Gate of God - ตอนที่ 694 การกลับมาของ...
ทุกคนต่างสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงของเหยียน ซิว
”ไม่นะเหยียน ซิว กลายเป็นอาชูร่าแล้ว!”
”เราจะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ไม่ได้!”
”เราต้องฆ่าเขา!”
”ไปเลย!”
ก่อนที่มู่ ฉิงเฟิง จะออกคำสั่ง ศิษย์จำนวนหนึ่งก็เริ่มเคลื่อนไหว ดาบในมือของพวกเขาส่องประกาย
อาชูร่าคลั่ง
หุ่นเชิดของเทพอาชูร่า
พวกเขาจะปล่อยให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?
เหยียนซิว เองก็หันไปมองเหล่าศิษย์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
และความชั่วร้าย
ราวกับปีศาจที่จ้องมองมนุษย์ จากนั้นร่างของเหยียน ซิว ก็กลายเป็นสีดำ กลืนไปกับพื้นที่รอบๆเขา
”ขุมนรกอาชูร่า!”เหยียน ซิว ตะโกนออกมา
พื้นโลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากนั้นก็มีก๊าซสีดำพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน
”ตูม!”
”แกรก!” ทันทีที่ศิษย์คนหนึ่งก้าวเข้าไปในก๊าซสีดำ เขากลับหยุดนิ่งทันที เสียงของกระดูกที่แตกหักดังขึ้นในทันที
จากนั้น…
ร่างของเขาทั้งร่างก็ถูกดึงลงไปใต้พื้นดิน…
”ครืด!”
กรงเล็บสีดำจำนวนมากพุ่งมาจากพื้นดินพร้อมกับก๊าซสีดำ พุ่งเข้าหาเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์
”อ้าก!”ศิษย์คนหนึ่งร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เขาจะถูกลากลงไปที่ใต้พื้นดิน
นี่คือนรก นรกที่แท้จริง
”ฆ่าเหยียน ซิว เร็วเข้า!”
ไกลออกไป
หนานกงเฮา ในชุดสีขาวยืนอยู่ ดาบสีขาวพาดอยู่ด้านหลังของเขา มือของเขากำแน่น
เขาไม่ได้มองเหยียน ซิว เลย
เขาจ้องที่หนานกง มู่ ที่กำลังต่อสู้กับ หยาน ฉิง แทน ดวงตาของเขาส่องประกาย
”น้องชายน้องชายข้า…”ปากของ หนานกง เฮา เปิดออก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ท่านพ่อ ในเมื่อท่านมีข้าแล้ว ทำไมต้องให้น้องมาเกี่ยวข้องด้วย? ทำไม?ท่านก็รู้ว่าน้องแข็งแกร่ง และท่านก็รู้ว่าข้ารักน้องมากเท่าไร อย่างไรก็ตามมันจะไม่เป็นไปตามที่ท่านพูด เพราะภารกิจของตระกูลหนานกง จะเป็นข้าคนเดียวที่แบกรับมันเอาไว้!”
”ตูม!”พื้นดินสั่นสะเทือน
หนานกงเฮา ยังคงกำหมัดแน่น
…. ขณะที่ศาลาเต๋าสวรรค์เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
เงาขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์
มันเป็นสัตว์ที่รูปร่างคล้ายอินทรีย์ที่มีเกล็ดสีขาวปีกของมันมีขนาดใหญ่มาก
บนหลัง…
มีร่างร่างหนึ่งชุดสีชมพูดของนางพริ้วไหว อย่างไรก็ตามใบหน้าของนางซีดขาว ริมฝีปากมีรอยเลือดอยู่
มันพุ่งไปที่แท่นบูชาอย่างรวดเร็ว
”ในที่สุดนางก็มา!”ดวงตาของ หนานกง มู่ สว่างไสวขึ้น ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “รอข้าก่อนท่านพี่!”
เขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่สังเกตุเห็นสัตว์ร้ายนั้นเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็เห็นเช่นกัน
เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นร่างในชุดสีชมพูก็กระโดดลงมา ความงามของนางช่างน่าทึ่ง แต่ใบหน้าของนางกลับซีดขาว
นางคือฉือ กูเหยียน
เป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในศาลาเต๋าสวรรค์อย่างไรก็ตามทุกคนต่างชื่นชมนาง เพราะความงดงามของนางยากนักที่จะหาใครเปรียบ
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น…
นางได้รับเชิญสู่ศาลาเต๋าสวรรค์โดยมู่ ฉิงเฟิง นางอยู่อาศัยคนเดียวที่มุมหนึ่งที่เงียบสงบของศาลาเต๋าสวรรค์
นอกจากนี้นางมีภารกิจสำคัญ
พยากรณ์สวรรค์!
