Gate of God - ตอนที่ 722 ณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 722 ณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
ฟางเจิ้งจือ ยังคงอ่านหนังสือต่อไป
หลังจากอ่านหนังสือทั้งหมดบนชั้นหกเขาก็เดินลงไปบนชั้นหา เขาไม่คิดจะพลิกดูหนังสือที่มีเหนือหาเหมือนกันอีก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วดวงจันทร์ค่อยๆขึ้นมาจากขอบฟ้า ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็มาถึงชั้นหนึ่ง ในสี่ชั่วโมงนี้เขาไม่ได้อ่านหนังสือเล่มไหนจบจริงๆ
แต่เขาพิจรณาทุกอย่างที่เขาพบจัดหมวดหมู่สิ่งสำคัญที่เขาพบ
มันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนมากฟาง เจิ้งจือ จึงไม่คิดจะรีบเกินไป
ก่อนที่เขาจะออกจากหอตำราเขาได้หยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากชั้นหนึ่งมาด้วย มันเป็นหนังสือที่ธรรมดามาก แทบไม่มีใครจะยืมมัน
”ข้ายืมเล่มนี้”ฟาง เจิ้งจือ ยืนหนังสือให้ศิษย์ที่คอยดูแลหอตำรา
”เล่มนี้?”หลังจากที่เห็นหนังสือ ท่าทีของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ไม่นานข่าวนี้ได้กระจายไปทั่วศาลาเต๋าสวรรค์
”เขายืมหนังสือธรรมดาๆแค่เล่มเดียวไปงั้นหรือ?”
”เขาเดินไปทั่วแต่ไม่รู้หรือว่ามีวิชาดาบดีๆอยู่ที่ชั้นหกเขากำลังคิดอะไรอยู่?”
”ข้าไม่รู้แต่ดูเหมือนความพยายามของพี่หญิงจะต้องเสียเปล่าเสียแล้ว!”
ข่าวซุบซิบนี้กระจายไปทั่วทุกมุมของศาลาเต๋าสวรรค์
”ศิษย์พี่ฉือกูเหยียน พนันกับเจ้านั่นงั้นรึ?!”
”ใช่พวกเขาพนันว่าใครจะไปถึงชั้นที่สูงกว่าในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์!”
”แล้วผู้แพ้จะต้องกลายเป็นทาสส่วนตัวของผู้ชนะ?!พระเจ้าช่วยมันเป็นการพนันที่เหลือเชื่อมาก?”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าเมื่อได้ยินข่าวนี้
”ถ้าถ้า…ฟาง เจิ้งจือ ชนะขึ้นมาล่ะ เขาคงไม่ทำอะไรพี่หญิงใช่ไหม?!” ….
ด้านของฟาง เจิ้งจือ ใช่ว่าเขาจะมีความสุข หลังจากที่เขาใช้เวลาสี่ชั่วแต่ยืมหนังสืออกมาแค่เล่มเดียว เพราะมันเป็นเงื่อนไขที่ ฉือ กูเหยียน ตั้งไว้ให้เขา
มันไม่ตลกไปหน่อยหรือ?
