Gate of God - ตอนที่ 796 เงื่อนไข
นามสกุลของข้าคือเต๋า ส่วนชื่อของข้าคือซิน นางไม่ได้ลังเลนัก ก่อนที่จะก้าวเดินออกไปข้างหน้าและพูดออกมา
เต๋าซิน?นาสกุลเต๋า? ปากของ ฟาง เจิ้งจือ สั่นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองขอบฟ้า แน่นอนเขารู้ว่าการที่นางนามสกุลเต๋านั้นหมายความว่ายังไง แม้นางจะไม่ได้พูดอะไรออกมามากกว่านี้ก็ตาม จริงๆแล้ว ข้าคงใจอ่อนมากเกินไป
ใจอ่อน?!
เขายังกล้าบอกว่าตัวเองใจอ่อนอีกงั้นหรือ?
ข้าไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายแบบนี้มาก่อน!
เมื่อได้ยินคำพูดของฟาง เจิ้งจือ ศิษย์ศาลาหยินหยางต่างมีสีหน้าดูถูกทันที
ใช้เจ้าใจอ่อนจริงๆแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนี่ หญิงสาวที่ชื่อ’เต๋าซิน’ไม่ได้มีท่าทีดูถูกแต่อย่างใด ตรงกันข้ามนางกลับเห็นด้วยกับ ฟาง เจิ้งจือ อย่างจริงใจ
…
…
ศิษย์ศาลาหยินหยางมองหน้ากันและหันไปมองเต๋าซินราวกับคำพูดของเต๋าซินได้ตบหน้าพวกเขาอย่างจัง
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรต่อไป เพราะเขาไม่รูเหตุผลในการปรากฎตัวของเต๋าซิน เขารอให้นางพูดต่อไป
และนางก็ดูเหมือนจะเข้าใจความต้องการของฟาง เจิ้งจือ ใช่เมื่อเจ้าเข้ามาที่นี่เจ้าได้สร้างความผิดพลาดขึ้นเพราะความใจอ่อนของเจ้า
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มเล็กน้อย เขาเข้าใจความหมายของสิ่งที่นางพูด
แต่คนอื่นที่อยู่รอบๆต่างมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความงงงวย อย่างแรกเมื่อเจ้าจับตัวข้าได้เจ้ารู้ว่าข้ามีสถานะพิเศษในศาลาหยินหยาง แต่เจ้าเลือที่จะไม่คุกคามข้า นี่เป็นความผิดพลาดแรกของเจ้า เต๋าซินอธิบาย
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้ตอบ
อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวกเขาทั้งโกรธตกใจ และสับสน
เขากล้า…
น่าขยะแขยง!
พวกเราจะปล่อยเขาไปไม่ได้!
พวกเขาต่างรู้สึกขมขื่นนอกจากนี้ความโกรธของพวกเขารุนแรงมากกว่าแต่ก่อน
แต่เต๋าซินกลับยังเต็มไปด้วยความสงบ นางดูไม่ได้โกรธเลย
อย่างที่สองเมื่อเจ้ารีบออกมาจากศาลาหยินหยาง ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าไม่ได้เอาชีวิตของผู้อาวุโสสี่ ผู้อาวุโสห้า และผู้อาวุโสแปด ใช่ไหม? เต๋าซินเปิดปากอีกครั้ง
ฟางเจิ้งจือ ยังคงเงียบ เขาไม่อยากยอมรับในเรื่องที่นางพูด แต่มันก็เป็นความจริงที่เขาแสดงความเมตตาออกมา
เขาฆ่าฉือฟ่านที่ด้านล่างศาลาเต๋าสวรรค์นั่นเป็นเพราะพวกเขาใช้ เหยียน ซิว เป็นตัวประกัน แต่ผู้อาวุโสสี่ ห้า และแปดไม่ได้ทำเช่นนั้น
ฟางเจิ้งจือ ลักพาตัวเต๋าฮุน
เหล่าผู้อาวุโสจึงไม่มีทางเลือกต้องโจมตีฟาง เจิ้งจือ
เจ้าเด็กนี่แสดงความเมตตากับพวกเขางั้นหรือ?
