Gate of God - ตอนที่ 829 ร้องเพลง
ยิ่งไปกว่านั้นการที่ฟาง เจิ้งจือ แข็งแกร่งขึ้นนั้นจะเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นบนโลกหรือไม่?
เพราะเมื่อสองเดือนที่แล้วแม้ฟาง เจิ้งจือ จะเก่งกาจ แต่เขายังไม่สามารถคุกคามทั้งห้าสำนักได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปเขากลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด มันจะเป็นไปได้งั้นหรือ?
นี่มันไม่น่าเชื่อแม้แต่น้อย!
ยิ่งเชื่อมโยงกับการที่สัตว์อสูรแข็งแกร่งขึ้นการที่ ฟาง เจิ้งจือ แข็งแกร่งขึ้นก็อาจจะเกี่ยวข้องกัน
เหล่าศิษย์ต่างมองหน้ากันพวกเขากำลังคิดแบบเดียวกัน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เริ่มกันเถอะ! ผู้หญิงแปดคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดพูด พร้อมกับชี้ดาบไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
แสงเปล่งออกมาในทันที
มันเป็นแสงสีเหลีองเข้มมันแผ่กระจายไปทั่วราวกับพายุ
มันเป็นภาพที่น่าทึ่ง
อย่างน้อยที่สุดก็สำหรับปิง หยาง และหลิน มู่ไป่
ฟางเจิ้งจือ จ้องเขม็งไปที่การเปลี่ยนแปลงรอบๆ
เขาสามารถบอกได้ว่าแสงที่เกิดขึ้นนั้นมาจากคำสั่งจากศิษย์คนนึ่งไปยังศิษย์อีกคนหนึ่ง
เริ่มต้นจากผู้หญิงด้านหน้าทั้งแปดคนแสงค่อยๆปรากฎขึ้นด้านหลัง ไม่นานศิษย์ที่งหมดก็เปล่งแสงสีเหลืองออกมา
หลังจากนั้นฟาง เจิ้งจือ ก็รู้สึกกดดันอย่างมาก พายุทรายได้ล้อมร่างกายของเขาเอาไว้
ตูม! พื้นดินทั้งหมดสั่นสะเทือนจากพลังเต๋าที่เกิดจากการผสานเต๋าของศิษย์สองร้อยคน มันทรงพลังกว่าครั้งก่อนๆที่ ฟาง เจิ้งจือ เคยเจอ
เป็นไปได้จริงๆงั้นหรือที่ศิษย์สองร้อยคนจะใช้เต๋าแบบเดียวกัน? ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุก
มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
เขาสามารถเข้าใจเต๋าได้อย่างรวดเร็วแต่ศิษย์พวกนี้จะมีความสามารถเหมือนเขาทุกคนเลยหรือไง? หากเป็นเช่นนั้นโลกคงตกอยู่ในความวุ่นวายแล้ว
มันต้องมีเหตุผลบางอย่าง
ศิลาเซียนมีทั้งหมดสามสิบหกชิ้นอยู่ที่ฟาง เจิ้งจือ ยี่สิบสามชิ้น แม้พวกนางจะมีศิลาเซียนที่เหลือ พวกนางก็ไม่สามารถทำความเข้าใจเต๋าได้ทั้งหมด ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะพายุทรายกำลังพุ่งมาที่เขา
พายุทราย?ง่ายมาก! ฟาง เจิ้งจือ เรียกแสงสีเหลืองขึ้นมาบนร่างกายเช่นกัน ก่อนที่ร่างกายของเขาจะผสานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพายุทราย
อะไรนะ?!
เขาทำได้จริงๆหรือ?!
มันรวดเร็วมากเป็นไปได้ไหมที่เขาจะเชี่ยวชาญเต๋าทั้งหมด?
เป็นไปไม่ได้เขาคงโชคดีเท่านั้น!
