Gate of God - ตอนที่ 822 3 ต่อ 5
มีคำกล่าวไว้ว่าเวลาผู้คนใกล้จะตายมักพูดสิ่งดีๆออกมา
หลินมู่ไป่ รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่โทษหอคอยหลิงหยุน ทั้งหมดที่เขาต้องการคือเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของตัวเอง
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ต้องการตาย เขาจึงไม่คิดว่าจะต้องสรรหาคำพูดดีๆมาพูด การที่จะจัดการกับหอคอยหลิงหยุนที่ชั่วร้ายได้นั้น เขาต้องใช้ความชั่วร้ายยิ่งกว่า
ฟางเจิ้งจือ เลือกใช้การดูถูกและยั่วโมโห
ฟางเจิ้งจือ ตัดสินใจตะโกนด่าออกไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
แน่นนอว่าผลลัพธ์คือ…
เมื่อฟาง เจิ้งจือ มองไปรอบๆเขาเห็นศิษย์หอคอยหลิงหยุนและคังเยว่ต่างยืนงงแน่นิ่ง
ดูเหมือนว่ามันจะได้ผล! จากนั้น…
การตอบสนองก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามมันไม่เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้
คนแรกที่แสดงความโกรธออกมาไม่ใช่ศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนหรือคังเยว่…
ในทางกลับกันหลิน มู่ไป่ กลับรู้สึกกระวันกระวายใจ ราวกับเขาถูกตบหน้าจังๆ ใบหน้าอันซีดขาวของเขากลายเป็นสีแดง
ฟางเจิ้งจือ เจ้ากล้าดูถูก…ดูถูกยู่เอ๋อร์ของข้า! หลิน มู่ไป่ โกรธมาก แต่เขาพยายามควบคุมตัวเอง
เจ้าสารเลวไร้ยางอายเจ้ากล้าว่าแม่ของข้าน่าเกลียดได้ยังไง?! ปิง หยาง โวยวายออกมาเช่นกัน
ฟางเจิ้งจือ พูดไม่ออก
เขาคิดว่าวิธีนี้จะสำเร็จแต่ไม่คิดว่ามันจะสำเร็จจากคนฝั่งเดียวกัน คนที่ควรแสดงความโกรธออกมากลับยังนิ่งเฉย มีอะไรผิดพลาด?
พวกนางไม่สนใจจะปกป้องชื่อเสียงของผู้คุมหอคอยงั้นหรือ?
บรรยากาศเริ่มน่าอึดอัด
แต่ขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิดว่าควรจะพูดต่อดีไหม เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
ฟางเจิ้งจือ เจ้ากล้าว่านายของข้าได้ยังไง?! เป็นเสียงของคังเยว่ที่บาดเจ็บสาหัส
ในขณะที่ศิษย์คนอื่นๆยังคงอ้าปากค้าง
มันทำให้ตาของฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าคำพูดของเขาไม่มีประสิทธิภาพแต่เหมือนคนจากหอคอยหลิงหยุนจะมีปฏิกริยาช้า
เขาควรจะยั่วยุต่อหรือไม่?
ฟางเจิ้งจือ ยังไม่ได้ตัดสินใจ เขาอยากจะเห็นปฎิกริยาทีมากกว่านี้ก่อน
ศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนยังคงพูดไม่ออกพวกเขายังคงมอง ฟาง เจิ้งจือ เงียบๆ
… ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าแก้มของเขาเริ่มร้อนขึ้นมา
มันหมายความว่าอะไรกัน
ศิษย์หอคอยหลิงหยุนไม่คิดจะปกป้องผู้นำของตัวเองหรือไงกัน?
ฟางเจิ้งจือ ไม่อยากจะเชื่อ เขาอยากจะลองอีกครั้ง
ยู่เอ๋อร์อกแบนไม่เพียงแต่หน้าตาน่าเกลียดเท่านั้น ดวงตาของท่านยังไม่เท่ากัน จมูกก็ใหญ่ ฟันก็ดำ….
