Gate of God - /ตอนที่ 775 ภูเขา?!
ในขณะที่มองดูออร่าที่ส่องสว่างฟาง เจิ้งจือ อยากจะต่อต้านมันมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เขารู้ดีว่าพลังนั้นแข็งแกร่งเกินไป มันต่างกับผู้อาวุโสสี่โดยสิ้นเชิง
ก่อนที่ฟาง เจิ้งจือ จะได้ตัดสินใจ ผู้อาวุโสสองก็กลายเป็นแสงสีทองแล้วมาปรากฎตัวตรงหน้าเขาแล้ว
นี่มัน…
เร็วจนมองไม่เห็น!
แม้แต่ฟาง เจิ้งจือ ยังตะลึงกับความเร็วของผู้อาวุโสสอง นั่นเป็นเพราะ หยานฉิง ที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ทันได้ตอบสนองความเร็วนั้นเลยด้วยซ้ำ
เห็นได้ชัดเลยว่าความเร็วของเขานั้นรวดเร็วแค่ไหน
”บ้าไปแล้ว?!”ฟางเจิ้งจือ รู้สึกถึงพลังที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับตอนที่ต่อสู้กับ เทียนซิง
ในตอนนี้แสงสีทองพาดผ่านดวงตาเขาไป
พร้อมกับเสียงห้วงอากาศที่ฉีกขาด
จากนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับโลหะกระทบกัน เป็นเสียงของดาบนับพันเล่มกระทบกันไปมา
มันน่ารำคาญเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันมันทำให้เขากังวล
เขาส่ายหัวอย่างแรงฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าตอนนี้เขาต้องสงบใจลงก่อน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะใจเย็นลง ฉากที่น่าตกตะลึงก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง แสงสีทองด้านหน้ากลายเป็นลำแสงที่ต่างกันเก้าเส้น แต่ละแสงมีดาบเป็นตัวนำ ดาบที่ส่องแสงสีทอง
ไม่!
เมื่อฟาง เจิ้งจือ ได้เห็นภาพนี้เขาก็รู้ว่าปัญหากำลังจะเกิดขึ้น
นั่นเพราะความเร็วของผู้อาวุโสสองเร็วเกินไปมากนอกจากนี้แสงทองจากดาบทั้งเก้าก็ขัดขวาง ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ ทั้งบนและล่าง เขาถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์
ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
เขาทำได้เพียงรับมือกับมัน
เกราะสีดำปรากฎบนร่างของฟาง เจิ้งจือ เพลิงสีดำลุกไหม้บนเกราะของเขา และแสงสีม่วงก็เริ่มส่องสว่างบนเพลิงสีดำ
นี่คือการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของฟาง เจิ้งจือ
แน่นอนว่าเขาป้องกันตัวเอง ดาบไร้ร่องรอยก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เขาฟาดมันขึ้นไปหาดาบทองที่พุ่งลงมา
อย่างไรก็ตามในทุกๆนาที มีร่างปรากฎต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ราวกับภูติผี ร่างที่มีดวงตาสีดำมืด ไม่มีแสงสว่างอยู่ภายในแม้แต่น้อย ราวกับนรกขุมลึก
เหยียนซิว!
ในตอนนี้เหยียว ซิว ไม่ใช่เป็นเป้าหมายเกินไปมากนอกจากนี้แสงทองจากดาบทั้งเก้าก็ขัดขวาง ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ ทั้งบนและล่าง เขาถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์
ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
เขาทำได้เพียงรับมือกับมัน
เกราะสีดำปรากฎบนร่างของฟาง เจิ้งจือ เพลิงสีดำลุกไหม้บนเกราะของเขา และแสงสีม่วงก็เริ่มส่องสว่างบนเพลิงสีดำ
นี่คือการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของฟาง เจิ้งจือ
แน่นอนว่าเขาป้องกันตัวเอง ดาบไร้ร่องรอยก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เขาฟาดมันขึ้นไปหาดาบทองที่พุ่งลงมา
อย่างไรก็ตามในทุกๆนาที มีร่างปรากฎต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ราวกับภูติผี ร่างที่มีดวงตาสีดำมืด ไม่มีแสงสว่างอยู่ภายในแม้แต่น้อย ราวกับนรกขุมลึก
เหยียนซิว!