นางเป็นผู้ที่ถูกเลือกโดยห้าดินแดนและทั้งสี่อาณาจักร
”ฉือกูเหยียน?!”
”นางกลับมาแล้ว!”
เมื่อเหล่าศิษย์เต๋าสวรรค์เห็นว่าใครกลับมาความดีใจปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขาทันที
อย่างไรก็ตามฉือ กูเหยียน ไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่นางมองไปที่คนคนหนึ่งที่ถูกล้อมไปด้วยเงาสีดำ
เหยียนซิว
นางกระโดดลงมาจากหลังนกตัวนั้นดวงตาของนางยังคงเป็นประกาย
ผมสีดำพัดไปตามสายลม
นางรีบพุ่งไปที่หัวของเหยียน ซิว
เหยียนซิว เงยหน้ามอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวและความเย่อหยิ่งของอาชูร่า ก๊าซสีดำพวยพุ่งขึ้นไปด้านบนทันที
”ระวังตัวด้วย!”
”เหยียนซิว กลายเป็นอาชูร่าคลั่งไปแล้ว!”
”หลีกไปศิษย์พี่”
ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเหยียน ซิว
เหยียนซิว เคลื่อนไหวทันที พัดในมือของเขากลายเป็นดาบก๊าซสีดำหมุนวนรอบพัด ก่อนที่จะแทงไปยัง ฉือ กูเหยียน
เร็วมาก
บวกกับความจริงที่ฉือ กูเหยียน ลงมาจากอากาศ นางไม่มีทางหลบได้
อย่างไรก็ตามฉากที่แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น
เมื่อดาบแทงขึ้นไปเงาหนึ่งได้ปรากฎขึ้นด้านหลัง ฉือ กูเหยียน ที่สำคัญมันเป็นเงาของผู้หญิง
ผู้หญิงที่มีผมสีดำยาวเหยียดอยู่บนบ่าของนาง
ดวงตาของนางเป็นประกายแต่กลับนิ่งสงบและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
มันแปลกเพราะความสงบและความภาคภูมิใจไม่ควรอยู่ร่วมกันได้
ทุกอย่างตกอยู่ภายใต้ความเงียบ
ทุกคนต่างกลั้นหายใจ ดาบแสงที่เกิดจากพัดของเหยียน ซิว ถูกหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของ ฉือ กูเหยียน อย่างลึกลับ
จากนั้น…
มือของฉือ กูเหยียน ก็ขยับ นางเอื้อมมือออกไปและสัมผัสที่หน้าผากของ เหยียน ซิว ช้าๆ การเคลื่อนไหวของนางช้ามาก ราวกับว่านางกำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบ
อย่างไรก็ตามเหยียน ซิว กลับแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว ดวงตาของเขาจ้องมองมือที่เข้ามาใกล้ด้วยความโกรธเกรี้ยว
ทันทีที่นิ้วของฉือ กูเหยียน สัมผัสกับหน้าผากของ เหยียน ซิว
แสงสว่างก็ปรากฎขึ้น
ราวกับดาวดวงหนึ่ง ไอลีนโนเวล
ก่อนที่มันจะค่อยๆจางลง
และหายไปในหน้าผากของเหยียน ซิว
หลังจากนั้นคลื่นพลังสีดำที่ล้อมรอบตัวของเหยียน ซิว เอาไว้ ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง คลื่นพลังอันชั่วร้ายกระจายออกไปในสี่ทิศทาง โลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง
ก๊าซสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมา
อย่างไรก็ตามไม่มีใครเคลื่อนไหวเพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงความตั้งใจอันแรงกล้าของ ฉือ กูเหยียน
”ผนึก!”ฉือ กูเหยียน พูดเบาๆ ริมฝีปากของนางสั่นไหวเล็กน้อย
มันเป็นภาพที่งดงามอย่างประหลาด
อย่างไรก็ตามในความงดงามนั้นมีร่องรอยสีแดงที่สะดุดตา มันคือรอยเลือดที่สามารถมองเห็นได้ที่มุมปาก
”ตูม!”พื้นดินสั่นสะเทือน
พลังงานที่รุนแรงส่งผ่านลงมาจากท้องฟ้าแสงที่ไม่น่าเป็นไปได้ส่องสว่างขึ้น
ราวกับดวงดาวที่ส่องสว่าง
ก๊าซสีดำเริ่มจางหายไป
มันไหลกลับเข้าร่างของเหยียน ซิว ในที่สุดก็หายไปจนหมด เหลือเพียงร่างของ เหยียน ซิวที่ไม่มีแสงสว่างแม้แต่น้อย
”ตึ้ง!”
