Gate of God - ตอนที่ 812 หลอกง่าย
ปิงหยาง อยากจะพูดบางอย่าง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางเห็นใบหน้าที่จริงจังของ ฟาง เจิ้งจือ นางก็เงียบไป
บรรยากาศเงียบลงพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ดวงดาวเริ่มส่องประกาย
เวลาค่อยๆผ่านไป
แสงจันทร์สาดส่องลงมาจากท้องฟ้ากระทบร่างพวกเขาทั้งสองจนเกิดเงาสะท้อนบนพื้นดิน
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้ขัดจังหวะ ปิง หยาง แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน พวกเขาทั้งสองนั่งพิงกันและกัน จ้องมองแสงดาวบนท้องฟ้า
หลังจากฝนหยุดตกผืนหญ้าก็ชื้นเล็กน้อย แอ่งน้ำนองตามพื้นดิน กลิ่นดอกไม้ลอยคลุ้งชวนหลงใหล
หลังจากเวลาผ่านไปฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆหลับตาลง มือของเขาโอบร่างของ ปิง หยางและพิงก้อนหิน เขาเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบและกลิ่นที่น่าหลงใหล
ตาของปิง หยาง ค่อยๆปิดเช่นกัน ลมหายใจค่อยๆช้าลง
พวกเขาสองคนนอนบนฝืนหญ้าภายใต้แสงจันทร์และดวงที่สาดส่อง
เป็นค่ำคืนที่ไม่ได้ผ่านไปเร็วนักแต่ก็ไม่ช้าเกินไปเช่นกัน
ไม่มีความวุ่นวายไม่มีการต่อสู้ พวกเขาทั้งสองมองไปที่ใบหน้ากันและกัน
เมื่อดวงจันทร์ขึ้นสูงพอแสงของดวงดาวก็เริ่มจางลง แสงจันทร์ส่องสว่างไปทั่วฟ้า ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีทอง
ปิงหยาง วิญญาณน้ำแข็ง…. หา? เจ้าเป็นใคร? เจ้ากล้าดียังไงถึงเข้ามาที่หอคอยหลิงหยุน! เสียงดังมาจากทางทะเลสาบ
มันทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบของค่ำคืน
เสียงนั้นเป็นเสียงของหญิงสาวนอกจากนี้ ยังเป็นน้ำเสียงที่ดูตื่นตกใจ นางไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เห็นได้
ปิงหยาง พิงกายอยู่ข้างๆคนนอก คนที่น่าจะเป็นชายหนุ่ม ตั้งแต่ ปิง หยาง เขามาที่หอคอยหลิงหยุน เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อย่างไรก็ตามนางเห็นชายหนุ่มอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เขายังนอนพิงอยู่ข้างกายของนาง ดูเหมือนพวกเขากำลังหลับ
หึมเช้าแล้วหรือ ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น เขามองไปยังดวงอาทิต์บนท้องฟ้า และทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงใดๆทั้งสิ้น
อืมมม… ปิง หยาง ยังคงนอนอยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ นางไม่ได้ตื่นขึ้นในทันที นางค่อยๆลืมตาตื่นพร้อมกับพึมพำเล็กน้อย
วันนี้อากาศดีมากเลย ฟาง เจิ้งจือ พูดต่อ
ใช่ ปิง หยาง พยักหน้า
เจ้ากล้าดียังไง!เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าถามรึ?ปิง หยาง เจ้าเป็นแค่ทาส กล้าดียังไงถึงพาคนนอกเข้ามาที่หอคอยหลิงหยุน เจ้ารู้ไหมว่าทำอะไรลงไป? เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงดังไปแล้ว? ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ ปิง หยาง โดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่พูดแม้แต่น้อย