ในตอนนี้เหยียว ซิว ไม่ใช่เป็นเป้าหมายเกินไปมากนอกจากนี้แสงทองจากดาบทั้งเก้าก็ขัดขวาง ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ ทั้งบนและล่าง เขาถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์
ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
เขาทำได้เพียงรับมือกับมัน
เกราะสีดำปรากฎบนร่างของฟาง เจิ้งจือ เพลิงสีดำลุกไหม้บนเกราะของเขา และแสงสีม่วงก็เริ่มส่องสว่างบนเพลิงสีดำ
นี่คือการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของฟาง เจิ้งจือ
แน่นอนว่าเขาป้องกันตัวเอง ดาบไร้ร่องรอยก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เขาฟาดมันขึ้นไปหาดาบทองที่พุ่งลงมา
อย่างไรก็ตามในทุกๆนาที มีร่างปรากฎต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ราวกับภูติผี ร่างที่มีดวงตาสีดำมืด ไม่มีแสงสว่างอยู่ภายในแม้แต่น้อย ราวกับนรกขุมลึก
เหยียนซิว!
ในตอนนี้เหยียว ซิว ไม่ใช่เป็นเป้าหมายยียน ซิว ราวกับบางอย่างค่อยๆหายไป
มันเป็นความรู้สึกที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง
จากนั้นดาบทองทั้งเก้าก็พุ่งลงมา
หนึ่งในเก้าดาบแทงเข้าที่อกของเหยียน ซิว และไม่มีทีท่าจะหยุดลง มันแทงทะลุร่างเขาออกไป และเจาะเข้าไปที่หน้าอกขวาของ ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน
”อั้ก!เหยียน ซิว!”ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนออกมา ในเวลาเดียวกัน ดาบไร้ร่องรอยที่ป้องกันดาบทองเล่มอื่นก็กลายเป็นมังกรสีม่วงและพุ่งไปหาผู้อาวุโสสอง
”ครืน!”เสียงบางอย่างดังมาจากแสงสีม่วง
รอยเลือดปรากฎขึ้นที่อกของผู้อาวุโสสองมันเป็นแผลลึกมากจนมองเห็นกระดูก พลังนั้นปะทะเข้าที่ร่างของผู้อาวุโสสองและส่งเขากระเด็นออกไป
ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ ส่งผู้อาวุโสสองกระเด็นออกไป ดาบทองที่แทง เหยียน ซิว อยู่ก็ไม่มีทีท่าจะหยุดลงแม้แต่น้อย มันยังคงแทงลึกลงไป
”ฉึก!”
”ฉึก!”
”…”
เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลือดของ ฟาง เจิ้งจือ เลือดของ เหยียน ซิว และแม้แต่เลือดของผู้อาวุโสสอง
เห็นได้ชัดเลยว่าหลังจากเขาใช้วิชานั้นเขาไม่เหลือแรงไว้หลบแม้แต่น้อย หลังจากโจมตีออกไป เขาไม่เหลือพลังพอจะปิดกั้นดาบไร้ร่องรอยของ ฟาง เจิ้งจือ
เขาใช้พลังทั้งหมดในการโจมตีเพีงยครั้งเดียว
เป็นอย่างที่เขาพูดถ้าเขาต้องตายเขาจะลาก ฟาง เจิ้งจือ ไปด้วย
ตั้งแต่ที่ผู้อาวุโสสองโจมตีออกมาจนกระทั่งได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาที ”ผู้อาวุโสสอง!”เมื่อเหล่าศิษย์เห็นผู้อาวุสสองล้มลงพวกเขาต่างกังวล
”ตูม!”เสียงของการปะทะดังก้อง
ในตอนที่ผู้อาวุโสสองล้มลงระฆังยักษ์ที่ขัง เหยียน เฉียนหลี่ เอาไว้ก็หายไป เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่มีพลังเหลืออยู่แล้ว
”เหยียนซิว!!”เมื่อ เหยียน เฉียนหลี่ ออกมาได้ เขาก็มองหา เหยียน ซิว ในทันที ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ
หยานฉิง เองก็เช่นกัน เขาป้องกันอยู่ด้านหน้า ฟาง เจิ้งจือ แต่ไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสสองจะเร็วขนาดนี้
มันข้ามตัวเขาไปเลย
”ฟางเจิ้งจือ!”หยาน ฉิง ส่งเสียงออกมาเหมือนกับสัตว์ร้าย จากนั้นเขาก็พุ่งไปหาผู้อาวุโสสอง