ข้าไม่รู้…
ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้อยู่นะ!
เมื่อได้ยินสีหน้าของเหล่าศิษย์ศาลาหยินหยางเริ่มเปลี่ยนไปอย่างที่เต๋าซินบอก ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ฆ่าเหล่าผู้อาวุโส
สำหรับข้อสุดท้ายข้าคิดว่าเจ้าคงรู้ดีอยู่แล้ว เต๋าซินพูดพร้อมมองไปที่เต๋าฮุนที่อยู่บนไหล่ของ ฟาง เจิ้งจือ แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ ย่อมรู้ความหมายของนาง
เดือนที่แล้วเจ้าได้ฆ่าเซียนไปห้าคนทุกคนคิดว่าเจ้าเป็นคนที่ฆ่าคนตามใจชอบ แต่ข้าไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะความใจอ่อนของเจ้า ข้าคงไม่ได้มายืนตรงนี้
เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่? ฟางเจิ้งจือ ถามขึ้นมา
อย่างแรกข้าต้องยอมรับว่าเจ้ามีความสามารถมากกว่าที่ข้าคิดแต่ในการต่อสู้ครั้งนี้เจ้าแพ้แล้ว! เต๋าซินพูดออกมาอย่างมั่นใจ
เจ้าจะอธิบายยังไง? ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับ
เพราะเป้าหมายที่เจ้ามาที่นี่เพื่อช่วยคนไม่ใช่ฆ่าคน อย่างไรก็ตาม เจ้ากลับทำให้เกิดการนองเลือดขึ้น และเจ้าไม่สามารถหนีไปจากที่นี่ได้ด้วยตัวเอง แล้วเจ้าจะบรรลุเป้าหมายของเจ้าได้ยังไง?
เจ้าคิดว่าข้าไม่สามารถหนีไปจากที่นี่ได้งั้นหรือ?
เหยียนซิว อยู่ในมือข้า เจ้าจะหนีไปไหนได้ยังไง?
หรือบางทีข้าไม่ควรแสดงความเมตตาต่อเจ้า ฟาง เจิ้งจือ กำดาบในมือแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงแห่งความไม่พอใจ
อืมถ้าเจ้าฆ่าข้า บางทีเจ้าอาจจะสามารถหนีไปจากที่นี่ได้ ซึ่งมันเป็นผลลัพธ์ที่เจ้าต้องการใช่ไหม? เต๋าซินพยักหน้า
เจ้าพูดมากจริงๆเจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่? ถ้าคิดจะให้ข้าปล่อยเต๋าฮุนไปก็อย่าเสียเวลาพูดเลย ฟาง เจิ้งจือ แนะนำ
บางทีเราอาจจะตกลงกันได้?
ตกลงอะไร?
ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสามารถใช้เต๋าหยินหยางได้?
ใช่!
งั้นเจ้าคงเข้าใจหลักการของหยินและหยางดีทุกสิ่งล้วนมีความสมดุล เท่าเทียม มีขาวมีดำ มีกลางวันมีกลางคืน ถ้าหยินนั้นหมายถึงชีวิต หยางก็หมายถึงความตาย เต๋าซินอธิบาย
เจ้าหมายความว่าใช้ชีวิตข้าเพื่อแลกเปลี่ยนกับชีวิตของเหยียน ซิว? ฟาง เจิ้งจือ เผยรอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของเต๋าซิน
ถูกต้องแล้ว!
ข้าดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่นข้าคงต้องจับตัวเจ้าด้วย เพื่อข้าจะได้มีข้อต่อรองเพิ่ม!
