Gate of God - ตอนที่ 691 อาชูร่าคลั่ง
ไม่มีเสียงของดาบที่ถูกแทงเข้ามามีแค่เสียงหัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ ที่เต้นรัว ฟาง เจิ้งจือ อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
เขาเห็นดาบอยู่ห่างจากหน้าอกของเขาครึ่งนิ้ว
ดาบสีเขียวดูเหมือนจะสั่นสะท้านเล็กน้อย
”หือ?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เขาแค่สัมผัสได้ว่ามีพลังอันยิ่งใหญ่ที่ควบคุมดาบตรงหน้าอยู่
เส้นสีเลือดคล้ายๆเส้นดายจำนวนมากพันรอบดาบเอาไว้
”นั่นเหยียน ซิว?! เขาหายบาดเจ็บแล้วงั้นหรือ? ”
”เขาไม่ได้ตายแต่แสงบนร่างกายเขานั้นคืออะไรกัน? ”
”ดูเหมือนว่า…”
เสียงการพูดคุยกันของศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์สามารถได้ยินได้
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกตกใจเมื่อได้ยินพวกเขาเรียก เหยียน ซิว มันอดไม่ได้ที่จะทำให้เขาขมวดคิ้ว
อย่างไรก็ตามในที่สุดเขาก็เห็นร่างที่ไม่ชัดเจนนักอยู่ด้านหลังของผู้อาวุโสห้า
ร่างของเขาถูกพันไปด้วยเส้นแสงสีแดงทั่วตัวราวกับมัมมี่
บรรยากาศรอบนั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
ที่สำคัญดวงตาทั้งสองข้างนั้นต่างกันข้างหนึ่งสีแดง อีกข้างนั้นสีดำ
สีแดงเหมือนเลือดสดๆสีดำที่ลึกราวกับก้นเหว
”เหยียนซิว!” ฟาง เจิ้งจือ พยายามยันตัวขึ้น แต่เขาเจ็บปวดมากจนไม่สามารถทำได้
ทันใดนั้นเสียงได้ดังขึ้น
”ตาย!”
เส้นแสงสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากพื้นดินราวกับกรงขัง
ในช่วงเวลาสั้นๆเส้นกว่านับร้อยเส้นปรากฎขึ้นมา
”เหยียนซิว เจ้า … ” ผู้อาวุโสห้าประหลาดใจ แต่เขาก็ตอบโต้อย่างรวดเร็ว แสงสำเขียวล้อมรอบตัวเขากลายเป็นโล่ทรงกลมทันที
”ตูม!”
โล่ทรงกลมบินขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะตกลงมากระแทกพื้น
ในขณะเดียวกันภาพวาดขนาดยักษ์ก็เกิดขึ้นในท้องฟ้า
มีภูเขาลำธารและต้นไม้
พวกมันทั้งหมดเป็นสีเลือด
พลังอันน่าสะพรึงกลัวถูกส่งออกมาจากเขตแดนนั้น
”แกร้ก!”
มันปะทะเข้ากับโล่ของผู้อาวุโสห้ารอยแตกปรากฎขึ้นทันที โล่ทรงกลมค่อยๆถูกดึงเขาไปในเขตแดนภาพขนาดยักษ์
มันเป็นฉากที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และเหล่าจักรพรรดิต่างเบิกตากว้างแม้แต่ มู่ ฉิงเฟิง ก็ลืมตาขึ้นมา
”เกิดอะไรขึ้น?ทำไมเขาถึงมีพลังมากขนาดนี้?”
”เขาเข้าสู่ระดับจุติแล้วงั้นหรือ?เป็นไปได้ยังไงกัน?”
”ต่อให้เขาอยู่ในระดับจุติแล้วแต่เขาไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ผู้อาวุโสห้าดูเหมือนจะไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดนั้นได้!””
เหล่าศิษย์เต๋าสวรรค์ต่างตกตะลึง
พวกเขามั่นใจว่าเหยียน ซิว อยู่ในระดับจุติแล้ว
”เข้าสู่ระดับจุติแล้ว?”ท่าทีของ ผู้อาวุโสห้าเปลี่ยนไปทันที
แม้ว่าร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียวหยก แต่มันกลับถูกทำให้แตกได้อย่างง่ายดาย
ยิ่งไปกว่านั้นเขามั่นใจว่าพลังสีแดงเข้มของเหยียน ซิว ค่อยๆทวีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
”ตูม!”