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นกับตาแต่ก็อดไม่ได้ที่พวกเขาจะตกตะลึง ฟาง เจิ้งจือ ใช้เต๋าแบบเดียวกับพวกนางเพื่อลบล้างการโจมตีจากพายุทราย
ในขณะเดียวกันเฉียนยี่ก็จ้องมองที่ฟาง เจิ้งจือ เพื่อหาความลับของเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามในที่สุดนางก็ผิดหวัง
เพราะฟาง เจิ้งจือ ลงมือเร็วเกินไป เมื่อแสงสีเหลืองปรากฎขึ้น ร่างของเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพายุแล้ว
ต่อไป! ศิษย์เคลื่อนไหวอีกครั้ง จุดแสงสีม่วงปรากฎขึ้นท่ามกลางแสงสีเหลือง
แสงสีม่วงมาจากลูกศิษย์ที่ด้านหน้ามันเป็นประกายไฟฟ้าและกระจายออกไปยังศิษย์คนอื่นด้วยความรวดเร็ว
ในพริบตาแสงสีเหลืองก็กลายเป็นแสงสีม่วงทั้งหมดล้อมรอบด้วยสายฟ้า
เมฆสีดำลอยไปทั่วท้องฟ้าปลดปล่อยสายฟ้าลงมา
นี่คือความหมายของประโยคที่ว่าผู้หญิงนั้นเปลี่ยนอารมณ์เร็วสินะมันเร็วมาก แต่น่าเสียดาย…ข้าก็เร็วไม่แพ้กัน! ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มจ้องมองสายฟ้าที่เข้าโจมตีเขา
ตูม!
เปลวไฟสีม่วงสว่างขึ้นบนร่างของฟาง เจิ้งจือ สายฟ้าไม่สามารถทำอะไรเขาได้
…
… ศิษย์หอคอยหลิงหยุนต่างพูดไม่ออกเหตุผลที่พวกเขาใช้เต๋าสายฟ้าเพราะพวกมันรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม… ดูเหมือนว่า ฟาง เจิ้งจือ จะรวดเร็วและทรงพลังพอๆกัน
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?!
มันไม่ได้ผล…เขาไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย…
ศิษย์ทุกคนตกอยู่ในความโง่งม
อย่างไรก็ตามในเมื่อการทดสอบได้เริ่มขึ้นพวกนางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำต่อไป
ต่อไป! เสียงคำสั่งดังขึ้นอีกครั้ง
เหมือนก่อนหน้านี้แสงสีฟ้าน้ำทะเลได้ปรากกฎขึ้น พร้อมกับคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่
แต่…มันก็ไร้ประโยชน์
ฟางเจิ้งจือ สามารถผสานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นลูกนั้นได้อย่างรวดเร็ว!
ไม่ว่าพวกนางจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางทำอะไรฟาง เจิ้งจือ ได้
…
หลังจากผ่านไปหลายเต๋าศิษย์ทุกคนเริ่มหมดหวัง ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ ยืนยิ้มอยู่เหมือนเดิม
แม้ว่าพวกนางจะอ่อนแอกว่าฟาง เจิ้งจือ แต่ ด้วยจำนวนสองร้อยคนร่วมมือกันกลับเอาชนะ ฟาง เจิ้งจือ คนเดียวไม่ได้?
ต่อไป! เหล่าศิษย์ยังคงกัดฟันและพยายามต่อไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามมันไร้ประโยชน์ ไม่มีใครคาดคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ที่มีอายุเพียงสิบแปดปี จะเชี่ยวชาญเต๋ากว่าสองพันเต๋า
ไม่ว่าพวกเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่มีทางทำอะไรข้าได้! ฟาง เจิ้งจือ ยืนนิ่ง ขณะที่ชุดของเขาโบกสะบัดไปตามสายลม
เขาเป็นเหมือนเรือลำเล็กล่องลอยอยู่ในพายุแต่ไม่ว่าพายุจะรุนแรงแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางพลิกคว่ำ
เจ้าเด็กนี่… หลิน มู่ไป่ เบิกตากว้าง เขาจ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ จนลืมอาการบาดเจ็บของตัวเอง
เขากลัวสิ่งตรงหน้าจริงๆเขาหวังว่า ฟาง เจิ้งจือ จะผ่านการทดสอบได้ แต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับทำราวกับทุกอย่างตรงหน้าเป็นเรื่องง่ายดาย
เรื่องแบบนี้มีอยู่บนโลกด้วยงั้นรึ? ในฐานะองค์จักรพรรดิเขาย่อมพบเจออัจฉริยะมามากมาย แต่เขาไม่เคยเจอใครแข็งแกร่งเท่า ฟาง เจิ้งจือ มาก่อน
เห้อ..ถ้าข้ามีความสามารถแบบนี้บ้างข้าคงไม่ต้องรอขนาดนี้!
