Gate of God - ตอนที่ 721 หอตำรา
”ในเมื่อเขารอมาครึ่งเดือนแล้วก็ให้เขารอต่ออีกหน่อยแล้วกัน” ฟาง เจิ้งจือ กระตุกปาก
ในความเป็นจริงเขาไม่ได้กลัวหยาน ฉิง
แต่เมื่อเขานึกถึงการต่อสู้อันยาวนานระหว่างหนานกง มู่ และ หยานฉิง ก่อนหน้านี้ เขาถึงกับเหงื่อตก ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวเขาต้องสู้กับนางอีกงั้นหรือ?
”เจ้ายังจำคำสัญญาระหว่างเราได้หรือไม่?”ฉือ กูเหยียน หันมามองอย่างช้าๆด้วยดวงตาอันสดใสของนาง
”ข้าจำได้แต่เจ้าคงไม่คิดจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ของข้างั้นหรอกใช่ไหม?” แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า ฉือ กูเหยียน หมายถึงอะไร
ถ้าฉือ กูเหยียน ทวงสัญญาเขาเร็วกว่านี้ เขาอาจจะไม่อิดออดอะไร ถ้าชนะตอนนี้เขาอาจจะไม่คิดอะไร แต่ถ้าแพ้…
แค่คิดฟาง เจิ้งจือ ก็เสียวสันหลัง
เป็นคนใช้ของนางหนึ่งเดือนยืนอย่างเดียวไม่ได้นั่ง?
เขายอมตายดีกว่า
”อืมข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะหายดี ” ฉือ กูเหยียน ส่ายหัว
”การต่อสู้… ไม่ใช่สิ่งที่ดีจริงๆ พวกเราสามารถใช้วิธีอื่นได้…”
”อืมที่เจ้าพูดก็ถูก” ฉือ กูเหยียน พยักหน้าก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ ช้าๆ “งั้นเราจะแข่งขันด้วยวิธีอื่น?”
”ข้าเชี่ยวชาญด้านดนตรีศิลปะ ถ้าเราแข่งขันกันเรื่องพวกนี้ เจ้าอาจจะหาว่าข้ารังแกเจ้าก็ได้…”ฟาง เจิ้งจือ พูดอย่างมั่นใจ
”หึ!”ฉือ กูเหยียน ไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้ รอยยิ้มของงามงดงามราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน “ผิวหน้าของเจ้านั้นหนาไม่เคยเปลี่ยน งั้นเรามาดูกันว่าใครจะไปได้สูงกว่ากันในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นยังไง?”
”ถ้าพวกเราไปถึงชั้นเก้าทั้งคู่ล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ ถามออกมา
”อย่างที่ข้าพูดมีเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ศาลาเต๋าสวรรค์ที่ไปถึงชั้นที่เก้าได้ เขาคือผู้นำคนแรกของศาลาเต๋าสวรรค์ ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่ในจุดสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตู้ กู่เจียง!” ฉือ กูเหยียน กล่าวออกมา
”แล้วยังไง?”
”อืมงั้นถ้าเราไปถึงชั้นเก้าพร้อมกัน พวกเราจะแข่งกันว่าใครจะสามารถเข้าใจภาพเซียนสวรรค์ทั้งเก้าได้เร็วกว่ากัน” ฉือ กูเหยียน พยักหน้า
”ถ้าพวกเราทำได้พร้อมกันล่ะ?”ฟาง เจิ้งจือ ถามอีกครั้ง
”แน่นอนว่าเจ้าต้องแพ้”
”ทำไม?!”
”เพราะข้าเป็นผู้หญิงและอายุน้อยกว่าเจ้าหนึ่งปี” ฉือ กูเหยียน กล่าวออกมาด้วยท่าทีสบายๆ
”….” ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกทันที เขาพูดไม่ออก
แม้นางจะอายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปีจริงๆแต่นางลืมไปแล้วหรือว่านางเติบโตมาในกองตรวจการศักดิ์ิสิทธิ์ มีประสบการณ์มากมายกว่า ฟาง เจิ้งจือ รวมถึงสายเลือดเจ้าแม่หนี่วาของนาง?
แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเงียบไม่ได้พูดอะไรออกไป
…
ฟางเจิ้งจือ เดินออกมาจากบ้านของ ฉือ กูเหยียน
เขามองออกไปไกลใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งมีร่างในชุดสีเขียวนั่งอยู่ ดวงตาสัตว์ป่าของเขาจับจ้องมาที่ ฟาง เจิ้งจือ ไอรีนโนเวล
”โอ้ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ”ฟาง เจิ้งจือ ทักทาย หยาน ฉิง
”ข้า…ไม่คิดอย่างนั้น ข้ารอเจ้ามานานแล้ว” หยาน ฉิง พยักหน้า ก่อนจะเดินมาขวาง ฟาง เจิ้งจือ ไว้ทันที
”รอข้า?โทษทีตอนนี้ข้าค่อนข้างยุ่ง…”
”พี่ฟางข้าอยากจะต่อสู้กับท่าน!”
