Gate of God - ตอนที่ 742 การแสดงที่เก่งกาจ
ฟางเจิ้งจือ เหลือตัวเลือกไม่มากนัก อย่างแรกคือพยายามต่อไปอีกสองถึงสามครั้ง จากนั้นเขาอาจจะพบคำตอบ
แน่นอนว่าเขาอาจจะไม่สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้และโดนฟ้าผ่าไปอีกหลายครั้ง จากนั้นเป็นไปได้มากที่ ฉือ กูเหยียน อาจจะลอบโจมตีเขาให้หมดสติจากด้านหลัง
ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์นี้สูงมาก
ฉือกูเหยียน ให้เขาพยายามต่อไป เพื่อให้เขาใช้พลังจนหมด มันจะเป็นการการันตีชัยชนะของนาง
ตัวเลือกที่สองคือเขาให้ ฉือ กูเหยียน ลอง แต่ต่อให้เขาจะสามารถไปยังสวรรค์ชั้นเก้าได้ เขาก็ยังตามหลัง ฉือ กูเหยียน อยู่ดี
จากนั้นเขาก็จะแพ้เดิมพัน
หรืออีกวิธีคือเขาต้องหากุญแจสำคัญที่พาไปสู่ชั้นเก้าให้ได้ อย่างไรก็ตามเขายังไม่ได้รับข้อมูลใดๆเขาอาจจะต้องวาดเส้นที่สาม สี่ ห้า ไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
เดี๋ยวก่อนนะ!
หรือว่ามันไม่เกี่ยวกับจำนวนเส้นแต่มันต้องใช้หลักการจากสวรรค์ชั้นที่หนึ่งถึงชั้นที่เจ็ด?
วาดพวกมันทั้งหมดงั้นหรือ?!
ตาของฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่ามันเป็นไปได้ยาก
แม้แต่จิตกรที่มีฝีมือมากที่สุดยังไม่สามารถวาดภาพจากชั้นที่หนึ่งถึงเจ็ดได้โดยไม่ผิดเพี้้ยน
มันยากเกินไป
โดยเฉพาะในชั้นที่สี่และห้ามันเป็นภาพที่ไม่ได้มีลักษณะชัดเจนมากนักมันจะวาดออกมาได้ยังไง?
เป็นไปไม่ได้เลย
หรือมันจะเป็นอย่างอื่น? ฟางเจิ้งจือ พยายามนึกถึงภาพที่เห็นในสวรรค์ก่อนหน้านี้
เดี๋ยวนะ!
เป็นไปได้ไหมที่…
เข้าใจแล้วข้าเข้าใจแล้ว!
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเขาทันทีมันชัดเจนมากขึ้น เขาเลือกที่จะหยิบพู่กันขึ้นมาทันที
”ว่าไง?เจ้ายังไม่เริ่มอีกงั้นหรือ? เจ้าจะลองอีกสักกี่ครั้งก็ได้…” เสียงของ ฉือ กูเหยียน ดังขึ้นอีกครั้ง
”หึได้!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าเตรียมทำตามคำแนะนำของ ฉือ กูเหยียน อย่างไรก็ตามเขาหยุดเกือบจะในทันที
ไม่ถูกต้อง!
หากฉือ กูเหยียน คิดเช่นเดียวกับเขา นางจะปล่อยให้เขาลงมือแล้วยืนอยู่เฉยๆทำไม?
จะต้องมีปัญหาบางอย่างแน่นอน! ถ้าเขาทำตามคำแนะนำของนางจริงๆมันคงเป็นปกติที่นางไม่ได้ห้ามอะไรเขา ความจริงแล้ว นางคงจะรู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ถ้าเขาดูเหมือนจะสามารถไขปริศนาในสวรรค์ชั้นแปดนี้ได้ขึ้นมานางจะลอบโจมตีเขาจากด้านหลังหรือไม่?
เป็นไปได้สูงมาก!
