Gate of God - ตอนที่ 896 ความรุ่งโรจน์ในอดีต
สิ่งที่เป็นของเราและบรรพบุรุษของเรา? โม่ฉานฉือหรี่ตาลงเขาไม่แน่ใจกับสิ่งที่หนานกงเฮาพูด แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
ดอกไม้สีเลือดไหลลงสู่ต้นไม้เทพเจ้าอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าดอกไม้สีเลือดกำลังถูกกลืนกิน
ในเสี้ยววินาทีดอกไม้สีเลือดก็หายไปในขณะเดียวกันผลไม้ลูกหนึ่งก็เติบโตขึ้นบนยอดต้นไม้เทพเจ้า ผลไม้สามลูกมีสีที่แตกต่างกันนั่นคือ
ผลไม้สีดำสนิทราวกับน้ำหมึกผลไม้สีเขียวที่แข็งเหมือนผิวโลหะ และผลไม้สีทองที่ส่องสว่าง
ผลไม้สามลูก!
ยิ่งไปกว่านั้นมันมีรูปทรงที่แปลกประหลาดอย่างมากแทนที่จะเรียกว่าผลไม้มันดูเหมือนกูญแจเสียมากกว่า
ครืน!ท้องฟ้าเริ่มสั่นสะเทือน เสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่ว
เกิดอะไรขึ้น?!
นี่มันอะไรกัน?
ข้ารู้สึกแย่มากเหมือนกับว่าท้องฟ้าทั้งผืนกำลังจะตกลงมา
ท้องฟ้าจะตก?เจ้าหมายถึงอะไร?
มันเป็นฉากที่แปลกประหลาดจากกลางวันเป็นกลางคืน!
ในขณะที่เหล่าศิษย์กำลังสับสนดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าก็หายไป
กลับสวรรค์และโลกวงจรหยินหยาง? ฉากนี้ทำให้เต๋าฮุนตกใจ
ศิษย์ทุกสำนักต่างพากันตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
ปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ทำไมจู่ๆท้องฟ้าก็มืดลง?
ดาว…ดูนั่น ดวงดาวบนท้องฟ้า…
แสงสว่างของดวงจันทร์ข้ากำลังฝันไปหรือ?
เหล่าศิษย์จากทุกสำนักไม่สามารถเข้าใจปรากฎการณ์ประหลาดนี้ได้แม้แต่น้อย
กลับสวรรค์และโลก เฉียนยู่มองบนท้องฟ้าและตกใจเช่นกันเห็นได้ชัดว่านางไม่สามารถหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้เลย
เมื่อเทียบกับโม่ฉานฉือเต๋าฮุนและเฉียนยู่ ท่าทีของมู่ฉิงเฟิงแตกต่างไปเล็กน้อย คำถามมากมายแล่นผ่านหัวของเขา
นั่นเพราะจู่ๆเขาก็นึกถึงตอนที่ปราสาทสีดำปรากฎขึ้นที่ยอดเขาสวรรค์มีศิลาชิ้นหนึ่งในปราสาทได้จารึกไว้
ต้นไม้เทพเจ้า…
ผลไม้?ดอกไม้สีเลือด…
ความหวังของมารดาแห่งโลก?การพลิกกลับของสวรรค์และโลก? …
ความคิดนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านจิตใจของเขามู่ฉิงเฟิงคิดจะทำสิ่งต่างๆมากมายแต่เขาทำไม่ได้
ผลไม้ทั้งสามชนิด…โลกทั้งสามใบ… ประตูเทพเจ้า หนานกงเฮาต้องการเปิดประตูเทพเจ้าแห่งสามดินแดน! ในตอนนั้นเองเสียงที่คมชัดก็ดังขึ้น
ในขณะเดียวกันฉือกูเหยียนที่กำลังฟื้นฟูร่างกายก็ลุกยืนขึ้นมองไปบนยอดต้นไม้เทพเจ้าด้วยแววตาที่สดใส
อะไรน่ะ?ประตูเทพเจ้าแห่งสามดินแดน?! เหล่าศิษย์ตกตะลึงกับสิ่งได้ยิน
อย่างไรก็ตามไม่มีใครถามอะไรออกมา
เพราะฉือกูเหยียนเป็นคนพูด
ความจริงแล้วมันคือประตูเทพเจ้าแห่งสามดินแดน …กูเหยียนพูดถูก หนานกงเฮาพยายามจะเปิดประตูเทพเจ้า! มู่ฉิงเฟิงตอบสนองในทันทีที่ได้ยินคำพูดของฉือกูเหยียน ประตูเทพเจ้าแห่งสามดินแดน?ตำนานเป็นเรื่องจริง! เสียงของโม่ฉานฉือเต็มไปด้วยตกใจอย่างเห็นได้ชัด
ใช่แล้วตำนานของต้นไม้เทพเจ้าเชื่อมต่อทั้งสามดินแดน ดังนั้นเขา …เขาต้องการเปิดประตูเทพเจ้าเพื่ออะไรกันแน่! ท่าทีของมู่ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความกังวล
มีคำอธิบายเกี่ยวกับประตูเทพเจ้าน้อยมาก
ต้นไม้เทพเจ้าเชื่อมต่อดินแดนทั้งสาม!