”หยานฉิง อย่าทำร้ายผู้อาวุโสสอง!”เมื่อเหล่าศิษย์เห็น หยาน ฉิง พุ่งเข้าไป พวกเขาต่างก็ออกมาเพื่อปกป้องผู้อาวุโสสอง ”ช่วย…ช่วยพวกเราก่อน?”ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจว่า หยาน ฉิง ต้องการแก้แค้น อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าควรช่วย เหยียน ซิว ก่อน
แน่นอนว่าทั้งเขาและ เหยียน ซิว ถูกแทงหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม มันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่พวกเขาบาดเจ็บรุนแรงอย่างแน่นอน
เหยียนซิว ตกอยู่ในอันตราย เขาเสียเลือดไปมากตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ร่างกายของเขาเองก็กำลังอ่อนแอ นอกจากนี้เขายังถูกปิศาจอาชูร่าครอบงำ เขาถูกแทงหลายครั้ง และมีครั้งหนึ่งที่มันทะลุผ่านอกด้านขวา
ดังนั้นเขาหมดสติไปแล้ว
”ตาเฒ่าเหยียนพา เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ กับเพื่อนของเขาออกไป! พวกเราจะช้าไม่ได้แล้ว!”เมื่อเซียนสวรรค์พักพิงเห็น เหยียน เฉียนหลี่ ออกมาได้เขาก็ตะโกนออกไปทันที
ศาลาเต๋าสวรรค์ยังมีผู้อาวุโสระดับสูงและผู้นำศาลาอย่างมู่ ฉิงเฟิง อยู่อีก พวกเขาเป็นขุมพลังที่แท้จริงของศาลาเต๋าสวรรค์
”ไปกันเถอะ!”เหยียนเฉียนหลี่ รู้ถึงสิ่งที่เซียนสวรรค์พักพิงคิด เหยียน ซิว หมดสติไปแล้ว นี่เป็นเวลาที่เหมาะจะหนีที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตามในตอนที่เขาพูด …
ท้องฟ้าทั้งเริ่มมืดลง
เขารู้สึกว่าแสงบนท้องฟ้าถูกปิดกั้นทุกคนต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
…
อารมณ์ของฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้ยากที่จะอธิบาย
เขาได้รับบาดเจ็บร่างของเขาถูกร่างของ เหยียน ซิว ทับอยู่ มันทำให้เขาเห็นฉากที่ประหลาด
ประหลาดเสียจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
เขาก็เห็นแสงสว่างปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าแสงนี้ราวกับแสงของดวงดาว อย่างไรก็ตาม มันแปลกมากที่ดวงดาวจะปรากฎให้เห็นในตอนกลางวัน
แน่นอน…
แสงดาวในตอนกลางวันยังไม่ใช่ที่แปลกที่สุด
แสงของดวงดาวดูเหมือนว่าจะค่อยๆดับลง
ความจริงแล้วตอนที่ฟาง เจิ้งจือ เห็นแสงดวงดาว เขาคิดว่าได้เห็นบางอย่าง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นธรรมดาที่เขาจะเห็นภาพหลอน
เขาเลยไม่ได้ใส่ใจนัดแต่…
นี่เป็นเพราะเมื่อแสงดาวแปลกๆ ปรากฏขึ้น แสงนั้นก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น
เปลี่ยนเป็นสีดำมืด
มันเป็นหินสีดำสนิทและไม่ใช่แค่หินก้อนเดียว แต่เป็นเหมือนภูเขาทั้งลูก ภูเขาที่ใหญ่พอจะปิดกั้นท้องฟ้า
ในตอนที่เขาเห็น…ตอนกลางวัน
แน่นอน…
แสงดาวในตอนกลางวันยังไม่ใช่ที่แปลกที่สุด
แสงของดวงดาวดูเหมือนว่าจะค่อยๆดับลง
ความจริงแล้วตอนที่ฟาง เจิ้งจือ เห็นแสงดวงดาว เขาคิดว่าได้เห็นบางอย่าง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นธรรมดาที่เขาจะเห็นภาพหลอน
เขาเลยไม่ได้ใส่ใจนัดแต่…
นี่เป็นเพราะเมื่อแสงดาวแปลกๆ ปรากฏขึ้น แสงนั้นก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น
เปลี่ยนเป็นสีดำมืด
มันเป็นหินสีดำสนิทและไม่ใช่แค่หินก้อนเดียว แต่เป็นเหมือนภูเขาทั้งลูก ภูเขาที่ใหญ่พอจะปิดกั้นท้องฟ้า
ในตอนที่เขาเห็น… ฟางเจิ้งจือ อยากตะโกนว่า “นี่มันเชี่ยอะไรกัน?!”
