Gate of God - ตอนที่ 706 ต่างชั้น
”เปรี้ยง!”หลังจาก เทียนซิง ตะโกน สายฟ้าก็ผ่าไปทั่วท้องฟ้า
ท้องฟ้าที่สว่างอยู่ตอนแรกมืดมัวลงทันทีดวงอาทิตย์หายไปพร้อมดวงดาวที่ปรากฎขึ้นมาแทน ราวกับว่ากลางวันได้เปลี่ยนเป็นกลางคืน
ในเวลาเดียวกันเงาขนาดใหญ่ได้ปรากฎขึ้นมาบนร่างของเทียนซิง
เป็นร่างยักษ์ผมสีแดงในชุดเกราะสีดำเขามีคิ้วที่หนาพร้อมกับใบหน้าที่เกือบถูกปิดไปด้วยหนวดเคราเกือบทั้งหมด
ในขณะที่ร่างยักษ์สีแดงปรากฎขึ้นเทียนซิง ก็หายตัวไป ดูเหมือนว่าร่างของจะผสานเข้าไปในร่างยักษ์ที่ปรากฎขึ้น
ตอนนี้บรรยากาศรอบตัวเขาเต็มไปด้วยความน่ากลัวเมื่อเทียนซิงคำรามออกมา มันราวกับปลดปล่อยความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์ทั้งหมดออกมา มันดูยิ่งใหญ่มาก
ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
”ความโกรธแห่งสวรรค์!มันเป็นพลังจากขีดจำกัดทางสายเลือดของเทียนซิง!”
”เขาไม่คิดจะให้โอกาสฟาง เจิ้งจือ!”
”สมแล้วที่เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่เก่งกาจที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์เห็นพวกเขาสามารถรู้ได้ในทันทีว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องรอถึงสามกระบวนท่า
ฟางเจิ้งจือ ก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน เขารู้ว่าเทียนซิง แข็งแกร่ง และเขาก็เตรียมใจไว้แล้ว
แต่เรื่องไร้สาระแบบนี้คืออะไรกัน?
เขาเปลี่ยนร่างไปอย่างสมบูรณ์?
ก่อนที่ฟาง เจิ้งจือ จะมีเวลาคิดเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่หมัดของเขา หมันรุนแรงราวกับถูกกดทับด้วยภูเขาทั้งลูก คลื่นกระแทกของมันปะทะเข้ากับตัวเขาไม่หยุดหย่อน มันกดดันเขาได้อย่างสมบูรณ์
ไม่มีทางที่เขาจะป้องกันมันได้
”ตูม!”
ร่างกายของฟาง เจิ้งจือ ร่วงลงมาทันที ราวกับดาวหางที่พุ่งลงมาด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงกลัว
”ตูม!”
หลุมขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นทันทีไม่มีใครเห็นว่ามันลึกเพียงใด แม้แต่ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ทุกคนก็ไม่สามารถมองเห็นได้
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์มองเข้าไปในหลุมก่อนที่พวกเขาจะถอนหายใจออกมา
ความแข็งแกร่งนั้นต่างกันเกินไป
แม้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะเก่งกาจแค่ไหน แต่จะสู้กับ เทียนซิง ได้ยังไงกัน?
ไม่รวมถึงความจริงที่ว่าฟาง เจิ้งจือ อยู่ในระดับจุติเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับเซียนยังเป็นเรื่องยากที่จะต้านทานเทียนซิงได้
”ไร้เมตตาจริงๆ!”มู่ ฉิงเฟิง ส่ายหน้าเล็กน้อย
เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเทียนซิง ดี
ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าโอกาสของฟาง เจิ้งจือ แทบเป็นศูนย์
”ฟางเจิ้งจือ!” เสียงของ หลิน หยุน ดังก้อง มันทำลายความเงียบรอบตัวพวกเขา ด้านองค์จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ ความกังวลก็ปรากฎให้เห็นบนใบหน้าเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตามเขายังคงมองไปที่ ฉือ กูเหยียน
ตอนนี้นางหน้าซีดเล็กน้อยนางเองก็กังวล
อย่างไรก็ตามความกังวลของนางค่อยๆจางลง
นางกัดริมฝีปากแน่นดวงตาส่องสว่าง อย่างไรก็ตามนางไม่ได้เคลื่อนไหว หรือพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
”เชี่ย!”ทันใดนั้นมีเสียงเล็ดรอดออกมาจากหลุมดำ มันฟังดูอ่อนแอแต่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด
ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์และเก้าขุนเขาต่างตกตะลึงสายตาจำนวนมากจ้องมองไปที่หลุมดำ
แม้แต่หนานกง เฮา ที่ไม่ได้พูดอะไรก็มองไปที่หลุมเช่นกัน เขาเองก็ตกใจ
ทันใดนั้นร่างหนึ่งค่อยๆคลานออกมาจากหลุมดำเห็นได้ชัดว่าร่างของเขาสั่นสะท้านอยู่ เห็นได้ชัดว่าสภาพของเขาไม่ได้ดีเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามท่าทีของเขาเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก
”เขายังรอด?!”