มีเพียงเท่านั้น!
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้และไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าทั้งสามดินแดนนั้นมีอยู่จริงหรือไม่
ฮ่าฮ่าฮ่าผิดแล้ว ตระกูลหนานกงไม่ได้ต้องการเปิดประตูเทพเจ้าแห่งสามดินแดน พวกเราต้องการเปิดประตูแห่งดินแดนของพระเจ้า! เสียงของหนานกงเทียนดังขึ้น
เปิดประตูแห่งดินแดนของพระเจ้า?! ดินแดนพระเจ้ามีอยู่จริงงั้นหรือ?
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าศิษย์ของสำนักต่างๆ มีแต่ความสับสนและความประหลาดใจ ไม่มีใครเคยได้ยินตำนานที่กล่าวถึงการมีอยู่ของดินแดนแห่งพระเจ้าเลย
ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังความจริงอีกต่อไป! หลังจากป้องกันการโจมตีของหยานหยิง หนานกงเทียนก็ร่อนลงพื้นก่อนจะพูดขึ้น ชื่อเดิมของตระกูหนานกงมีชื่อว่าเจียงและเป็นลูกหลานของจักรพรรดิหยาน อย่างไรก็ตามเมื่อครั้งความผิดพลาดของจักรพรรดิหยาน พวกเราจึงต้องซ่อนชื่อที่แท้จริงมานับพันปี!
ความผิดพลาด? เหล่าศิษย์ต่างหันมองด้วยความสับสน
ใช่แล้วความผิดพลาด! หนานกงเทียนพยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกสงสาร เรื่องราวที่ผู้นำมู่พูดไปก่อนหน้านี้มีเพียงบางส่วนที่เกิดขึ้นจริง!
เรื่องราวที่ผู้นำมู่พูดไปก่อนหน้านี้? ที่ว่าความหวังของมารดาแห่งโลก?
ภัยพิบัติธรรมชาติ?
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าศิษย์ดูตกใจมากกว่าเดิม
นอกจากพวกเขาแม้แต่มู่ฉิงเฟิงก็รู้สึกสั่นไหว ถ้าหนานกงเทียนเป็นคนพูด เขาอาจจะรู้เรื่องราวทั้งหมด
แม้ว่าเจ้าจะไม่เชื่อแต่ภัยพิบัติธรรมชาติเคยเกิดขึ้นบนโลกมาก่อนแล้ว และสาเหตุก็เป็นเพราะการต่อสู้ระหว่างสามเผ่าพันธุ์ มนุษย์ ปีศาจและอสูร! หนานกงเทียนพูดต่อ
การต่อสู้ของสามเผ่าพันธุ์?