เขาโชคร้ายอย่างแท้จริงได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ยังมีภูเขาหล่นมาจากฟ้าอีก
ชีวิตของเขาจะไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือ?
มีไม่กี่คนที่จะคิดแบบฟาง เจิ้งจือ เพราะพวกเขาไม่ได้เห็นแสงที่ตกลงมา
พวกเขาเพียงเห็นว่าท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำมืดเท่านั้น
จากนั้นพวกเขาก็เงยหน้ามองภูเขาลูกยักษ์ที่กำลังตกลงมามันตกลงมาอย่างรวดเร็วและเป็นเหตุให้ผู้คนด้านล่างต้องกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง
”ภูเขามาจากที่ไหนกัน?!”
”เกิดอะไรขึ้น?”
”หนีเร็ว!”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างไรก็ตามปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือวิ่งออกไปให้พ้นเงา ถ้าภูเขาตกลงมาจริงๆมันจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด
ฟางเจิ้งจือ ก็ต้องการหนีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาบาดเจ็บจากการถูกแทงหลายครั้ง ทั้งยัง เหยียน ซิว ที่ทับร่างของเขาอยู่เขาจะหนีได้อย่างไร?
……………………………………..
ก่อนที่ฟาง เจิ้งจือ จะได้ตัดสินใจ ผู้อาวุโสสองก็กลายเป็นแสงสีทองแล้วมาปรากฎตัวตรงหน้าเขาแล้ว
นี่มัน…
เร็วจนมองไม่เห็น!
แม้แต่ฟาง เจิ้งจือ ยังตะลึงกับความเร็วของผู้อาวุโสสอง นั่นเป็นเพราะ หยานฉิง ที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ทันได้ตอบสนองความเร็วนั้นเลยด้วยซ้ำ
เห็นได้ชัดเลยว่าความเร็วของเขานั้นรวดเร็วแค่ไหน
”บ้าไปแล้ว?!”ฟางเจิ้งจือ รู้สึกถึงพลังที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับตอนที่ต่อสู้กับ เทียนซิง
ในตอนนี้แสงสีทองพาดผ่านดวงตาเขาไป
พร้อมกับเสียงห้วงอากาศที่ฉีกขาด
จากนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับโลหะกระทบกัน เป็นเสียงของดาบนับพันเล่มกระทบกันไปมา
มันน่ารำคาญเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันมันทำให้เขากังวล
เขาส่ายหัวอย่างแรงฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าตอนนี้เขาต้องสงบใจลงก่อน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะใจเย็นลง ฉากที่น่าตกตะลึงก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง แสงสีทองด้านหน้ากลายเป็นลำแสงที่ต่างกันเก้าเส้น แต่ละแสงมีดาบเป็นตัวนำ ดาบที่ส่องแสงสีทอง
ไม่!