”นี่มันปาฏิหาริย์!เทียนซิง ใช้พลังจากขีดจำกัดทางสายเลือดแล้ว!”
”แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่เขาไม่มีทางจะรอดจากการโจมตีครั้งที่สอง!”
ทุกคนต่างตกตะลึงแต่พวกเขารู้ดีว่าการโจมตีครั้งต่อไป ฟาง เจิ้งจือไม่มีทางรอดแน่นอน
ฉือกูเหยียน กัดริมฝีปากแน่น ร่างของสั่นเล็กน้อยอย่างไรก็ตามนางไม่เคลื่อนไหว นางเพียงแค่มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เงียบๆ
”แค่ก!”ร่าง ฟาง เจิ้งจือ สั่นสะท้าน ก่อนจะไอออกมาอย่างต่อเนื่อง เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ร่างยักษ์สีแดงที่ลอยอยู่
มันคือ…
นั่นคือร่างทรงเต๋าสวรรค์หรือเรียกอีกอย่างว่าขีดจำกัดทางสายเลือด? เทียนซิงก็มีงั้นรึ? มันเหมือนเงาที่อยู่ด้านหลังของ ฉือ กูเหยียน ในตอนนั้นไหม?
ฟางเจิ้งจือ พยายามเดาว่ามันคืออะไร อย่างไรก็ตามเขาสามารถสัมผัสได้ว่าร่างยักษ์ที่ลอยอยู่ตรงหน้านั้นสมจริงกว่าเงาของ ฉือ กูเหยียนมาก
”เขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?”
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าครั้งนี้เขาประเมิณความหงุดหงิด
ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์และเก้าขุนเขาต่างตกตะลึงสายตาจำนวนมากจ้องมองไปที่หลุมดำ
แม้แต่หนานกง เฮา ที่ไม่ได้พูดอะไรก็มองไปที่หลุมเช่นกัน เขาเองก็ตกใจ
ทันใดนั้นร่างหนึ่งค่อยๆคลานออกมาจากหลุมดำเห็นได้ชัดว่าร่างของเขาสั่นสะท้านอยู่ เห็นได้ชัดว่าสภาพของเขาไม่ได้ดีเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามท่าทีของเขาเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก
”เขายังรอด?!”
”นี่มันปาฏิหาริย์!เทียนซิง ใช้พลังจากขีดจำกัดทางสายเลือดแล้ว!”
”แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่เขาไม่มีทางจะรอดจากการโจมตีครั้งที่สอง!”
ทุกคนต่างตกตะลึงแต่พวกเขารู้ดีว่าการโจมตีครั้งต่อไป ฟาง เจิ้งจือไม่มีทางรอดแน่นอน
ฉือกูเหยียน กัดริมฝีปากแน่น ร่างของสั่นเล็กน้อยอย่างไรก็ตามนางไม่เคลื่อนไหว นางเพียงแค่มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เงียบๆ
”แค่ก!”ร่าง ฟาง เจิ้งจือ สั่นสะท้าน ก่อนจะไอออกมาอย่างต่อเนื่อง เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา Aileen-novel
อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ร่างยักษ์สีแดงที่ลอยอยู่
มันคือ…
นั่นคือร่างทรงเต๋าสวรรค์หรือเรียกอีกอย่างว่าขีดจำกัดทางสายเลือด? เทียนซิงก็มีงั้นรึ? มันเหมือนเงาที่อยู่ด้านหลังของ ฉือ กูเหยียน ในตอนนั้นไหม?
ฟางเจิ้งจือ พยายามเดาว่ามันคืออะไร อย่างไรก็ตามเขาสามารถสัมผัสได้ว่าร่างยักษ์ที่ลอยอยู่ตรงหน้านั้นสมจริงกว่าเงาของ ฉือ กูเหยียนมาก
”เขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?”
