ซิว ใบหน้าของเขาซีดขาวทันที
”เหยียนซิว!” เสียงตะโกนดังขึ้น ก่อนที่จะมีร่างหนึ่งปรากฎขึ้นที่ด้านหลังผู้อาวุโสห้า
”พร้อมกันสองคน?นั่นเป็นสิ่งที่ข้ากำลีงต้องการเลย!” ผู้อาวุโสห้าไม่แปลกใจกับการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ เถาวัลย์หนาม พุ่งเข้าหา ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม…
ได้เกิดแรงดึงดูดขนากใหญ่ใต้เท้าของผู้อาวุโสห้าทรายที่นิ่งสงบเริ่มหมุนไปรอบๆอีกครั้ง
ท่าทีของผู้อาวุโสห้าจริงจังทันที
เช่นเดียวกับศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง พวกเขาตะลึงและจ้องมองด้วยสายตาอ้าปากค้า
”เขตแดนมัน…” ไอลีนโนเวล
”ทำไมผู้อาวุโสสามถึงทำแบบนี้กับผู้อาวุโสห้า?”
”เกิดอะไรขึ้นอย่าบอกนะว่า…”
พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้เขตดนที่เป็นของผู้อาวุโสสาม ทำไมถึงทำร้ายผู้อาวุโสห้า?
อย่างไรก็ตามพวกเขาสงสัยได้ไม่นานขณะที่ผู้อาวุโสห้าเสียสมดุล ฟาง เจิ้งจือ ก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง
”หึ!เจ้าควบคุมเขตแดนได้สินะ!”ดวงตาของผู้อาวุโสห้ากลายเป็นสีเขียวมรกตไปแล้ว เขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถควบคุมเขตแดนได้ยังไง
อย่างไรก็ตามเขาสังเกตุเห็นตั้งแต่ตอนที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังสู้กับผู้อาวุโสสาม
นั่นคือเหตุผลที่…อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง พวกเขาตะลึงและจ้องมองด้วยสายตาอ้าปากค้า
”เขตแดนมัน…”
”ทำไมผู้อาวุโสสามถึงทำแบบนี้กับผู้อาวุโสห้า?”
”เกิดอะไรขึ้นอย่าบอกนะว่า…”
พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้เขตดนที่เป็นของผู้อาวุโสสาม ทำไมถึงทำร้ายผู้อาวุโสห้า?
อย่างไรก็ตามพวกเขาสงสัยได้ไม่นานขณะที่ผู้อาวุโสห้าเสียสมดุล ฟาง เจิ้งจือ ก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง
”หึ!เจ้าควบคุมเขตแดนได้สินะ!”ดวงตาของผู้อาวุโสห้ากลายเป็นสีเขียวมรกตไปแล้ว เขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถควบคุมเขตแดนได้ยังไง
อย่างไรก็ตามเขาสังเกตุเห็นตั้งแต่ตอนที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังสู้กับผู้อาวุโสสาม
นั่นคือเหตุผลที่… ฟางเจิ้งจือ โจมตีผู้อาวุโสสามได้สำเร็จ
แล้วเขาจะไม่เตรียมรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้วได้ยังไง?คลื่นพลังอันรุนแรงปะทุออกมาจากร่างของเขา
ตูม!มันชนเข้ากับ ฟาง เจิ้งจือ ที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงจนร่างของ ฟาง เจิ้งจือ กระเด็นออกไป
ในอีกด้านเหยียน ซิว เริ่มอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ บหน้าของเขาซีดขาวพร้อมกระอักเลือดออกมาจากปาก
แต่สีหน้าของเขายังคงหนักแน่น
อย่างที่เขาพูดเขาไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้เลือก
”อ้าก!!”เหยียน ซิว ตะโกนร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง หลังจากนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นสีแดงเข้ม เขาพยายามฟาดฟันเถาวัลย์ที่พันร่างกายเขาอยู่
