Gate of God - ตอนที่ 687 ความโกรธแค้นของ เฉียน วู่
นั่นคือรอยดาบรอยดาบผ่าแท่นบูชาออกเป็นสองซีก แท่นบูชาที่ทำจากหินหยกสีขาว
ฝุ่นลอยคลุ้งไปทั่ว
แม้พวกเขาจะอยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์การโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ก็ยังทำให้พวกเขาตกตะลึง
”ทรงพลังมาก!”
”แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้!”
”แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?แม้จะชำนาญการใช้เต๋าสวรรค์แต่ก็ไม่น่าทรงพลังได้ขนาดนี้!”
ในขณะที่เหล่าศิษย์กำลังตกใจพวกเขาก็คว้าดาบแล้วจ้องมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ อย่างสั่นเทา
เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้นเลือดสีแดงสด สามารถมองเห็นได้แม้จะอยู่ที่ไกล
”เกิดอะไรขึ้นกันแน่?ผู้อาวุโสห้าบาดเจ็บ?”
เมื่อได้ยินเสียงร้องศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ต่างก็หันมองอย่างจริงจัง มันเป็นเสียงของผูอาวุโสห้า
”ฟางเจิ้งจือ!” เสียงที่ดุดัน ดังสนั่นขึ้น ร่างของผู้อาวุโสห้าค่อยๆโผล่ออกมา ใบหน้าขาวซีดลงอย่างมาก เลือดไหลออกจากมุมปาก
ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือด
แขนข้างหนึ่งหายไปจากร่างของเขา
เลือดจากข้อศอกไหลลงสู่พื้นอย่างไม่น่าเชื่อมันดูน่าหดหู่อย่างมาก
ตัดแขนด้วยการโจมตีเพียงครังเดียว!
เมื่อเห็นฉากนี้เหล่าศิษย์ของศาลาต่างก็อ้าปากแข็งค้าง การโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ สามารถตัดแขนองผู้อาวุโสห้าได้!
ไม่มีใครอยากจะเชื่อ
ผู้อาวุโสห้าเป็นผู้ที่อยู่ในระดับเซียนใครจะเชื่อได้ว่าผู้ที่อยู่ในระดับจุติจะสามารถทำเช่นนี้ได้?
แม้แต่จักรพรรดิทั้งสี่เองก็ไม่เชื่อหลังจากที่หายใจเข้าลึก พวกเขาก็จ้องมองร่างที่อยู่ตรงข้ามกับผู้อาวุโสห้า
เสื้อคลุสีขาวของเขาก็ขาดรุ่ยเช่นกัน
ชายเสื้อพริ้วไหวไปตามสายลมดาบไร้ร่องรอยส่องแสงสีม่สงอย่างสง่างาม
ช่างเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อ
ฟางเจิ้งจือ ประสบความสำเร็จ
”ผู้นำศาลานี่มัน…” หลิน มู่ไป่ ตอบสนองอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นฉากนี้
ความจริงแล้วเขาเคยเห็นการโจมตีเช่นนี้มาก่อน
เขายังจำได้ชัดเจนในหัวของเขา
แล้วผู้อาวุโสห้าจะหลบได้ยังไง?
เสียงของหลิน มู่ไป่ ปลุกให้เหล่าศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรคได้สติจากความตกใจ จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ มู่ ฉิงเฟิง บางคนจับดาบเอาไว้แน่น
มู่ฉิงเฟิง ยังคงนิ่งเงียบ อย่างไรก็ตาม มันสามารถเห็นได้ถึงความลังเลในสายตาของเขาเขารู้อยู่แก่ใจว่าทำไม หลิน มู่ไป่ และศิษย์ทั้งหมดถึงจ้องมองเขา
เขาขยับเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นเขามองดูเงียบๆและค่อยๆหลับตาลง
บรรยากาศเงียบสงบอย่างสิ้นเชิง
ฉากนี้ทำให้เหล่าศิษย์ประหลาดใจเล็กน้อยจากนั้นพวกเขาก็เงียบแล้วหยุดออกความเห็น
บางคนก็เก็บดาบเข้าฝักไป
เพราะพวกเขาเข้าใจการตัดสินใจของมู่ ฉิงเฟิง
มันง่ายมาก
นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสห้าต้องการทำ
เพราะว่าผู้อาวุโสห้าเลือกที่เข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ยอมสละชื่อของตัวเองทิ้งไป ตั้งแต่ตอนนั้นก็ถือเป็นการต่อสู้ระหว่างพวกเขาแล้ว
ศาลาเต๋าสวรรค์จะไม่เข้าไปยุ่ง
นอกจากนี้ตัวตนของฟาง เจิ้งจือ ก็เป็นปัญหาเช่นกัน ถ้าฟาง เจิ้งจือ เป็นสายลับของอาณาจักรอื่น แม้ว่าศาลาเต๋าสวรรค์จะไม่ควรเข้าไปยุ่ง แต่ มู่ ฉิงเฟิง ก็จะไม่มีทางปล่อยให้หนีไปจากที่นี่ได้
อย่างไรก็ตามนี่คือ ฟาง เจิ้งจือ
องค์ชายของอาณาจักรเซี่ย
ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าเข้าใจผิดมาตั้งแต่ต้น
ถือเป็นความอับอายของศาลาเต๋าสวรรค์
การตัดสินใจของผู้อาวุโสห้ายิ่งทำให้ชื่อเสียงของศาลาเต๋าสวรรค์แย่ลงไปอีกลอบโจมตีผู้ที่อยู่ในระดับจุติต่อหน้าศิษย์และจักรพรรดิทั้งสี่
