Gate of God - ตอนที่ 869 แพ้ทาง
…
…เฮาเอ๋อร์มีอิทธิพลต่อความแข็งแกร่งของมู่เอ๋อร์มาก ดูเหมือนหนานกงเทียนกำลังทำอะไรไม่ถูก ราวกับว่าทนไม่ได้ที่เห็นหนานกงมู่ในชุดเกราะหิมะขาว อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ทางด้านศาลาเต๋าสวรรค์ ท่าทีของมู่ฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วและกัดฟันแน่น เห็นได้ชัดว่าเขากำลังไม่พอใจ
มันเป็นพลังสายเลือดอะไรกัน?ความเย็น…?!
ความเย็น?มีปัญหาอะไรหรือ? ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ด้านหลังมู่ฉิงเฟิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่งุนงง
แน่นอนแม้ว่าพลังสายเลือดของฉือกูเหยียนจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่มันก็ยังมีจุดอ่อน มู่ฉิงเฟิงขมวดคิ้วอีกครั้ง
จุดอ่อน?
มันแพ้ต่อความเย็น
แพ้ต่อความเย็น?!
ใช่แล้วพลังสายเลือดของฉือกูเหยียน เป็นจิตวิญญาณของงู และเนื่องจากงูเป็นสัตว์เลือดเย็นมันจะเข้าสู่สภาวะจำศีลในช่วงที่อากาศหนาวจัด มู่ฉิงเฟิงอธิบาย
ท่านจะบอกว่า…
ถ้ากูเหยียนเป็นเซียนล่ะก็การต่อสู้นี้อาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับนาง จุดอ่อนนี้ส่งผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้นางอยู่เพียงระดับจุติและพลังสายเลือดของนางเองก็ยังไม่ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้นางต้องเผชิญหน้ากับเซียนอย่างหนานกงมู่ที่มีพลังสายเลือดของความเย็น ความแข็งแกร่งของนางกำลังเสียเปรียบอย่างชัดเจน
นั่นหมายความว่าฉือกูเหยียนจะแพ้งั้นหรือ? ข้าเองก็พูดได้ไม่เต็มปากอย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่าต้องมีอะไรบางผิดปกติที่จู่ๆหนานกงมู่ก็มีพลังสายเลือดขึ้นมาเช่นนี้
ผู้นำศาลาท่านจะบอกว่าตระกูลหนานกงวางแผนเอาไว้งั้นหรือ? แต่ว่าศาลาเต๋าสวรรค์และตระกูลหนานกงไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน แล้วทำไมพวกเขาต้องทำแบบนั้นกับพวกเรา?
ใช่…ศาลาเต๋าสวรรค์ไม่เคยมีความขัดแย้งกับตระกูลหนานกง ข้าแค่เดาเท่านั้น หวังว่ามันคงเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ถ้าไม่ใช่… เป้าหมายของตระกูลหนานกงคืออะไรกัน มาปรากฎตัวที่การประชุมพันธมิตรสวรรค์ทำไมกัน? มู่ฉิงเฟิงถอนหายใจ
ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังเงียบไปหลังเขาพูดจบ
เมื่อรวมกับเรื่องที่หนานกงเฮาทำไว้เมื่อ2-3 เดือนก่อน และเรื่องในวันนี้มันทำให้ผู้อาวุโสแต่ละคนเป็นกังวลมาก
แน่นอนไม่สำคัญว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น พวกเขาก็ถอยไม่ได้แล้ว
ในขณะเดียวกันหนานกงมู่เริ่มเคลื่อนไหว เขาไม่ได้โจมตีเหมือนคราวก่อน เพราะเขาเลือกที่จะฟังคำพูดของหนานกงเทียน
เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมด!
อาา!ร่างของหนานกงมู่ปล่อยความหนาวเย็นปกคลุมพื้นที่ไปทั่วด้วยชั้นน้ำแข็งหนาราวกับอยู่ในฤดูหนาว
จากนั้นน้ำแข็งจำนวนมากเริ่มก่อตัวเป็นความแหลมคมและพุ่งไปทางฉือกูเหยียน
เขาต้องการแช่แข็งลานประลอง
หนานกงมู่จะใช้พลังของเซียนทำลายนาง!
งั้นเขาจะไม่ต่อสู้กับฉือกูเหยียนด้วยวิชาดาบแล้วงั้นหรือ?
