Gate of God - ตอนที่ 830 หาความจริง
ฟางเจิ้งจือ พบศิษย์ชุดเขียวคนหนึ่งล้มลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว ชุดของนางเต็มไปด้วยเลือด เห็นได้ชัดว่านางบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนใกล้ตาย
แค่ข้าร้องเพลงก็สามารถฆ่านางได้แล้วงั้นหรือ? ฟาง เจิ้งจือ ตกใจมาก ราวกับเขาได้ก้าวเข้าสู่โลกใหม่
หากเขารู้ว่าเพลงสามารถฆ่าหอคอยหลิงหยุนได้ทุกอย่างคงง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกสับสน…เพราะเขาไม่เข้าใจว่าเพลงเพราะๆจะฆ่าคนได้ยังไง
เขาไม่ได้ไร้เดียงสาเชื่อว่าแค่เพลงก็พอที่จะฆ่าคนได้
อย่างไรก็ตามเหล่าศิษย์ดูเหมือนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในความเป็นจริงมีศิษย์อีกหลายคนที่มีใบหน้าซีดขาว
อั้ก! ศิษย์อีกคนหนึ่งล้มลงกับพื้น อีกคนหนึ่งแล้วงั้นรึ? ฟาง เจิ้งจือ กระพริบตา มันแปลกมาก!
เกิดอะไรขึ้น?
เพลงที่ข้าร้องมันแย่ขนาดนั้นเลยงั้นหรือ?
เป็นไปไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือ มั่นใจในเสียงของตัวเองมาก แม้ว่าความสามารถในด้านศิลปะของเขาจะด้อยกว่า หยุนชิงวู อยู่ก็ตาม
แต่ความจริงก็คือ…มีคนตายจริงๆ!
ข้างหน้าเขาอีกสามคนกำลังจะล้มลงไปที่พื้นมันทำให้ ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกกระอักกระอวนมาก
เดี๋ยวก่อน!
อาจเป็น… คลื่นเสียงงั้นหรือ?!
ฟางเจิ้งจือ พยายามคาดเดา
แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้
โลกก่อนของเขามีการสอนฟิสิกส์ที่มีการอธิบายเกี่ยวกับคลื่นเสียง
แต่ความจริงก็ย่อมขึ้นอยู่กับผลลัพธ์
เขาต้องทดลองซ้ำอีกครั้ง
ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิด เหล่าศิษย์เริ่มพูดบางอย่างออกมา
จงตั้งสมาธิ!
สงบจิตใจและหายใจให้เป็นจังหวะ!
อย่าฟังเรื่องไร้สาระอย่าตกหลุมพรางของเขา!
หลังจากเสียงเตือนดังขึ้นศิษย์บางคนที่หน้าซีดขาวก็กลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง
หลังจากนั้นแสงสีขาวก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง ต่อไป!
วูบ
แสงสีข่าวแผ่กระจายครอบคลุมทุกคนในทันที
โย่?พวกเจ้าเปลี่ยนเต๋าแล้วหรือ? งั้นทำตามจังหวะของข้า พวกเราจะเปลี่ยนไปด้วยกัน! ฟาง เจิ้งจือ โพล่งออกมาโดยไม่ต้องคิด
แม้เขาจะไม่เชื่อว่าการร้องเพลงจะฆ่าคนได้แต่สาเหตุที่พวกนางบาดเจ็บ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพลงของเขาแน่นอน
ดังนั้น…เขาจะร้องเพลงต่อไป!
ช่างมันช่างมัน พวกเราช่างมัน! ลา ล้า ล้า… พวกเจาทำตามจังหวะของข้าสิ ดูมือข้า… ฟาง เจิ้งจือ ไม่ลืมที่จะส่ายเอวเล็กน้อยขณะร้องเพลงไปด้วย
แน่นอนเขาไม่ลืมที่จะถือไม้เพื่อควบคุมจังหวะ
อย่างไรก็ตามแสงสีขาวดูเหมือนกำลังสั่นไหว ราวกับงูเผือกกำลังร่ายรำ
อั้ก! ศิษย์คนหนึ่งกระอั่กเลือดออกมาและล้มลงไปเหมือนกับสองคนก่อนหน้านี้
เพียงแต่ไม่มีเลือดที่ริมปากเหมือนกับศิษย์คนก่อนเท่านั้นสีหน้าของนางซีดขาวและตัวแข็งค้าง
ข้าคิดเช่นนั้น! ฟางเจิ้งจือ ไม่สนใจว่านางจะตายยังไง เขาคิดว่ามันเป็นเวลาที่ดีในการร้องเพลงและเต้นรำ
ความเจ็บปวดทรมานของบรรพบุรุษสอนเราว่าผู้ที่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงจะถูกทำลายในที่สุด
ดังนั้นทุกๆความทะเยอทะยานของมนุษย์ได้สร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา
แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ ยังเป็นเด็กหนุ่ม เขาจึงตัดสินใจร้องเพลงอย่างมีจังหวะ
เขาเลือกร้องเพลงเก่าในโลกก่อนหน้า
เขาเริ่มเปล่งเสียงร้องออกมา!