แน่นอนว่านั่นเป็นวิธีที่ดีอย่างไรก็ตามเงื่อนไขเดียวที่เจ้าต้องทำคือจับตัวข้าอีกครั้ง ก่อนที่ข้าจะฆ่า เหยียน ซิว!’ ดาบปรากฎขึ้นในมือของเต๋าซิน ก่อนที่นางจะกดลงไปที่หัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ ทันที
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร แต่เขาเตรียมจะพุ่งไปหาเต๋าซินแล้ว
เจ้ากล้า?! ผู้อาวุโสหกเปิดปาก ฟางเจิ้งจือ ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายผู้นำศาลา อย่าคิดว่าเจ้าจะรอดไปจากที่นี่ได้! ผู้อาวุโสกำหอกแน่นเช่นกัน
แต่เต๋าซินยกมือขึ้นมาห้ามผู้อาวุโสทั้งสองไม่ให้พูดอะไรออกมาอีก จากนั้นนางก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เจ้าอยากให้มันจบแบบนี้งั้นหรือ?
แล้วยังไง?
เต๋าซินยิ้มเล็กน้อย อย่าไรก็ตามดาบในมือของนางกดลึกลงไปที่หน้าอกของ เหยียน ซิว มากขึ้น
สีหน้าของฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไปทันที
แม้แต่เหยียน เฉียนหลี่ และเซียนสวรรค์พักพิงก็ไม่สู้ดีเท่าไรนัก
ฟางเจิ้งจือ กำดาบ แน่น เขาแทบจำควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
หยุด! ทันใดนั้นได้มีคนคว้ามืออีกข้างของ ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้ เป็น ฉือ กูเหยียน
ทำไม? ฟาง เจิ้งจือ ถาม เจ้าควรได้สติสักที เสียงของนางไม่ได้ดังมาก แต่มันชัดเจน
ท่าทีของฟาง เจิ้งจือ แข็งค้างไปในทันที
ได้สติ?
เขาหันไปมองเต๋าซินที่ยิ้มออกมาพร้อมกับมองไปยังดาบที่จิ้มอยู่ที่หน้าอกของ เหยียน ซิว เขากัดริมฝีปากแน่น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใจความไม่ปกติของหญิงสาวตรงหน้าท่ามกลางรอยยิ้มนั้นนางได้วางแผนเพื่อให้พวกเขาหลงกล
นางชั่วร้ายขนาดไหนกัน?!
นอกจากนี้นางยังเลือกใช้วิธีที่ชั่วร้ายที่สุดในการกระตุ้นเขา
หากไม่ใช่เพราะฉือ กูเหยียน เตือน ชีวิตของเขาคงถึงจุดจบแล้ว
สมกับเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์?!
ฉือกูเหยียน เจ้าช่างฉลาดจริงๆ สมกับชื่อเสียงที่เจ้าได้รับ เต๋าซินถอนหายใจ ก่อนจะเปิดปากพูดอีกครั้ง แล้วตกลงเจ้าจะเอายังไง?
ฟางเจิ้งจือ ทำได้แค่กัดปากแน่นจนเลือดไหลออกมา เขาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงจริงๆ
เพราะเขาไม่สามารถบังคับตัวเองให้เพิกเฉยต่อชีวิตของเหยียน ซิว ได้
ฟางเจิ้งจือ เจ้าพยายามดีที่สุดแล้ว เหยียน ซิว ต้องเข้าใจเจ้าแน่นอน! เหยียน เฉียนหลี่ ตะโกนออกมา พร้อมกับปล่อยแสงสีแดงออกมาจากร่างกาย จากนั้นเขาก็พุ่งไปหาเต๋าซินด้วยความรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามมีร่างหนึ่งเข้ามาขัดขวางทันทีเป็นผู้อาวุโสหก
เหยียนเฉียนหลี่ เจ้าต้องผ่านข้าไปให้ได้ก่อน!