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ก่อนที่เขาจะนึกเรื่องของ เหยียน ซิว ขึ้นมาได้
นับตั้งแต่ที่เหยียน ซิว ปฎิเสธที่จะเป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และได้ลงไปจากเขา เขาได้พักอยู่ที่บ้านไม้หลังเล็กๆที่ตีนเขาคนเดียว
มันไม่ได้หมายความว่าที่นี่ห้ามคนภายนอกเข้าแต่มันเป็นการตัดสินใจของ เหยียน ซิว เอง อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างสับสน เพราะก่อนหน้านี้ เหยียน ซิว เคยพูดไว้ว่าอยากฝึกกับศาลาเต๋าสวรรค์ แล้วอยู่ดีๆทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจอย่างกระทันหัน
…
ครึ่งเดือนผ่านไป
ฟางเจิ้งจือ ใช้เวลากว่า 80% อยู่ในหอตำรา และใช้เวลาที่เหลือในการพูดคุยกับ ฉือ กูเหยียน หรือเล่นหมากรุกและดื่มกับ เหยียน ซิว…
โดยรวมแล้วเขาใช้เวลาของเขาอย่างสบายๆ
สำหรับเหตุผลในการปฏิเสธข้อเสนอของศาลาเต๋าสวรรค์เหยียน ซิว เพียงตอบว่า “เวลาสามเดือนนี้ผ่านไปเร็วมาก”
เมื่อได้ยินฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรอีก เขารู้ความหมายของมันดี ช่วงเวลาสามเดือนนั้นสั้นจริงๆ ตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มตั้งแต่ที่พวกเขามายังศาลาเต๋าสวรรค์ อันที่จริงเขาก็ค่อนข้างใช้เวลาได้คุ้มค่า
อย่างเช่นในศาลาเต๋าสวรรค์มักมีการซุบซิบอยู่เสมอว่าฟาง เจิ้งจือ นั้นใช้เวลาสองวันในการอ่านหนังสือ แต่ละชั้น ก่อนที่สุดท้ายเขาจะใช้เวลาสองวันในการอ่านทุกชั้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ด้วยหนังสือจำนวนมากไม่มีทางที่เขาจะอ่านได้ทั้งหมด…
อย่างมากเขาก็ทำได้แค่ผ่านๆไม่ได้ลงลึกมาก แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?!
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างโกรธแค้นฟาง เจิ้งจือ ได้รับโอกาสที่ดีมาก แทนที่เขาจะเลือกหนังสือสักสองสามเล่มมานั่งอ่าน แต่เขากลับทำเพียงอ่านผ่านๆทุกเล่ม
แน่นอนว่าผู้คนแต่ละคนนั้นจะมีเป้าหมายที่ต่างกัน พวกเขาโกรธต่อการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ
…
ในยามเช้าแสงของดวงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วดินแดน
สภาพอากาศในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เริ่มอุ่นขึ้นแล้ว
ในช่วงเช้าตรู่ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์รวมตัวกันอยู่รอบนอกบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในกลุ่มของเหล่าศิษย์ มีศิษย์คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วยความตื่นเต้น
กฎของศาลาเต๋าสวรรค์กล่าวว่าเมื่อเข้าถึงพลังระดับจุติจะมีโอกาสได้เข้ามาที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องทำทันทีหลังจากเข้าถึงพลังระดับจุติพวกเขาสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง แต่จำนวนของศิษย์ที่มาในตอนนี้มีมากกว่าปกติ มันเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นเพราะวันนี้ ฉือ กูเหยียน จะมาที่นี่
มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากการที่ได้เข้าไปในบ่อน้ำพร้อมกับผู้ที่เก่งกาจ มันอาจจะมีโอกาสให้พวกเขาสามารถไปถึงชั้นสูงๆได้ ทำให้พวกเขามีโอกาสฝึกฝนได้ก้าวหน้ามากขึ้นและประการที่สอง …
พวกเขาต้องการเห็นใบหน้าที่หวาดกลัวของฟาง เจิ้งจือ หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ ฉือ กูเหยียน
”อาจารย์มาหรือยัง?”
”ยังแต่ข้าได้ยินผู้อาวุโสสองบอกว่าอาจารย์จะกลับมาในสองวันนี้!”
”นั่น…พี่หญิง ฉือ กูเหยียน มาถึงแล้ว!”ท่ามกลางความวุ่นวาย ศิษย์คนหนึ่งชี้ไปที่ร่างทั้งสามที่กำลังใกล้เข้ามา
”แล้วก็เจ้าสารเลวนั่น!”
