Gate of God - ตอนที่ 797 ครั้งสุดท้าย
ข้าต้องการให้เจ้าสาบานต่อหน้าทุกคนหลังจากที่ช่วย เหยียน ซิว เจ้าจะไม่ยอมให้ เหยียน ซิว ล้างแค้นเพื่อข้า ในทำนองเดียวกัน เจ้าต้องสัญญาว่าจะให้เขาใช้ชีวิตที่เหมาะสมในดินแดนศักดิ์สิทธิ์! ฟาง เจิ้งจือ จ้องไปที่ใบหน้าของเต๋าซินเขม็ง ท่าทีของเขาจริงจังอย่างมาก
ได้ข้าสัญญา! เต๋าซินพยักหน้า สีหน้าของนางเองก็จริงจังเช่นกัน
เจ้าคิดจะ… ฉือ กูเหยียน มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และพูดไม่ออกแม้แต่น้อย
ใช่ข้าตัดสินใจแล้ว ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
เจ้าเด็กเหลือขออย่าทำอะไรโง่ๆ การกระทำของเจ้าไม่มีความหมาย!
ใช่ฟาง เจิ้งจือ พวกเราบอกได้เลยว่าเจ้าทำดีที่สุดแล้ว บางครั้งเราก็หลีกเลี่ยงชะตากรรมไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือ ชีวิตของเจ้าไม่สามารถแทนที่กับ เหยียน ซิว ได้ ถ้ามีความจำเป็นที่ต้องแลกจริงๆ ก็ใช้ชีวิตของข้า! เหยียน เฉียนหลี่ พูดอีกครั้ง ก่อนจะมองไปที่เต๋าซิน เต๋าซิน ข้า เหยียน เฉียนหลี่ ขอใช้ขีวิตของตัวเองแทนชีวิตเขา!
เจ้า?ผู้นำดินแดนเหลียงตะวันตกงั้นรึ? แม้ว่าเจ้าจะมีสถานะที่สูงสุด แต่เสียดายข้าไม่สนใจเอาชีวิตของท่าน! รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเต๋าซิน
…
ตาเฒ่าสวรรค์พักพิงและก็ตาเฒ่าเหยียน พวกท่านไปเถอะ ความวุ่นวายเกิดขึ้นเพราะข้า มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ข้าต้องรับผิดชอบ ฟาง เจิ้งจือ พูดพร้อมยกดาบไร้ร่องรอยขึ้นมา
พลังอันรุนแรงถูกปล่อยออกมาจากดาบ
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดต่อไป เขามองไปยังศิษย์รอบๆก่อนจะหันไปมองฉือ กูเหยียน จากนั้นเขาก็หลับตาลง
ดาบไร้ร่องรอยจ่ออยู่ที่คอของเขา
ความทรงจำนับไม่ถ้วนโผล่ขึ้นมาในใจของเขาเขาได้เจอกับ ฉือ กูเหยียน โดยบังเอิญตอนเขาเด็กๆ
จากนั้นเขาก็ได้มีเพื่อนที่ดีอย่างเหยียน ซิว
จากนั้นเขาก็ได้เข้าร่วมการทดสอบเต๋าของอาณาจักรเซี่ยได้พบกับ ปิง หยาง…
ความทรงจำนับไม่ถ้วนไหลผ่านจิตใจของเขาไปราวกับทุกอย่างเป็นความฝัน หรือว่า…มันถึงเวลาที่เขาใกล้จะตื่นแล้ว?
แล้วชีวิตหน้าของเขาจะเป็นยังไงนะ?
เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นของปลายดาบที่คอรอยยิ้มปรากฎที่มุมปากของเขา
ชาตินี้เขาได้ทำสิ่งที่น่าสนใจมากมายเขาได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำในโลกก่อน แต่สุดท้าย…
เพราะความเมตตา? ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองใจดีเกินไป
เขาทำเรื่องไร้เมตตาอย่างขโมยไก่ วางกับดัก หรือลอบโจมตีผู้คนมากมาย
แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่สามารถทำขั้นตอนสุดท้ายได้ง่ายๆ…ฆ่า
อย่างที่เต๋าซินพูดหลังจากเข้ามาในศาลาหยินหยาง เขาก็ยังคงใจอ่อนเกินไป
เขาปล่อยให้เต๋าซินมีชีวิตรอด…
ถ้าเขาฆ่าเต๋าซินในตอนแรกทุกอย่างคงไม่กลายเป็นแบบนี้
โลกนี้อาจจะโหดร้ายกว่าที่เขาคิดมาก
บางทีเขาคงไม่สามารถละทิ้งความคิดที่’ไม่ควรฆ่าใครตามอำเพอใจ’ จากโลกก่อนได้
สุดท้ายเขาก็ต้องเดินมาถึงจุดนี้
ใช้ชีวิตของเขาเพื่อแลกเปลี่ยนกับเหยียน ซิว?