ร่างของผู้อาวุโสห้าชนเข้ากับภาพขนาดยักษ์
จากนั้นบางอย่างที่คล้ายกับกรงเล็บขนาดยักษ์ก็พุ่งเข้ามา
”แควก!” กรงเล็บนั้นเข้ามฉีกกระชากเสื้อของผู้อาวุโสห้า
”ไปให้พ้น!”ผู้อาวุโสห้ารีบตวัดดาบทำลายกรงเล็บเหล่านั้นทันที
ด้วยคลื่นกระแทกทำให้เขาเป็นอิสระจากการควบคุมของเขตแดนสีเลือดก่อนที่จะตกลงไปบนพื้น
อย่างไรก็ตามเขาหล่นลงพื้นด้วยท่าทีที่ไม่ได้ดีนัก
”แข็งแกร่งมาก!” ”เขามีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?!”
”เขาพึ่งเข้าสู่ระดับจุติเองนะ!”
เหล่าศิษย์ต่างอุทานออกมาด้วยความไม่เชื่อ
ทันใดนั้นมู่ ฉิงเฟิง ได้ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้
”เต๋าแห่งอาชูร่า!มันแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรือ?”
”แม้ว่าเต๋าแห่งอาชูร่าเป็นเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุดในเต๋าแห่งการจุติทั้งหก แต่ว่าแบบนี้มัน… ”
”เหยียนซิว… ” ไอลีนโนเวล
จักรพรรดิทั้งสามยืนขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่เหยียน ซิว สายตาของพวกเขามองไปยัง เหยียน ซิว
”ไม่นี่ไม่ใช่เต๋าแห่งอาชูร่า แต่เป็นอาชูร่าที่คลุ้มคลั่ง!”บาดแผลที่น่าสยองปรากฎขึ้นบนร่างของผู้อาวุโสห้า เขาล้มลง เลือดไหลนองเต็มพื้น
”อาชูร่าที่คลุ้มคลั่ง?!” ”อะไร?อาชูร่าที่คลุมคลั่ง… กลิ่นอายความชั่วร้ายนั้นคือจิตสังหารของอาชูร่าที่คลุ้มคลั่งงั้นหรือ?”
”ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงคงไม่ดีแน่…”
สีหน้าของเหล่าศิษย์เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสห้าพูดในฐานะศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์พวกเขารู้ถึงความหมายของสิ่งนั้นดี
เต๋าแห่งอาชูร่าหนึ่งในหกวิชาเต๋าแห่งการจุติ
เป็นวิชาที่ผสานระหว่างความดีและความชั่วร้ายเป็นพลังที่น่ากลัวที่สุด ในขณะเดียวกันก็เป็นวิชาที่อันตรายที่สุดเช่นกัน
นั่นเพราะการที่จะเข้าถึงเต๋าแห่งอาชูร่าจำเป็นต้องเข่นฆ่าชีวิต อย่างที่ถูกจารึกเอาไว้ในกฎแห่งเต๋า จำเป็นต้องฆ่าล้างเพื่อสัมผัสถึงความต้องการของอาชูร่า
อย่างไรก็ตามนั่นทำให้ผู้คนสำนึกถึงความดีและความชั่ว
จนท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรักษาความดีไว้ได้ เพราะจำเป็นต้องเข่นฆ่าต่อไปเรื่อยๆ สิ่งนี้ทำให้ผู้ที่ฝึกวิชาเต๋าแห่งอาชูร่าต่างร่วงสู่นรก จนกลายเป็นหุ่นเชิดของอาชูร่า และไม่รับรู้อะไรอีกเลยนอกจากการฆ่าเท่านั้น
จึงได้ชื่อว่าอาชูร่าคลั่ง
”อาชูร่าคลั่ง?!เหยียน ซิว …” ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึงเช่นเดียวกัน เมื่อเขาได้ยินผู้อาวุโสห้าพูด
เขาเองก็รู้ความหมายของประโยคนั้นเช่นกันความจริงแล้ว เขารู้ดีถึงผลของอาชูร่าคลั่ง
มนุษย์ที่ควบคุมอาชูร่ากับอาชูร่าที่ควบคุมมนุษย์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นี่คือเรื่องง่ายๆเมื่อใครพยายามควบคุมอาชูร่า เพราะเขาต้องใช้แหล่งพลังของตัวเอง แต่เมื่ออาชูร่าเข้าควบคุมก็ไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งพลังอีกต่อไป เพราะเขาได้กลายเป็นอาชูร่าแล้ว