ฟางเจิ้งจือ ร่ายยาวลักษณะผู้หญิงที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่เขาจะนึกได้
หลินมู่ไป่ รู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองพร้อมจะระเบิดออกมาแล้ว!
เจ้าเด็กสารเลวยู่เอ๋อร์คล้าย ปิง หยาง มาก โดยเฉพาะดวงตา นางไม่เหมือนสิ่งที่จ้าพูดออกมาแม้แต่น้อย!
แม่ของข้าไปทำอะไรให้เจ้ากัน? ปิงหยาง ไม่เข้าใจการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ในตอนนี้
เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
ข้าขอรองในนามของข้าพวกท่านทั้งห้าโปรดฆ่าเขาที!
มันไม่ใช่คำสั่งแต่เป็นคำขอ เห็นได้ชัดว่าสถานะของคังเยว่นั้นต่ำกว่าพวกนางทั้งห้า
พวกนางทั้งห้าพยักหน้าเบาๆก่อนจะหันไปมองหญิงในชุดขาวทั้งสองคน
หญิงในชุดขาวพยักหน้าอย่างรวดเร็วและไปยืนปกป้องคังเยว่จากด้านข้างทันที
ผู้หญิงทั้งห้าเริ่มเคลื่อนไหว
พวกเขาเดินไปหาฟาง เจิ้งจือ, ปิง หยาง และ หลิน มู่ไป่ จากนั้นก็ล้อมพวกเขาเอาไว้
ฟางเจิ้งจือ ต้องการจะด่าว่าต่อไป
อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจจะหยุดเพราะคนที่โกรธนั้นเป็นหลิน มู่ไป่ และ ปิง หยาง แทน ฟางเจิ้งจือ รู้สึกสับสนเล็กน้อยที่ทุกๆอย่างกลายเป็นแบบนี้
ทำไมศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนถึงไม่มีท่าทีอะไรแม้แต่น้อยหรือว่า ยู่เอ๋อร์ไม่ใช่ชื่อที่นางใช้ที่หอคอยหลิงหยุน?
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
หรือว่ายู่เอ๋อร์จะไม่ใช่ผู้คุมหอคอยหลิงหยุน?
ถ้าเป็นแบบนี้หมายความว่าสถานะของยู่เอ๋อร์ไม่ได้สูงอย่างที่เขาคิด
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหนสักแห่ง แต่เขายังหาไม่เจอ
เขามีเวลาไม่มากพอ
ผู้หญิงทั้งห้าคนได้ล้อมพวกเขาเอาไว้แล้ว
สามต่อห้าดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านชอบเท่าไรทำไมไม่ให้ข้าสู้กับพวกท่านทั้งห้าคนเลยล่ะ ทำไมไม่ปลอยฝ่าบาทและ ปิง หยาง ไป? ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะออกมา นายน้อยฟางพวกเราชื่นชมความมั่นใจของท่าน ตราบเท่าที่ ปิง หยาง ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว พวกเราจะให้ผู้คุมหอคอยของพวกเรารับมือกับนางเป็นการส่วนตัว! ผู้หญิงสวมชุดสีแดงที่มีผมขาวแซมเล็กน้อยยิ้มกลับให้ ฟาง เจิ้งจือ
ยู่เอ๋อร์เป็นปีศาจนมแบน! ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า เขาหันไปหาหอคอยหลิงหยุนและตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง
… เมื่อพวกนางทั้งห้าได้ยิน พวกนางมองหน้ากันด้วยท่าทีแปลกๆ
พวกนางไม่คิดจะยืนนิ่งอีกต่อไป
พวกเขาไม่คิดจะล้อเล่นกับฟาง เจิ้งจือ อีก
ครืน!
