Gate of God - ตอนที่ 724 ด่านแรก
เดี๋ยวก่อนภาพเซียนสวรรค์ทั้งเก้าคือสัตว์ร้ายงั้นหรือ?
ล้อข้าเล่นใช่ไหม!
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้โง่ แต่เขายังคงตัดสินใจทดสอบเท่าที่เป็นไปได้ เผื่อว่าสัตว์ร้ายตรงหน้าจะมีเบาะแสอะไรให้เขาบ้าง
แน่นอนว่าการที่เขาคิดแบบนี้เป็นเพราะสัตว์ตัวนั้นพุ่งเข้ามาแล้ว
”แม้แต่ลูกวัวอย่างเจ้าก็ต่อต้านข้ารึ?ทำไมให้ข้าอยู่สงบๆไม่ได้เลยสินะ?!”ฟาง เจิ้งจือ จึงกระโดดขึ้นไปด้านบน แล้วปล่อยหมัดใส่หัวของสัตว์ร้ายตัวนั้นทันที
”ตูม!”เสียงระเบิดดังขึ้นสัตว์ร่างยักษ์ที่มีความสูงเท่าภูเขากระเด็นออกไปในทันที จากนั้น…
มันก็กลิ้งไปตามพื้น
มันช่างน่าประหลาดใจมาก ในฐานะสัตว์ร้ายที่ปกครองป่าแห่งความลึกลับหน้าที่ของมันคือการฝึกฝนเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์
และถ้าเป็นเช่นนั้นมันควรจะกระเด็นออกไปแบบนั้นหรือ? เจ้าเด็กนี่มันอะไรกัน? ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ที่เข้ามา น่าจะมีพลังอยู่ในระดับจุติขั้นต้นเท่านั้น?
กระทิงเขาเงินไม่พอใจเป็นอย่างมาก
”โฮก!”กระทิงเขาเงินแผดเสียงร้องดังลั่นออกมา
เกล็ดสีดำปกคลุมรอบร่างกายเปลวไฟสีฟ้าลุกไหม้ทั่วร่างของมัน จากนั้นมันก็พุ่งเข้าหา ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง และในตอนนั้นเอง …
กระทิงเขาเงินก็เห็นว่ามีบางคนพุ่งเข้ามาจากด้านหน้าผ่านกลุ่มหมอกหนา ชุดคลุมสีเขียวเข้มพริ้วไหวไปตามสายลม
”หืม?มีอีกคนงั้นหรือ?”ก่อนที่กระทิงเขาเงินจะตอบโต้ มันโดนชกเข้าที่กระโหลกเสียแล้ว
ภาพที่มันมองเห็นมืดดับลงในทันทีหัวของมันหล่นลงไปที่พื้น ในตอนที่หมดสติสิ่งเดียวที่ได้ยินก็คือ ‘พวกเจาต้องรังแกกระทิงตัวน้อยๆขนาดนี้เลยงั้นหรือ?’