หลายพันปีก่อนภายใต้การปกครองของหยานฮวง สงครามที่ยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผู้คนไม่รู้ถึงสงครามครั้งนั้น และไม่รู้ว่าสงครามยังไม่จบ ในช่วงสุดท้ายของสงคราม ภัยพิบัติธรรมชาติก็เกิดขึ้น! มันคร่าชีวิตไปนับไม่ถ้วน และเป็นเหตุให้โลกทั้งใบเต็มไปด้วยเลือดและไฟที่ลุกไหม้! หนานกงเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
ยังไม่จบ?
ภัยพิบัติธรรมชาติเกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของสงคราม?
บันทึกของหยานฮวงอยู่?
แม้พวกเขาจะตกตะลึงแต่ก็ยังสงสัยในคำพูดของหนานกงเทียนเช่นกัน
อย่างไรก็ตามหนานกงเทียนไม่สนใจเหล่าศิษย์แม้แต่น้อย เขามองไปยังดวงดาวบนท้องฟ้า นั่นคือมารดาแห่งโลก ที่ทำให้เผ่าพันธุ์ทั้งสามหยุดทำสงครามกันชั่วคราว อย่างไรก็ตามเพื่อทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติ มารดาแห่งโลกไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว นางจึงขอร้องทั้งสามเผ่าพันธุ์ ให้ส่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละเผ่าพันธุ์เพื่อต่อสู้เคียงข้างกับนางเพื่อซ่อมท้องฟ้า!
ซ่อมท้องฟ้า?!
การร่วมมือระหว่างผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละเผ่าพันธุ์!
นี่มัน…
ในขณะนั้นเหล่าศิษย์พากันนิ่งเงียบพวกเขาสามารถจินตนาการฉากที่งดงามของการร่วมมือกันระหว่างมารดาแห่งโลกและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจากเผ่าพันพันธุ์ทั้งสาม
เมื่อภัยพิบัตธรรมชาติเกิดขึ้นเปลวไฟได้ลุกไหม้ ก้อนหินร่วงหล่น
พื้นดินถูกแผดเผาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามพุ่งขึ้นสู่ท้งฟ้าใช้พลังต่อสู้กับภัยพิบัติธรรมชาติ
มารดาแห่งโลก?เจ้าแม่หนี่หว่าซ่อมท้องฟ้า? ฟางเจิ้งจือค่อนข้างประหลาดใจ
เขาเคยได้ยินตำนานเช่นนี้มาก่อนอย่างไรก็ตามมันต่างไปจากที่หนานกงเทียนพูดเล็กน้อย
ทำไมโลกนี้ถึงมีตำนานที่เหมือนกัน?
และที่สำคัญตำนานของโลกนี้มันแตกต่างกับตำนานในชีวิตก่อนหน้าเขาหรือไม่?โลกนี้คืออะไรกันแน่? โลกนี้ไปเชื่อมโยงกับโลกก่อนหน้าได้ยังไง?
คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจของฟางเจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหาคำอธิบายได้เพราะเขาไม่แน่ใจว่าหนานกงเทียนพูดความจริงหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเขาแน่ใจว่าหนังสือเก่าบางเล่มที่พบเจอในโลกทั้งสองใบ หนังสือเก่าเล่มนั้นถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกฎแห่งเต๋า!
หนานกงเทียนพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย พวกเจ้าคาดเดาได้อย่างถูกต้อง ผู้ที่แข็งแกร่งทั้งสามตกลงร่วมมือกับมารดาแห่งโลกต่อสู้กับภัยพิบัติ จักรพรรดิหยาน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเองก็เข้าร่วมเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเราทำผิดพลาดมหันต์ และไม่ได้หยุดยั้งมัน พวกเราพยายามแก้ไขความผิดพลาดของเรา!
ผิดพลาดมหันต์?ไม่ได้หยุดยั้งเอาไว้? ทำผิดพลาดอะไรกัน? เหล่าศิษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ มันไม่ควรเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่หรอกหรือ ทำไมหนานกงเทียนถึงพูดว่าเป็นความผิดพลาดมหันต์?