โอ้…โอ้เย ชึบ …ชึบ ชึบ ชึบ …ชึบ ชึบ
…
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าเป็นศูนย์กลางความสนใจในขณะที่เริ่มเปล่งเสียง
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเหล่าศิษย์กว่าครึ่งเปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะร้องไปได้ครึ่งเพลง ฟางเจิ้งจือ คาดว่าเพลงนี้คงจะส่งผลร้ายแรง แต่ผลที่เกิดขึ้นมาเหนือความคาดหมายของเขา
อย่าไปสนใจเพลง!สงบใจไว้!
สงบใจสงบ!!
พยายามอย่าให้เสียงของเขาเข้ามาในจิตใจได้ลอง…
อั้ก!
ในขณะที่ศิษย์ที่ยืนอยู่แถวหน้าตะโกนพวกเขาก็ได้ยินเสียงกระอั่กเลือดอีกครั้ง
หลังจากนั้นศิษย์คนอื่นก็เริ่มพ่นเลือดออกมาตามๆกัน
นั่นเพราะฟาง เจิ้งจือ ไม่หยุดร้องเพลง ความจริงแล้ว ด้วยเสียงของเขาสามารถเอาชนะศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนลงได้
อั้ก!
อั้ก!
… สีหน้าของเหล่าศิษย์เริ่มเป็นสีเขียวก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นสีหน้าซีดขาวตัวแข็งค้าง ทุกคนได้รับบาดเจ็บตามๆกัน
นี่มันอะไรกัน…เขาทำอะไร? ดวงตาของ หลิน มู่ไป่ เกือบถลนออกจากเบ้า เมื่อได้เห็นภาพของเหล่าศิษย์ล้มลงกับพื้น
เขาไม่เคยตกตะลึงเช่นนี้มาก่อนเขาเริ่มสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
ทำไมเขาไม่เป็นอะไรเลย?
หลินมู่ไป่ รู้ถึงการโจมตีด้วยเสียง แต่นั้นควรจะเป็นการโจมตีคนทั้งหมด มากกว่าการโจมตีที่ละเป้าหมาย คนรอบข้างไม่สามารถรอดพ้นการโจมตีด้วยเสียงไปได้
พูดอีกอย่างคือ…ถ้า ฟาง เจิ้งจือ โจมตีพวกเขาด้วยเสียง หลิน มู่ไป่ และ ปิง หยาง เองก็ควรจะถูกโจมตีด้วย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
แต่ถ้าไม่ใช่การโจมตีด้วยเสียงทำไมเหล่าศิษย์ถึงล้มลงกับพื้น ? ยิ่งไปกว่านั้นนั่นมันเพลงอะไรกัน?!
ในฐานะจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยเขาเคยฟังเพลงทุกเพลงบนโลกใบนี้ อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้วเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ ร้องเพลงนั้นออกมา
ท่านพ่อจะมีใครไร้ยางอายได้เท่า ฟาง เจิ้งจือ อีกไหม? สีหน้าของ ปิง หยาง เปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
ไม่อย่างแน่นอน!
ท่านแน่ใจใช่ไหม?