เราควรไปที่ไหน? ปิงหยาง ถาม
เจ้าไม่ได้ยินที่นางถามรึ? เจ้าเป็นทาส และข้าเป็นคนนอกที่เข้ามาที่นี่ ตามกฏของหอคอยหลิงหยุน ไม่มีที่ไหนให้เราหนีไปได้ ฟาง เจิ้งจือ พูดตามความจริง
หนีไม่ได้หรือ? เมื่อปิง หยาง ได้ยินเช่นนั้น นางก็ตกใจ จากนั้น นางก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ฮ่าฮ่าฮ่า …หนีไม่ได้ พวกเราหนีไม่ได้
เมื่อหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีเขียวเห็นภาพนี้นางเกิดความสงสัยและไม่อยากเชื่อ อย่างไรก็ตาม นางตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับเตรียมชักดาบออกมา ขอบคุณ ปิง หยาง พูดด้วยรอยยิ้ม ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางมีชีวิตขีวาอีกครั้งเมื่อได้มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ในดวงตาของเธอมีความแน่วแน่
ขอบคุณ?ขอบคุณข้าทำไม? ข้าละเมิดกฏของหอคอยหลิงหยุน ถ้าเกิดอะไรขึ้น ข้าสามารถช่วยตัวเองได้ ฟาง เจิ้งจือ พูดในขณะที่ส่ายหัวอย่างผ่อนคลาย
ข้ารู้ ปิง หยาง พูดพร้อมพยักหน้า
ไปกันเถอะ ฟาง เจิ้งจือ พูดในขณะที่ค่อยๆยืนขึ้น จากนั้น เขาก็บิดขี้เกียจเล็กน้อย ในขณะที่กำลังจะล้างหน้าด้วยน้ำจากทะเลสาบ
เขารู้ดีว่าปิง หยาง กังวลเรื่องอะไร ในขณะเดียวกันเขารู้ถึงสิ่งที่นางคาดหวังเช่นกัน เขาเข้าใจความขัดแย้งในใจของนางดี
เขาเลือกที่จะไม่พูดให้นางอุ่นใจสิ่งที่เขาทำเพียงแค่รอต่อไป
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นเมื่อคนจากหอคอยหลิงหยุนพบเขา สิ่งที่พวกเขาจะทำคือตั้งข้อหาอาชญากร ทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น
’ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ’
ในฐานะเซียนที่แข็งแกร่งข้าขอเตือนเจ้า ตอนนี้ข้าเป็นแค่ทาส แต่ข้าก็มีพลังที่แข็งแกร่งเช่นกัน! หลังจาก ปิง หยาง เห็น ฟาง เจิ้งจือ ทำเช่นนั้น ท่าทีของนางก็ผ่อนคลายกว่าเดิม
งั้นข้าควรหลบอยู่หลังเจ้าหรือ? ฟาง เจิ้งจือ ถามขึ้นมา
แน่นอน ปิง หยาง พูดอย่างมั่นใจ
ฮ่าฮ่าฮ่า…เจ้าต้องปกป้องข้า องค์หญิง! ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะในขณะที่เดินไปหาหญิงสาวทางทะเลสาบ
หญิงสาวคนนั้นตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
ไม่ใช่เพราะนางถูกมองข้ามแต่เพราะตอนนี้นางเห็น ปิง หยาง สวมชุดกระโปรงสีแดงที่ใหม่เอี่ยม ที่สำคัญไปกว่านั้น โซ่ที่ตรวนเท้าของนางเอาไว้… แตก!
มันแตก?!
สีหน้าของหญิงสาวคนนั้นซีดขาวเมื่อนางเห็น ฟาง เจิ้งจือ นางตกใจเกินกว่าที่จะสังเกตุความเปลี่ยนแปลงบนร่างของ ปิง หยาง
แต่ยังไม่หมดแค่นั้น…
นางปล่อยให้ฟาง เจิ้งจือ ได้ล้างหน้าจากน้ำที่ทะเลสาบได้ยังไง?
