Gate of God - ตอนที่ 801 ความตายที่คืบคลาน
ใช้เวลา49 วัน มันจะกลายเป็นเม็ดยา! ผู้อาวุโสหกยิ้มเยาะในขณะมองไปที่หม้อหลอม
ศิษย์รอบต่างยินดีเช่นกัน
เพราะได้ความช่วยเหลือของผู้อาวุโสหก! ผู้อาวุโสจากเก้าขุนเขาสองสามคนพูดกับผู้อาวุโสหก
ทั้งห้าสำนักต่างมีแนวคิดเดียวกันพวกเราเป็นครอบครัว ไม่ต้องมากพิธีหรอก ผู้อาวุโสโบกมือก่อนที่จะมองหาที่นั่ง
49วัน!
เป็นเวลาที่ไม่นานนักโดยเฉพาะหลังจากกลายเป็นเซียน 49 วันเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ผู้อาวุโสหกไม่ได้ใส่ใจเรื่องระยะเวลา
วันนี้เป็นวันที่มีอากาศแจ่มใส
ภายในหม้อฟาง เจิ้งจือ นอนขดตัวอยู่คาวมร้อนด้านในยังคงมากขึ้นเรื่อยๆ
เจ็บปวด!
เจ็บปวดจริงๆ!
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ส่งเสียอะไรออกมาอีกเพราะเขาหมดสติไปแล้ว
เปลวไฟลุกถ้วนพร้อมกับของเหลวสีแดงไหลเอื่อยอยู่รอบๆตัว
ลาวา
แต่มันแปลกออกไปเพราะบนพื้นผิวของมันมีลวดลาวที่สลับซ้อน…
…ภายในจิตใจของ ฟาง เจิ้งจือ
เขาพบหญิงสาวในชุดสีขาวคนหนึ่ง
ที่สำคัญรอบๆตัวนางเต็มไปด้วยไฟสีม่วงและสีเงินเหมือนในหม้อหลอม
เจ้าเป็นใครกันแน่?! ฟาง เจิ้งจือ นึกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ ตอนที่เขาติดกับของ หยุนชิงวู
ผู้หญิงในชุดขาวยังคงไม่พูดอะไรเช่นเคยนางทำเพียงยืนนิ่งเฉยๆ จากนั้นนางค่อยๆหันไปมองรอบๆ
ฟางเจิ้งจือ เห็นรูปลักษณ์ของนาง
งดงามมันเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย แต่มันให้ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยกับเขาในเวลาเดียวกัน
เพราะฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของนางคล้าย ฉือ กูเหยียน แต่อารมณ์ของนางนั้นเยือกเย็นและดูไม่แยแสอะไรยิ่งกว่า ฉือ กูเหยียน
เขาจำได้ว่าเจอนางครั้งแรกที่มิติพิเศษในหอสมบัติสวรรค์หลังจากนั้นนางก็มักจะมาปรากฏตัวบ่อยๆในใจของเขา
นางเป็นใครกันแน่?
ทำไมนางถึงคล้ายฉือ กูเหยียน ขนาดนี้
อย่างไรก็ตามนางไม่คิดจะตอบ ฟาง เจิ้งจือ นางมองไปรอบๆก่อนจะเดินไปหา ฟาง เจิ้งจือ ช้าๆ
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ เพราะในมือของนางมีสมบัติสีทองชิ้นหนึ่งมันดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
มณีวิญญาน! เขาจำมันได้ดีเพราะเขาเอามันมาจากศาลาเต๋าสวรรค์บนสวรร์ชั้นที่เก้า
อย่างไรก็ตามเขาไม่เข้าใจว่ามันมาอยู่ในมือของนางได้ยังไง?
เป็นไปได้ยังไง?
เขาไม่ได้เก็บมันไว้ในกลืนกินโลกงั้นหรือ?
เดี๋ยวนะ!
หรือนางก็อาจจะอยู่ในกลืนกินโลกด้วย?
นาง…
ถ้านางอาศัยอยู่ในกลืนกินโลกงั้นนางก็อยู่ในจิตใจของข้า?
มันจะเป็นไปได้ยังไง?นางมาจากหอสมบัติสวรรค์ แล้วเข้าไปในกลืนกินโลกได้ยังไง? ไข่มุก!
ตอนนั้นที่เขาเข้าไปในหอสมบัติสวรรค์เหมือนเขาจะหยิบไข่มุกมาหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจมันอีกจนแทบลืมไปแล้ว
หรือจริงๆแล้วไข่มุกนั่นคือหญิงสาวคนนี้?!