ตาเฒ่าเหยียน ข้าจะช่วยท่านเอง! เซียนสวรรค์พักพิงก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน
เซียนของศาลาหยินหยางรีบเข้าปกป้องเต๋าซินทันที พวกเขาจะยอมให้เกิดอันตรายขึ้นกับนางได้ยังไง?
หยุด!! ฟาง เจิ้งจือ ทนไม่ได้ที่จะเห็นการนองเลือดอีกต่อไปแล้ว
พอแล้วพอแล้วจริงๆ…
พวกเราแพ้แล้ว! ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน ด้วยความแน่วแน่ จากใบหน้าของนางเขาสามารถบอกได้ว่านางก็มีความคิดเช่นเดียวกัน
ใช่แพ้..
ข้าได้พูดสิ่งที่ต้องการไปหมดแล้วในเมื่อมีชีวิตก็ต้องมีความตาย เจ้าสามารถเลือกหนทางข้างหน้าให้ เหยียน ซิว ได้! เต๋าซินพยักหน้า ดูเหมือนางจะไม่ได้สนใจท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ
ฟางเจิ้งจือ เจ้าอย่าคิดอะไรบ้าๆ เหยียน ซิว เป็นแบบนี้เพราะตัวเองไม่ใช่เพราะเจ้า! เหยียน เฉียนหลี่ พูดออกมาอย่างร้อนรน
ใช่แล้วเจ้ายังเด็กนัก เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย พวกเราอาจจะยังมีความหวังถ้าเอาตัว เหยียน ซิว กลับมา อาจจะมีวิธี… เซียนสวรรค์พักพิงพูดออกมาเช่นกัน
ใช่เจ้าไม่ควรโทษตัวเองอนาคตของเจ้านั้นยังอีกไกล! หยางคุนแกว่งดาบในมือ
อนาคต? ฟาง เจิ้งจือ เงยหน้าขึ้นและมองไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังทอแสง
เขาไม่ต้องการตาย
เขามีความกังวลมากมายเหลืออยู่ในโลกนี้ทั้งพ่อแม่ ทั้งหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
ปิงหยาง ก็รอเขาอยู่ที่หอคอยหลิงหยุน เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองทำอะไรอยู่กันแน่
เจ้าช่วยข้าสองอย่างได้ไหม? ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน เขารู้สึกดีใจเล็กน้อยที่ในวินาทีสำคัญของชีวิตเช่นนี้เขายังมีนางยืนอยู่ข้างๆ
ไม่เจ้าต้องทำสิ่งพวกนั้นด้วยตัวเอง! ฉือ กูเหยียน ส่ายหน้า นางพยายามหลบตา ฟาง เจิ้งจือ อย่างแรกคือดูแลพ่อแม่ของข้าอย่าบอกพวกเขาว่าข้าตายแล้ว ด้วยความสามารถของ เจ้าข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้ อีกเรื่อง…จากนี้ไปสองเดือน เจ้าช่วยบอก ปิง หยาง ที่หอคอยหลิงหยุนด้วยว่าข้าล้มเหลว… ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า ฉือ กูเหยียน คงเข้าใจเป้าหมายของเขาดี
ยิ่งกว่านั้นเขารู้ว่า ฉือ กูเหยียน จะไม่หยุดเขา เพราะถ้านางอยู่ในจุดเดียวกัน นางก็คงเลือกทำเช่นเดียวกับเขา
ดูเหมือนเจ้าจะตัดสินใจได้แล้วสินะ? เสียงของเต๋าซินดังขึ้นอีกครั้งขัดบทสนทนาระหว่าง ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน
ใช่แต่ข้ายังมีอีกเงื่อนไข! ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า พร้อมก้าวเดินไปข้างหน้า
อืมว่ามา! เต๋าซิน ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเก็บดาบของนางที่จ่ออยู่ที่หัวใจของ เหยียน ซิว
……………………………………..
��