Gate of God - ตอนที่ 747 หายนะทั้งเก้า
ตั้งแต่ศาลาเต๋าสวรรค์ก่อตั้งมาจนถึงวันนี้มีเพียงคนเดียวที่เข้าสู่สวรร์ชั้นเก้าได้
มันเป็นเรื่องที่ยากมาก!
แม้แต่ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน ต่างก็ไม่ได้ผ่านเข้ามาด้วยตัวเอง พวกเขาช่วยเหลือกัน
ถ้าไม่มีคำเตือนของฟาง เจิ้งจือ ฉือ กูเหยียน ก็คงไม่สามารถแก้ปริศนาสวรรค์ชั้นเจ็ดได้ ในขณะเดียวกัน ฟาง เจิ้งจือ เองก็คงผ่านชั้นเจ็ดและแปดเร็วขนาดนี้เช่นกัน
มันดูเหมือนจะเป็นโชคชะตา
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป โดยเฉพาะเรื่องกล่องสีดำที่อยู่กับเขา
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆงั้นเหรอ?
นี่อาจเป็นการวางแผนเอาไว้? ฟางเจิ้งจือ ยังไม่เข้าใจสาเหตุที่ หยุน ชิงวู ทำเรื่องทั้งหมดนี้ อย่างการมอบศิลาเซียนทั้งสิบสามชิ้นให้เขา
มันดูไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง
การแข่งขันระหว่างพวกเขาอาจจะแปรเปลี่ยนจากความเกลียดชังเป็นความรัก และทำใหนางรู้สึกเห็นใจเขางั้นหรือ?
มันอาจจะเป็นเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่า หยุน ชิงวู ไม่ใช่คนแบบนั้น นางเป็นนายน้อยของเหล่าปีศาจ และแบกรับชะตากรรมของเผ่าพันธุ์เอาไว้
แม้นางจะเห็นใจเขาเพียงเล็กน้อยแต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่นางจะมอบกล่องดำและศิลาเซียนให้กับเขา
หรือว่านางจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าเขาจะเข้าสู่สวรรค์ชั้นเก้าและจงใจให้กล่องดำแก่เขา
ถ้ามันเป็นคนอื่น…ฟาง เจิ้งจือ คงไม่นึกถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย คนทั่วไปไม่น่าคิดเรื่องที่ไกลกว่าจินตนาการขนาดนี้ได้
อย่างไรก็ตามถ้าเป็น หยุน ชิงวู มันไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาเข้าสู่สวรรค์ชั้นเก้าได้แต่ถ้าคิดถึงสภาพของเขาและสถาการณ์ปัจจุบันของศาลาเต๋าสวรรค์ คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะคิดเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามถ้านี่เป็น’แผนการ’ ของ หยุน ชิงวู นางมีจุดประสงค์อะไรในการทำเช่นนี้ ให้เขารวบรวมศิลาเซียนให้นาง?
ไม่น่าจะเป็นไปได้
หยุนชิงวู ไม่น่าจะไร้เดียงสาขนาดจะมาเชื่อใจ ฟาง เจิ้งจือ ให้ทำเรื่องแบบนี้ได้
เมื่อคิดแบบนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็จ้องไปทาง ฉือ กูเหยียน ที่กำลังประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง… นางยังคงเงียบ แม้ว่าโลกทะเลทรายทั้งใบจะถูกดูดเข้าไปในกล่องดำ
ข้าคิดว่าเจ้าคงมีอะไรจะถามข้า
ไม่มีอะไรให้ถาม ฉือ กูเหยียน ส่ายหัวของนางและจ้องไปที่กล่องดำอีกครั้ง ก่อนจะเหลือบไปมองทางอื่น
ไม่มีรึ? ฟางเจิ้งจือ อยากรู้อยากเห็น เพราะเขาสามารถเดาได้จากสายตาของนาง
อย่างไรก็ตามการที่นางไม่ถามอะไรออกมา แม้เขาจะพูดให้ถามแล้วก็ตาม มันทำให้เขาสับสน
อะไรกัน?
นางไม่รู้เลยหรือว่าโลกทะเลทรายทั้งใบนั้นคือศิลาเซียน?มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเขายังเดาได้ แล้วนางจะไม่รู้ได้ยังไง?
ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังครุ่นคิด โลกทะเลทรายทั้งใบก็หายไปอย่างสมบูรณ์
สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขาคือ… หนองน้ำยักษ์
พืชพรรณหนาและแปลกประหลาดและแอ่งน้ำสีมรกตผืนน้ำทอดยาวไปจนสุดสายตา
… ฟาง เจิ้งจือ กระพริบตาด้วยคาวมแปลกใจกับปรากฎการณ์นี้ ก่อนที่จะมองไปบนทองฟ้า และพูดขึ้น นี่ของจริงหรือ มีศิลาอันอื่นอีกงั้นหรือ?
ถ้าข้าเดาไม่ผิดพวกเรากำลังเผชิญหน้ากับหายนะทั้งเก้า ฉือ กูเหยียน มองไปยังแอ่งน้ำ
หายนะทั้งเก้า? ฟางเจิ้งจือ มองมาที่นางแล้วเอ่ยถาม
มันเรียกว่าหายนะทั้งเก้า นั้นเพราะจะต้องเอาตัวรอดจากสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายทั้งเก้ารูปแบบ อย่างทะเลทรายที่อ้างว้าง แอ่งน้ำ อากาศที่หนาวเหน็บ อากาศที่ร้อนระอุ ทั้งหมอกพิษ …และอีกมากมาย มันเป็นเหมือนค่ายกลชนิดหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะทำลายมันลงได้! ฉือ กูเหยียน อธิบาย
เข้าใจล่ะ ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า แต่เขายังคงรู้สึกแปลกๆกับเรื่องนี้ แน่นอนไม่ใช่เพราะว่าสภาพแวดล้อมรอบๆเปลี่ยนไป เขาสับสนที่ ฉือ กูเหยียน รู้ว่าโลกนี้คือศิลาเซียน แต่นางกลับอธิบายถึง หายนะทั้งเก้า ให้เขาฟัง
อย่างไรก็ตามในเมื่อนางไม่พูดถึงมัน …ฟาง เจิ้งจือ ก็จะไม่พูดถึงมันเช่นกัน และเขาก็ไม่อธิบายว่าได้กล่องดำใบนี้มาได้อย่างไร
เดี๋ยวก่อน!
ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ของหายนะทั้งเก้า…
เก้า?!
ความจริงแล้วนางพูดเป็นนัยๆกับเขาแล้วว่ามันมีทั้งหมดเก้าโลกนั่นหมายความว่ามีศิลาเซียนเก้าชิ้น?
ฟางเจิ้งจือ จำได้ว่าอาณาจักรเซี่ยมีศิลาเซียนท้งหมดสามสิบหกชิ้น
หลังจากที่อาณาจักรเซี่ยอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวจากการถูกทำลายและก่อตั้งขึ้นใหม่ในหลายปีให้หลัง สมัยนั้นราชวงศ์หลิน ได้แลกเปลี่ยนศิลาเซียนสามสิบหกชิ้นกับกำลังทหารและก่อตั้งอาณาจักรเซี่ยขึ้นมาใหม่
อย่างไรก็ตามนั่นจึงทำให้ศิลาเซียนกระจัดกระจายไปยังดินแดนต่างๆ
ศาลาเต๋าสวรรค์ถือครองศิลาเซียนเก้าชิ้น
ศาลาเต๋าสวรรค์ได้เก็บซ่อนศิลาเซียนทั้งเก้าไว้ในสวรรค์ชั้นเก้าและใช้ศิลาเซียนสร้างหายนะทั้งเก้าขึ้นมางั้นเหรอ?
นี่อาจเป็นไปได้!ความจริงแล้ว มันเป็นไปได้สูงมาก
คำถามคือทำไมต้องใช้ศิลาเซียนสร้างหายนะท้งเก้าด้วย?
เห็นได้ชัดว่าสวรรค์ชั้นเก้าที่ฟาง เจิ้งจือ มองเห็นไม่ใช่สวรรค์ชั้นเก้าที่แท้จริง หรือพูดอีกอย่างก็คือสวรรค์ชั้นเก้าถูกซ่อนอยู่ในหายนะทั้งเก้ามาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามตามตำนานมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่สวรรค์ชั้นเก้าที่แท้จริงได้
ฟางเจิ้งจือ คิดว่าเรื่องที่เกิดขขึ้นมาตลอดนี้ต้องมีเงื่อนงำบางอยางที่ยิ่งใหญ่อยู่แน่นอน
หนานกงเฮา จู่โจม เทียนซิง รวมถึงใช้เครื่องสังเวยเลือด
แม้ว่าหนานกง เฮา จะหายไปแล้ว แต่ประตูสวรรค์ยังคงอยู่
หนานกงเฮา จะตายไปแล้วจริงๆงั้นหรือ?