เจ้า… หญิงสาวคนนั้นมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง ที่กำลังเดินเข้ามา และทำให้นางล่าถอยไปสองก้าว จากนั้นนางก็ชักดาบออกมา
เจ้าจะฆ่าพวกเราที่นี่งั้นหรือ?ข้าไม่คิดว่าหอคอยหลิงหยุนจะทำเรื่องเช่นนั้นหรอก ใช่ไหม? เราควรมีกฎ ถ้าข้าไปกับเจ้า เจ้าจะพาเราเข้าไปในหอคอยและให้โอกาสเราได้อธิบายเสียหน่อยไหม? ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นในขณะที่มองไปยังหญิงสาว ที่กำลังตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด หยุดก่อน!เจ้า …เจ้าทำลาย …ตรวน …ตรวนเหล็กพันปีได้ยังไง? หญิงสาวชี้ดาบไปที่คอของ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยสีหน้าที่ซีดขาว
ตรวน?โอ้เข้าใจแล้ว เจ้าต้องการจับพวกเราใช่ไหม? ไม่มีปัญหา นั่นเพราะพวกเราทำผิดกฏของหอคอยหลิงหยุน จับพวกเราได้เลย! ฟาง เจิ้งจือ มองอย่างตกใจในขณะที่ยื่นแขนทั้งสองข้างออกมา
หญิงสาวหลบเลี่ยงด้วยใบหน้าที่ตกใจต้องเผชิญหน้ากับอาชญากรอย่าง ฟาง เจิ้งจือ นางไม่รู้ว่าต้องทำอะไร
ไม่ได้ต้องการจับพวกเราหรือ? ฟางเจิ้งจือ ถามในขณะที่ยืนอยู่ที่เดิม
ไม่ข้าจะทำ! หญิงสาวนิ่งไปชั่วขณะ แล้วรวบรวมสติอีกครั้ง นางกัดฟันและหยิบโซ่ตรวณสีขาวออกมา
ที่หอคอยหลิงหยุนนางไม่ได้มีตำแหน่งที่สูงมากนัก นางมีพลังไม่เท่า ปิง หยาง ด้วยซ้ำ ดังนั้น การจับ ฟาง เจิ้งจือ ได้จะเป็นประโยชน์ต่อนางมาก
ที่สำคัญกว่านั้นเมื่อนางจับ ฟาง เจิ้งจือ ได้ นางสามารถไปพูดกับศิษย์คนอื่นได้
จากนั้น…
ไม่มี’จากนั้น’!
ทันทีที่หญิงสาวเดินเข้าไปหาฟาง เจิ้งจือ และเตรียมจะล่ามโซ่ ฟาง เจิ้งจือ นางได้ยินเสียงบางอย่าง
จากนั้นดวงตาของนางก็เหลือกถลนนางไม่สามารเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นั่นเพราะ ฟาง เจิ้งจือ เคลื่อนไหวเร็วเกินไป
ไม่มีโอกาสให้นางทำอะไรเลย!
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น นางก็โซเซไปมา ก่อนที่โลกทั้งใบจะมืดลง นางล้มลงไปกับพื้น
ศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนก็หลอกง่ายเหมือนกับสำนักอื่น ฟาง เจิ้งจือ พูดในขณะที่โบกมือเล็กน้อยเขามองไปทาง ปิง หยาง และเผยรอยยิ้มออกมา ทำไมต้องทำร้ายนางด้วย? ปิงหยาง ไม่เข้าใจ
เจ้าจะบอกว่าข้าไม่ควรทำเหรอ?ฮ่าฮ่าฮ่า…เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้นางจับข้าไปเหรอ? ข้าไม่ยอมให้ชื่อเสียงต้องด่างพร้อยหรอกนะ ฟาง เจิ้งจือ พูดในขณะที่ยิ้มร่า
… ปากของ ปิง หยาง อยากจะขยับเล็กน้อย แต่นางก็ไม่ตอบโต้อะไร นั่นเพราะนางเชื่อในตัวเขาจริงๆ อย่างไรก็ตาม นางก็เริ่มหัวเราะออกมาเช่นกัน นางหัวเราะอย่างสดใสร่าเริง ราวกับว่าได้กลับไปที่เมืองหลวง ฮ่าฮ่า เจ้ายังไร้ยางอายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน!
ขอบคุณสำหรับคำชม! ปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกในขณะที่น้อมรับคำชมจากนาง จากนั้น เขาก็มองไปที่หอคอยหลิงหยุน และพูดขึ้น ลอบเข้าหอคอยหลิงหยุน ค้างคืนกับทาส และทำร้ายศิษย์ อืมม …ข้าคิดว่าคงต้องโทษประหารเลยล่ะ
ข้าจะไม่ขอความเมตตาเพื่อเจ้าหรอกนะ ปิง หยาง พูดพร้อมกับเผยยิ้ม เจ้าจะไม่ขอความเมตตาให้ข้าเหรอ?จิตใจของเจ้าช่างโหดร้ายนัก! ฟาง เจิ้งจือ พูดอย่างน่าเวทนา
แน่นอน!
งั้นข้าขอถาม ฝ่าบาท ท่านจะไปตายพร้อมกับข้าหรือไม่?
ข้า…จะไป!