เมื่อฟาง เจิ้งจือ ได้เห็นภาพนี้เขาก็รู้ว่าปัญหากำลังจะเกิดขึ้น
นั่นเพราะความเร็วของผู้อาวุโสสองเร็วเกินไปมากนอกจากนี้แสงทองจากดาบทั้งเก้าก็ขัดขวาง ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ ทั้งบนและล่าง เขาถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์
ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
เขาทำได้เพียงรับมือกับมัน
เกราะสีดำปรากฎบนร่างของฟาง เจิ้งจือ เพลิงสีดำลุกไหม้บนเกราะของเขา และแสงสีม่วงก็เริ่มส่องสว่างบนเพลิงสีดำ
นี่คือการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของฟาง เจิ้งจือ
แน่นอนว่าเขาป้องกันตัวเอง ดาบไร้ร่องรอยก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เขาฟาดมันขึ้นไปหาดาบทองที่พุ่งลงมา
อย่างไรก็ตามในทุกๆนาที มีร่างปรากฎต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ราวกับภูติผี ร่างที่มีดวงตาสีดำมืด ไม่มีแสงสว่างอยู่ภายในแม้แต่น้อย ราวกับนรกขุมลึก
เหยียนซิว!
ในตอนนี้เหยียว ซิว ไม่ใช่เป็นเป้าหมายเกินไปมากนอกจากนี้แสงทองจากดาบทั้งเก้าก็ขัดขวาง ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ ทั้งบนและล่าง เขาถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์
ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
เขาทำได้เพียงรับมือกับมัน
เกราะสีดำปรากฎบนร่างของฟาง เจิ้งจือ เพลิงสีดำลุกไหม้บนเกราะของเขา และแสงสีม่วงก็เริ่มส่องสว่างบนเพลิงสีดำ
นี่คือการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของฟาง เจิ้งจือ
แน่นอนว่าเขาป้องกันตัวเอง ดาบไร้ร่องรอยก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เขาฟาดมันขึ้นไปหาดาบทองที่พุ่งลงมา
อย่างไรก็ตามในทุกๆนาที มีร่างปรากฎต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ราวกับภูติผี ร่างที่มีดวงตาสีดำมืด ไม่มีแสงสว่างอยู่ภายในแม้แต่น้อย ราวกับนรกขุมลึก
เหยียนซิว!
ในตอนนี้เหยียว ซิว ไม่ใช่เป็นเป้าหมายเกินไปมากนอกจากนี้แสงทองจากดาบทั้งเก้าก็ขัดขวาง ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ ทั้งบนและล่าง เขาถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์
ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
เขาทำได้เพียงรับมือกับมัน
เกราะสีดำปรากฎบนร่างของฟาง เจิ้งจือ เพลิงสีดำลุกไหม้บนเกราะของเขา และแสงสีม่วงก็เริ่มส่องสว่างบนเพลิงสีดำ
นี่คือการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของฟาง เจิ้งจือ
แน่นอนว่าเขาป้องกันตัวเอง ดาบไร้ร่องรอยก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เขาฟาดมันขึ้นไปหาดาบทองที่พุ่งลงมา
อย่างไรก็ตามในทุกๆนาที มีร่างปรากฎต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ราวกับภูติผี ร่างที่มีดวงตาสีดำมืด ไม่มีแสงสว่างอยู่ภายในแม้แต่น้อย ราวกับนรกขุมลึก
เหยียนซิว!
ในตอนนี้เหยียว ซิว ไม่ใช่เป็นเป้าหมายยียน ซิว ราวกับบางอย่างค่อยๆหายไป
มันเป็นความรู้สึกที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง
จากนั้นดาบทองทั้งเก้าก็พุ่งลงมา
หนึ่งในเก้าดาบแทงเข้าที่อกของเหยียน ซิว และไม่มีทีท่าจะหยุดลง มันแทงทะลุร่างเขาออกไป และเจาะเข้าไปที่หน้าอกขวาของ ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน
”อั้ก!เหยียน ซิว!”ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนออกมา ในเวลาเดียวกัน ดาบไร้ร่องรอยที่ป้องกันดาบทองเล่มอื่นก็กลายเป็นมังกรสีม่วงและพุ่งไปหาผู้อาวุโสสอง
”ครืน!”เสียงบางอย่างดังมาจากแสงสีม่วง
รอยเลือดปรากฎขึ้นที่อกของผู้อาวุโสสองมันเป็นแผลลึกมากจนมองเห็นกระดูก พลังนั้นปะทะเข้าที่ร่างของผู้อาวุโสสองและส่งเขากระเด็นออกไป
ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ ส่งผู้อาวุโสสองกระเด็นออกไป ดาบทองที่แทง เหยียน ซิว อยู่ก็ไม่มีทีท่าจะหยุดลงแม้แต่น้อย มันยังคงแทงลึกลงไป
”ฉึก!”
