Gate of God - ตอนที่ 839 จะไม่กลับไปมือเปล่า
ต้นกำเนิดอะไรที่สามารถรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันได้? ฟาง เจิ้งจือ กำลังพิจรณาทุกๆอย่างที่จะเป็นไปได้
เดี๋ยวก่อน!
หากมีต้นกำเนิดที่สามารถหลอมรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์เหมือนโลกแห่งความจริงมันต้องเป็น…ธรรมชาติ!
เต๋าที่เลียนแบบกฎของธรรมชาติ!
มันมาจากแนวคิดปรัชญาหนึ่งที่บอกว่าเต๋านั้นเป็นภาพสะท้อนของธรรมชาติ
มนุษย์เลียนแบบโลกโลกเลียนแบบสวรรค์สวรรค์เลียนแบบเต๋าและเลียนแบบกฎของธรรมชาติ
ประโยคนี้สรุปและอธิบายว่ามนุษย์สวรรค์ โลกและจักรวาลทำงานอย่างไร
ข้าเข้าใจแล้ววิธีทำงานของมัน! ฟาง เจิ้งจือ เบิกตากว้างพร้อมหันไปมองรอบๆ ธรรมชาติเป็นจุดกำเนิดของโลกในภาพภูเขาและแม่น้ำ
ตราบใดที่มันยังอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติทุกอย่างก็จะถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นภูเขาน้ำ ต้นไม้ ดอกไม้แม้กระทั่งการเคลื่อนไหว ความสงบและทุกๆอย่าง
เต๋าแห่งธรรมชาติ!ข้าไม่คิดเลยว่าเฉียนยี่จะเชี่ยวชาญเต๋าแห่งธรรมชาติ! ฟาง เจิ้งจือ อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เพราะเต๋าแห่งธรรมชาตินั้นถูกเรียกว่าเป็นตัวแทนของเต๋าแห่งการสวรรค์สร้าง เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนเชี่ยวชาญมันจริงๆ
…
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ณ หอคอยหลิงหยุน
ในขณะที่ปิงหยางและ ฟาง เจิ้งจือ กำลังดิ้นรนอยู่ในภาพภูเขาและแม่น้ำ ศิษย์หอคอยหลิงหยุนต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น?
ใช่เขาพุ่งเข้าใส่พวกเรา เขาอาจจะเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดในแดนศักดิ์สิทธิ์!
น่าเสียดายที่เขาต้องตายเพราะความจองหองของเขา!
ศิษย์ทุกคนต่างพูดคุยกันเอง
อย่างไรก็ตามการสนทนาของพวกเขาทำให้หลินมู่ไป่รู้สึกราวกับมีกระดูกติดคอ
ปิง…ปิงหยาง… หลินมู่ไป่กระอักเลือดออกมา จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้น
หลินมู่ไป่ดูน่าสมเพชมากราวกับเขาแก่ชราลงหลายสิบปีร่างของเขาสั่นไม่หยุด
แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ละสายตาจากเฉียนยี่เพราะตอนนี้ในมือของนางกำลังถือบอลน้ำขนาดเท่ากับความสูงคนคนหนึ่งอยู่
ฟางเจิ้งจือ และปิงหยางนั้นอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่อยู่ในลูกบอลน้ำนั้น
หลินมู่ไป่เนื่องจากเจ้าเป็นจักรพรรดิข้าไม่คิดจะฆ่าเจ้าเพราะมันจะทำลายสมดุลของโลก ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่ข้าไม่สามารถให้อภัยเจ้าได้ที่ทำร้ายศิษย์หอคอยหลิงหยุน ข้าต้องการให้เจ้าสาบานว่าจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับหอคอยหลิงหยุนอีก และชดใช้เป็นเงินให้กับหอคอยหลิงหยุนเป็นเวลาสิบปี เจ้ามีข้อคัดค้านอีกหรือไม่? เฉียนยี่เหลือบไปมองลูกบอลน้ำก่อนจะหันไปมองหลินมู่ไป่อีกครั้ง
จริงๆแล้วนางประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนางไม่คิดว่าจางจะสามารถจับ ฟาง เจิ้งจือ ได้ในครั้งเดียว
อย่างน้อยที่สุดนางควรจะใช้พลังไปมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ?
นั่นเป็นเพราะฟาง เจิ้งจือ เป็นคนที่แปลกมาก ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเขาจะทำอะไรในการต่อสู้
มันเป็นเหตุผลให้เฉียนยี่ต้องคอยระวังเขาเอาไว้
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่สามารถจับเขาได้ในครั้งเดียว? ฟางเจิ้งจือ นั้นอันตรายเกินไป ศิษย์ของหอคหอยหลิงหยุนไม่สามารถทำอะไร ฟาง เจิ้งจือ ได้
ฟางเจิ้งจือ สามารถทำอะไรกับพวกนางก็ได้ตามที่ต้องการ
มันเป็นความคิดที่น่ากลัวผลที่ตามมาจะเป็นยังไงถ้า ฟาง เจิ้งจือ หนีไปได้!