มันถือว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของความเมตตางั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือ เอาดาบไร้ร่องรอยจ่อที่คอ เขาพยามทำท่าทางให้เหมือนในหนังที่เขาดูมา
มันจะเป็นท่าทีงดงามมากที่สุด
ใครจะตายยังไงก็ได้แต่การตายของเขาต้องสง่างามที่สุด!
แต่เขาไม่รู้ว่าทำไม…..
เมื่อฟาง เจิ้งจือ ขยับดาบ เขากลับรู้สึกเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ดูเหมือนว่าดาบไร้ร่องรอยจะไม่ต้องการทำตามความต้องการของเขามันไม่ขยับตามแรงของเขาแม้แต่น้อย
เอ่อ…ข้าขอยืมดาบได้ไหม? ฟาง เจิ้งจือ ลืมตามองเต๋าซิน มันเป็นฉากที่ชวนกระอักกระอวนเล็กน้อย
… ปากของเต๋าซินกระตุกเล็กน้อยแต่นางไม่ได้พูดอะไรคนที่อยู่รอบๆต่างยืนนิ่งเช่นกัน จากนั้น..
ดาบเล่มหนึ่งก็ถูกโยนไปที่พื้นด้านหน้าฟาง เจิ้งจือ
ใบดาบเงาประกายเห็นได้ชัดว่ามันเป็นดาบที่ดี
คนที่ขว้างนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหยาน ฉิง
แม้ข้าจะไม่ใช้ดาบแต่ข้าก็พกมันติดตัวมาด้วย หยาน ฉิง ตอบอย่างสุขุม
… .. ฟาง เจิ้งจือ มองไปทีดาบและสับสนเล็กน้อย เขาอยากจะถาม หยาน ฉิง เหลือเกิน ว่าเจ้าไม่ต้องจริงใจขนาดนี้ได้ไหม? แค่ขอเจ้าก็จะให้เลยงั้นรึ?
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ดาบบนพื้น เขาไม่รู้ว่าควรจะหยิบมันดีหรือไม่
เดี๋ยวก่อนมันจะจบง่ายเกินไปไหม? ขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด ผู้อาวุโสสามและสี่จากเก้าขุนเขาก็ตะโกนและเดินออกมาจากฝูงชน เครื่องแต่งกายสีดำของพวกเขาดูเหมือนจะโดดเด่นออกมาจากคนอื่นๆ
เหตุท่านที่พวกท่านออกมาหยุดการฆ่าตัวตายของฟาง เจิ้งจือ คืออะไรงั้นรึ? โม่ยู่ เห็นท่าทีของเต๋าซิน จึงถามผู้อาวุโสทั้งสองของเก้าขุนเขาทันที
่ท่านโม่อย่าเข้าใจพวกเราผิด พวกเราแค่คิดจะเอาสิ่งที่เคยเป็นของพวกเราคืนจาก ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้น ผู้อาวุโสสามของเก้าขุนเขาอธิบาย
สิ่งของที่เคยเป็นของพวกท่านงั้นหรือ? ผู้อาวุโสสูงสุดโม่ยู่ ดูเหมือนจะเข้าคำพูดของผู้อาวุโสสาม
ใช่แล้วเพราะสิ่งนั้นทำให้ผู้นำเก้าขุนเขาของพวกเราประสบกับเรื่องโชคร้าย ตอนนี้ในเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ด้านหน้าพวกเราแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะให้พวกเราพาตัวเขากลับไปที่เก้าขุนเขา! ผู้อาวุโสสามพูดต่อไป
ท่านวางแผนที่จะทำอะไรกับเขา? โมยู่ ถามอีกครั้ง ครั้งหนึ่งฟาง เจิ้งจือ เคยกินสมุนไพรเพลิงพันปีเข้าไป พวกเราคิดว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาน่าจะเป็นเพราะมัน ดังนั้นพวกเราจึงวางแผนที่จะหลอม ฟาง เจิ้งจือ เป็นยา! ผู้อาวุโสสามอธิบาย
หลอมฟาง เจิ้งจือ?!
พวกท่านต้องการเปลี่ยนมนุษย์ที่มีชีวิตให้เป็นยา?