”เหยียนซิว! เจ้าหมดหวังแล้ว!” ผู้อาวุโสห้าจ้องมองไปที่ เหยียน ซิว เงียบๆ
เขารู้ต่อให้พูดอะไรตอนนี้ เหยียน ซิว ก็ไม่เปลี่ยนใจ
”ข้ายอมทำลายทั้งโลกเพื่อช่วยเขา!”ดวงตาของ เหยียน ซิว ลุกโชนด้วยเพลิงสีแดง
ไม่กี่อึดใจผิวทั้งหมดของ เหยียน ซิว ก็กลายเป็นสีแดงสด ราวกับเลือดข้างในไหลมาย้อมตัวเขาเอาไว้
ในเวลาเดียวกันใบหน้าของเขาก็แสดงถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
”เหยียนซิว เจ้าเป็นห่วงเพื่อนของเจ้า แต่เจ้าไม่คิดงั้นรึว่าเขาจะรู้สึกยังไงถ้าเจ้ามาตายที่นี่? อยากให้เขามาล้างแค้นให้เจ้างั้นรึ?” เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ดังขึ้นอีกครั้ง
”ล้างแค้นศาลาเต๋าสวรรค์?”ร่างกายของ เหยียน ซิว สั่นเทา เขาลังเล
”ใช่ทำไมเจ้าไม่รอล่ะ? จักรพรรดิได้ชี้ให้เห็นแล้ว ฟาง เจิ้งจือ ยังคงอยู่ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ เขาจะมาที่นี่ทันได้ยังไง? หรือบางทีเขาอาจจะอยู่ที่ตีนเขาก็ได้!” ฟาง เจิ้งจือ ยังคงพูดต่อ
”ตีนเขา?”เหยียน ซิว พึมพัม อารมณ์ของเขาดูไม่มั่นคงเป็นอย่างมาก
”ใช่ถ้าเจ้าไม่เชื่อลองไปดูที่ตีนเขาก็ได้ ถ้า ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าเจ้าตายที่นี่เพราะเขา เขาจะคิดยังไง เขาเหลือเวลาไม่กี่เดือนเจ้าอยากให้เขาเอาเวลามาล้างแค้นศาลาเต๋าสวรรค์งั้นหรือ?”
”แก้แค้น?ไม่เขามีหลายเรื่องต้องทำ ข้าไม่คิดอยากให้เขาเสียเวลา ข้าต้องรอ…ไม่ เจ้าพูดผิด เขาต้องมาแน่นอน ขาสัญญาเอาไว้แล้ว แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าเขาเหลือเวลาไม่มาก? เจ้า…” ร่างกายของ เหยียน ซิว เริ่มเจ็บปวดอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
”ในเมื่อเจ้าดื้อด้านมากก็ตายซะ!”ผู้อาวุโสห้ามองไปที่ เหยียน ซิว ก่อนจะพุ่งเข้าไปทันทีด้วยความเร็วแสง
เขาสังเกตุเห็นว่าทั้งคู่มีความตั้งใจจะต่อสู้ร่วมกันต่อให้เขาจะเก่งกาจแค่ไหนแต่ให้รับมือคนหนึ่งเชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์ กับอีกคนใช้เต๋าอาชูร่า มันไม่ใช่เรื่องสนุกแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟาง เจิ้งจือ ที่เจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก เขาไม่สบายใจ ตอนที่ผู้อาวุโสสามก้าวออกไปใครจะคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะชนะ?
เขาต้องกำจัดพวกมันก่อน
เพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดฝันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ตูม!ฝ่ามือของเขาปะทะเข้ากับร่างของ เหยียน ซิว มันเป็นการโจมตีที่อ่อนโยนที่สุดที่ผู้อาวุโสห้าจะช่วยได้ ถึงอย่างนั้นร่างของ เหยียน ซิว กลับสั่นไหวอย่างรุนแรง
สีแดงเลือดที่ปกคลุมรอบตัวเขาไหลกลับเข้าไปในร่างกายทันที
เหยียนซิว กระอักเลือดออกมาครั้งหนึ่ง
”ไม!!”เสียงตะโกนดังขึ้น จากนั้นแสงสีม่วงก็พุ่งเข้ามาทันที มันเป็นแสงที่ทั้งน่ากลัวและทรงพลังในเวลาเดียวกัน