Gate of God - ตอนที่ 735 ทำลายความมั่นใจ
ภาพแห่งการสรรค์สร้างและศิลาเซียนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ผู้ที่สร้างพวกมันมักจะใช้สัญลักษณ์ที่ตนเองเข้าใจแทนสิ่งต่างๆเช่นใช้วงกลมเส้นตรง หรือสามเหลี่ยมเพื่อสื่อถึงความหมายต่างๆ
มันเป็นแนวคิดที่เรียบง่าย
แน่นอนว่าภาพที่เขาเห็นในชั้นที่สี่ถึงชั้นที่หกนั้นพูดได้ว่าเป็นภาพส่วนหนึ่งจากศิลาเซียน
เมื่อเข้าใจเรื่องนี้แล้วฟาง เจิ้งจือ ก็สามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
การไขปริศนาภาพทั้งหมดนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาในทันที
เขาแค่คิดนอกกรอบเล็กน้อยและพยายามจัดเรียงรูปภาพภายในใจให้เป็นรูปภาพที่แตกต่างออกไปเพื่อให้ภาพนั้นไม่ซับซ้อนเหมือนเดิม
นั่นคือเป้าหมายของฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามหลังจากแก้ปริศนาไปสักพัก เขาได้พบบางอย่างเข้า
การพัฒนาของภาพนั้นหมายถึงเต๋า!
ทุกพัฒนาการนั้นอ้างอิงถึงรูปแบบของเต๋าภาพแห่งการสรรค์สร้างแต่ละภาพนั้นหมายถึงเต๋าแบบต่างๆ
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกอยากตบหน้าตัวเองขึ้นมาทันที เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองมีสมบัติล้ำค่าอยู่แต่กลับทิ้งมันอยู่เฉยๆอย่างเสียเปล่า!
แม้เขาจะไม่มีภาพแห่งการสรรค์สร้างอยู่กับตัวแต่เขามีศิลาเซียน!
แล้วเขามีถึง14 ชิ้น!
ที่ภูเขาคังหลิงเขาได้มาหนึ่งจากนั้น หยุน ชิงวู ก็ให้เขาอีก 13
ในโลกมีเพียง36 ชิ้นเท่านั้น แต่เขากลับมีมันถึง 14 ชิ้น เขาสามารถพูดได้โดยไม่อายว่าไม่มีใครในโลกนี้มากกว่าเขาอีกแล้ว
ตอนแรกฟาง เจิ้งจือ คิดจะทิ้งพวกมันไว้ในกลืนกินโลก แต่ในเมื่อพวกมันเป็นสมบัติคงไม่ดีที่เขาจะทำเช่นนั้น
แต่ตอนนี้…
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนถ้าเขานำแนวคิดเกี่ยวกับภาพสรรค์สร้างมาใช้กับศิลาเซียน งั้นการรวมศิลาเซียนเข้าด้วยกันน่าจะทำให้เห็นภาพมากขึ้น
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกตัวลอยขึ้นมาทันที
ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาพบฉือ กูเหยียน เขาจึงถามนางทันทีว่าทำไมนางถึงไม่ให้ข้อมูลสำคัญกับเขา
อย่างไรก็ตามด้วยนิสัยของฉือ กูเหยียน นางไม่มีทางยอมรับแน่นอน เขาจึงทำได้แค่ทำลายความมั่นใจของนาง
ตัวอย่างเช่นประโยค”เจ้าก็รู้ ตั้งแต่เด็กข้านั้นเก่งกว่าเจ้าในเรื่องการไขปริศนาภาพแห่งการสรรค์สร้าง!”” หรือการเรียกนางว่าหัวหน้าคนรับใช้ มันจะทำให้นางสูญเสียความมั่นใจและยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง
ซึ่งตามจริงแล้ว…
วิธีที่ฟาง เจิ้งจือ ใช้ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพ
เมื่อฉือ กูเหยียน ได้ยิน สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที ราวกับนางตกใจจริงๆ
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดว่า ฉือ กูเหยียน ควรจะพูดตอกกลับอะไรเขาบ้าง
แต่นางกลับไม่ได้ทำ
นางไม่คิดแม้แต่จะลบล้างคำพูดของฟาง เจิ้งจือ หรือว่านางยอมแพ้แล้วจริงๆ?
”เป็นไปไม่ได้นางยอมแพ้เพราะคำพูดของข้าจริงๆงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังใบหน้าอันสงบของ ฉือ กูเหยียน ดูเหมือนว่านางกำลังคิดถึงคำพูดของเขาอย่างจริงจัง
ยิ่งกว่านั้นนางไม่แม้แต่คิดที่จะตอบกลับเขา จากนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็เห็นว่าสายตาของนางค่อยๆเลื่อนไปที่ภาพบนท้องฟ้า ก่อนที่ดวงตาของนางจะเป็นประกายสีทอง!