ศิษย์ของศาลาหยินหยางต่างเต็มไปด้วยคาวมงุนงงการที่จะเอาคนมีชีวิตไปทำยาถือเป็นเรื่องที่โหดร้ายเป็นอย่างมาก
สถานการณ์ของฟาง เจิ้งจือ นั้นพิเศษออกไป เพลิงพันปียังคงอยู่ในร่างของเขา ดังนั้นพวกเราจะใช้ร่างของเขาเป็นตัวหลอมเพลิงพันปีและสกัดออกมาเป็นยา ผู้อาวุโสสามยังคงพยายามอธิบายต่อไป
เหล่าศิษย์ไม่ได้พูดอะไรอีกแม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ดูป่าเถื่อนก็ตาม
แต่เพราะในร่างฟาง เจิ้งจือ มีสมุนไพรล้ำค่า ที่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นแทบหาไม่ได้
ท่านโม่ข้ารู้ว่าเรื่องนี้จะฟังดูไร้สาระเล็กน้อย แต่ท่านน่าจะเข้าใจว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นสำคัญกับเก้าขุนเขามากแค่ไหน หากท่านยอมส่งตัวเขาให้เรา พวกเราจะตอบแทนพวกท่านอย่างงาม… ผู้อาวุโสสามกล่าวพร้อมมองไปที่ผู้อาวุโสสี่
ผู้อาวุโสสี่เข้าใจที่ผู้อาวุโสสามพูดเขาพยักหน้าเห็นด้วยทันที
นอกจากนี้ยาที่สกัดได้ครึ่งหนึ่งพวกเราจะมอบให้ศาลาหยินหยางถ้าท่านโม่กังวล ท่านสามารถสุ่งผู้อาวุโสติดตามพวกเราไปที่เก้าขุนเขาได้ พวกเราเชื่อว่าความสามารถในการหลอมยาของพวกเราไม่ได้แย่ไปกว่าห้าสำนัก! ผู้อาวุโสสามยังคงพยายามพูดต่อไป
ท่านรองผู้นำศาลาคิดยังไงบ้าง? โม่ยู่หันไปถามเต๋าซินทันที
รองผู้นำศาลา? ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาคิดว่าเต๋าซินนั้นอาจจะเป็นลูกสาวของเต๋าฮุน แต่รองผู้นำศาลา…
มันหมายความว่ายังไง?
นางไม่ใช่ลูกสาวของเต๋าฮุน?
เดี๋ยวนะ!
งั้นนางอาจจะเป็นน้องสาว?แต่ดูไม่น่าเป็นไปได้ เพราะนางดูเด็กมาก
ความสามารถของนางก็ไม่ได้ถือว่าแข็งแกร่งมากนางพึ่งเข้าสู่ระดับเซียนไม่นาน จึงถูกเขาฟาดหัวสลบได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้เพราะตอนนี้เขากำลังจะถูกจับไปหลอมเป็นยา
ย่างสดๆ? ฟาง เจิ้งจือ ไม่ชอบวิธีตายแบบนี้ คงไม่มีใครจำร่างเขาได้แน่นอน
อย่างไรก็ตามเขาดูเหมือนจะไม่มีทางเลือก
ทุกคนดูเหมือนจะไม่ฟังความเห็นของเขาแม้แต่น้อย เอาล่ะทำตามที่ผู้อาวุโสทั้งสองของเก้าขุนเขาบอก ส่งตัว ฟาง เจิ้งจือ ให้กับพวกเขา ผู้อาวุโสหกจะตามไปเพื่อช่วยด้วย! เต๋าซินเปิดปาก
นั่น…ข้าจะตายแบบอื่นได้ไหม? ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้จะทำอะไรจึงโพล่งถามออกมา
ไม่ยกเว้นเจ้าไม่อยากจะช่วย เหยียน ซิว แล้ว นอกจากนี้ข้าไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นขณะเจ้าถูกส่งตัวไป ไม่อย่างนั้น เหยียน ซิว ต้องตาย เต๋าซิน ส่ายหัว
ที่จริงข้ามีความคิดอื่น ฉือ กูเหยียน เห็นท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ นางจึงพูดขึ้นมา
ใช่ข้าก็มีความคิดอื่นอยู่อีก แต่…ข้าเลือกทางนี้แล้ว! ฟาง เจิ้งจือ กัดฟันพูดออกมา
เจ้าได้ตัดสินใจแล้ว? ฉือ กูเหยียน ถามอีกครั้ง
อืม! ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าอีกครั้ง งั้น…ก่อนเจ้าตายเจ้าช่วยกอดข้าเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม? ฉือ กูเหยียน ก้าวไปข้างหน้าช้าๆ ตาของนางเป็นประกาย ผิวอันเปล่งปลั่งสะท้อนแสงอาทิตย์
ผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้แต่กลับมาถามเขาว่าช่วยกอดนางได้ไหม?
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ มองไปด้วยความไม่เชื่อ
อา? เสียงโง่ๆหลุดออกมาจากปาก ฟาง เจิ้งจือ
่ก่อนที่ฟาง เจิ้งจือ จะได้ตอบสนองอะไร ร่างของ ฉือ กูเหยียน ก็เข้ามาใกล้แล้ว คู่มือของนางประสานกันอยู่ที่หลังของเขา
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าบางอย่างจุกอยู่ที่หน้าอกของตัวเอง
เดี๋ยวก่อน….
เขาไม่ควรได้รับเวลาในการเตรียมตัวก่อนงั้นหรือ?เขาไม่ควรได้เวลาเตรียมใจก่อนงั้นหรือ? ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั่นเองเสียงกระซิบเบาๆก็ดังขึ้นที่ข้างหูเขา
ดูเงียบๆ!
……………………………………..