ในตอนนั้นเองดูเหมือน ฟาง เจิ้งจือ จะเข้าใจว่าทำไม ฉือ กูเหยียน ถึงไม่พยายามแม้จะรู้คำตอบอยู่แล้ว
นั่นเป็นเพราะนางรู้ดีว่าฟาง เจิ้งจือ เองก็จะลอบโจมตีนางจากด้านหลังเช่นกัน ถ้าเกิดเขารู้ว่านางจะทำอะไร!
…
เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว
ฉือกูเหยียน รู้วิธีการไขปริศนาในสวรรค์ชั้นแปดนี้แล้ว แต่นางกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้วนางจะทำไม่ได้ เป็นเพราะเขาอยู่ด้านหลังนาง
และในตอนนี้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นปัญหาเดียวกัน
แม้เขาจะคิดวิธีไขปริศนาได้แต่เขาก็ไม่มีทางทำได้เช่นกัน เพราะว่า ฉือ กูเหยียน อยู่ด้านหลังเขา และเมื่อเขาเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ ฉือ กูเหยียน จะโจมตีเขาจากด้านหลังอย่างแน่นอน
อัจฉริยะ?
ฟางเจิ้งจือ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน และเขารู้ว่า ฉือ กูเหยียน จะไม่ยอมแพ้เขาอย่างแน่นอน
มันน่าอึดอัดเล็กน้อย
ทั้งสองคนต่างไม่กล้าเคลื่อนไหวก่อนเพราะคนแรกที่เคลื่อนไหวจะกลายเป็นผู้แพ้ในทันที
”ถ้าเจ้ายังไม่เคลื่อนไหวข้าขอลองบ้าง?”ฉือ กูเหยียน มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ที่นิ่งเฉยและพูดกระตุ้นเขาอีกครั้ง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฟาง เจิ้งจือ ก็มั่นใจในความคิดของเขา ฉือกูเหยียน ต้องการเข้าสู่สรรค์ชั้นเก้าเช่นกัน แต่มีเวลาเหลือน้อยกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
”ได้!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ลังเลอีกต่อไป
เขากระโจนขึ้นไปและเริ่มโบกปัดหมึกลงบนกระดาษ
ดวงตาของฉือ กูเหยียน เบิกกว้างในทันที
อย่างไรก็ตามประกายในแววตาของนางหายไปในทันที ในขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ ลงมาถึงพื้น เส้นสามเส้นที่อยู่บนภาพนั้นก็ค่อยๆหายไปในทันที
ไม่จำเป็นต้องพูด
ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้งและมีสายฟ้าสีม่วงผ่าลงมาจากท้องฟ้า
”ฉือกูเหยียน ข้าเกลียดเจ้า!”ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง ในขณะที่เขาพยายามหลบอยู่ด้านหลัง ฉือ กูเหยียน
แต่มันไม่มีประโยชน์ สายฟ้าทั้งสามราวกับว่ามีตาที่มองเห็นได้พวกมันเลี้ยวหลบร่าง ฉือ กูเหยียน ก่อนที่จะผ่าไปที่ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ
”ตูม!”เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วอีกครั้ง Aileen-novel
ควันดำลอยออกมาจากร่างของฟาง เจิ้งจือ และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความพร่ามัว ต่อมา เขาทรุดตัวลงกับพื้น
ช่างเป็นฉากที่แปลกประหลาด
หลังจากที่สายฟ้าทั้งสามผ่าลงมาพร้อมกันสวรรค์ชั้นแปดก็เริ่มสั่นไหว
”ข้า…ข้า ….ข้าจะไม่ …ไม่ยอมแพ้ …” ฟาง เจิ้งจือ พึมพำบางอย่างออกมา
ถูกสายฟ้าผ่าใส่พร้อมกันถึงสามครั้งมันรุนแรงเกินไปและเห็นได้ชัดว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถรับไหว เขากำลังหมดสติลงอยู่บนพื้น
”เจ้าไร้ยางอายเจ้าไม่เป็นไรนะ?”ฉือ กูเหยียน ดูกังวลเล็กน้อย และนางไม่ได้หัวเราะอีกต่อไป เมื่อเห็นสภาพของเขาเป็นเช่นนั้น
นางก้มลงอย่างรวดเร็ว มือที่นุ่มนวลกดลงที่เอวพร้อมกับเอาหูแนบอกของเขา นางดูกังวลอย่างมาก
”เจ้าไร้ยางอายตื่นสิ!”ฉือ กูเหยียน เขย่าร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ ในขณะที่ส่งเสียงร้องเรียกเขาออกมา “พวกเรายังต้องไปที่สวรรค์ชั้นเก้า ตื่นสิ…”
”ตื่นสิเจ้าไร้ยางอาย อย่าหลับนะ!”