ท่านพ่อ?ท่านเป็นอะไรไหม? ขณะที่ หลิน มู่ไป่ กำลังจมอยู่ในความคิด เสียงของ ปิง หยาง ก็ดังขึ้น ่
ไม่…ไม่มีอะไร…ข้าแค่..อิจฉาเท่านั้น… ในฐานะองค์จักรพรรดิเขารู้สึกลำบากที่จะพูดมันออกมาอย่างไรก็ตามเขาก็ตัดสินใจพูดออกมาให้ ปิง หยาง ฟัง
อิจฉา? ปิง หยาง กระพริบตาด้วยความสงสับ
ใช่ข้าอิจฉาเจ้าเด็กนั่น! หลิน มู่ไม่ ชี้ไปที่ ฟาง เจิ้งจื
ที่จริงข้าก็อิจฉาเขาเช่นกันแม้เขาจะเกิดในครอบครับธรรมดา แต่เขาได้อยู่กับพ่อและแม่ของตัวเองตั้งแต่เด็ก ดีจริงๆ..
ปิงหยาง เชื่อในตัวข้า แม่ของเจ้านั้นยอดเยี่ยมมาก นางเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดที่ข้าเคยพบ ! หลิน มู่ไป่ พูดพร้อมลูบหัว ปิง หยาง
จริงหรือ?
แน่นอน!
ปิงหยาง เชื่อท่านพ่อ! ที่ขอบตาของนางมีน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อย จากนั้นนางก็หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความหวังอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามศิษย์หอคอยหลิงหยุนและคังเยว่ต่างเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
สิ้นหวังอย่างแท้จริง!
พวกเขาเปลี่ยนเต๋าไปกว่าร้อยครั้งแล้วแต่ ฟาง เจิ้งจือ ยังคงไม่ได้รับผลกระทบอะไร
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังแสดงความคิดเห็นออกมาด้วย
ปล่อยพายุให้แรงๆกว่านี้สิ!
เร็วขึ้น!พวกเจ้าทำได้แค่นี้หรอ? ข้าเบื่อที่จะรอแล้ว!
ทำไมพวกเจ้าอ่อนแอจัง?พวกเจ้าช่วยทำให้ข้ารู้สึกว่ามันยากขึ้นหน่อยได้ไหม? ทำไมพวกเจ้าไม่ใช้เต๋าขั้นสูงล่ะ? หรือว่าพวกเจ้าไม่รู้จักมัน?!
อย่ายอมแพ้!แม้ว่าพวกเจ้าจะเอาชนะข้าในตอนี้ไม่ได้ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่!
…
แม้ว่าเหล่าศิษย์อยากจะตอบโต้แต่พวกนางไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี แน่นอนเหตุผลสำคัญที่สุดคือพวกนางต้องการสมาธิ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะใช้เต๋าแบบเดียวกันทุกคน
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ กลับไม่สะทกสะท้าน เขาเริ่มร้องเพลงออกมา
ข้าเป็นแค่นกตัวเล็กๆเล็กๆ เล็กๆ ข้าอยากจะบิน บิน บินไป ข้ากำลังค้นหารังที่อบอุ่น ข้ากำลังค้นหา…
อั้ก! ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังร้องเพลงอยู่นั่นเอง ศิษย์คนหนึ่งได้กระอักเลือดออกมา ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องราวกับถูกมีดแทง
เจ้าล้อข้าเล่นหรอ?แค่การร้องเพลงจะไปฆ่าคนได้ยังไง? ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังศิษย์ที่ล้มลงกับพื้นด้วยความสงสัย
……………………………………..