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้นางไม่กล้าโจมตีเขาในทันทีอย่างไรก็ตามนางต้องกำจัดเขา นางไม่ยอมให้ผู้ชายคนเดียวมาขมขู่หอคอยหลิงหยุนทั้งหมด
ดังนั้นเฉียนยี่จึงเตรียมการอย่างรัดกุมเพื่อให้มั่นใจว่าจะจัดการฟาง เจิ้งจือ ได้
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ กลับพุ่งเข้ามาตรงๆ มันขัดกับวิธีสู้ปกติของเขา
เฉียนยี่แปลกใจแต่ไม่นานนางก็ยิ้มเยาะเย้ยออกมา
ฟางเจิ้งจือ ตกหลุมพรางของนางในทันที
นางรู้สึกว่าทุกอย่างได้จบลงแล้วน้ำหนักที่อยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของนางได้หายไป ท่าทีของนางกลับมาสงบเช่นเคย
ดังที่ฟาง เจิ้งจือ คิดเฉียนยี่จะไม่ฆ่าหลินมู่ไป่ ส่วนหนึ่งเพราะนางไม่อยากฆ่าจักรพรรดิ อีกเหตุผลคือหลินมู่ไป่ไม่ได้เป็นภัยอะไรกับนาง
นางไม่อยากมีปัญหาตามมาหลังจากฆ่าเขา
มันดีกว่าที่จะปล่อยเขาไปและสร้างความเจ็บปวดให้อาณาจักรเซี่ยเงียบๆ
อย่างไรก็ตามหลินมู่ไป่ไม่ได้รู้เรื่องนี้
ฮ่าฮ่าฮ่า… เขาหัวเราะอย่างน่าเวทนาและมองเฉียนยี่ด้วยสายตาแปลห ท่านผู้คุมหอคอยคิดว่าข้าจะยอมกลับไปแบบนี้งั้นรึ?
โอ้?่แล้วเจ้าจะทำอะไรล่ะ? เฉียนยี่ไม่แปลกใจที่ได้ยินเช่นนั้น
ตั้งแต่ข้ามาที่นี่ข้าก็ไม่คิดจะกลับไปมือเปล่า ข้าไม่สามารถกลับไปได้ถ้าปิงหยางยังอยู่กับท่าน! หลินมู่ไป่ตอบกลับ อืมก็สมเหตุสมผลอย่างไรก็ตามนางเป็นเด็กรับใช้ของหอคอยหลิงหยุนมาครึ่งปี รวมถึงนางได้กลายเป็นเซียนแล้ว นางอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเรา ข้าสัญญากับเจ้าว่าจะไม่ฆ่านางและขังนางแค่ชั่วคราวเท่านั้น เฉียนยี่พยักหน้า
ฮ่าฮ่าเฉียนยี่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าพูดนะ สิ่งที่ข้าพูดหมายความว่าท่านสามารถทำอะไรกับปิงหยางก็ได้ แต่ข้าจะไม่ไปจากที่นี่! หลินมู่ไป่ตอบพร้อมยิ้ม
เจ้าจะไม่ไปจากที่นี่? เฉียนยี่ขมวดคิ้ว
หลินมู่ไป่ไม่ได้พูดอะไรแต่ความมุ่งมั่นของเขานั้นชัดเจน
เหล่าศิษย์ต่างมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
การไม่ฆ่าปิงหยางนั้นเป็นความเมตตาที่สุดที่พวกนางจะให้ได้แล้ว
สิ่งที่หลินมู่ไป่ทำนั้นไร้ความหมายเขาไม่สิ่งใดที่มีค่าพอเพื่อมาเจรจาต่อรอง น่าสนใจ!ถ้าข้าบอกว่าจะฆ่าปิงหยางทันทีถ้าเจ้าไม่ออกไปล่ะ? เฉียนยี่สร้างสายฟ้าสีม่วงขึ้นมาในบอลน้ำทันทีเพื่อโจมตีปิงหยาง
ไม่มีใครได้ยินอะไรแต่เห็นมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของปิงหยาง
ปิงหยาง! หลินมู่ไป่ไม่สามารถอดกลั้นความโกรธได้อีกต่อไปแต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกคนรู้ว่าเขาสูญเสียอำนาจต่อรองทั้งหมดไปแล้ว
งั้นตกลงเจ้าจะไปหรือไม่? เฉียนยี่รู้ว่าหลินมู่ไป่โกรธ
เฉียนยี่ท่าน…
เจ้าอยากจะเห็นปิงหยางตายต่อหน้าเจ้างั้นรึ? เฉียนยี่ยิ้มขณะเคลื่อนไหวนิ้วอีกครั้ง
ไม่!