”หยานฉิง ตอนนี้ข้ายังบาดเจ็บอยู่ เจ้าช่วยรอข้าหาดีก่อนได้หรือไม่?” ฟาง เจิ้งจือ เสนอออกไป
”นี่…ท่านพูดถูก ข้าคงล้ำเส้นเกินไป” หยาน ฉิง ขมวดคิ้วก่อนจะเดินจากไป “ข้าจะกลับมาพรุ่งนี้”
”….” ฟาง เจิ้งจือ มอง หยาน ฉิง ที่เดินจากไป เขาพูดไม่ออกเล็กน้อย แน่นอนเขาไม่ได้กลัวแพ้ แต่เขารู้นิสัยของ หยาน ฉิง หยาน ฉิง มีความแน่วแน่เป็นอย่างมาก ถ้าไม่ได้ตามที่้ต้องการเขาไม่มีวันรามือแน่นอน
หรือพูดตรงๆเขาต้องเอาชนะหยาน ฉิง สักวันหนึ่ง ไม่ว่าพรุ่งนี้หรืออีกกี่วัน หยาน ฉิง ก็จะมาหาเขาอยู่ดี มันจะไม่มีจุดสิ้นสุด
ฟางเจิ้งจือ ไม่อยากเปลืองพลังงานเพื่อสู้กับ หยาน ฉิง โดยที่เขาไม่ได้ประโยชน์อะไร
เขามีเวลาอยู่ที่นี่อีกประมาณครึ่งเดือนเท่านั้นเขาต้องกอบโกยผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
ฟางเจิ้งจือ เดินไปทางอาคารขนาดใหญ่
”หือ?เจ้าสารเลวนั่นตื่นแล้วงั้นหรือ?”
”นั่นฟาง เจิ้งจือ?”
”เขาฟื้นแล้ว…”
หลังจากเดินออกมาจากสวนประมาณร้อยเก้าศิษย์จำนวนหนึ่งก็สังเกตุเห็น ฟาง เจิ้งจือ
”เฮ้มานี่สิ!” ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปที่ศิษย์คนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆเขา
”หา?ข้าขอบอกว่าเจ้าไม่ต้องคิดทำอะไรโง่ๆเลยนะ ที่นี่คือศาลาเต๋าสวรรค์ แม้ท่านอาจารย์จะยอมรับเจ้า แต่ถ้าเจ้ากล้าทำอะไร…อุ้ก อั้ก…พี่ฟางช่างเป็นสุภาพบุรุษ ถ้ามีอะไรก็บอกข้าได้!
”ข้าจะไปที่หอตำราได้ยังไง?”
”นั่นเป็นคำถามเดียวของท่านงั้นหรือ?พี่ฟาง เดี๋ยวข้าจะวาดแผนที่ให้ท่าน ข้านั้นเคยมีชื่อเสียงด้านการวาดภาพมาก่อน…”
”ถ้าเจ้ายังวาดแผนที่ไม่เสร็จในห้าวินาที…”
”หา?พี่ฟาง ข้าขอยืนยันกับท่านเลยว่า..”
”ห้า!”
”…
”สาม!”
”…
…
หลังจากมาถึงหอตำราฟาง เจิ้งจือ ก็กลายเป็นจุดสนใจทันที ทุกคนต่างมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความระวัง
แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ พอรู้ว่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ย่อมตราตรึงอยู่ในหัวใจศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์เป็นอย่างดี
เขาก้าวผ่านประตูเข้าไปในหอตำราเขาพบศิษย์จำนวนมากกำลังนั่งอ่านหนังสือกันอยู่อย่างขมักเขม้น
เขารู้สึกประทับใจมากที่ได้เห็นหนังสือจำนวนมากอยู่ที่หอตำราแห่งนี้
อันที่จริง…หลังจากที่เขามาถึงโลกนี้นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามายังสถานที่เช่นนี้
มีหนังสือเยอะมากจริงๆมันไม่แปลกที่เขาจะดีใจ ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มแล้วมุ่งไปทางบันไดทันที
ขึ้นไปที่ชั้นสามชั้นสี่ ชั้นห้าชั้นหก …
เมื่อเขามาถึงชั้นเจ็ดได้มีมือยื่นมาขวางทางเขาเอาไว้
”ขอโทษด้วยมีแต่ผู้ที่ผู้นำศาลาเท่านั้นอนุญาติถึงเข้าไปได้!” ชายชราที่ขวางเขาอธิบายขึ้นมา
”อืม”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
มันเป็นไปได้ที่เขาจะอ่านหนังสือทั้งหมดภายในครึ่งเดือน
ดังนั้นเขาจึงเลือกอ่านจากชั้นที่สูงสุดก่อน
และมันก็เป็นที่ชัดเจน…การตัดสินใจของเขาถูกต้อง
เพราะเห็นได้ชัดว่าหนังสือในชั้นหกน้อยกว่าชั้นแรกมาก เพียงมีหนังสือประมาณห้าสิบเล่มเท่านั้น
”ดูเหมือนว่าความลับของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะซ่อนอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือ
มีวิชาดาบอยู่ชั้นนี้ด้วยงั้นรึ?
อืม…เขาคงต้องคัดลอกมันไป
หา?มีวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับหลอมอาวุธด้วย? เขาจะคัดลอกมันไปให้หมด!
ทำไมถึงไม่เห็นมีหนังสือเกี่ยวกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์เลย?เอ๊ะ! นั่นมันแผนที่บริเวณต้องห้ามในดินแดนศักดิ์สิทธิ์…
”โอ้?่สมบัติมากมาย!” ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างรวดเร็ว ฟาง เจิ้งจือ พยายามหาพื้นที่ต้องห้ามต่างๆ รวมถึงสมบัติที่อยู่ในนั้น
เพลิงพันปีที่ถูกปกป้องโดยเซียนสามคน
แต่น่าเสียดาย… มันถูกขีดฆ่าแล้ว
อย่างไรก็ตามมีข้อความพิเศษระบุไว้ว่ามันถูกกินไปแล้วโดยฟาง เจิ้งจือ
เดี๋ยวนะ
หากข้อมูลของศาลาเต๋าสวรรค์มีการปรับเปลี่ยใหม่ตลอดเวลาไม่ใช่ว่าอีกสี่นิกายที่เหลือก็รู้เรื่องพวกนี้ด้วยงั้นหรือ?