ร่างของเหยียน ซิว ล้มลงกับพื้น
ในตอนนั้นเองร่างของ ฉือ กูเหยียน ก็สั่นไหว เลือดไหลออกจากปากของนางอย่างต่อเนื่อง นางกระอักเลือดออกมา
”พี่หญิง!”
”ศิษย์พี่!”
เมื่อเหล่าศิษย์เห็นฉากตรงหน้าพวกเขาต่างตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งหมดพุ่งไปหา ฉือ กูเหยียน
เงาที่อยู่ด้านหลังของนางหายไปสีหน้าของนางซีดขาว อย่างไรก็ตาม เมื่อ ฉือ กูเหยียน ทรุดลงกับพื้น พื้นดินด้านหลังของนางก็แยกออกราวกับถูกตัดขาด
”กูเหยียน”มู่ ฉิงเฟิง เข้ามาหานาง ร่างของเขาส่องสว่าง
เสื้อคลุมสีขาวพริ้วไหวตามสายลม แน่นอน…
ในตอนนี้เองมีอีกคนยืนอยู่ตรงหน้า ฉือ กูเหยียน เสื้อคลุมของเขาพริ้วไหวเช่นกัน
หนานกงเฮา
ทันทีที่ฉือ กูเหยียน กระอักเลือดออกมา เขาก็เคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม มู่ ฉิงเฟิง นั้นเร็วกว่า ทุกสิ่งที่เขาทำได้คือยืนอยู่เงียบๆ
”อาจารย์”ฉือ กูเหยียน พยักหน้า จากนั้นนางก็เตรียมจะทักทายเขา อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น นางสังเกตุเห็น ฟาง เจิ้งจือ แต่นางไม่ได้หันมอง หนานกง เฮา
ปากของหนานกง เฮา สั่นไหวราวกับอยากพูดอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงยืนอยู่เงียบๆ
”ไม่ต้องมากพิธีหรอกเจ้ามาได้ถูกเวลาจริง ขอบคุณเจ้ามาก พวกเราสามารถผนึกอาชูร่าเอาไว้ได้” มู่ ฉิงเฟิง พูดขึ้นขณะที่เห็น ฉือ กูเหยียน พยายามทักทาย ”เหยียนซิว คือเพื่อนของเขา และของข้าเช่นกัน” เสียงของ ฉือ กูเหยียน ไม่ดังนักแต่ดูค่อนข้างอ่อนแอ
ศิษย์คนอื่นๆไม่ได้สงสัยสิ่งที่นางพูดอย่างไรก็ตาม พวกเขาเข้าใจคำพูดของ มู่ ฉิงเฟิง
”ถ้าศิษย์พี่มาช้ากว่านี้คงมีบางคนต้องตายเพราะ เหยียน ซิว เป็นแน่!”
”ใช่แล้วมาได้ทันเวลาจริงๆ!”
”ในสภาพเช่นนั้นนางยังผนึกอาชูร่าเอาไว้ได้ นางช่างเป็นคนที่น่านับถือจริงๆ!”
ศิษย์แต่ละคนต่างพูดอย่างตั้งใจ
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดนางก็ส่ายหัว จากนั้นก็หันกลับมา แล้วมองดูที่ท้องฟ้าดานหลัง
”ท่านอาจารย์ข้าได้สร้างปัญหาให้ศาลาเต๋าสวรรค์”
”ปัญหา?”ท่าทีของ มู่ ฉิงเฟิง เปลี่ยนไปทันที
เขารู้ว่าตั้งแต่ที่ฉือ กูเหยียน เข้ามาที่ศาลาเต๋าสวรรค์ คำว่าปัญหาไม่เคยออกจากปากนางแม้แต่ครั้งเดียว วันนี้…
ฉือกูเหยียน พูดว่า ‘ปัญหา’
ดังนั้นสามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาอย่างแท้จริง
”ปัญหา?ศิษย์พี่ได้สร้างปัญหาอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
”นั่นเป็นไปไม่ได้”
”ไม่ใช่ว่าพวกเราหยุดการต่อสู้ไปทั้งหมดแล้วงั้นหรือ?”
เมื่อเหล่าศิษย์ได้ยินคำพูดของฉือ กูเหยียน พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ มีอะไรที่จะเป็นปัญหามากกว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้อีกงั้นหรือ?
พวกเขาไม่เชื่อ…
อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงจ้องมองที่ ฉือ กูเหยียน และ มู่ ฉิงเฟิง จากนั้นดวงตาของพวกเขาก็ต้องเบิกกว้าง
เป็นเพราะว่าบนท้องฟ้ามีบางอย่างจำนวนมากกำลังเคลื่อนที่มามันเป็นจำนวนที่มากจนท้องฟ้ากลายเป็นสีดำoo