”หือ?ประกายสีทอง?นางทำอะไรอยู่?” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสงสัยในสิ่งที่นางทำ แต่ทันใดนั้นเสียงอันทรงพลังก็ดังขึ้นมาทันที
”ฉือกูเหยียน เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่แปด!”
”ฉือกูเหยียน เข้าสู่…” Aileen-novel
”…”
ฟางเจิ้งจือ ที่ตอนแรกกำลังรอให้ ฉือ กูเหยียน ตอบอะไรกลับมาบ้าง ตอนนี้เขากลับตัวสั่น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปทันที
เข้าสู่สวรรค์ชั้นที่แปด?!
มัน…หมายความว่ายังไง?!
นี่มันไม่ถูกต้อง?
โดยปกติหลังจากความมั่นใจของฉือ กูเหยียน ถูกทำลาย นางต้องล้มลงกับพื้นด้วยความสิ้นหวัง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มสิิ? หรือนางอาจจะดิ้นรนเล็กน้อยก่อนที่จะหาทางเอาคืนเขา
แต่ตอนนี้นางกลับได้ขึ้นไปยังชั้นที่แปด?
มันหมายความว่าอะไรกัน?
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าลมที่พัดเขามาปะทะตัวของเขานั้นหนาวเย็นมากกว่าเดิมหลายเท่า
”เชี่ย…ข้าพึ่งช่วยนางไป?!”ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ได้สติ
แล้วดูเหมือนเขาจะสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมฉือ กูเหยียน ถึงไม่ปฏิเสธคำพูดของเขา และเลือกที่จะยืนเงียบๆเหมือนเดิม
ฉือกูเหยียน …
จริงๆแล้วนางไม่รู้ว่าภาพในเก้าสวรรค์ทั้งหมดนั้นเป็นภาพแห่งการสรรค์สร้าง?
”…..” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าความคิดเกี่ยวกับโลกใบนี้ของตัวเองนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาคิดอยู่เสมอว่าความรู้ของ ฉือ กูเหยียน นั้นลึกล้ำราวกับมหาสมุทร
ไม่มีอะไรที่นางไม่รู้หรือไม่มีอะไรที่นางแก้ไม่ได้
เขาคิดอย่างนี้มาตลอด
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดจริงๆว่าฉือ กูเหยียน จะไม่รู้เรื่องนี้
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น….
เป็นเขาเองที่บอกเรื่องสำคัญนี้กับนาง
จากนั้น…
นางก็ไปยังสวรรค์ชั้นแปดในทันที?
ทิ้งเขาไว้ที่สวรรค์ชั้นเจ็ดคนเดียว
ฟางเจิ้งจือ อยากจะถามหาความยุติธรรมกับ ฉือ กูเหยียน
แต่แน่นอนตอนนี้เขาไม่สามารถพูดอะไรได้แล้ว
เพราะตอนนี้นางไม่อยูแล้ว…
”ไม่ดีแล้วนางไปที่ชั้นแปดแล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ พบปัญหาของเขาตอนนี้ทันที การบอกนางเกี่ยวกับภาพแห่งการสรรค์สร้างไม่ใช่เรื่องสำคัญเรื่องที่สำคัญกว่าคือนางเอาสิ่งที่เขาบอกไปต่อยอดในการไขปริศนาภาพเซียนสวรรค์
เมื่อคิดถึงตรงนี้ฟาง เจิ้งจือ ก็หยุดคิดทันที
เพราะมันไม่สำคัญอีกต่อไป
เขาต้องตั้งสติ
และตั้งใจดูภาพ!
ขณะที่เขาค่อยๆเงยหน้ามองดูภาพนั้นเอง
ฟางเจิ้งจือ ตัวแข็งไปในทันที
”หือ?ทำไมรูปนี้… มันแตกต่างจากสามชั้นล่างเป็นอย่างมาก?!” ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ได้ดูรูปทันทีตอนที่เขามาถึงชั้นเจ็ด
เหตุผลง่ายๆเพราะเขามั่นใจในตัวเองมาก
ราวตัวเองนั้นเป็นภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านมองเหล่าภูเขาลูกเล็กๆด้านล่างที่ทอดยาวไปสุดสายตา
เขาทั้งโดดเดี่ยวและเย่อหยิ่ง
เขาไม่เห็นเหล่าภูเขาลูกเล็กๆอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ที่สำคัญกว่านั้น…
เห็นได้ชัดว่าฉือ กูเหยียน สามารถทำความเข้าใจภาพในชั้นที่เจ็ดได้เพราะฟังแนวคิดจากเขาไป
แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหนกัน?
ไม่มีทางที่จะมีปัญหา
แต่ทำไมภาพในชั้นที่เจ็ดถึงต่างกับภาพในชั้นที่หก?
ท่าทีของฟาง เจิ้งจือ แข็งค้างไปทันที
เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ขุดน้ำให้คนอื่นดื่มแต่สุดท้ายเขากลับไม่ได้รับน้ำแม้แต่น้อย แต่กลับได้ยาพิษแทนด้วยซ้ำ?