…
ฟางเจิ้งจือ กระพริบตาและจ้องไปที่กระทิงเขาเงิน ในขณะที่ หยาน ฉิง ยืนอยู่ด้านข้าง เขาพูดอะไรไม่ออก
แน่นอนว่าเขาค่อนข้างโล่งใจที่ได้เห็น หยาน ฉิง อย่างน้อยการที่ได้เห็น หยาน ฉิง ก็บอกให้รู้ว่าเขามาถูกที่แล้ว แต่ถ้าลองคิดดูให้ดี ถ้าเจ้ากระทิงนั้นเป็นภาพเซียนสวรรค์ทั้งเก้า หรือเป็นคำใบ้จริงๆล่ะ? ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายความว่ามันอยู่ในมือของ หยาน ฉิง แล้ว
”คำใบ้คืออะไร?มันคืออะไร?”ฟาง เจิ้งจือ ถามออกมา
”หืม?”หยานฉิง ไม่เข้าใจในสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดถึง ”เจ้าจัดการมันได้เจ้าไม่ได้รับคำใบ้อะไรเลยงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เป็นคนโง่
”ไม่”หยาน ฉิง ส่ายหัวแม้จะยังไม่เข้าใจคำถามก็ตาม
”เป็นไปไม่ได้!หรือต้องกำจัดสัตว์อีกสองสามตัว?” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้มันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะฝ่าฟันไปยังสรรค์ชั้นเก้าได้ เพราะแค่สัตว์ที่อยู่ด้านหน้าเขาตอนนี้ก็แทบจะแข็งแกร่งเท่าสัตว์อสูรที่ เฉียน วู่ เรียกมาที่เมืองหลวงแล้ว
”หืมก็น่าจะเป็นไปได้!” หยาน ฉิง พยักหน้า พวกเขาอาจจะต้องกำจัดสัตว์อีกสักสองสามตัวเพื่อผ่านผ่านี้ไป ไอลีนโนเวล
”….” ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เขาไม่คิดว่าการจะได้ดูภาพเซียนสวรรค์นั้นจะยากลำบากขนาดนี้พวกเขาจะต้องเอาชนะสัตว์เหล่านี้พร้อมกับมองหาคำใบ้ไปด้วย
ทำไมไม่เสกภาพออกมาแล้วให้พวกเขานั่งจิบน้ำชาวิเคราะห์อย่างสบายๆ?
กระบวนการแบบนี้…มันไร้จุดหมายโดยสิ้นเชิง!
ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิด เขาก็เห็นประกายแสงสว่างขึ้นที่ขอบฟ้า จากนั้นเสียงอันดังก้องก็ดังขึ้น
”ฉือกูเหยียน เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่สอง!”
”ฉือกูเหยียน เข้าสู่…”
”…”
ฟางเจิ้งจือ ตัวแข็งค้าง ก่อนที่เขาจะชูนิ้วกลางขึ้นไปบนอากาศทันที “เชี่ยอะไรวะ?!”
หมายความว่ายังไง?
ฉือกูเหยียน เข้ามาที่นี่ก่อนเขาไม่กี่วินาที นางจะเร็วขนาดนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เขายังไม่พบเบาะแสแม้แต่นิดเดียว?!
ฉือกูเหยียน สังหารสัตว์ร้ายทั้งหมดเลยงั้นหรือ?
นั่นไม่ยุติธรรม! มันต้องมีบางอย่างแอบแฝงอยู่แน่ๆ!
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นคิดผิดไปอย่างมหันต์เขาดูถูกศาลาเต๋าสวรรค์เกินไป
แต่เขาจะทำอะไรได้?
เดี๋ยวก่อนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ถ้ามันเป็นแผนของศาลาเต๋าสวรรค์งั้นการที่ หยาน ฉิง ลงมาที่นี่ก็เป็นคำสั่งของผู้อาวุโสด้วยงั้นหรือ? พวกเขาตั้งใจส่ง หยาน ฉิง มาเพื่อถ่วงเวลาเขาใช่หรือไม่?
มันจะไม่น่ารังเกียจเกินไปหน่อยหรือ?
”หยาน ฉิง อย่าบอกนะว่าเจ้าจะท้าทายข้าตอนนี้? เจ้าควรรู้ไว้นะว่าตอนนี้ข้ากำลังรีบมาก ข้าได้พนันกับ ฉือ กูเหยียน ไว้!” ฟาง เจิ้งจือ พูดโพล่งขึ้นมาทันที
”ท้าทาย?ข้าไม่ได้อยากจะสู้กับเจ้าตอนนี้ พวกเราควรจะออกจากป่าแห่งความลึกลับให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นเก้าให้เร็วที่สุด.” หยาน ฉิง ส่ายหัว
”ดีที่พวกเราคิดเหมือนกัน…เดี๋ยวก่อนเจ้าพูดว่าที่นี่คือป่าแห่งความลึกลับงั้นหรือ?” ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังรู้สึกโล่งอก เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
”ใช่แล้วตอนที่เจ้ากระโดดลงมา เจ้ากระโดดผิดบ่อ เจ้ากระโดดมาที่ปาแห่งความลึกลับที่เป็นบ่อสีฟ้า ไม่ใช่สวรรค์ทั้งเก้า” หยาน ฉิง อธิบาย
”…กระโดดผิดบ่อ?”ขอบปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกด้วยความไม่เชื่อ
สีน้ำเงิน?มันไม่ใช่สีแดง เหรอ?