”หืม?ทำไม หยาน ฉิง ถึงอยู่ด้านหลังพวกเขาล่ะ? หรือว่าเขาเองก็จะเข้าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน?”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์กลุ่มหนึ่งยืนล้อมรอบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มองดูร่างทั้งสามที่ใกล้เข้ามาด้วยความประหลาดใจและสับสนเล็กน้อย
การแต่งกายของฉือ กูเหยียน ต่างออกไปริบบิ้นสีขาวผูกล้อมกระโปรงยาว ผมยาวสลวยสีดำในวันนี้ถูกรวบผูกกันอย่างเรียบร้อย นอกจากเสน่ห์ดึงดูดตามปกติแล้ว ฉือ กูเหยียน ยังดูน่าเกรงขามเช่นเดิม
ส่วนฟาง เจิ้งจือ …เขาสวมชุดสีฟ้าตามปกติ ด้านหลังของเขาคือ หยาน ฉิง เองก็สวมชุดสีเขียวเข้มตามปกติเช่นกัน
ความจริงแล้วฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เตรียมใจที่จะผูกมิตรกับ หยาน ฉิง ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ยังคงยืนล้อมรอบสถานที่อย่างแน่นหนาเหล่าศิษย์ต่างสงสัย แม้จะเป็น ฟาง เจิ้งจือ ก็คงไม่รู้ว่า หยาน ฉิง กำลังคิดอะไรอยู่ เขาบอกกับ หยาน ฉิง ว่าในวันนี้เขาต้องเข้าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และยังไม่สามารถต่อสู้ด้วยได้
แน่นอนว่าหยาน ฉิง ไม่ได้พูดอะไร และ ฟาง เจิ้งจือ เองก็ไม่สามารถสลัด หยาน ฉิง ออกไปได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์เปิดทางให้ทั้งสามคนเดินผ่านไป
”ศิษย์พี่ฉือ กูเหยียน!”
”พี่หญิง!”
เหล่าศิษย์ต่างกล่าวทักทายฉือ กูเหยียน
ฉือกูเหยียน เองก็พยักหน้ารับเบาๆ ในตอนที่นางเดินผ่านเข้ามา เส้นทางก็ถูกปิดอีกครั้งโดยเหล่าศิษย์
เมื่อศิษย์กว่าสามสิบคนที่รออยู่ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เห็นนางมาถึงเห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขามีความหวังมากขึ้น
”ศิษย์พี่!”เสียงจำนวนมากทัก ฉือ กูเหยียน อย่างพร้อมเพรียง
”อืม”ฉือ กูเหยียน พยักหน้าก่อนที่จะเดินขึ้นไปหาชายชราสวมเสื้อคลุมสีขาวยืนอยู่ข้างบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และโค้งคำนับเล็กน้อย “สวัสดีผู้อาวุโสหก!”
”ไม่จำเป็นต้องมากพิธีข้าได้ยินมาว่าเจ้าพนันกับ ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้” ผู้อาวุโสหกยิ้มและถามขึ้นมา
”ใช่ข้าได้พนันเอาไว้” ฉือ กูเหยียน พยักหน้า
”ฮ่าฮ่า เอาข้าเข้าใจ เข้าไปข้างในได้!” ผู้อาวุโสหกยิ้ม
”ขอบคุณผู้อาวุโสหก”ฉือ กูเหยียน กล่าวก่อนจะหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่นางจะกระโจนขึ้นไปในอากาศอย่างงดงาม
ก่อนที่จะพุ่งลงไปในบ่อน้ำ
”….” ฟาง เจิ้งจือ อ้าปากค้าง เขามอง ฉือ กูเหยียน หายไปใต้น้ำชั่วขณะ
เดี๋ยวนะ!
นี่มันไม่ถูกต้อง!นี่ไม่ใช่การแข่งขันที่ยุติธรรมหรอกเราะ? ทำไมพวกเขาไม่กระโดดลงไปพร้อมกันล่ะ?
นางกลับกระโดดลงไปก่อน?
”นาง…นางจงใจโกงชัดๆ!!!”