ถ้าไม่เป็นเพราะผู้อาวุโสห้าเชื่อว่าคนๆนี้คือสายลับของอาณาจักรอื่นเขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ความจริงเผยออกมาแล้ว
ศาลาเต๋าสวรรค์ไม่สามารถเมินเฉยต่อความยุติธรรมที่พวกเขายึดมั่นได้
”ตายซะ!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าศาลาเต๋าสวรรค์กำลังคิดอะไรอยู่ ความจริงแล้วเขาไม่ได้สนใจ
เป้าหมายเดียวของเขาคือการฆ่าผู้อาวุโสห้าเท่านั้น
ทันทีที่สิ้นเสียงตะโกนฟาง เจิ้งจือ ก็เคลื่อนไหว ดาบของเขากลายเป็นมังกร และพุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว
”ฟาง เจิ้งจือ เจ้ากล้าสร้างความวุ่นวายที่ศาลาเต๋าสวรรค์ได้ยังไง?” มีเสียงดังขึ้น จากนั้นก็มีร่างสีดำเคลื่อนที่เข้าหา ฟาง เจิ้งจือ เขามีดาบอยู่ในมือของเขาเช่นกัน ดาบเล่มนี้มีสีดำแวววาวจากหินหยกชั้นเลิศ
ตูม!
พวกเขาปะทะกันจนส่งคลื่นกระจายไปทั่ว
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กระเด็นออกไปด้านข้าง
ฟางเจิ้งจือ ค่อยๆพลิกตัวลงพื้นอย่างมั่นคง ขณะที่อีกร่างเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะลงจอดได้อย่างมั่นคง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
”เฉียนวู่?” ”ทำไมเขาถึงเข้าไป?”
“นี่คือ…”
เหล่าศิษย์เต๋าสวรรค์ต่างเต็มไปด้วยความสับสนทำไมถึงมีคนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในครั้งนี้มากมายขนาดนี้
”อยากตายงั้นรึ!”สายตาของ ฟาง เจิ้งจือ เต็มไปด้วยความเย็นชา ขณะที่ดาบของเขาชี้ไปที่คอ เฉียน วู่
สีหน้าของเฉียน วู่ เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่านี้เป็นโอกาสที่พระเจ้าประทานให้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากการที่ ฟาง เจิ้งจือ อ่อนแอ เพื่อล้างแค้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง จากนั้นก็ช่วยผู้อาวุโสห้า เขาจะต้องได้รับการยอมรับจากศาลาเต๋าสวรรค์เพราะเรื่องนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกเสียใจหลังจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?
เฉียนวู่ ได้ฝึกหนักเป็นอย่างมากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ดูเหมือนราวกับได้ตายแล้วเกิดใหม่
ระดับจุติ?
เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?
เขาไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดไปในการโจมตีใส่ผู้อาวุโสห้าแล้วงั้นหรือ?
เขายังเป็นคนอยู่หรือไม่?
เฉียนวู่ อยากกลับไปยืนในที่เดิม อย่างไรก็ตามความเกลียดชัง ฟาง เจิ้งจือ ทำให้เขาต้องยืนอยู่ตรงนี้
เขาจะต้องทำยังไงก็ได้
อย่างมากฟาง เจิ้งจือ ก็น่าจะโจมตีได้อีกไม่กี่ครั้ง ไอรีนโนเวล
”ฟางเจิ้งจือ ที่นี่เป็นศาลาเต๋าสวรรค์ มันเป็นความผิดร้ายแรงที่เจ้าปลอมตัวเป็นศิษย์พี่กงฉิง รวมถึงขัดขวางการทดสอบ เจ้าจะพูดอะไรได้บ้าง? แม้ข้าจะยังไม่ได้เข้าสู่ศาลาเต๋าสวรรต์ แต่ข้าก็มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องความยุติธรรมของที่นี่!” เฉียน วู่ พูดออกมาอย่างมั่นใจ หลังจากที่ผู้อาวุโสห้าได้ยินคำพูดของเฉียน วู่ ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามเขารีบเอามือวางไว้บนบาดแผลทันที
แสงมรกตเปล่งออกมาจากร่างกายของเขาเลือดค่อยๆหยุดไหล จากนั้นเถาวัลย์ก็ค่อยๆผสานกันกลายเป็นแขนข้างใหม่
แม้มันจะไม่สมบูรณ์นักแต่ก็สามารถทดแทนแขนที่ขาดหายไปได้
”เฉียนวู่ กลับมาเดี๋ยวนี้!” ผู้อาวุโสห้าเข้าใจว่า เฉียน วู่ วางแผนอะไรไว้ นอกจากนี้เขายังเข้าใจการตัดสินใจของ มู่ ฉิงเฟิง
ในฐานะเซียนและผู้อาวุโส
เขาไม่ลังเลในการลอบโจมตีฟาง เจิ้งจือ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรที่เป็นการเสียศักดิ์ศรีต่อหน้าศิษย์ทั้งหมดได้ เพราะนี่เป็นการต่อสู้ระหว่างเขาและ ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้น…
เขาจะไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้ามาช่วย
แม้ว่าหนานกง มู่ จะเข้ามาช่วย ฟาง เจิ้งจือ เขาก็ไม่คิดจะร้องขอความช่วยเหลือใดๆ เพราะเขาเป็นเซียน!”