…
หอคอยหลิงหยุนบนเนินเขาเล็กๆที่ห้อมล้อมไปด้วยดอกไม้นับร้อย เส้นทางเต็มไปด้วยหินเล็กๆ
ด้านหน้าหอคอยหลิงหยุนเป็นพื้นที่ไม่ใหญ่และไม่เล็ก ดอกไม้ยักษ์ห้าชนิดที่สามารถมองเห็นได้อยู่ภายในรั้วกั้น
แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบดอกอยู่ห้ากลีบแต่ละกลีบดอกมีสีที่ต่างกัน เป็นสีแดง น้ำเงิน ดำ ทอง และสีเขียว
ศิษย์ทั้งห้าคนของหอคอยหลิงหยุนผู้ที่สวมชุดสีเขียวหยก ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน แต่ละคนอยู่ประจำตามดอกไม้ทั้งห้า พวกเขาพกดาบที่เอว
และที่ด้านหน้าของเหล่าศิษย์มีร่างๆหนึ่งยืนอยู่ ร่างนั้นสวมชุดสีเทาขาวซึ่งต่างจากเหล่าศิษย์
จากรูปร่างเขาน่าจะเป็นผู้ชายวัยประมาณสามสิบ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเขาค่อนข้างตึงเครียด
ตอนนี้….
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและริมฝีปากซีดขาว
ศิษย์ทั้งห้าที่คอยคุ้มกันดอกไม้แน่นอนว่าพวกเขาเห็นชายคนนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครพูดอะไรแม้แต่น้อย
พวกเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม
ราวกับไม่มีใครเดินผ่าน
อย่างไรก็ตามชายคนนั้นยืนอยู่ด้านหน้าอย่างเงียบเชียบ เขากัดริมฝีปากอย่างกังวล ราวกับว่ารออะไรบางอย่างอยู่ เป็นฉากที่สงบแต่ก็ประหลาด
จนกระทั่ง…
มีร่างสองร่างปรากฎบนเส้นทางหินคนหนึ่งสวมชุดแดง คนหนึ่งสวมชุดน้ำเงิน พวกเขาค่อยๆเดินบนเส้นทาง พวกเขาหัวเราะร่าเริง ไม่ให้ความรู้สึกว่าอยู่ในหอคอยหลิงหยุน แต่เป็นเพียงสวนหย่อมด้านนอก
หึม? เหล่าศิษย์ที่คุ้มกันดอกไม้มองไปที่ร่างทั้งสอง และจับดาบทันที
แววตาของเหล่าศิษย์ส่องประกายเมื่อเห็นร่างทั้งสอง
และเมื่อเขาเห็นชัดว่าร่างสีแดงเป็นใครต่างก็เปลี่ยนเป็นความตกใจ
นั่นมันทาสที่ทะเลสาบ! หนึ่งในศิษย์จำปิง หยาง ได้ แม้จะไม่รู้ว่านางเป็นใคร
อย่างไรก็ตามครึ่งปีที่ผ่านมา มีทาสปรากฎตัวขึ้นที่ทะเลสาบ ในทุกๆวัน นางคอยเก็บน้ำแข็งให้หอคอยหลิงหยุน และเป็นที่รู้จักในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปครึ่งปีทุกคนก็ค่อยๆ ลืมนางไป รวมกับเรื่องที่ผู้นำของพวกเขาไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ชื่อของ ปิง หยาง มีเพียงคนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บน้ำแข็งที่จะรู้จักชื่อนาง
ตามปกติแล้วเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญ
ที่สำคัญก็คือทุกคนในหอคอยหลิงหยุนรู้ว่าทีขาของนางจะมีตรวนล่ามอยู่ ตรวนเหล็กพันปี
ทาสถูกปลดปล่อย?
ความคิดนี้วิ่งผ่านจิตใจของพวกเขาแต่ความคิดเหล่านี้ก็หายไปทันที
นั่นเพราะถ้านางได้รับการปลดปล่อยคนที่จะพาทาสไปต้องเป็นใครสักคนในหอคอยหลิงหยุน มันต้องไม่ใช่คนนอกที่อยู่ข้างๆนางตอนนี้
นอกจากนี้พวกเขารู้ว่าศิษย์ที่คอยส่งน้ำแข็งได้ออกไปแล้วนั่นหมายความว่า ปิง หยาง ไม่น่าจะถูกปล่อยตัวมาได้ ……………………………………..