”ทำใจดีๆเข้าไว้!”
”…”
เสียงที่กังวลของนางยังคงดังก้องไปทั่วแต่หลังจากที่เรียกเขาอยู่ครึ่งนาที ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีวี่แววจะตื่นขึ้นมาเลย
ท่าทีของฉือ กูเหยียน ดูกังวลอย่างมาก
”เจ้าไร้ยางอายข้าผิดเอง ข้าน่าจะคิดได้เร็วกว่านี้ แต่ตอนนี้ ข้าจะลองเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ตื่นเร็วเข้า ครั้งนี้พวกเราจะต้องทำให้สำเร็จ!”
ฉือกูเหยียน พึมพำต่อ “ข้าผิดเอง ข้าไม่ควรให้เจ้าลองเลย ที่จริงแล้วเมื่อคิดเพิ่มเติมเราควรใช้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเพื่อจำลองวัฏจักร สวรรค์ชั้นแรกนั้นเป็นจุดเริ่มต้นมีหนึ่งเส้น และชั้นเจ็ดนั้นเป็นจุดจบที่ทุกอย่างวิวัฒนาการรวมเป็นหนึ่ง…”
หลังจากพูดไปสักพักที่ขอบตาของนางเหมือนมีหยดน้ำตาเกาะอยู่เล็กน้อย ก่อนที่นางจะนั่งลงข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ
เวลาเริ่มผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แต่ฉือ กูเหยียน ยังคงนั่งอยู่เฉยๆข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ ท่าทีของนางไม่มีความตั้งใจที่จะไขปริศนาแม้แต่น้อย
เหลือเวล่อีกไม่กี่นาทีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จะปิดแล้ว
”เห้อ…”ฉือ กูเหยียน ลุกขึ้นช้าๆ
จากนั้นนางก็เงยหน้ามองกระดาษเปล่าที่ลอยอยู่ ดวงตาของนางเป็นประกาย
จากนั้น…
ฉือกูเหยียน ก็เริ่มเคลื่อนไหว
นางงดงามราวกับผีเสื้อที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
นางสะบัดผู้กันอย่างคล่องแคล่ว
ลายเส้นค่อยๆปรากฎขึ้นมาบนกระดาษ
การกระทำของฉือ กูเหยียน นั้นไม่ได้เร็วมากนัก แต่มันกลับช้าและดูมีพลังมาก
ทันใดนั้นตอนแรกฟาง เจิ้งจือ ที่หมดสติ ก็เริ่มเคลื่อนไหว ดวงตาที่ปิดอยู่เปิดออกอย่างเต็มที่
มันเป็นดวงตาที่โปร่งแสง
ราวกับสายน้ำ
เขาเริ่มมองไปรอบๆ
”หึช่างเป็นนักแสดงที่ยอมเยี่ยมจริงๆ ถ้าข้าไม่รู้แผนการของเจ้ามาก่อน ข้าคงหลงกลให้กับน้ำตาของเจ้าแล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้ม ”
ฟางเจิ้งจือ เริ่มเคลื่อนไหว เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น
มันไม่ใช่เวลาที่ต้องลังเลฟาง เจิ้งจือ พุ่งไปหา ฉือ กูเหยียน เขาเตรียมจะปล่อยหมัดไปที่หลังของ ฉือ กูเหยียน
ลอบโจมตี
มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาเก่งที่สุดเสมอ
การชกเพียงครั้งเดียวนางคงไม่ตายแต่แน่นอนว่านางต้องหมดสติ่
ฟางเจิ้งจือ กำลังมีความสุขมาก
เพราะหลังจากที่เขาต้องทนทุกข์มานานในที่สุดเขาก็จะได้ระบายมันออกมาเสียที!
……………………………………..