Gate of God - ตอนที่ 743 จากจุดเริ่มต้นไปสู่จุดจบ
ฟางเจิ้งจือ เข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
มันทำให้เขากังวลขึ้นเล็กน้อยแต่มันก็ไม่ได้ส่งผละกระทบอะไรกับเขามากนัก
การที่จะทำอะไรให้สำเร็จนั้นเขาต้องมีจิตใจที่มั่นคง
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ใจ้กว้างหรือมีเมตตา เขาไม่มีทางลังเลในการลอบโจมตีแน่นอน
”ยอมแพ้ซะ!”ฟาง เจิ้งจือ กรีดร้องในใจ เมื่อหมัดของเขานั้นเข้าใกล้หลังของ ฉือ กูเหยียน
มันเป็นหมัดที่เร็วมาก!
อย่างไรก็ตามฉือ กูเหยียน ไม่ได้หันหน้ามา หรือมีท่าทีอะไรแม้แต่น้อย แม้แต่การต่อต้านสักเล็กน้อยก็ไม่มี
แต่…
หมัดของฟาง เจิ้งจือ กลับหยุดอยู่กลางอากาศก่อนที่จะสัมผัสหลังของ ฉือ กูเหยียน
”…..” ปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนใจ แต่เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้
มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
ความจริงฟาง เจิ้งจือ เคยมีความรู้สึกคล้ายๆกันมาก่อนตอนที่เขาสู้กับ คัง หยาง เขาถูกทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ในตอนนี้ต่างออกไป
เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะเขารู้สึกชาไปทั่วร่าง
”ตรึง!”
ฟางเจิ้งจือ ได้ยินเสียงอันคมชัดและไพเราะ จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าที่งดงามด้านหลังของ ฉือ กูเหยียน
มันเป็นเงา
เห็นได้ชัดว้าฉือ กูเหยียน ได้เตรียมโต้กลับเขาไว้แล้ว แน่นอนว่ามันไม่เหมาะสม
เพราะแม้ฉือ กูเหยียน จะเป็นคนเปล่งเสียงออกมา แต่สายตาของนางยังคงจับจ้องไปยังกระดาษเปล่า พู่กันในมือยังคงเคลื่อนไหว นางไม่แม้แต่จะหันหน้ามามองเขา
ลายเส้นบนกระดาษค่อยๆกลายเป็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นมา
”นางกำลังวาดมังกร!”ฟาง เจิ้งจือ รู้ในทันทีว่า ฉือ กูเหยียน ต้องรู้วิธีในการไขปริศนาในชั้นที่แปดแล้วอย่างแน่นอน
และมันก็เป็นความคิดเดียวกับเขา
จากสวรรค์ชั้นแรกที่มภาพมีเพียงเส้นเดียวพัฒนาไปจนถึงสวรรค์ชั้นแปดกลายเป็นมังกรดังนั้นสิ่งที่เขาคิดคือการใช้เพียงเส้นเดียว ผสาน “หนึ่ง” กับ “มังกร” เข้าด้วยกัน
มันสามารถสรุปวงจรทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างสวรรค์ชั้นที่หนึ่งถึงชั้นที่เจ็ด
แนวคิดนี้อาจจะไม่ได้ถูกต้องแต่เขาก็คิดว่ามันมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่สถานการณ์ตรงหน้าเขา…
มันดูกระอักกระอวนเล็กน้อย
การลอบโจมตีของเขาถูกเปิดเผยพร้อมกับการที่เขาตกลงไปในกับดักของ ฉือ กูเหยียน มันทำให้เขาไม่มีความสุข
ที่สำคัญกว่านั้นฉือ กูเหยียน ยังไม่ได้หยุด
นางยังคงวาดภาพต่อไป
นี่แสดงให้เห็นว่าฉือ กูเหยียน ได้คาดการณ์เรื่องทั้งหมดไว้แล้ว
”ฉือกูเหยียน นางน่ากลัวจริงๆ!” ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่านี่ไมใช่เพราะความสามารถในการเล่นละครของนางเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันต้องเป็นนิสัยของ ฉือ กูเหยียน ที่จะมักระวังสิ่งรบตัวตลอดเวลา
แล้วยังไง?
ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้!
เขาต้องพยายามหลุดจากวิชาของฉือ กูเหยียน ให้ได้ เพราะเวลาของเขาใกล้หมดฉือ กูเหยียน นั้นวาดรูปใกล้เสร็จแล้ว
และเมื่อถึงตอนนั้นเขาก็คงทำได้แค่ยอมรับความพ่ายแพ้
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะพรสวรรค์ของฉือ กูเหยียน
ฟางเจิ้งจือ เคยเห็น ฉือ กูเหยียน ใช้คำว่า “ตรึง” มาก่อน
นางสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของผู้นำเก้าขุนเขาเทียนซิง ได้
และตอนนี้คำว่า”ตรึง” ถูกใช้กับร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ เอง
กล้ามเนื้อทั้งร่างของเขาแข็งทันที
เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย
เป็นไปได้ยังไง? ไอรีนโนเวล
ฟางเจิ้งจือ ไม่ค่อยเข้าใจ แต่การกระทำทุกอย่างบนโลกใบนี้ต้องมีเหตุผล
มันมีหลักการยังไงกัน?