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าครั้งนี้เขาประเมิณความแข็งแกร่งของ เทียนซิง ต่ำกว่าความเป็นจริงไป ตอนที่เขาสู้กับ มู่ ฉิงเฟิง คงยังไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่
ก่อนหน้านี้เขาได้ต่อสู้กับผู้ที่อยู่ในระดับเซียนหลายครั้ง
เช่นตอนที่อยู่เมืองหลวงเขาได้สู้กับราชาอสูร และเร็วๆนี้ก็พึ่งสู้กับผู้อาวุโสห้าและสามไป รงมถึงว่านเล่ยจากศาลาหยินหยาง
มันเป็นไปไม่ได้ที่พลังของฟาง เจิ้งจือ จะไม่พัฒนาขึ้นเลย
แต่ตอนนี้เขากลับคิดว่าตัวเองเป็นแค่คนที่ไร้เดียงสาคนหนึ่ง
การต่อสู้กับราชาอสูรเขามีคนคอยช่วยมากมาย
ตอนที่เขาสู้กับผู้อาวุโสสามและห้าเขาใช้กลอุบายต่างๆมากมาย
การต่อสู้กับว่านเล่ยพลังของเขานั้นถูกดูดออกไปถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
”เจ้าพร้อมหรือยัง?”เงาบนร่างของเทียนซิงได้หายไป ชุดสีดำของเขาโบกสะบัดไปตามสายลม เขายังไม่ลงมาจากบนฟ้า เขามอง ฟาง เจิ้งจือ ราวกับศพร่างหนึ่ง
”แน่นอน!”ทันทีที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดจบ เขาก็เคลื่อนไหว พร้อมกับแสงสีฟ้าส่องสว่าง ทันใดนั้นเขาก็มาปรากฎตัวหน้าเทียนซิง
ดาบไร้ร่องรอยส่องสว่างด้วยแสงสีม่วงที่สะดุดตา
ดาบเริ่มเปล่งเสียงมันเป็นเสียงคำรามของมังกร
”ชายคนนี้…กล้าจะต่อสู้กับเขา?!”
”รนหาที่ตายหรือไงกัน?”
”บางอย่างผิดปกติคนไร้ยางอายอย่างเขา น่าจะพูดเรื่องอย่างเช่น ‘ข้าขอพักเสียหน่อย’ ไม่ใช่หรือ? ทำไมเขาไม่เรียกร้องเรื่องแบบนั้นเลยแม้แต่คำเดียว?”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และศิษย์ของเก้าขุนเขาต่างตกตกละลึงเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ พุ่งเข้าไปอีกครั้ง ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น…
ในแววตาของเทียนซิงก็เต็มไปด้วยความสับสน
เห็นได้ชัดว่าฟาง เจิ้งจือ น่าจะถึงจุดจบแล้วแท้ๆ แม้กระนั้น หนทางเดียวที่จะมีชีวิตรอดได้ก็คือทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อปกป้องตัวเอง
หรือก็คือนี่เป็นวิธีเดียวที่เขาจะรอดจากโจมตีสามครั้ง?
แต่กลับโจมตี?
หมายความว่ายังไงกัน?
เทียนซิงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ตรงหน้าเขาแล้วเขาเกือบจะถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของเขา
”ไม่เจ้าเด็กเหลือขอนี้คิดจะหลอกข้า!”ดวงตาของเทียนซิงเบิกกว้างส่องแสงสว่าง จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พุ่งเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ
แต่… เขาพุ่งไปที่หลุมดำด้วยความเร็วสูง
”เกิดอะไรขึ้น?”
”ทำไมเขาไม่ฆ่าฟาง เจิ้งจือ ล่ะ? ทำไมเขาถึงพุ่งไปที่หลุมกัน?”
”เดี๋ยวก่อนหรือว่า … ”
เมื่อเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และศิษย์เก้าขุนเขาได้เห็นฉากนี้ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ในที่สุดพวกเขาก็คิดเรื่องหนึ่งในใจ
”มันเป็นทลายสวรรค์!”
”ชายคนนี้ไร้ยางอายอย่างแท้จริง!”
”แต่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ของเขาคือเทียนซิง!ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ชำนาญเต๋าสวรรค์ เขาอาจหลอกได้สำเร็จ!”
หลังจากที่เหล่าศิษย์ทั้งสองสำนักตระหนักได้พวกเขาก็รู้ในทันทีว่าเวลาของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นหมดลงแล้ว
”ตูม!”ร่างของเทียนซิงพุ่งไปที่หลุมในเวลาเดียวกัน ลูกบอลแสงทึบที่ส่องสว่าง ระเบิดขึ้นที่หลุมลึก
หินกรวดมากมายกระเด็นไปทั่วทุกที่อย่างไรก็ตาม พวกมันกลายเป็นฝุ่นผงในทันที
เป็นการเคลื่อนไหวที่น่ากลัวมากมันทำให้ตายได้เลย
”เขาตายแล้ว?!”ทุกคนต่างจ้องเขม็งไปที่พื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสีดำในใจของทุนคนเต็มไปด้วยความกังวล