อย่างไรก็ตามเฉียน วู่ ไม่คิดจะถอยกลับ
แม้ผู้อาวุโสห้าจะแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือแต่อย่างน้อยถ้าเขาทำอะไรบ้าง เขาต้องกลายเป็นที่โปรดปรานแน่นอน
”ผู้อาวุโสห้าถึงแม้ข้าจะยังไม่ได้เป็นศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ ข้าเองก็มีเรื่องบาดหมางกับ ฟาง เจิ้งจือ อยู่แล้ว ถ้าผู้อาวุโสห้ารู้สึกไม่ยุติธรรม ท่านก็ค่อยท้าสู้เขาใหม่หลังจากข้าจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย!” เฉียน วู่ วางแผนไว้อย่างชัดเจน คำพูดของเขาถูกคิดขึ้นมาอย่างสวยงาม
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับเฉียน วู่ พวกเขายืนอยู่ข้างผู้อาวุโสห้า
ไม่มีใครคิดว่าผู้อาวุโสห้าจะแพ้ฟาง เจิ้งจือ
ฟางเจิ้งจือ ไม่รอให้ผู้อาวุโสตอบอะไร
หากมีคนอยู่ข้างหน้า..
ก็แค่กำจัดออกไป
มันง่ายมากเขาไม่ใช่คนที่ชอบฆ่า อย่างไรก็ตามบุคคลที่อยู่ข้างหน้าเขาคือเฉียน วู่ ที่ทำให้เมืองหลวงต้องย่อยยับและทำให้ ปิง หยาง ถูกจับตัวไป
ไม่จำเป็นต้องลังเล
”ในเมื่อเจ้าไม่หลบไปงั้นก็ตาย!” ฟาง เจิ้งจือ พุ่งออกไปโดยไม่ลังเล แสงสีม่วงรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งไปหา ผู้อาวุโสห้าและเฉียน วู่
เฉียนวู่ ไม่คิดจะรอบการโจมตีนี้ตรงๆ เขาจึงหลบไปด้านข้าง
“ฮึ่ม!”อักขระบนหน้าผากของผู้อาวุโสดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไป
จากนั้นเถาวัลย์ก็ค่อยๆถักทอกลายเป็นดาบในมือของผู้อาวุโสห้า
อักขระสีเขียวปรากฎอยู่บนใบดาบ
สำหรับผู้ที่อยู่ในระดับเซียนต้องหยิบอาวุธออกมาสู้กับผู้ที่อยู่ในระดับต่ำกว่านั้นเป็นความอัปยศอย่างแท้จริง
แต่เขาก็ต้องทำ!
เขาต้องชนะ! ผู้อาวุโสห้าพุ่งเข้าหาฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน
ตูม!การปะทะกันสร้างแรงระเบิดขนาดใหญ่
จากนั้นก็มีอีกร่างรีบฉวยโอกาสพุ่งเข้าหาฟาง เจิ้งจือ
”ตาย!”สายตาของ เฉียน วู่ เต็มไปด้วยความเย็นชา แสงหกแสงปรากฎขึ้นที่ปลายดาบของเขา จากนั้นก็เกิดอักขระทั้งหกขึ้น มันค่อยๆผสานเขาด้วยกัน พื้นที่ทั้งหมดราวกับถูกปิดผนึก
”นั่นมันเต๋าแห่งชีวิต!”
”เต๋าที่ใช้ในการปิดผนึก!มันยังสามารถใช้ควบคุมสัตว์ต่างๆได้อีกด้วย! ข้าได้ยินว่าพวกเขาสามารถใช้เต๋านี้เพื่ออัญเชิญประตูชีวิตจากนรกได้ด้วย!”
”ความแข็งแกร่งของเฉียน วู่ ไม่น่าต่างจาก ฟาง เจิ้งจือ มาก!”
”ใช่ที่สำคัญฟาง เจิ้งจือ เหนื่อยล้ามากแล้ว! หากสู้แบบตัวต่อตัวผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจน แต่นี่มีผู้อาวุโสห้าร่วมด้วย!” “เดี๋ยวก่อนนั่นอะไรน่ะ?”
ขณะที่ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์กำลังพูดคุยกันคลื่นพลังอันชั่วร้ายก็ค่อยๆปรากฎขึ้นมา จากนั้น….
.