Gate of God - ตอนที่ 708 สมบัติ
ฟางเจิ้งจือ มองไปยัง ฉือ กูเหยียน ที่อยู่ด้านล่าง เขาอึกอักเล็กน้อย รวมถึงเขาไม่เข้าใจว่าทำไม ฉือ กูเหยียน ถึงเชื่อมั่นในตัวเขาขนาดนี้
เชี่ยเอ้ย…
”ดวงตาของนางจะเป็นประกายอะไรขนาดนั้นนางไม่เห็นงั้นหรือว่าข้าได้ใช้พลังทั้งหมดไปแล้ว?”
”นางหมายความว่ายังไงให้ข้าใช้พลังทั้งหมด? ข้าก็ใช้พลังไปหมดแล้วนี่ จะให้ข้าใช้อะไรอีก?”
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้โง่ เมื่อต่อสู้กับ เทียนซิง เขาไม่สามารถโจมตีไปเรื่อยๆเพื่อหาโอกาสดีๆได้
ฟางเจิ้งจือ อยากจะตะโกนกลับใส่ ฉือ กูเหยียน เขามองดู ฉือ กูเหยียน เงียบ จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดจริงๆ
แน่นอนว่ามันต่างจากที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้ นี่เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่เขาหมายถึงในครั้งนี้หมายถึง’สมบัติ’
”ข้าคงต้องลอง”ฟาง เจิ้งจือ กัดฟัน เพราะนี่เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆแล้ว หากเขาป้องกันได้ เขาก็จะรอดชีวิต ถ้าไม่เขาจะตาย ไมมีอะไรสำคัญอีกแล้ว
ทันใดนั้นความต้องการสู็ในตัวของฟาง เจิ้งจือ ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บปวดทั้งหมดดูเหมือนจะหายไป
กำลังใจของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
จากนั้น…
ฟางเจิ้งจือ ก็เคลื่อนไหว
เขาสะบัดมืออย่างรวดเร็วจากนั้นก็มีบางอย่างร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง
แสงจาก’สมบัติ’ เหล่านี้สว่างจ้าไปทั่วท้องฟ้าที่มืดมิด
”มันคืออะไรกัน?”
”มันต้องเป็นสมบัติที่ทรงพลังบางอย่างแน่นอน!” ”ข้าไม่เคยคิดเลยว่าคนแบบเขาจะมีของแบบนี้ซ่อนไว้?!”
ทุกคนต่างมองขึ้นไปด้วยความตกใจ
อย่างไรก็ตามไม่นานมันก็ถูกแทนที่ด้วยความไม่เชื่อ
นี่เป็นเพราะเมื่อแสงเหล่านั้นตกลงมาที่พื้นพวกเขาก็พบกับความจริงที่ยากจะยอมรับได้
”ดูเหมือนพวกมันจะเป็น…ตะปู?!”
”ดูเหมือนจะมีพวกเข็มด้วย…”
”ศิษย์พี่ดูเหมือนข้าจะเห็นกับดักจับสัตว์…”
”…”
บรรยากาศกลายเป็นเงียบเชียบขึ้นมาทันที
มีสิ่งใดที่จะน่าอายไปกว่าการการที่โจมตีผู้นำของเก้าขุนเขาด้วยตะปู กับดักสัตว์?
ไม่มี!
ไม่มีเลยจริงๆ
ดูเหมือนมันจะยังไม่จบเพราะมีสิ่งของตางๆอีกมายมายที่ถูกเขวี้ยงโยนกระจายออกไป ”ติ้งติ้ง ติ้ง!” เสียงตกกระทบดังขึ้นอย่างชัดเจน มันเป็นเสียงของโลหะที่กระทบกับโลหะ
”เจ้าสารเลวนี่…” เทียนซิง งุนงงเล็กน้อย เขามองไปยังสิ่งของมากมายที่ร่วงมาโดนเขา เขาเองก็หมดคำพูดเช่นกัน
เขาไม่ใช่คนเดียว…
ทุกคนต่างเงียบให้กับ’ ความกล้าหาญ’ ของ ฟาง เจิ้งจือ
แม้แต่เหล่าองค์จักรพรรดิหรือมู่ ฉิงเฟิง เองก็ตกตะลึง
ฟางเจิ้งจือ ต้องการอะไร?
ไม่มีใครรู้ในสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ คิด สิ่งที่พวกเขารู้คือ ฟาง เจิ้งจือ เขวี้ยงพวกมันออกไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่หยุด
”ตูม!”
”ตึง!”
”…”
ทันใดนั้นเองเสียงระเบิดขนาดใหญ่ได้ดังขึ้นราวกับโลกถูกแยกออก
”อะไรกัน?!”
”พวกมันไม่ใช่เข็มธรรมดา!”
