Gate of God - ตอนที่ 849 รอไม่ได้
เฉียนยี่เริ่มโจมตีก่อนเปลวไฟสีทองร่วงลงมาพร้อมกับดอกบัวสีทองจำนวนมาก
ในมือของนางถือดาบที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีทอง
ดาบเร็วมากจนทั้งโลกราวกับหยุดนิ่ง
นางราวกับเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์ขัดแย้งกับอารมณ์อันดุร้ายของนางในตอนนี้
ท่านเฉียนยี่!
ท่านผู้นำ!
ศิษย์ครึ่งหนึ่งของหอคอยหลิงหยุนคุกเข่าลงราวกับพวกนางรู้ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ แต่พวกนางยังคงหวาดกลัวกับการโจมตีของเฉียนยี่
ดาบสีทองพุ่งลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกลับกลีบดอกบัวที่บินว่อนไปทั่ว
อีกด้านหนึ่งแสงสีเงินก็พุ่งขึ้นสูงเช่นกัน แสงสีเงินนั้นเงียบสงบและไม่หวั่นไหว
ตาของเฉียนยู่ราวกับหิมะ
น้ำค้างแข็งทำให้ผมของนางขาวเหมือนแสงจันทร์ที่บริสุทธิ์
นางชักดาบออกมาสองเล่ม
พวกมันมีสีขาวประกายเงินลักษณะคล้ายกันมาก
เฉียนยู่เคลื่อนไหวหลังจากแสงสีเงินสว่างขึ้นนางกวัดแกว่งดาบทั้งสองเพื่อต่อสู้กับแสงสีทองที่ร่วงหล่น ขณะที่ดวงจันทร์แปดดวงลอยอยู่บนท้องฟ้า
เกล็ดหิมะลอยอยู่ในอากาศและปกคลุมร่างของเฉียนยู่เอาไว้
ท่านหญิงเฉียนยู่!
ท่านหญิงเฉียนยู่!
ศิษย์หอคอยหลิงหยุนอีกครึ่งหนึ่งคุกเข่าลงด้วยความเคารพเช่นกัน
ในที่สุดกลีบดอกไม้สีทองก็ปะทะเข้ากับเกล็ดหิมะสีขาว
การปะทะกันของความร้อนและน้ำแข็งทำให้เกิดหมอกหนาขึ้น
ท่ามกลางเมฆมองมีประกายดาบที่กำลังปะทะกันอย่างดุเดือด
หมอกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ
ฟางเจิ้งจือจับมือปิงหยางโดยไมรู้ตัวเขาเริ่มกังวล
ตูม!
เสียงการต่อสู้ดังไปทั่วท้องฟ้า
แต่ทันใดนั้นเอง….
ตูม!
สายฟ้าสีม่วงผ่าลงมาฉีกหลุ่มหมอกออกเผยให้เห็นร่างสองร่างที่กำลังสู้กันอยู่
ก่อนที่หมอกจะค่อยๆจางหายไปในที่สุด
นั่นเป็นเพราะกลีบดอกบัวสีทองได้หายไปแล้วท้องฟ้าทั้งหมดเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะสีขาว ท่านผู้คุมหอคอย!
ศิษย์ครึ่งหนึ่งก้มหน้าลงพวกนางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอีกครั้ง
ศิษย์อีกครึ่งหนึ่งกำลังตื่นเต้นเพราะพวกนางรู้ว่าผลลัพธ์กำลังจะถูกตัดสินแล้ว
ร่างของเฉียนยี่ยังคงปกคลุมด้วยแสงสีทองแม้ว่าจะไม่มีกลีบดอกบัวอยู่รอบตัวนางอีกต่อไป นางยังลอยอยู่บนฟ้าพร้อมกับจับดาบแน่น เลือดไหลออกมาจากมุมปาก แต่สายตาของนางยังไม่ยอมแพ้
เจ้าพัฒนาขึ้นมากจริงๆ! เฉียนยี่มองเกล็ดหิมะบนอากาศอย่างขมขื่น
แค่ยอมแพ้พี่ใหญ่พวกเราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ เฉียนยู่ลอยอยู่บนอากาศเช่นกัน นางกำลังรอและกังวลในเวลาเดียวกัน
ฮ่าฮ่า… ยอมแพ้เหรอ? เจ้าไม่เคยคิดจะแก่งแย่งชิงดีกับข้าเลยตั้งแต่เด็ก แล้วทำเจ้าต้องมาแย่งตำแหน่งผู้คุมหอคอยกับข้าด้วย?!