”ฉึก!”
”…”
เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลือดของ ฟาง เจิ้งจือ เลือดของ เหยียน ซิว และแม้แต่เลือดของผู้อาวุโสสอง
เห็นได้ชัดเลยว่าหลังจากเขาใช้วิชานั้นเขาไม่เหลือแรงไว้หลบแม้แต่น้อย หลังจากโจมตีออกไป เขาไม่เหลือพลังพอจะปิดกั้นดาบไร้ร่องรอยของ ฟาง เจิ้งจือ
เขาใช้พลังทั้งหมดในการโจมตีเพีงยครั้งเดียว
เป็นอย่างที่เขาพูดถ้าเขาต้องตายเขาจะลาก ฟาง เจิ้งจือ ไปด้วย
ตั้งแต่ที่ผู้อาวุโสสองโจมตีออกมาจนกระทั่งได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาที ”ผู้อาวุโสสอง!”เมื่อเหล่าศิษย์เห็นผู้อาวุสสองล้มลงพวกเขาต่างกังวล
”ตูม!”เสียงของการปะทะดังก้อง
ในตอนที่ผู้อาวุโสสองล้มลงระฆังยักษ์ที่ขัง เหยียน เฉียนหลี่ เอาไว้ก็หายไป เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่มีพลังเหลืออยู่แล้ว
”เหยียนซิว!!”เมื่อ เหยียน เฉียนหลี่ ออกมาได้ เขาก็มองหา เหยียน ซิว ในทันที ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ
หยานฉิง เองก็เช่นกัน เขาป้องกันอยู่ด้านหน้า ฟาง เจิ้งจือ แต่ไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสสองจะเร็วขนาดนี้
มันข้ามตัวเขาไปเลย
”ฟางเจิ้งจือ!”หยาน ฉิง ส่งเสียงออกมาเหมือนกับสัตว์ร้าย จากนั้นเขาก็พุ่งไปหาผู้อาวุโสสอง
”หยานฉิง อย่าทำร้ายผู้อาวุโสสอง!”เมื่อเหล่าศิษย์เห็น หยาน ฉิง พุ่งเข้าไป พวกเขาต่างก็ออกมาเพื่อปกป้องผู้อาวุโสสอง ”ช่วย…ช่วยพวกเราก่อน?”ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจว่า หยาน ฉิง ต้องการแก้แค้น อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าควรช่วย เหยียน ซิว ก่อน
แน่นอนว่าทั้งเขาและ เหยียน ซิว ถูกแทงหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม มันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่พวกเขาบาดเจ็บรุนแรงอย่างแน่นอน
เหยียนซิว ตกอยู่ในอันตราย เขาเสียเลือดไปมากตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ร่างกายของเขาเองก็กำลังอ่อนแอ นอกจากนี้เขายังถูกปิศาจอาชูร่าครอบงำ เขาถูกแทงหลายครั้ง และมีครั้งหนึ่งที่มันทะลุผ่านอกด้านขวา
ดังนั้นเขาหมดสติไปแล้ว
”ตาเฒ่าเหยียนพา เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ กับเพื่อนของเขาออกไป! พวกเราจะช้าไม่ได้แล้ว!”เมื่อเซียนสวรรค์พักพิงเห็น เหยียน เฉียนหลี่ ออกมาได้เขาก็ตะโกนออกไปทันที
ศาลาเต๋าสวรรค์ยังมีผู้อาวุโสระดับสูงและผู้นำศาลาอย่างมู่ ฉิงเฟิง อยู่อีก พวกเขาเป็นขุมพลังที่แท้จริงของศาลาเต๋าสวรรค์
”ไปกันเถอะ!”เหยียนเฉียนหลี่ รู้ถึงสิ่งที่เซียนสวรรค์พักพิงคิด เหยียน ซิว หมดสติไปแล้ว นี่เป็นเวลาที่เหมาะจะหนีที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตามในตอนที่เขาพูด …
ท้องฟ้าทั้งเริ่มมืดลง
เขารู้สึกว่าแสงบนท้องฟ้าถูกปิดกั้นทุกคนต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