หน่อต้นไม้สีเขียวปรากฎขึ้นล้อมรอบตัวฟาง เจิ้งจือ ด้วยความรวดเร็วในทันที
มันส่องแสงสีเขียวออกมาพวกมันดูเหมือนหยกชิ้นเล็กที่แปะอยู่บนกิ่งไม้ สิ่งสวยงามมักจะเป็นอันตรายแม้ต้นไม้สีเขียวนั้นจะดูไม่ได้เป็นอันตราย แต่หยกสีเขียวนั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก
ในช่วงเวลาเล็กๆรอยแตกนับพันปรากฎขึ้นชุดเกราะสีดำของฟาง เจิ้งจือ
โอ้?่ไม่เลว! ฟาง เจิ้งจือ ตรวจสอบรอยแตกรอบชุดเกราะของเขา และมองไปที่ผู้หญิงห้าคนตรงหน้าที่มีแสงสีเขียวปรากฎอยู่รอบตัวเช่นกน รอยยิ้มของ ฟาง เจิ้งจือ กว้างขึ้นทันที
เห็นได้ชัดว่าพวกนางใช้วิชาคล้ายๆกับค่ายกลไผ่หยกแต่ผลกระทบที่ได้นั้นต่างออกไปสิ้นเชิง
แม้แต่การต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงสุดของเก้าขุนเขายังไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้แก่ชุดเกราะของเขาได้แม้แต่น้อย
นายน้อยฟางที่มือท่านก็ไม่ได้แย่เลยแม้แต่น้อย! ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงกลางตอบกลับพร้อมยิ้ม มันเป็นการต่อสู้กันด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตามจิตสังหารกลับแผ่ออกมาจากทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน
เสียงเพลิงสีดำของฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังพยายามต่อต้านแสงสีเขียวดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แสงสีเขียวกำลังได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด
ปิงหยาง กำหมัดแน่น
แม้นางจะยืนอยู่ข้างๆหลิน มู่ไป่ แต่นางกลับรู้สึกหายใจติดขัด บรรยากาศรอบๆอึดอัดมากเกินไป
หนึ่งต่อห้า!เจ้าไร้ยางอายจะชนะไหม? ปิง หยาง กังวลแต่นางก็ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างได้ สายตาของ ฟาง เจิ้งจือ บอกว่าทุกอย่างไม่เป็นไร
ทันทีที่ฟาง เจิ้งจือ เห็นสายตาของ ปิง หยาง ไฟสีดำที่ต่อต้านแสงสีเขียวได้หายไป
ในพริบตาต้นไม้สีเขียวได้แทงเข้าไปในร่างฟาง เจิ้งจือ และกลืนกินร่างของไว้ทั้งหมด
มันเกิดขึ้นเร็วมากแม้แต่ผู้หญิงทั้งห้าคนก็ตกตะลึง
ทำไมอยู่ดีๆเขาถึงอ่อนแอขึ้นมา? คังเยว่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นางรู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้อ่อนแอ
เกิดอะไรขึ้น?
เขาพลังหมดอย่างกระทันหันหรือไงกัน?
มันไม่ถูกต้องจากสิ่งที่พวกเรารู้…เขาไม่น่าเพลี่ยงพล้ำในระยะเวลาอันสั้น
ผู้หญิงทั้งห้าตกตะลึงพวกนางไม่ได้ไร้เดียงสา
ครืน!
ขณะที่ทุกคนกำลังสับสนแสงสีเขียวได้แตกระจายออกอย่างสมบูรณ์
หยกสีเขียวที่ทิ่มเข้าไปในชุดเกราะของฟาง เจิ้งจือ ก็หายไปเช่นกัน แม้แต่ร้อยแตกบนชุดเกราะของฟาง เจิ้งจือ ก็หายไป
ไม่ใช่ว่าพวกท่านอ่อนแอแต่เต๋าของพวกท่านไม่สามารถต่อต้านการควบคุมของข้าได้ พวกท่านเป็นคนฉลาดและย่อมเข้าใจสิ่งที่ข้าพูด ยอมแพ้ซะเพราะการโจมตีของพวกท่านไม่สามารถทำอะไรข้าได้!
ฟางเจิ้งจือ กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
……………………………………..