”พวกมันอาจจะถูกธรรมมาจากวัสดุพิเศษบางอย่างที่เมื่อกระทบกับพื้นจะระเบิดขึ้นมาทันที”
”แต่ก็ดูเหมือนพวกมันจะยังไม่สามารถทำอะไร เทียนซิงได้…”
”ใช่…”
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนเริ่มสงสัยว่าอาวุธลับเหล่านี้นั้นมีประโยชน์จริงๆหรือไม่?
”พวกมันไม่มีประโยช์เลยงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ มองของเหล่านั้นที่ไม่สามารถทำอะไร เทียนซิง ได้แม้แต่น้อย
สมบัติของเขาไม่ได้สร้างขึ้นมาง่ายๆ
โดยเฉพาะอาวุธลับเหล่านี้มีคุณภาพที่สูงมากเขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้มา เขาขโมยวัตถุดิบบางอันมาจากเซียนสวรรค์พักพิง ก่อนจะผสมมันเข้ากับเหล่าอาวุธลับ สำหรับคนอื่นๆ…
อาวุธลับของเขาสามารถฆ่าผู้ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์หรืออภินิหารได้สบายๆ
อย่างไรก็ตามเทียนซิงกลับไม่เป็นไรแม้แต่น้อย!
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ยอมแพ้ เขายังมีสมบัติอีกมากมาย
เขายังคงโยนสมบัติอย่างรวดเร็วด้วยมือของเขามีชิ้นหนึ่งที่แปลกประหลาดออกไป
”ปัง!’เมื่อมันระเบิดออกมันทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก
เพราะมันได้ปล่อยแสงสีขาวสว่างจ้าราวกับหนามที่ทิ่มแทงดวงตาของพวกเขา
”มันคืออะไรกัน?”
”ตาข้า!”
”แค่กแค่ก นี่มันกลิ่นอะไรกัน?!”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และศิษย์เก้าขุนเขานอกจากพวกเขาจะลืมตาไม่ได้แล้วพวกเขายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่แสบจมูก
”ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีประโยชน์แล้ว?”ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังแท่นบูชาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยควันและแสงสีขาวอย่างพอใจ
”เจ้าสารเลวนั่นใช้อะไรกัน?”
”มันเป็นไปไม่ได้!เขายังมีอาวุธเหลืออยู่อีกหรือ ทั้งๆที่ปาออกมามากมายขนาดนี้แล้ว?!”
พวกเขาต่างพยายามปัดควันก่อนที่พวกเขาจะเงยหน้าขึ้นเพื่อให้จมูกไม่สูดดมควันไปมากกว่านี้ แต่ทันใดนั้นศิษย์คนหนึ่งกลับรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
คนอื่นๆต่างสังเกตุเห็นตามอย่างรวดเร็วเงาดำขนาดใหญ่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า
ดวยความรวดเร็วเป็นอย่างมาก
”ตึง!”
มันพุ่งลงไปที่หัวของเทียนซิง อย่างไรก็ตาม เทียนซิง ได้ปัดมันออกอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเงาดำขนาดใหญ่ตกกระแทกพื้นรอยแตกมากมายได้ปรากฎขึ้น มันเป็นฉากที่น่าตกใจ
มันเป็นประตูสีทองแดงขนาดใหญ่
”นั่นมัน…ประตูชีวิต?!” ไอลีนโนเวล
”เป็นไปไม่ได้!เขาโยนประตูชีวิตใส่ เทียนซิง?!”
ทุกคนต่างตกใจเป็นอย่างมากที่ฟาง เจิ้งจือ กล้าโยนประตูชีวิต สมบัติอันล้ำค่าออมกมา พวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาได้เห็น
สำหรับฟาง เจิ้งจือ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดอะไร เขาไม่มีเวลาอธิบายอะไรออกมา นี่เป็นเพราะเขาคิดแผนออกทันทีเมื่อมองไปที่ประตูชีวิต
แผนนี้ทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกาย
”ใช่แล้วข้ายังมีประตูชีวิตอยู่สมบัติของจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์!”ฟาง เจิ้งจือ จะไม่ใช่มันเหมือนค้อนอย่างที่ทำในเมืองหลวงอีกแล้ว ในตอนนี้เขาชำนาญการใช้เต๋าแห่งชีวิต ดังนั้นเขาจะใช้ให้สมกับที่เป็นสมบัติล้ำค่า
เขาไม่ลังเล มือของฟาง เจิ้งจือ ส่องแสงสว่างด้วยสีทั้งหก จากนั้นก็ตะโกนขึ้นว่า “ประตูชีวิต จงเปิดออก!”
ในตอนที่เขาตะโกนออกมาที่ประตูชีวิตก็เริ่มส่องแสงสีเขียวออกมา มันค่อยๆเปิดออก
”แอ๊ด….แอ๊ด!”
”ตูม!!”