…
อารมณ์ของฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้ยากที่จะอธิบาย
เขาได้รับบาดเจ็บร่างของเขาถูกร่างของ เหยียน ซิว ทับอยู่ มันทำให้เขาเห็นฉากที่ประหลาด
ประหลาดเสียจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
เขาก็เห็นแสงสว่างปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าแสงนี้ราวกับแสงของดวงดาว อย่างไรก็ตาม มันแปลกมากที่ดวงดาวจะปรากฎให้เห็นในตอนกลางวัน
แน่นอน…
แสงดาวในตอนกลางวันยังไม่ใช่ที่แปลกที่สุด
แสงของดวงดาวดูเหมือนว่าจะค่อยๆดับลง
ความจริงแล้วตอนที่ฟาง เจิ้งจือ เห็นแสงดวงดาว เขาคิดว่าได้เห็นบางอย่าง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นธรรมดาที่เขาจะเห็นภาพหลอน
เขาเลยไม่ได้ใส่ใจนัดแต่…
นี่เป็นเพราะเมื่อแสงดาวแปลกๆ ปรากฏขึ้น แสงนั้นก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น
เปลี่ยนเป็นสีดำมืด
มันเป็นหินสีดำสนิทและไม่ใช่แค่หินก้อนเดียว แต่เป็นเหมือนภูเขาทั้งลูก ภูเขาที่ใหญ่พอจะปิดกั้นท้องฟ้า
ในตอนที่เขาเห็น…ตอนกลางวัน
แน่นอน…
แสงดาวในตอนกลางวันยังไม่ใช่ที่แปลกที่สุด
แสงของดวงดาวดูเหมือนว่าจะค่อยๆดับลง
ความจริงแล้วตอนที่ฟาง เจิ้งจือ เห็นแสงดวงดาว เขาคิดว่าได้เห็นบางอย่าง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นธรรมดาที่เขาจะเห็นภาพหลอน
เขาเลยไม่ได้ใส่ใจนัดแต่…
นี่เป็นเพราะเมื่อแสงดาวแปลกๆ ปรากฏขึ้น แสงนั้นก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น
เปลี่ยนเป็นสีดำมืด
มันเป็นหินสีดำสนิทและไม่ใช่แค่หินก้อนเดียว แต่เป็นเหมือนภูเขาทั้งลูก ภูเขาที่ใหญ่พอจะปิดกั้นท้องฟ้า
ในตอนที่เขาเห็น… ฟางเจิ้งจือ อยากตะโกนว่า “นี่มันเชี่ยอะไรกัน?!”
เขาโชคร้ายอย่างแท้จริงได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ยังมีภูเขาหล่นมาจากฟ้าอีก
ชีวิตของเขาจะไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือ?
มีไม่กี่คนที่จะคิดแบบฟาง เจิ้งจือ เพราะพวกเขาไม่ได้เห็นแสงที่ตกลงมา
พวกเขาเพียงเห็นว่าท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำมืดเท่านั้น
จากนั้นพวกเขาก็เงยหน้ามองภูเขาลูกยักษ์ที่กำลังตกลงมามันตกลงมาอย่างรวดเร็วและเป็นเหตุให้ผู้คนด้านล่างต้องกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง
”ภูเขามาจากที่ไหนกัน?!”
”เกิดอะไรขึ้น?”
”หนีเร็ว!”
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างไรก็ตามปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือวิ่งออกไปให้พ้นเงา ถ้าภูเขาตกลงมาจริงๆมันจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด
ฟางเจิ้งจือ ก็ต้องการหนีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาบาดเจ็บจากการถูกแทงหลายครั้ง ทั้งยัง เหยียน ซิว ที่ทับร่างของเขาอยู่เขาจะหนีได้อย่างไร?
……………………………………..