เหล่าศิษย์โดยรอบตระหนักถึงเจตนาของหนานกงมู่หลังจากได้เห็นชั้นบรรยากาศถูกแช่แข็ง และแท่งน้ำแข็งที่พุ่งเข้าหาฉือกูเหยียน
ภายในสถานการณ์เช่นนี้…
แม้แต่ฉือกูเหยียนมีแต่ตองเผชิญหน้าเท่านั้น
นั่นเพราะนางไม่มีทางหลีกเลี่ยงการโจมตีของเขาได้
ความจริงแล้วมันเป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิด ฉือกูเหยียนจับดาบที่ส่องสว่างแน่น แววตาของนางส่องประกายราวกับดวงดาว ก่อนที่จะเคลื่อนไหวอีกครั้ง
นางจู่โจมด้วยดาบ
ราวกับดาวตกที่กำลังตกจากท้องฟ้า
แครก!คลื่นน้ำแข็งที่พุ่งเข้าหานางถูกผ่ากระจาย แสงสีขาวส่องสว่างไปทั่วอากาศ
อย่างไรก็ตามมีดอกไม้หิมะขาวมากมายเบ่งบานอยู่ภายในคลื่นน้ำแข็ง แต่ละดอกส่องสว่างด้วยกลิ่นอายที่เย็นเยือก
และแท่งน้ำแข็งก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็วมันขยายใหญ่และรวดเร็วกว่าเดิม
พลังสายเลือดประเภทไหนกัน?
ข้าไม่รู้ข้าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
ใช่ดอกไม้สีขาวและต้นไม้ขนาดยักษ์บนท้องฟ้า ดูไม่เหมือนพลังสายเลือดทั่วๆไปเลย มันคือะไรกันแน่?
เหล่าศิษย์ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ในขณะเดียวกันฉือกูเหยียนถอยกลับเพราะคลื่นน้ำแข็งที่แผ่ไปรอบๆ พร้อมกับแท่งน้ำแข็งที่พุ่งไปหานางเรื่อยๆ
ดาบของนางตกลงมาผ่าน้ำแข็งซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่มันก็ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมทุกครั้ง
อย่างไรก็ตามทุกคนรู้ดีว่าฉือกูเหยียนไม่สามารถถอยได้มากนัก เพราะถ้านางออกจากพื้นที่ลานประลอง นางจะแพ้การแข่งขันในทันที
ผู้นำศาลาถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป กูเหยียนต้องแพ้แน่! ผู้อาวุโสศาลาเต๋าสวรรค์ดูกังวลอย่างมาก เมื่อได้เห็นการต่อสู้
พลังสายเลือดของหนานกงมู่แปลกประหลาดเกินไป ไม่รู้แก่นแท้ของมันเลย มันยากเกินไปที่รับมือ พลังสายเลือดประเภทไหนกันที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้สีขาวและต้นไม้ยักษ์? ผู้อาวุโสอีกคนเองก็กังวลมากเช่นกัน
ความเย็น… ดอกไม้ขาว และต้นไม้ยักษ์? มู่ฉิงเฟิงจ้องไปที่ต้นไม้ที่ปกคลุมท้องฟ้า ในขณะที่กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว
พลังสายเลือดประเภทต้นไม้นั้นหาได้ยากไม่ต้องพูดถึงต้นไม้เยือกแข็งเช่นนี้เลย ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีต้นไม้ที่เติบโตในเมืองหนาวได้มาก่อน…
ต้นไม้อะไรกัน?
พวกท่านเคยได้ยินชื่อเหยียนฮวงหรือเปล่า?
เหยียนฮวง? ผู้อาวุโสมองหน้ากัน ด้วยแววตาแระหลาดใจแน่นอน พวกเรารู้จักชื่อของเหยียนฮวง แต่มันเป็นไปได้หรือ ที่มันจะเกี่ยวข้องกับเหยียนฮวง?
ข้าเองก็ไม่มั่นใจนักอย่างไรก็ตาม มันถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์ประวัติศาสตร์ ‘โลกถูกแบ่งออกเป็น 9 ส่วนในยุคของเหยียนฮวง และพวกเขาเรียกมันว่าทวีปทั้งเก้า’ จากนั้นได้มีต้นไม้ที่เติบโตขึ้นในดินแดนน้ำแข็ง
ผู้นำศาลานี่ท่านหมายถึงต้นไม้ จักรพรรดิเหยียน….
ใช่แล้ว!จักรพรรดิเหยียนใช้ต้นไม้นั้นเป็นแผนที่นำทางเมื่อเขาแบ่งโลกออกเป็นเก้าส่วน ตำนานเล่าว่าต้นไม้นี้มีอยู่ตั้งแต่ตอนสร้างโลก มีข่าวลือว่าบนยอดของต้นไม้นั้นมีดินแดนของพระเจ้าและปีศาจอยู่ ดังนั้นต้นไม้นี้จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘ต้นไม้เทพเจ้า’ และมันเป็นประตูสู่โลกทั้งสามของมนุษย์ เทพเจ้า และปีศาจ!
