Gate of God - ตอนที่ 734 วัยเด็ก
”สวรรค์ชั้นที่เจ็ด!”เสียงอันทรงพลังยังคงดังก้องอยู่ในหูของ หยาน ฉิง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาไม่สามารถรักษาท่าทีอันสงบไวได้อีกต่อไป
ผ่านทาง?
สวรรค์ชั้นที่เจ็ด…
ตอนแรกเขาไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ พูด แต่ถ้าตอนนี้เขายังไม่เข้าใจอีกเขาคงต้องเอาหัวกระแทกกำแพงแล้ว
อย่างไรก็ตามมันก็แค่สักพักหนึ่งเขาทำได้แค่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหันไปมองภาพที่ลอยอยู่ด้านบนต่อ ก่อนที่เขาจะพึมพัมออกมาเบาๆ..
”เขาทำได้ยังไงกัน?”
…
บรรยากาศภายนอกบ่อน้ำนั้นเต็มไปด้วยความยินดี อย่างไรก็ตามท่ามกลางความยินดีนั้นกลับมีร่างหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
”ผู้อาวุโสหก!…ผู้อาวุโสหกท่าไม่ดีแล้ว…”คงมีเพียงศิษย์ที่ทำหน้าที่สังเกตุการณ์คนอื่นๆเท่านั้นถึงจะเข้าใจความรู้สึกของศิษย์ที่วิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วคนนี้
ตอนแรกเขาก็มีความสุขเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เขาก็ไม่สามารถยินดีได้อีกต่อไปเขาวิ่งมาด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก
”เกิดอะไรขึ้น?!”ผู้อาวุโสโบกมือให้ศิษย์ที่วิ่งมาใจเย็นลงก่อนที่เขาจะยกชาขึ้นมาจิบต่อ
”ฟาง…ฟางเจิ้งจือ เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่หกแล้ว!”
”พรื้ด!”ผู้อาวุโสหกพ่นน้ำชาที่อยู่ในปากออกมาทันที เห็นได้ชัดว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาถูกแทนที่ด้วยความตกใจ “แค่กแค่ก…เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!”
”ฟางเจิ้งจือ เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่หกแล้ว มันเป็นเรื่องจริง!” ศิษย์คนนั้นรายงานพร้อมปาดเหงื่อที่ไหลออกมาเต็มหน้าผาก
”สวรรค์ชั้นที่หก?โดยใช้เวลาน้อยกว่าครึ้งนาที…เป็นไปได้ยังไง?”ผู้อาวุโสหกไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาได้ยินนั้นเป็นเรื่องจริง
เหล่าศิษย์ที่อยู่รอบๆเช่นกัน
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ยินทั้งหมอย่างชัดเจน
”สวรรค์ชั้นที่หก!ไม่ใช่ว่าห่างจากศิษย์พี่ ฉือ กูเหยียน เพียงชั้นเดียวงั้นหรือ?”
”เป็นไปได้ยังไง?!ก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่ชั้นสี่และใช้เวลาเป็นชั่วโมงอยู่เลย?”
”ข้าไม่เชื่อมันไม่มีทางเป็นไปได้!”
เหล่าศิษย์ต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินข่าว
เรื่องที่แปลกประหลาดแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงอยู่นั้นอีกร่างหนึ่งก็วิ่งมาแต่ไกล
”ผู้อาวุโสหกผู้อาวุโสหก!” ใบหน้าของศิษย์ที่วิ่งมาเต็มไปด้วยความกังวล เขาวิ่งมาพร้อมกับเหนื่อยหอบ
ก่อนที่จะถึงด้านหน้าผู้อาวุโสหกเขาก็ค่อยๆเดินโซเซเข้ามา ก่อนที่ในที่สุดเขาจะทรุดลงกับพื้น
”เกิดอะไรขึ้นอีก?!”ผู้อาวุโสถามขึ้นด้วยความกังวล
”รายงานผู้อาวุโส…ฟางเจิ้งจือ…เขาเข้าสู่สวรรค์ชั้นที่เจ็ดแล้ว!” ศิษย์ที่ทรุดอยู่บนพื้นรายงานทันที
ทุกคนที่คอยฟังอยู่รอบๆเงียบลงทันที
สีหน้าของพวกเขานั้นแปลกมาก
ราวกับตอนนี้เวลาได้ถูกหยุดลงชั่วขณะ
ฟางเจิ้งจือ พึ่งเข้าสู่สวรรค์ชั้นที่หก เขาใช้เวลาไปยังชั้นที่เจ็ดนานเท่าไรกัน?
พวกเขายังคุยกันไม่ถึงประโยคด้วยซ้ำ สวรรค์ชั้นที่เจ็ด?
มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น.. ไอลีนโนเวล
”เพล้ง!”เสียงถ้วยที่แตกกระจายดังขึ้น มันไม่ได้ดังแต่เมื่อมันเกิดขึ้นท่ามกลางความเงียบ ไม่แปลกที่มันจะดังมาก
”เจ้าพูดว่าอะไรนะ?พูดอีกทีซิ!” ร่างกายของผู้อาวุโสหกเริ่มสั่นรัว ก่อนที่เขาจะรีบดึงตัวของศิษย์ที่ทรุดตัวอยู่บนพื้นมาใกล้ๆ
”ฟาง…ฟางเจิ้งจือ ได้เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่เจ็ดแล้ว!”
”เรื่องนี้…”ผู้อาวุโสหกตัวสั่นสะท้านราวกับเขาพร้อมจะล้มลงทุกเวลา
ศิษย์ที่ยืนอยู่รอบๆต่างมองหน้ากันในสายตาของพวกเขาแสดงออกเพียงอย่างเดียว
ตกตะลึง!
