Gate of God - ตอนที่ 806 ความไม่สบายใจ
เป็นครั้งแรกที่หยิงยู่รู้สึกไม่สบายใจปกติแล้ว ฟาง เจิ้งจือ น่าจะใช้โอกาสนี้หลบหนี
แต่ความจริงคือฟาง เจิ้งจือ เลือกที่จะไม่หนี เขาพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและยื่นหากจากเขาไปไม่กี่ก้าว
นี่เป็นโอกาสดีให้เขาและผู้อาวุโสหกลอบโจมตีอย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างเขาไม่โจมตี แต่กลับเดินถอยออกไปครึ่งก้าว
แค่นี้ก็แสดงให้เห็นถึงความคิดของหยิงยู่
ฟางเจิ้งจือ เร็วเกินไป!
เขาเร็วเกินไปจนหยิงยู่ไม่สามารถโจมตีได้ทัน
เจ้าเด็กนี่เร็วขนาดนั้นได้ยังไง?! เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของหยิงยู่
ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว…ผู้อาวุโสหกก็ยืนตัวแข็งอยู่ด้านข้างเช่นกัน เขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และถอยหลังไปสองก้าวอย่างรวดเร็ว ยิ่งมองรอยแตกที่ใต้เท้าของฟาง เจิ้งจือ สีหน้าของเขายิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ริมฝีปากของเขาสั่นราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง กระนั้นเขายังคงนิ่งเงียบ
ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเป็นท่านสินะที่โยนข้าเข้าไปในหม้อหลอมสายธารตอนนั้นท่านบอกว่าถ้าข้าไม่ตายก็เป็นพวกท่านทั้งสองที่ต้องตาย!’ ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาโดยไม่กังวลแม้แต่น้อย
เจ้าอยากให้พวกข้าตายงั้นรึ?!น่าเสียดายที่เจ้าคงไม่มีโอกาสทำเช่นนั้น! ผู้อาวุโสหกไม่สามารถทนได้อีกแล้ว เขาสามารถรู้สึกถึงบรรยากาศอันน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากร่างของ ฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามในฐานะผู้อาวุโสหกของศาลาหยินหยาง เขาจะกลัวคนที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระดับเซียนโดยสมบูรณ์ได้ยังไง?
นอกจากนี้เขายังมีหยิงยู่และผู้อาวุโสรวมถึงศิษย์เก้าขุนเขาคนอื่นๆสนับสนุน
ฟางเจิ้งจือ จะเก่งแค่ไหนเชียว? เขาไม่รู้!
แต่เขามั่นใจว่าฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางชนะพวกเขาทั้งหมดได้
ผู้อาวุโสหกโจมตีเมฆหมอกจำนวนหนึ่งปรากฎขึ้นบนมือเขา บนดาบของเขามีสายฟ้าสีม่วงปรากฎขึ้น
ดาบเล่มนั้นชี้ไปที่คอของฟาง เจิ้งจือ อย่างรวดเร็ว
ดาบนี้ไม่ใช่การซุ่มโจมตี…
อย่างไรก็ตามเขาใช้ประโยชน์จากความประมาทของฟาง เจิ้งจือ
ฟางเจิ้งจือ ยังคงยืนเงียบต่อหน้าผู้อาวุโสหก เขาไม่มีท่าทีอะไรแม้แต่น้อย
สำเร็จสินะ? ผู้อาวุโสหกสับสนเล็กน้อย อย่างไรก็ตามความเย็นชาปรากฎบนใบหน้าเขา นี่เป็นผลลัพธ์ที่ ฟาง เจิ้งจือ มั่นใจมากเกินไป
เสียงสายฟ้าที่ตัวดาบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆมันเตรียมแทงออกไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามมันไม่นานนักเมื่อดาบห่างจากคอ ฟาง เจิ้งจือ สองนิ้ว มันก็ถูกหยุดลง ด้วยฝ่ามือหนึ่ง
ช้าช้าจริงๆ ฟาง เจิ้งจือ พูดพร้อมส่ายหัว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
ช้า?!ฟาง เจิ้งจือ เจ้าอย่าอวดดีเกินไปนัก! รอยยิ้มอันเย็นชาของผู้อาวุโสหกหายไปทันที
เขาคำรามและเปลวไฟได้ปรากฏขึ้นบนใบดาบของเขาในขณะเดียวกันสายฟ้าและไฟสีม่วงก็พุ่งไปยังมือของ ฟาง เจิ้งจือ ที่จับดาบอยู่
ตูม! เสียงระเบิดดังขึ้น
สายฟ้ากระจายออกทั่วมือของฟาง เจิ้งจือ
รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโสหกอีกครั้งเขาใชมือขวาอีกข้างที่ไม่ได้จับดาบฟาดไปที่คอของ ฟาง เจิ้งจือ เขามั่นใจมากว่าสายฟ้าของเขาจะทำให้ ฟาง เจิ้งจือเป็นอัมพาต
ฟางเจิ้งจือ ไม่มีทางเคลื่อนไหวได้
นี่เป็นโอกาส!