การควบคุม? ไม่ถ้ามันเป็นการควบคุม ร่างกายของเขาคงไม่แข็งทื่อแบบนี้
แข็ง…..
เดี๋ยวๆถ้าร่างกายของเขาแข็ง เลือดในร่างกายของเขาจะไหลได้ยังง? มันไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์แม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาแข็งจริงๆ
ปัญหาอยู่ที่ตรงไหน?
มันเป็นภาพลวงตางั้นหรือ?
ใช่ภาพลวงตา! มันน่าจะเป็นภาพลวงตาที่ใช้กับจิตใจของเขาโดยตรง สมองของเขานั้นเข้าใจผิดว่าร่างกายแข็งทื่อ ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
”ข้าเข้าใจแล้ว!”ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่เงาผู้หญิงด้านหลังของ ฉือ กูเหยียน เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง เขาพอที่จะเข้าสถานการณ์ในตอนนี้ได้คร่าวๆ
สมองของเขาถูกหลอก
ทำให้ร่างกายของเขาได้รับสัญญาที่ผิดว่าตอนนี้ร่างกายนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
แต่มันก็แค่ความเข้าใจ
ทำลายวิชาที่นางใช้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะสามารถคลายวิชาของนางออกได้
ถ้าเขาไม่รู้ว่าฉือ กูเหยียน กำลังเล่นละครตบตาเขาอยู่ เขาคงยอมแพ้นางไปแล้ว
”แม้ฉือ กูเหยียน จะเก่งกาจ แต่ข้าจะแพ้นางไม่ได้!” ฟาง เจิ้งจือ กัดฟัน ขณะที่พยายามโน้มน้าวให้ตัวเองคิดว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตา “ภาพลวงตา มันเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น จริงๆแล้วข้ายังเคลื่อนไหวได้ ข้ายังวิ่งได้ ข้ายังว่ายน้ำได้…”
ฟางเจิ้งจือ พูดกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทันใดนั้นเขารู้สีกว่าร่างกายที่แข็งของเขากำลังว่ายอยู่ในน้ำ
จากนั้น…
มือของเขาสามารถเอื้อมไปถึงผิวของฉือ กูเหยียน ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกถึงความนุ่มนวลบนผิวของนาง
ยิ่งไปกว่านั้นเขาสัมผัสได้ว่าร่างของฉือ กูเหยียน สั่นเล็กน้อยเมื่อเขาสมผัสร่างของนาง
”เจ้าโจรไร้ยางอายข้าใจดีมากพอแล้วที่ให้เจ้าลองก่อน แต่เจ้าแกล้งหมดสติเพื่อลอบโจมตีข้า!” เสียงของ ฉือ กูเหยียน ดังขึ้นในอากาศ
”ใจดี?หากเจ้าไม่เริ่มวาดรูป ‘จากจุดเริ่มต้นไปสู่จุดจบ’ ข้าคงจะเชื่อจริงๆว่าเจ้ามีเมตตา!” ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าตอนนี้ ฉือ กูเหยียน น่าจะเริ่มตื่นตระหนกแล้ว เพราะตอนนี้เขาดูเหมือนผู้ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้
”งั้นเจ้าก็รู้เรื่อง’จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดจบ’ด้วยเช่นกัน” ฉือ กูเหยียน ดูแปลกใจเล็กน้อย
”ฮ่าฮ่าข้าเดาไม่ผิด เจ้ารู้ตั้งแต่ที่ข้าวาดครั้งแรกแล้ว?” ฟาง เจิ้งจือ พูดต่อ
”ไม่ข้ารู้หลังจากครั้งที่สอง” ฉือ กูเหยียน ปฏิเสธ
”เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้างั้นหรือ?”
”ก็ได้จริงๆข้ารู้หลังจากเจ้าลองครั้งแรก”
”ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับ!”
”อืมข้ายอมรับ เจ้าเลยทำเป็นหมดสติเพื่อลอบโจมตีข้างั้นรึ?” ฉือ กูเหยียน ดูไม่พอใจเล็กน้อย
”เจ้าก็คิดจะทำแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่งั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมา
”อืมข้าคำนวนพลาด ข้าหลงกลเจ้า…แต่แม้เจ้าจะทำให้หมดสติ ข้าก็จะไม่ยอมเป็นคนรับใช้ของเจ้าอยู่ดี เพราะเจ้าชนะอย่างไม่ถูกต้อง” ฉือ กูเหยียน ยังคงพูดต่อ
”หา?เจ้าจะกลับคำพูดงั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ ตกใจ เขาไม่คิดว่า ฉือ กูเหยียน จะกลับคำพูด
”ไม่ข้าไม่ได้กลับคำ แต่ข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้ เมื่อเจ้าโจมตีข้าจากด้านหน้าเท่านั้น!” ฉือ กูเหยียน อธิบาย
”ด้านหน้า?”ฟางเจิ้งจือ กระพริบตา
แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ เข้าใจสิ่งที่ ฉือ กูเหยียน พูด
”ใช่ตราบใดที่เจ้าโจมตีข้าตรงๆและทำให้ข้าหมดสติได้ ข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้!” ฉือ กูเหยียน พยักหน้าเบาๆ
……………………………………..