รอเงียบๆ เสียงดูเหมือนจะดังข้างๆเขา
หา? ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าเสียงนั้นมาจากหญิงสาว
อย่างไรก็ตามมันแปลกเล็กน้อยเพราะปากของหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ขยับเลย
เก็บไว้อันหนึ่ง นางดูเหมือนจะไม่สนใจความสงสัยของ ฟาง เจิ้งจือ นางดูเหมือนกำลังพูดกับตัวเองอยู่
เก็บไว้อันหนึ่ง?! ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ สั่นเทาราวกับเข้าใจถึงสิ่งที่นางพูด อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าทำไมนางถึงพูดถึงเรื่องนี้
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถถามอะไรได้อีก
เพราะนางค่อยๆหายไปจากสายตาของเขา
อะไรกัน?
ฟางเจิ้งจือ พยายามก้าวไปข้างหน้า แต่เขากลับไม่สามรถเคลื่อนไหวได้
จากนั้น..
เขาก็พบว่าร่างของเขาถูกมัดอยู่
แน่นอนว่าเป็นโซ่สีดำที่มัดเขาอยู่ภาพหลอนหายไป ฟาง เจิ้งจือ พบว่าเขาอยู่ในหม้อหลอมเหมือนเดิม
เขาไม่รู้ว่าทำไมเขายังไม่ตาย
ทำไมข้าถึงไม่ตายสักทีล่ะ? ฟาง เจิ้งจือ พึมพัมอีกครั้ง แม้ความเจ็บปวดจะรุมเร้าเขาอยู่ตลอดเวลาก็ตาม
เขาอยากจะสลบไปอีกครั้ง
แต่เขาไม่สามารถทำได้เขาไม่สามารถตายได้
ทำไมล่ะ?
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดว่าเขาจะมีความสามารถพอที่จะเอาชนะเปลวไฟทั้งสองได้
เดี๋ยว!
มันคืออะไร? ฟาง เจิ้งจือ พบว่ามีควันสีทองไฟลเวียนอยู่ทั่วร่างของเขา
ตรงกลางหน้าอกฟาง เจิ้งจือ มีแสงสีทองส่องออกมาเช่นกัน
อัญมณีวิญญาน! ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็พบว่ามันเป็นมณีวิญญา
หรือเพราะมันเขาเลยรอดชีวิต?
ใช่แล้ว!
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้าง
ตามตำนานเจ้าแม้หนี่ว่าสร้างหิน 36,501 ก้อน แต่นางใช้ 36,500 ชิ้น จึงเหลืออีกชึ้นสุดท้าย มันคือมณีวิญญาน!
เขาไม่เคยเชื่อเรื่องนี้แต่ตอนนี้มณีวิญญานได้ช่วยชีวิตเขาไว้
หรือจะพูดได้ว่า…
หลีกเลี่ยงไฟ? ใช้แล้วถ้าเป็นเหมือนตำนานมณีวิญญานมีพลังในการป้องกันไฟ
ดังนั้นแม้เขาจะอยู่ในหม้อแต่ถ้ามีมณีวิญญาน ร่างของเขาก็จะไม่หลอมละลายอีกต่อไป
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าเขาเดาถูกหรือไม่ แต่มันก็เป็นความคิดเดียวที่เขาพอจะนึกออก
โลกนี้คืออะไรกันแน่?มันมีความเกี่ยวข้องกับโลกเก่าของเขาหรือไม่? ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถเข้าใจได้
แต่เขาไม่มีเวลาคิดอะไรแล้วเพราะแม้มณีวิญญานจะช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงไฟได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยลดความเจ็บปวดให้เขา
อา…ข้าจะต้องถูกเผาไปตลอดแบบนี้งั้นหรือ?! ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ เขาคงได้กัดลิ้นฆ่าตัวตายก่อน
เดี๋ยวนะ!
แค่ตัดลิ้นมันไม่ทำให้เขาตาย!
เพราะเขาอยู่ในระดับจุติแผลเล็กน้อยร่างกายสามารถซ่อมแซมได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเขาแต่มันก็ระเหยไปอย่างรวดเร็วเพราะความร้อนจากเปลวไฟ
ไม่!ข้าลืมอะไรไปหรือเปล่า! ฟาง เจิ้งจือ นึกขึ้นได้ในทันทีว่าหญิงสาวในชุดสีขาวได้พูดบางอย่าง
’ดู’…
ใช่!
เหมือนฉือ กูเหยียน ก็เคยพูดคำนั้นเช่นกัน มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?
ไม่น่าใช่!
แล้ว
คำว่า’ดู’หมายความว่าอะไร?
แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวในชุดสีขาวจะพูดคำอื่นอีกด้วย
หนึ่ง! ใช่หนึ่ง!
หนึ่งดู…หนึ่ง… ฟาง เจิ้งจือ พยายามหาคำตอบ
ทันใดนั้นเองเขาก็พบอะไรบางอย่าง…
……………………………………..