ฆ่า!
แต่ขณะที่เขากำลังดึงดาบกลับมาจากฟาง เจิ้งจือ เขากลับดึงไม่ออก
หืม?!ผู้อาวุโสหกตกตะลึงเขาสัมผัสถึงอันตรายได้ เขามีประสบการณ์การต่อสู้มานานหลายปี
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ตอนนี้ผิดปกติอย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะดึงดาบออกมาได้ เสียงในใจของเขาบอกให้เขารีบถอย!
อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไป
นี่เป็นเพราะช่วงเวลาที่เขาพยายามดึงดาบเสียงแตกดังก้องอยู่ข้างหูของเขา
เสียงของดาบที่ถูกทำลาย!
ในเวลาเดียวกันนั้นเองดาบอีกครึ่งหนึ่งที่ฟาง เจิ้งจือ จับอยู่ก็พุ่งมาที่เขา ไม่!เป็นไปไม่ได้! ผู้อาวุโสหกไม่เชื่อ เขากลายเป็นเซียนผ่านเต๋าไฟและไฟฟ้า ดังนั้นมันจึงเป็นเต๋าที่เขาแข็งแกร่งมากที่สุด
แต่มันกลับไม่สามารถหยุดฟาง เจิ้งจือ ได้
ดาบของตัวเขาเองอยู่ตรงหน้าดวงตาของเขา
เพราะพวกเขาอยู่ใกล้กันเกินไปเขาเลยไม่มีเวลาหลบ
ฉึก! ใบดาบแทงเข้ามาที่หน้าอกของเขา
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือดาบไม่ได้แทงที่อกด้านซ้ายแต่เป็นด้านขวา
ตอนที่อยู่ศาลาหยินหยางท่านแทงอกขวาข้านี่คือการเอาคืน เสียงอันเยือกเย็นดังขึ้นข้างหูผู้อาวุโสหก
หา? ร่างกายของผู้อาวุโสหกแข็งค้างเขารู้ดีว่าไม่สามารถป้องกันดาบของ ฟาง เจิ้งจือ ได้
เขาถูกดาบของตัวเองแทงต่อหน้าศิษย์นับร้อยของเก้าขุนเขา
มันเป็นความอัปยศอันสูงสุด!
เขาโกรธมาก
ดวงตาของเขาค่อยๆกลายเป็นดวงไฟสีม่วงเขาพยายามรวบรวมพลัง
แต่ทันใดนั้นแสงสีเงินพุ่งผ่านดวงตาของเขาไป
มันเร็วมาก!
ผู้อาวุโสหกไม่ได้ตกใจกับการโจมตีนี้
เพราะเขารู้ว่าผู้อาวุโสหกหยิงยู่ได้ลงมือแล้ว
ช่วงเวลาที่ฟาง เจิ้งจือ แทงเขามันก็พอแล้วให้หยิงยู่ลอบโจมตี
ตาย! ผู้อาวุโสหกไม่ยอมถอย เพราะเขาต้องลาก ฟาง เจิ้งจือ ไปด้วยให้ได้
แสงไฟสีม่วงลุกโชนออกมาจากร่างของเขา
ครืน! เสียงไฟฟ้าดังขึ้นเช่นกัน ดวงตาของผู้อาวุโสหกสว่างขึ้นเพราะเขารู้ว่าตอนนี้ร่างของ ฟาง เจิ้งจือ กำลังถูกปกคลุมไปด้วยไฟและไฟฟ้าสีม่วง ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือรอความตาย!