ฟางเจิ้งจือ ต้องการหยุดเรื่องนี้เขาเคยถามเซียนสวรค์พักพิงเกี่ยวกับเต๋าแห่งอาชูร่า ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ากลิ่นอายบนดาบของ เหยียน ซิว นั่นคือกลิ่นอายของอาชูร่าที่ชั่วร้าย เมื่อกลิ่นอายของอาชูร่าผสานเข้ากับแสงสีแดง เหยียน ซิว ก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของอาชูร่าอย่างสมบูรณ์ และไม่มีโอกาสกลับมาอีก
”อั้ก!”ฟางเจิ้งจือ กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้น
วิสัยทัศน์เริ่มเลือนลางลงเสียงเต้นของหัวใจดังขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อไหลออกมาราวกับสายฝน
ในตอนนี้เหยียน ซิว ก็มองดู ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน
ดวงตาสีแดงของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและเขามองเห็นถึงความเจ็บปวดของ ฟาง เจิ้งจือ ได้อย่างชัดเจน
”อ้าก!!”เหยียนซิว ส่งเสียงร้องออกมา ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงก่ำ
”เหยียนซิว ตั้งสติไว้!”หลังสิ้นเสียงของจักรพรรดิ หลิน มู่ไป แสงสีทองก็ปรากฎขึ้นบนร่างของเขา
เขายิงแสงสีทองไปยังกลางหน้าผากของเหยียน ซิว อย่างไม่ลังเล แต่ในตอนนั้นเองเหยียน ซิว ก็เคลื่อนไหวเขาโบกพัดสีเงินในมือ และมีออร่าสีแดงเลือดปรากฎขึ้นมาปกป้องร่างกายของเขา
”ตูม!”แสงสีทองถูกออร่าสีแดงขวางเอาไว้
ในขณะเดียวกันเหยียน ซิว ก็พุ่งเข้าหาผู้อาวุโสห้าด้วยความเร็วสูงสุด
”ตาย!””
ลำแสงสีแดงที่หลอมรวมกับออร่าแห่งความมืดโผล่ขึ้นมาจากใต้พื้นดินพุ่งทะลุขาขวาของผู้อาวุโสห้าทันที
มันมาพร้อมกับแรงดึงดูดอันมหาศาลราวกับมันสามารถจะลากคนลงไปนรกได้ในทันที
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสห้านั้นเป็นเซียน
เขาทำลายเส้นแสงสีแดงที่ยึดขาขวาของเขาเอาไว้ทันที
ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งขึ้นไปบนฟ้า
อย่างไรก็ตามเส้นสายสีแดงก็ไม่หยุดเช่นกันมันพุ่งเข้ามาพันขาของผู้อาวุโสอีกครั้ง ผู้อาวุโสพยายามต่อต้านแต่เขาอยู่บนอากาศไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
”ตูม!”เขาถูกฟาดลงมาที่พื้นดินทันที
”ผู้อาวุโสห้า!”
”นี่คืออาชูร่าคลั่งงั้นหรือ?!โหดร้าย โหดร้ายมาก!”
”เขาพึ่งเข้าสู่ระดับจุติด้วยซ้ำ!”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เหยียนซิว เคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาหุบพัดลงคล้ายกับดาบ ก่อนจะแทงไปที่คอของผู้อาวุโสห้า
”เหยียนซิว!” ผู้อาวุโสห้าดูโกรธมาก ในเวลาเดียวกันเขาก็ดึงบางอย่างออกมาจากบริเวณเอว
มันเป็นเถาวัลย์ที่แท้จริง
มันทั้งเรียวและแหลมคมหนามนับไม่ถ้วนกระจายอยู่บนนั้น
”นั่นมันเถาวัลย์สวรรค์!”
”ข้าไม่เคยเห็นผู้อาวุโสห้าเอามันออกมาใช้มาก่อน!”
ออร่าสีเขียวปรากฎออกมาจากเถาวัลย์สวรรค์ ก่อนที่จะค่อยซึมเข้าไปในร่างของผู้อาวุโสห้า
ก่อนที่เส้นสีแดงที่พันขาของผู้อาวุโสห้าจะถูกชะล้างไป
แขนที่ถูกตัดไปโดยฟาง เจิ้งจือ ก็ค่อยถูกฟื้นฟูกลับมาใหม่อย่างช้าๆ
แม้แต่อักขระสีเขียวบนหน้าผากของเขาก็สว่างขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว
.