”ใช่เจ้ากระโดดลงไปในบ่อสีฟ้า แน่นอนมันไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าควรจะโทษผู้อาวุโสหก” หยาน ฉิง พยักหน้าและอธิบาย
”ผู้อาวุโสหก?”ตาเฒ่าที่ฉือ กูเหยียน กล่าวทักทายตอนที่นางเดินเข้ามายังบ่อนน้ำศักดิ์สิทธิ์ลอยขึ้นมาในหัวทันที ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไม ฉือ กูเหยียน ถึงได้ท้าทายเขาต่อหน้าฝูงชน
เห็นได้ชัดว่าฉือ กูเหยียน ใช้ประโยชน์จากการที่ตัวเองเป็นเจ้าบ้าน นางไม่ได้ลงมือทำสิ่งสกปรกด้วยตัวเอง แต่ยืมมือคนอื่นทำ ที่นี่ถูกควบคุมโดยผู้อาวุโส และแน่นอนว่าพวกเขาต้องเข้าข้าง ฉือ กูเหยียน อยู๋แล้ว
ไม่น่าแปลกใจที่ตอนนั้นผู้อาวุโสหกยืนยันกับฉือ กูเหยียน
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกหมดหนทาง แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร
ความยุติธรรม?บนโลกนี้มันไม่มีจริงอยู่แล้ว แต่… นี่มันมากเกินไป มากกว่าที่เขาคาดเดาไว้ร้อยเท่า!
ผู้อาวุโสหกโยนเขาเข้ามาในป่าแห่งความลึกลับมีอะไรไม่ยุติธรรมมากกว่านี้อีกไหม? มันน่ารังเกียจเกินไปแล้ว
”ดูเหมือนว่า…ฉือ กูเหยียน ต้องการจะยืดเวลาในศาลาเต๋าสวรรค์ไปอีกหนึ่งเดือนสินะ” แม้เขาจะได้คุยกับ ฉือ กูเหยียน ไม่มาก แต่เขาก็พอจะรู้นิสัยของนาง
แม้ภายนอกนางจะดูนุ่มนวลแต่ภายในของนางนั้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ดังนั้นเมื่อคำนึงถึงบุคคลิกของนาง นางคงไม่ร้องขอเพื่อจะอยู่ที่นี่ต่อ นางจะใช้วิธีของนางเอง
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ รู้แล้วว่า ฉือ กูเหยียน ได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาแล้ว และการเดิมพันนี้…เป็นความพยายามของ ฉือ กูเหยียน ที่จะทำให้นางได้อยู่ที่นี่ต่อ
ฟางเจิ้งจือ เข้าใจการกระทำของ ฉือ กูเหยียน หลังจากนางได้อยู่ที่นี่นางคงเริ่มเดินทางเพื่อหาของล้ำค่าเช่นสมุนไพรเพลิงพันปีมาช่วยเขาอีก
แต่ฟาง เจิ้งจือ จะปล่อยให้นางทำเช่นนั้นงั้นหรือ?
ไม่!
ถ้าชีวิตของผู้ชายคนนึงได้รับการช่วยเอาไว้ด้วยสิ่งที่ผู้หญิงอีกคนไปขโมยมาแล้วชีวิตต่อจากนี้จะมีความหมายอะไร?
”ฉือกูเหยียน ข้าขอโทษ ข้าไม่สามารถรับมันไว้ได้ มันไม่ยุติธรรม ข้าต้องเอาชนะเจ้าให้ได้ เพราะงั้นข้าจะใช้สองมือของข้าสร้างชะตาชีวิตของตัวข้าเอง!”
……………………………………..