ท่านผู้คุมหอคอยอย่า!
ทุกคนต่างแปลกใจกับเสียงที่ดังขึ้นเพราะไม่ใช่มีแค่เสียงของหลินมู่ไป่แต่ยังมีเสียงของคังเยว่
คังเยว่พยายามหยุดเฉียนยี่ทำไม?
ศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนต่างสับสน
ท่านกล้าฆ่าปิงหยางจริงๆงั้นหรือ? คังเยว่คุกเข่าและถามออกมา
ทำไมข้าจะไม่กล้าล่ะ?
ท่านไม่กลัวว่านายหญิงของข้าจะหนีออกมาจากผนึกได้งั้นหรือถ้าท่านฆ่าปิงหยาง? คังเยว่ยังคงก้มหน้าอยู่บนพื้นขณะถามออกมา
โอ้?่ เฉียนยี่มองไปที่คังเยว่ที่ทั้งตัวเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง พร้อมกับถามออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ คังเยว่ เจ้าเชื่อด้วยงั้นหรือว่าข้ากลัวยู่เอ๋อร์จะหลุดออกมาจากผนึกได้?
ท่านผู้คุมหอคอยหลันได้ส่งคนมามอบชาให้ข้าดื่มจากนั้นข้าก็สลบไปหลายวัน เมื่อตื่นมานายหญิงก็ถูกผนึกไปแล้ว รวมถึงท่านหลันก็ได้ตายลงเพราะอาการบาดเจ็บหนัก! เจ้าพยายามจะพูดอะไร?
ท่านไม่กลัวว่านายหญิงของข้าจะหลุดออกมาได้งั้นรึ?
เจ้ากล้าดียังไง?! ในที่สุดน้ำเสียงของเฉียนยี่ก็เปลี่ยนไป นางมองไปที่คังเยว่อย่างเย็นชา คังเยว่ เจ้าเชื่อเรื่องไร้สาระของ ฟาง เจิ้งจือ งั้นรึ? จะเป็นใครบนโลกนี้ก็ได้ที่ฆ่าผู้คุมหลันและผนึกยู่เอ๋อร์ แต่เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นข้า!
ใช่…ข้าเคยเชื่อว่าท่านไม่มีทางทำร้ายนายหญิงของข้าแต่ท่านจะอธิบายถึงดินแดนหลิงหยุนที่ไม่สมบูรณ์ได้ยังไง?
ข้าเคยอธิบายเรื่องนี้มานานแล้วนั่นเป็นเพราะยู่เอ๋อร์ถูกผนึกด้วยความไม่เต็มใจของตัวเอง ดังนั้น …
คำอธิบายนั้นจะสมเหตุสมผลถ้าเป็นคนอื่นอย่างไรก็ตามข้าไม่เชื่อเพราะนายหญิงของข้าไม่มีทางขัดคำสั่งของท่านหลัน คังเยว่กล่าว ผู้คนเปลี่ยนไปได้ตามกาลเวลาโดยเฉพาะเวลาที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกผนึก เฉียนยี่ขยับนิ้วโดยไม่รู้ตัวจนเกิดขึ้นในลูกบอลน้ำ
อย่างไรก็ตามระลอกคลื่นนั้นเล็กเกินกว่าจะสังเกตได้เว้นแต่จะมีบางคนจดจ่อกับลูกบอลน้ำอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นคังเยว่เองก็ไม่สังเกตุเห็นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้
คังเยว่กำลังมองพื้นดินอยู่ดังนั้นวิสัยทัศน์ของนางจึงถูกขัดขวางอย่างไรก็ตามบังเอิญมีแอ่งเลือดปนอยู่บนพื้น บวกกับฝนที่กำลังตกทำให้นางสังเกตุเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ทำไมท่านถึงกังวลล่ะ? ทันใดนั้นคังเยว่ก็เงยหน้าขึ้นมา สายตาของนางเต็มไปด้วยความดุร้าย
กังวล? เฉียนยี่หรี่ตามองคังเยว่ เจ้าควรจะกลับไปพักผ่อนเสียหน่อยบางทีเจ้าอาจจะบาดเจ็บและเหนื่อยเกินไป? ทำไมท่านถึงหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามของข้า?!ท่านไม่กลัวว่านายหญิงของข้าจะหลุดออกมางั้นรึ?! คังเยว่พูดพร้อมลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ บรรยากาศรอบตัวนางน่ากลัวขึ้นเป็นอย่างมาก นางกัดปากอย่างแรงจนเลือดเริ่มไหลออกมา
……………………………………..