…
ในบ่อนำศักดิ์สิทธิ์เหตุการณ์ที่คล้ายๆกันได้เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากเชื่อข่าวนี้
อย่างไรก็ตามเสียงอันทรงพลังที่ดังขึ้นในอากาศนั้นเป็นเครื่องยืนยันให้กับทุกคนว่า ฟาง เจิ้งจือ ได้เข้าสู่สวรรค์ชั้นเจ็ดซึ่งเป็นชั้นเดียวกับ ฉือ กูเหยียน แล้ว
”สวรรค์ชั้นที่เจ็ด?!สวรรค์ชั้นที่เจ็ด … ” หลี่ ซูจิน หันไปมองศิษย์รอบๆก่อนที่เขาจะทรุดร่างลงกับพื้น
”มันเกิดขึ้นได้ยังไง?ทำไม?” หลี่ ซูจิน พูดอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าของเขาซีดขาว
ฝนที่ตกลงมาไม่ได้หนักแต่กลับทำให้พวกเขาหนาวเหน็บอย่างไม่น่าเชื่อ
พวกเขาหนาวไปถึงขั้วหัวใจ
….ในสวรรค์ชั้นที่เจ็ด
ในทำนองเดียวกันมีฝนตกลงมาจากท้องฟ้ากระทบหินสีขาว
มันแตกต่างจากสวรรค์ชั้นกลางทั้งสามชั้นเนื่องจากไม่มีสงครามหรือการต่อสู้หรือนองเลือด มันแตกต่างจากสวรรค์สามชั้นแรกเช่นกันเพราะไม่มีทุ่งหญ้า
หินหยกสีขาวเป็นองค์ประกอบหลักของที่นี่
เสาที่สร้างขึ้นจากหินหยกสีขาวตั้งอยู่ตรงกลางมีทั้งหมดเจ็ดต้น แต่ละต้นมีการแกะสลักอย่างงดงาม
และด้านหน้าของเสาทั้งเจ็ดมีร่างหนึ่งยืนอยู่นางสวมชุดสีชมพูเหมือนเช่นเคย
นางต่างกับศิษย์คนอื่นๆท่าทีของนางไม่ได้ตกใจแม้แต่น้อย นางหันมองช้าๆ ด้วยสายตาที่สดใส จ้องมองไปที่ยังร่างๆหนึ่ง
ร่างที่สวมชุดสีน้ำเงิน
อักขระสีทองมากมายบนร่างของเขากำลังส่องประกาย
มันทำให้เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามความน่าเกรงขามอยู่ได้ไม่นานนักอักขระสีทองเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
”ในฐานะหัวหน้าคนใช้มีหน้าต้องทำให้เตียงอบอุ่นเจ้าไม่คิดงั้นหรือ?”เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ดังขึ้น
”หัวหน้าคนใช้ต้องทำให้เตียงอบอุ่น?”ท่าทีของฉือ กูเหยียน เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย มุมปากของนางเผยยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางหิมะขาว “หืม ข้านึกว่าเจ้าเสียอีกที่เป็นหัวหน้าคนใช้?”
”ดูเหมือนเจ้ายังไม่ยอมแพ้ใช่ไหม?”ฟางเจิ้งจือ สั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยิน แต่ในเมื่อเดิมพันกันไว้แล้ว เขาคิดว่านางควรจะทำตามคำพูด
”ทำไมข้าต้องยอมแพ้?”ฉือ กูเหยียน ถามกลับ
”เจ้าก็น่าจะรู้ตั้งแต่เด็กแล้วตอนนั้นข้าแก้ปริศนาภาพเต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้!”ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ภาพก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ ดูเหมือนจะเข้าใจสามสวรรค์ชั้นกลางแล้ว
ภาพแห่งการสู้รบ? ภาพที่อยู่ในสวรรค์ชั้นสี่ถึงสวรรค์ชั้นหกไม่ใช่ภาพการสู้รบ แต่เป็นภาพแห่งการสรรค์สร้าง!
แน่นอนว่าที่นี่ก็เป็นภาพแห่งการสรรค์สร้าง แต่มันต่างกับที่เขาเห็นตอนเด็ก มันเทียบกันไม่ได้เลย
แน่นอนว่าในตอนแรกฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ที่เขาคิดคือหาวิธีทำใจให้ไม่วอกแวก เอาชนะใจตัวเองเพื่อไขปริศนาความหมายของภาพ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตระหนักว่าตัวเองคิดผิด…
เอาแต่จ้องภาพไปมันก็ไร้ประโยชน์ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนมอง หรือจะพูดให้ถูกก็คือมันเป็นภาพสะท้อนจิตใจของคนที่มอง
แนวคิดนี้…
ดูเหมือนจะซับซ้อนมากแต่เพื่อให้มันง่ายขึ้น ฟาง เจิ้งจือ จึงมองภาพราวกับตัวเองเป็นเด็กคนหนึ่ง มันเป็นเต๋าแห่งจิตใจที่อยู่ภายในตัวเขา
หลังจากตัดสินใจแบบนั้นเขาก็มองภาพในสวรรค์ชั้นสี่อีกครั้งแผ่นหินธรรมดาๆเท่านั้น มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย และทรงพลังมาก
ภาพแห่งการสรรค์สร้างเกิดจากศิลาเซียน
นั้นคือสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ รู้ตั้งแต่เด็ก
อย่างไรก็ตามภาพแห่งการสรรค์สร้างในอาณาจักรเป็นเพียงภาพจำลอง มันเป็นแค่ภาพที่ถูกแกะสลักไว้บนศิลาเซียนเท่านั้น
……………………………………..