ตอนนั้นเองฉากอันน่าตกใจได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา
เพราะแสงสีเงินที่พุ่งผ่านด้านข้างเขาไปมันถูกปัดกระเด็นออกไปทันที
อะไรกัน?!
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้แต่หยิงยู่กับพลาด?!
ผู้อาวุโสหกไม่พอใจมาก
เพราะเขาจับฟาง เจิ้งจือ ได้แล้ว เขาต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ ตาย แต่เขาไม่ได้อยากตายไปด้วย
พลาดเนี่ยนะ? ความสิ้นหวังก่อตัวขึ้นในหัวใจของผู้อาวุโสหก
จากนั้นเขาก็เห็นมือหนึ่งคว้าแสงสีเงินขึ้นมาราวกับเขาแค่กำลังหยิบของเล่นชิ้นหนึ่ง หา?ฟาง เจิ้งจือ…ช่วยข้างั้นรึ?! ผู้อาวุโสหกไม่อยากเชื่อ แต่ ฟาง เจิ้งจือ จับแสงสีเงินขึ้นมาจริงๆ
เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเห็นแค่ใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ กำลังยิ้มอยู่
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสงบและความมั่นใจ
จากนั้นเขารู้สึกว่าการหายใจของเขายากลำบากขึ้นลำคอของเขาดูเหมือนจะถูกบีบด้วยแรงที่เขาไม่สามารถต้านทานได้
แค่กแค่ก!
พื้นที่รอบๆค่อยๆยุบตัวลงราวกับว่าดาบที่นับไม่ถ้วนกำลังแยกพื้นที่นี้ออกจากกั
ในเวลาเดียวกันผู้อาวุโสหกสัมผัสได้ถึงพลังอันรุนแรงกดลงมาที่คอของเขา
ตูม!
ร่างกายของผู้อาวุโสหกกระแทกพื้นอย่างแรงเขารู้สึกว่ากระดูกทุกชิ้นในร่างเขากำลังแตกหัก ผิวหนังบนร่างกายของเขาค่อยๆปริแตกออก
เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
การโจมตีครั้งนี้เกือบทำให้เขาหมดสติอย่างไรก็ตามเขายังรอด เขาเงยหน้ามาองดวงตาคู่นหนึ่งที่กำลังมีดวงไฟสีม่วงปรากฎอยู่เช่นกัน
จากนั้นฉากที่น่ากลัวก็ปรากฏขึ้น
ใบหน้าอันยิ้มแย้มตรงหน้าเขาได้หายไปแต่เป็นร่างหนึ่งที่มีขนาดประมาณสามสิบเมตร มันเหมือนเงาดำ
เมฆทองคำและชุดเกราะสีดำหนาคลุมร่างกายเปลวไฟสีดำลุกท่วมตัว
ทันใดนั้นเอง…
ผู้อาวุโสหกรู้สึกว่าร่างของถูกสายฟ้าผ่าใส่
เพราะเมื่อเขาเห็นร่างสีดำนี้เขาก็เห็นอีกร่างถูกโยนกระเด็นออกไปเป็นผู้อาวุโสสูงสุดหยิงยู่
เป็นไปไม่ได้! ตูม! เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อร่างของหยิงยูหล่นกระแทกพื้น
ดวงตาของผู้อาวุโสหกเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
เขาไม่รู้ว่าฟาง เจิ้งจือ ทำได้ยังไง แต่ที่เขารู้คือเขาเห็นพลังที่เกิดจากขีดจำกัดทางสายเลือดของเทียนซิงอยู่ตรงหน้าเขา
แต่ตอนที่เทียนซิงใช้มันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ราวกับขุนเขาขนาดนี้
ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอกที่ข้าฆ่าท่านเป็นการส่วนตัว! เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ดังขึ้น จากนั้นเขาก็ละสายตาจากผู้อาวุโสหกที่โดนมือขนาดยักษ์กดทับอยู่ เขามองไปที่หยิงยู่และศิษย์นบร้อยของเก้าขุนเขา
ผู้อาวุโสสูงสุด
อะไรกัน?!
ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งกว่าท่านเทียนซิงเสียอีก?!
ทุกคนต่างมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ……………………………………..