แน่นอนพ่อของเจ้าอาจจะไม่มั่นใจเรื่องอื่น แต่ในเรื่องข้ามั่นใจเรื่องนี้อย่างแน่นอน! หลิน มู่ไป่ พยักหน้ารับในขณะที่พูด
…
ในที่สุดเพลงก็จบลง
สีหน้าของเฉียนยี่ดำมืดอย่างเห็นได้ชัด
ความจริงแล้วตั้งแต่นางนางได้เป็นผู้คุมหอคอยหลิงหยุน นางไม่เคยมีสีหน้าเช่นนี้มาก่อน ช่างน่างแปลกที่นางไม่หยุดการทดสอบ เห็นได้ชัดว่ามันกำลังส่งผลไม่ดีต่อหอคอยหลิงหยุน นางยังคงกัดฟันแน่นและดำเนินการต่อไป
ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังเล่นสนุกกับการทดสอบ
เขาฆ่าศิษย์ไปกว่ายี่สิบคนแล้วเพียงแค่การร้องเพลงเขาจึงสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาร้องเพลงอื่นต่อ
ฟางเจิ้งจือ อยากรู้เรื่องนั้น เขาจึงร้องออกมา
ข้าคือราชาวานร…ข้าคือราชาวานร … ข้าอาศัยอยู่ในภูเขาแห่งดอกไม้และผลไม้ ข้าพบทอง …ไม้ตะบองทอง …และข้ารักมัน รักมัน รักมัน …
เสียงเพลงมาพร้อมด้วยท่าทางมากมายฟาง เจิ้งจือ ไม่อายแม้แต่น้อยที่จะแสดงท่าทางต่างๆออกมา เขาอยู่ในโลกของตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามเหล่าศิษย์หอคอยหลิงหยุนไม่สามารถเข้าถึงเพลงได้เลย แม้ ฟาง เจิ้งจือ จะทำดีที่สุดแล้ว พวกเขาก็ไม่เข้าใจเนื้อหาสำคัญของเพลงได้เลย
ดังนั้นผลลัพธ์จึงชัดเจน
เหล่าศิษย์เริ่มทรุดตัวลงอีกครั้งพร้อมกับตัวแข็งค้างและสีหน้าซีดขาว
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ความรู้สึกของพวกนาง ความจริงแล้ว เมื่อเขามาที่หอคอยหลิงหยุน เขารู้สึกว่าเหล่าศิษย์ของที่นี่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง
และเพราะแบบนั้นทำไมพวกนางถึงอ่อนไหวต่อเสียงเพลงของเขา?
เสียงเป็นสาเหตุจริงหรือ?
ฟางเจิ้งจือ เชื่อว่ามันเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่ามันเป็นส่วนน้อยเท่านั้น
นั่นเพราะในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าศิษย์ที่ล้มอยู่บนพื้นมีอาการต่างกันออกไป
บางคนเลือดไหลราวกับถูกแทงในขณะที่บางคนตัวแข็งค้างไป
…บางคนถูกฟ้าผ่าถูกเผา หรือสลบไป การบาดเจ็บที่ต่างกันไปมากมาย และดูเหมือนมันจะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เกิดขึ้น
ถ้าเสียงเป็นสาเหตุที่แท้จริงทำไมพวกเขาถึงได้รับบาดเจ็บไม่เหมือนกัน
ฟางเจิ้งจือ ยังคงสับสน ดังนั้นเขาจึงจ้องไปที่เหล่าศิษย์ ในขณะที่ยังร้องเพลงต่อไป
จากนั้นก็สังเกตุเห็นบางสิ่ง
นั่นแหละ! ฟางเจิ้งจือ ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเกือบจะทันที นั่นเพราะอาการบาดเจ็บของศิษย์ที่ล้มลงเกี่ยวกับเต๋าที่พวกเขาใช้
เพื่อให้เขาใจง่ายขึ้นดูเหมือว่าศิษย์จะไม่ได้รับบาดเจ็บจากเสียงของ ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าพวกนางจะได้รับบาดเจ็บจากเต๋าของตัวเอง
พวกเขากำลังฆ่าตัวตายงั้นเหรอ? ฟางเจิ้งจือ ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บของศิษย์เกี่ยวข้องกับเต๋าของพวกนางอย่างแน่นอน
ถ้าใช้วิชาเต๋าเพลิงศิษย์คนนั้นจะล้มลงเพราะถูกเผา ถ้าใช้เต๋าน้ำหรือเต๋าน้ำแข็ง พวกนางจะล้มลงตัวแข็งค้างหรือเปียกโชก
นั่นมันแปลก
พวกนางทำร้ายตัวเองงั้นหรือ?ไม่น่าจะเป็นไปได้
มันอาจจะเกิดขึ้นกับคนๆหนึ่งได้แต่มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะเกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่ามีคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ และคำตอบนั้นจะสามารถอธิบายได้ว่าศิษย์หอคอยหลิงหยุนใช้เต๋าแบบเดียวกันได้ยังไง
อย่างไรก็ตามมันคืออะไรกัน?
ถ้าเสียงไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงทำไมการที่เขาร้องเพลงถึงสามารถทำร้ายเหล่าศิษย์ได้เช่นนี้? อะไรคือเหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้พวกเขาล้มลงกับพื้น
เดี๋ยวก่อน!
มันไม่ใช่เพราะเพลงของข้า!
ฟางเจิ้งจือ นึกบางอย่างออก เขาจำได้ว่าท่าทีของเหล่าศิษย์เปลี่ยนไปก่อนที่เขาจะเริ่มร้องเพลง มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เขาเริ่มพูดเรื่องไร้สาระออกมา
อย่างไรก็ตามเรื่องไร้สาระที่พูดดูเหมือนจะส่งผลรุนแรงไม่เท่ากับการร้องเพลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขามองข้ามประสิทธิภาพของมัน
……………………………………..