จริงๆแล้วข้าไม่ได้ต้องการจะแย่งชิงตำแหน่งนี้กับท่าน
เจ้าไม่ต้องการ?แต่เจ้าก็ยังทำอยู่ดีใช่ไหม?
ใช่แต่นั่นเพราะความประสงค์ของอาจารย์ตอนแรกนางตั้งใจจะให้ท่านเป็นผู้คุมหอคอยคนต่อไป แต่สิ่งที่ท่านทำ ทำให้นางผิดหวังมาก นางเลยตัดสินใจให้ข้า.. เฉียนยู่ดูเศร้าเล็กน้อยขณะพูด
หุบปากข้าทำอะไรหา?
พี่ใหญ่ท่านคิดว่าอาจารย์ไม่รู้เรื่องที่ท่านปล่อยข่าวเกี่ยวกับศิลาเซียนงั้นหรือ? ความจริงข้าบอกนางทันทีที่ข้าเห็นศิลาเซียน อย่างไรก็ตามอาจารย์ไม่คิดจะแย่งชิงพวกมันมาโดยการข่มขู่ นางยังบอกให้ข้าเชิญท่านไปดูศิลาเซียนด้วยกัน
เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้างั้นรึ?เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้งั้นรึว่าทำไมเจ้าถึงพูดแบบนี้ เจ้าต้องการให้ข้ายอมแพ้เพราะเจ้ากังวลเกี่ยวกับแดนหลิงหยุนที่อยู่กับข้าใช่ไหมล่ะ? ฝั่นไปเถอะ! ขณะที่นางพูด หอคอยหยกเก้าชั้นขนาดเล็กก็ปรากฎขึ้นในมือของนาง มันรูปร่างเหมือนกับหอคอยหลิงหยุนที่ตั้งตระหง่านอยู่มาก
พี่ใหญ่ท่านต้องการทำแบบนี้จริงๆงั้นหรือ? ในที่สุดท่าทีของเฉียนยู่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเฉียนยี่
ศิษย์ทุกคนตัวสั่นเมื่อเห็นหอคอยหยกเช่นกันเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังหวาดกลัวมาก
สำหรับฟางเจิ้งจือ…เขาแปลกใจอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเห็นมันเขาไม่เคยคิดว่าหอคอยหลิงหยุนจะเกี่ยวข้องกับแดนหลิงหยุน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่เขาคิดแบบนั้นเพราะเขาคิดความจริงออกอย่างรวดเร็ว
เขาได้ทดสอบความแข็งแกร่งของหอคอยหลิงหยุนแล้วแม้แต่รอยขีดข่วนเขาก็ไม่สามารถทำให้เกิดได้
เขาเลยมั่นใจว่าหอคอยหลิงหยุนนั้นเป็นสมบัติบางอย่าง
และตอนนี้ดูเหมือนว่าความคิดของเขาจะได้รับการยืนยันแล้ว
หอคอยหลิงหยุนคือดินแดนหลิงหยุน? ฟางเจิ้งจือไม่เคยคิดอย่างนั้นมาก่อน
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาคิดเพราะสภาพแวดล้อมรอบๆดูเหมือนจะตอบสนองต่อหอคอยหยกที่เฉียนยี่เอาออกมา
ภูเขาร่อบๆเริ่มสั่นเทา
พื้นดินแตกละเอียดลมพัดเศษหินกระจายไปทั่ว ก่อนจะค่อยๆกลายเป็นพายุขนาดใหญ่
แม้ว่ามันจะดูไม่ทรงพลังมากแต่ฟางเจิ้งจือเชื่อว่ามันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
่ท่านแม่! ปิงหยางตะโกนขึ้นด้วยความกังวล
ฟางเจิ้งจือมองไปยังร่างสีเงินบนท้องฟ้าตามเสียงตะโกนของปิงหยาง
อย่างไรก็ตามเฉียนยู่ไม่ได้ยืนนิ่งๆอีกต่อไปนางพุ่งไปหาเฉียนยี่พร้อมกับดวงจัทร์แปดดวงที่หมุนอยู่รอบๆตัวนาง ดาบในมือของนางสองเล่มส่องแสงสีขาวออกมา
นางเร็วมากและเกือบจะถึงตัวของเฉียนยี่ในทันที
อย่างไรก็ตามเฉียนยี่กลับยิ้มออกมามันเป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็น แต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยความโศกเศ้รา
เรื่องที่น่าเสียดายคือ…มีเพียงไม่กี่คนที่สังเกตเห็นสีหน้าของเฉียนยี่เพราะทุกคนกำลังให้ความสนใจสมบัติในมือของนาง
ดินแดนหลิงหยุนในมือของเฉียนยี่ยังไม่สมบูรณ์แต่มันก็เพียงพอที่จะควบคุมทุกคนที่อยู่ในพื้นที่นี้ได้
อย่างไรก็ตามครั้งนี้หอคอยหยกกลับไม่ส่องแสงหรือมีปฏิกริยาใดๆ เฉียนยี่ถือมันนิ่งๆ จนเฉียนยู่ปรากฎขึ้นตรงหน้านาง
ดาบสีเงินแทงเข้าไปที่หน้าอกของเฉียนยี่โดยแทบไม่มีการต่อต้านเลือดของนางไหลออกมา ก่อนจะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดหิมะสีแดง มันเป็นฉากที่หน้าเศร้าเหมือนอารมณ์ของนางในตอนนี้
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป
ไม่มีใครคาดคิดว่าการต่อสู้จะจบลงแบบนี้
การต่อสู้ที่แท้จริงควรจะเกิดขึ้นเมื่อเฉียนยี่นำหอคอยหยกออกมาแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับจบลงแล้ว?