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในประตูนั้นหมายความวายังไงกัน?
พวกมันเป็นเรื่องที่ลึกลับเกินไป ไอลีนโนเวล
และตอนนี้เขานำกล่องโลหะดำเข้ามาในเก้าสวรรค์….และมันยังช่วยเขาทำลายหายนะทั้งเก้า
พวกมันดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องกันแต่กลับมีจุดที่น่าสงสัยอยู่เต็มไปหมด
มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆงั้นหรือ? หรือทุกอย่างนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่วางไว้?
ฟางเจิ้งจือ ค่อนข้างเชื่อว่ามันเป็นแผนการที่วางไว้ แต่เขาไม่มีอะไรมายืนยันได้…
เขาคิดไม่ออกเขาจึงตัดสินใจเลิกคิดเรื่องนี้!
สิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือการสร้างเส้นทางของตัวเองท่ามกลางแผนการของใครก็ตามที่เขาไม่ล่วงรู้
เส้นทางที่เขาวางไว้มีเป้าหมายคือ…สมบัติสมบัติ และสมบัติ!!
เขาไม่สนใจอะไรนอกจากมัน
มันง่ายมาก!
ถ้าเขามีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเขาจะสนใจอย่างอื่นไปทำไม?
เขาไม่สามารถปล่อยศิลาเซียนพวกนี้ไว้เฉยๆได้เพียงเพราะเขากังวล
มีแต่คนโง่ที่ทำแบบนั้น อย่างน้อยมันก็น่าจะมีประโยชน์อะไรสักอย่างในอนาคต
เก็บ! ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนอีกครั้ง
จากนั้น…ตามที่เขาคาดคิดผืนน้ำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จากนั้นพืชพันธ์ุนับไม่ถ้วนก็บินเข้ามาหาเขา
ด้านฉือ กูเหยียน นางเพียงยืนเงียบๆโดยไม่พูดอะไรออกมาเท่านั้น
…
ศาลาเต๋าสวรรค์ด้านล่างตีนเขา
เหยียนซิว ยังคงนั่งอยู่ข้างทะเลสาบอันเงียบสงบเช่นเคย
ทันใดนั้น…บุคคลที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เงาไม้ค่อยย่างกายเข้าไปหาเหยียน ซิว ทันที เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วมากนัก
อย่างไรก็ตามหลังจากเขาก้าวเท้าไปห้าก้าวนกตัวหนึ่งก็ปรากฎขึ้นที่ท้องฟ้า มันพุ่งผ่านหัวของชายคนนั้นไปทันที ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ก่อนที่เขาจะกระโจนตัวขึ้นจากนั้นกระดาษที่ติดมากับตัวนกนั้นก็อยู่ในมือเขาทันที
ฟางเจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน เข้าสู่สวรรค์ชั้นเก้าแล้ว!
… ชายคนนั้นตกใจมากหลังจากเห็นข้อความ มือของเขาสั่นเทาเบาๆ
ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
เขาหันไปหาเหยียน ซิว ก่อนจะโล่งใจขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่า เหยียน ซิว ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่เหมือนเดิม
จากนั้นแผ่นกระดาษในมือเขาก็หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน
อย่างไรก็ตามชายคนนั้นเลือกที่จะกลับไปซ่อนตัวอีกครั้งแทน
…
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ กำลังรู้สึกสิ้นหวังและหมดหนทาง เสียงใจของเขาเตือนอยู่เสมอว่าไม่ควรรับสมบัติที่ได้มาง่ายๆเช่นนี้
มันควรจะท้าทายถึงคุ้มค่าที่จะได้มา
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาเหมือนถูกมัดมือชกโดยสมบัติพวกนี้?
เขาไม่สามารถทิ้งศิลาเซียนทั้งเก้าไว้เฉยๆได้เขายอมไม่ได้เช่นกัน
จากนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเก็บพวกมันให้หมดถ้ามีใครถามเขาก็แค่ค่อยบอกว่า ดูสิ ข้าแค่บังเอิญเจอศิลาเซียนเท่านั้น…
……………………………………..