แสงสลัวๆส่องออกมาจากด้านในในเวลาเดียวก็เสียงคำรามของสัตว์ร้ายก็ดังขึ้น
”มันเปิดออกจริงๆ?”ฟางเจิ้งจือ ค่อนข้างดีใจ ถ้าเขาสามารถเรียกราชาอสูรออกมาได้สักแปดถึงสิบตนคงจะดีไม่น้อย
”ไม่จริงเขาเปิดประตูชีวิต!”
”ที่นี่คือศาลาเต๋าสวรรค์!”
เมื่อเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์เห็นประตูชีวิตและได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้าย สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
ทันใดนั้นเอง… ร่างๆหนึ่งก็พุ่งออกมาเสื้อคลุมสีขาวของเขาดูสะดุดตาเป็นอย่างมาก เส้นผมและเคราสีขาวราวกับหิมะ
แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่าเขาเป็นใคร….มู่ ฉิงเฟิง ผู้นำศาลาเต๋าสวรรค์…
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่ามู่ ฉิงเฟิง มาขวางเขาทำไม
เขามองมู่ ฉิงเฟิง ผู้ที่ยืนด้านหน้าประตูชีวิต เสื้อคลุมของขาวพริ้วไหวไปตามสายลม
เขากระแทกฝ่ามือลง
”ตูม!”เสียงดังขึ้น
ท้องฟ้าและมิติต่างๆสั่นสะเทือนมันเป็นฝ่ามือที่ทรงพลังอย่างมาก
สิ่งที่น่าตกตะลึงไปกว่านั้นก็คือหลังจากกระแทกฝ่ามือ แสงสีทั้งหกก็ปรากฎขึ้น ทันใดนั้นบางอย่างเกิดขึ้นกับประตูชีวิต
จากนั้น…
”แกรกแกรก!”เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้ง มันค่อยๆปิดตัวลงแสงสีหายวับไป เสียงคำรามของสัตว์ร้ายก็หายไปเช่นกัน
”…”ฟาง เจิ้งจือ อ้าปากแข็งค้าง
เขาอยากจะสาปแช่ง”ตาแก่มู่!ท่านจงใจช่วยศตรูรึ?”อยางไรก็ตาม เขากลืนมันกลับลงไป
ปิดประตูชีวิตด้วยฝ่ามือเดียว
ความจริงเฒ่ามู่กำลังปิดบังความแข็งแกร่งของเขาเอาไว้
เขาเองก็อยู่ในระดับเซียนอย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งนี้มันต่างชั้นกันเกินไป
ฟางเจิ้งจือ ตกตะลึง อย่างไรก็ตามมันไม่นานมากนัก อย่างแรก เขารู้ชัดว่า มู่ ฉิงเฟิง ไม่ต้องการให้ศาลาเต๋าสวรรค์ได้พบกับหายนะร้ายแรง
อย่างที่สองเขารู้ว่า มู่ ฉิงเฟิง สามารถฆ่าคนที่พึ่งเข้าถึงระดับจุติได้อย่างงายดาย
อย่างที่สามเขาไม่มีเวลามากพอจะคิดเรื่องนี้ต่อไปอีก นั่นเป็นเพราะเทียนซิงเตรียมจู่โจมเข้ามาแล้ว ”เจ้าเด็กเหลือขอข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”เสียงของเทียนซิงดังขึ้นมา ใบหน้าของเขามืดมน
ตามปกติแล้วนี่ไม่ใช่ความผิดของเขา
ผู้นำเก้าขุนเขาถูกทำร้ายด้วยตะปูเข็ม มีดสั้น รวมไปถึงกับดักสัตว์ เป็นเขาจะรู้สึกอย่างไรกัน
ผู้นำเก้าขุนเขาจะรู้สึกยังไงถ้ามีคนโยนประตูชีวิตลงบนหัวของเขา
เขาต้องรู้สึกอัปยศเป็นอย่างมากแน่นอน!
เทียนซิงไม่ได้พูดแต่ความแค้นพวยพุ่งอยู่ในใจของเขา
รวมทั้งระเบิดแสงที่ฟาง เจิ้งจือ ใช้มันยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้นไปอีก …
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้
สิ่งที่ทุกคนแน่ใจได้ในตอนนี้ก็คือว่าเทียนซิงกำลังเดือดดาล
”ตึง!”จู่ๆร่างของเทียนซิงทรุดลงกับพื้นและเกิดการระเบิดขึ้นที่ใต้ฝ่าเท้าของเขา พื้นที่ตรงนั้นแตกสลายเป็นผุยผงในทันที จากนั้นเขาก็กำหมัดแน่นจนทำให้บรรยากาศแตกร้าว
เกราะสีดำบนร่างของเขาแข็งตัวอักขระสีทองส่องสว่างอยู่บนผิวเกราะ
ในตอนนั้นเองดวงตาของเทียนซิงกลายเป็นสีดำจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมา ก่อนที่จะพวยพุ่งขึ้นไปทั่วท้องฟ้า
……………………………………..