ทุกคนล้วนตกอยู่ในความสับสน
พี่ใหญ่ท่าน… เฉียนยู่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อขณะที่สายตาจ้องไปยังดาบในมือที่แทงทะลุหน้าอกเฉียนยี่
เจ้าไม่แปลกใจหรือ?ฮ่าฮ่าฮ่า…แคกๆ…. หน้าของเฉียนยี่ซีดขาว แต่มันยังแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่ง เฉียนยู่อย่าคิดว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้จริงๆ ข้าไม่เคยแพ้เจ้า เจ้าไม่มีทางเอาดินแดนหลิงหยุนไปจากข้าได้ ยกเว้นข้าจะมอบให้เจ้า! ท่านเฉียนยี่!
ไม่นะ!
ศิษย์ครึ่งหนึ่งตอบสนองด้วยความตกใจ
เฉียนยู่กลับไม่ตอบอะไรนางค่อยๆก้าวไปหาเฉียนยี่และกอดนางเอาไว้
เลือดที่ไหลออกมาทำให้ชุดสีเงินของเฉียนยู่เปรอะเปรื้อนแต่นางไม่สนใจอะไร
เฉียนยี่ยกมือขึ้น
นางถือหอคอยหยกเล็กๆ ไว้ในมือข้างหนึ่งของนางอย่างแน่นหนา และในมืออีกข้างถือดาบเอาไว้อยู่
นางค่อยๆวางหอคอยหยกลงในมือของเฉียนยู่ช้าๆ
ในที่สุดดินแดนหลิงหยุนก็สมบูรณ์…. เฉียนยี่กล่าวออกมาเบาๆ
พี่ใหญ่! เฉียนยู่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้า…จะเป็นผู้นำคนใหม่ของหอคอยหลิงหยุน เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้า…แต่เจ้ายังต้องแข็งแกร่งกว่านี้…ด้วยดินแดนหลิงหยุน…. เฉียนยี่กล่าว ก่อนที่นางจะค่อยๆหลับตาลง ราวกับนางได้ปลดปล่อยทุกสิ่ง
ไม่มีใครรู้ว่าเฉียนยี่คิดอะไรอยู่จึงทำเช่นนั้นนางแค่บอกว่า ‘ไม่เคยแพ้’?
ไม่มีใครเข้าใจคำพูดนี้
ผู้นำ!
ท่านเฉียนยี่!
…
ศิษย์ทุกคนต่างก้มหัวลงบนพื้นเมื่อได้ยินคำสั่งสุดท้ายของเฉียนยี่
เฉียนยู่ยืนนิ่งขณะที่ร่างของเฉียนยี่พิงร่างของนางอยู่ ชุดของนางกลายเป็นสีแดงจากเลือดที่ไหลริน
ผมของนางยังคงโบกกสะบัดไปตามสายลมราวกับความเศร้าได้หยั่งลึกลงไปในจิตใจของนาง เวลาผ่านไปช้าๆ
ในที่สุดเฉียนยู่ก็ขยับตัวนางอุ้มร่างเฉียนยี่แล้วค่อยๆร่อนลงมาจากท้องฟ้า ก่อนจะเดินไปหาปิงหยางและฟางเจิ้งจือ
ฟางเจิ้งจือนี่ไม่ใช่เวลาที่จะตัดสินความผิดเจ้าที่บุกรุกหอคอยหลิงหยุน ขโมยดอกไม้ห้าสีและเตะข้างั้นรึ? เฉียนยู่หยุดยืนห่างออกไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวขึ้นมา
……………………………………..