ประตูสู่โลกทั้งสามมนูษย์ พระเจ้าและปีศาจ?! ท่าทีของผู้อาวุโสเปลี่ยนไป เมื่อได้ยินคำพูดของมู่ฉิงเฟิง เพราะพวกเขารู้ดีว่านั้นหมายถึงอะไร ข้าคิดว่ามันจะเป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น… มู่ฉิงเฟิงหยุดพูด แต่สายตาของเขายังคงมองไปที่ต้นไม้ยักษ์
ผู้อาวุโสเงียบไปอีกครั้งมีเรื่องลึกลับในครั้งนี้มากเกินไป
ตูม!เสียงดึงความสนใจให้ไปสนชื่อฉือกูเหยียนอีกครั้ง มันทำให้พวกเขาต้องกังวลอีกครั้งเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนลานประลอง
เพราะฉือกูเหยียนไม่มีที่ไหนให้ไปแล้วนางถูกดันไปอยู่สุดขอบของลานประลอง
นางถูกล้อมรอบไปด้วยคลื่นน้ำแข็งพร้อมกับดอกไม้สีขาวที่ลอยอยู่บนอากาศปลดปล่อยไอความเย็นออกมาตลอดเวลา
ฉิอกูเหยียนจะแพ้แล้วงั้นหรือ?
หนานกงมู่ทรงพลังเกินไปที่สำคัญของอยู่ในระดับเซียนแล้ว!
เสียงพูดคุยของศิษย์สำนักอื่นๆดังขึ้นอีกครั้ง
อย่ายอมแพ้นะพี่เหยียน! ปิงหยางกังวลมากเช่นกัน แต่นางเลือกที่จะตะโกนให้กำลังใจฉือกูเหยียน
ฉือกูเหยียนไม่ได้พูดอะไรออกมา
อย่างไรก็ตามดวงตาของนางเป็นประกาย
มู่เอ๋อร์อย่าหยุด! เสียงของหนานกงเทียนดังขึ้นเช่นกัน
อ้ากก!!! หนานกงมู่ร้อง สัญลักษณ์สีขาวบนหน้าผากของเขาเปล่งประกายมากขึ้น
ครื่น!!
คลื่นน้ำแข็งโถมเข้าหาฉือกูเหยียน
ตูม!ทันใดนั้นเงาดำได้ปรากฎขึ้นและทำลายคลื่นน้ำแข็งที่โถมเข้ามา
มันเป็นเงาของมนุษย์ที่ปรากฎขึ้นด้านหลังของฉือกูเหยียนเป็นเงาที่ดูสูงส่งและอยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ หางงูสีดำโบกสะบัดไปมา
พลังสายเลือด! ฉือกูเหยียนถูกบังคับให้ใช้พลังสายเลือดแล้ว!
ถ้านางใช้พลังสายเลือดต่อให้เป็นหนานกงมู่ที่อยู่ในระดับเซียนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ!
ฉือกูเหยียนยกดาบขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับฟันทะลวงคลื่นน้ำแข็งด้านหน้า พวกมันถูกทำลายจนหมด ไม่สามารถหยุดฉือกูเหยียนได้อีกต่อไป
แข็งแกร่งมาก!
นางอยู่ในระดับจุติจริงๆงั้นรึ?!
นางอายุเพียง17ปีเท่านั้น!
ไม่เพียงแต่ฉือกูเหยียนจะทำลายคลื่นน้ำแข็งได้เท่านั้นแต่นางยังเข้าใกล้หนานกงมู่ได้สำเร็จอีกด้วย
แคร้ง!เสียงของดาบกระทบกัน หนานกงมู่ตั้งดาบเขียวฟ้าขึ้นเพื่อกันดาบของฉือกูเหยียนได้อย่างพอดี
เขาหยุดมันได้?! ทุกคนต่างตกตะลึง
หนานกงมู่ดึงดาบทั้งสองออกจากกันคลื่นพลังน้ำแข็งระเบิดใส่ฉือกูเหยียนอีกครั้ง
ตูม! ฉือกูเหยียนรีบใช้ดาบป้องกันทันที แต่นางกลับกระเด็นออกไปและล้มลงกับพื้นทันที
คลื่นพลังน้ำแข็งไม่หยุดแค่นั้นมันค่อยๆล้อมรอบฉือกูเหยียนเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว
……………………………………..