ถูกต้องหรือ?ฮ่าฮ่า… ถ้าไม่ใช่ควาผิดพลาดเผ่าพันธุ์ของพวกเราก็คงไม่ตกต่ำลง! นั่นเพราะพวกเราไม่ได้ยับยั้งและเชื่อในตัวมารดาแห่งโลกอย่างแท้จริง พวกเราไม่เหลือพลังในตอนที่ภัยพิบัติได้ถูกแก้ไข และนั่นทำให้พวกเราต้องติดอยู่นอกท้องฟ้า!
ติดอยู่นอกท้องฟ้า?!
ด้วยคำสั่งให้ซ่อมท้องฟ้าพวกเราป้งกันภัยพิบัติธรรมชาติไม่ให้ขึ้นสู่ท้องฟ้า พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเปิดโอกาสให้มารดาแห่งโลกได้ซ่อมท้องฟ้า แต่หลังจากซ่อมท้องฟ้าเสร็จ พวกเราไม่สามารถขึ้นไปบนท้องฟ้าได้อีก เจ้าไม่คิดว่านั้นเป็นความผิดพลาดมหันต์งั้นหรือ?
…
ไม่สามารถขึ้นไปบนท้องฟ้าได้อีก? คราวนี้นอกจากเหล่าศิษย์ แม้แต่มู่ฉิงเฟิงก็ตกอยู่ในความเงียบ ถ้าหนานกงเทียนพูดความจริง ตระกูของจักรพรรดิหยานก็ประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่จนอาจพูดได้ว่าเป็นหายนะ
หลังจากผ่านพ้นภัยพิบัติแม้แต่มารดาแห่งโลกก็อ่อนแอลง และรู้สึกผิดต่อผู้ที่อยู่นอกท้องฟ้า จึงได้มอบเมล็ดพันธุ์ให้กับตระกูลของจักรพรรดิหยาน นอกจากนั้นนางมอบชิ้นส่วนแผนที่สู่สวรรค์ทั้งสามสิบหกชิ้นให้กับจักรพรรดิฮวง และหวังให้ลูกหลานของตระกูลหยานและตระกูลฮวงร่วมกันสร้างประตูเทพเจ้าเพื่อเปิดทางให้ผู้ที่อยู่นอกท้องฟ้าได้เข้ามา อย่างไรก็ตาม… ลูกหลานของจักรพรรดิฮวงใช้ชิ้นส่วนแผนที่สู่สวรรค์ทั้งสามสิบหกชิ้นขึ้นสู่บัลลังก์โดยไม่สนใจบรรพบุรุษและผู้ที่แข็งแกร่งที่ร่วมต่อสู้อยู่นอกท้องฟ้า! ดวงตาของหนานกงเทียนเริ่มปริ่มไปด้วยน้ำตา
ชิ้นส่วนแผนที่สู่สวรรค์ทั้งสามสิบหก! ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องชิ้นส่วนส่วนแผนที่สู่สวรรค์มาก่อน?
ชิ้นส่วนแผนที่ทั้งสามสิบหก…เขาหมายถึงศิลาเซียนทั้งสามสิบหกก้อนงั้นหรือ?
เหล่าศิษย์ต่างสับสนอย่างมากอย่างไรก็ตามพวกเขาเรียกสติได้อย่างรวดเร็ว นั่นเพราะจำนวนของชิ้นส่วนแผนที่สู่สวรรค์เท่ากับจำนวนของศิลาเซียน
อย่างไรก็ตามนั่นหมายความว่า..
หรือว่าอาณาจักรเซี่ยเป็นลูกหลานของจักรพรรดิฮวง?! หลังจากความคิดนี้แล่นผ่านเข้ามาทุกสายตาก็จับจ้องไปที่หลินมู่ไป่ผู้ที่นั่งอยู่ฝั่งอาณาจักรเซี่ย
อย่างไรก็ตามเมื่อหลินมู่ไป่ได้ยินท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขามองไปรอบๆแล้วกำมือแน่น
อย่างไรก็ตามหนานกงเทียนไม่ให้โอกาสเขาได้พูดแม้แต่น้อย เขาพูดต่อในทันที ใช่แล้ว หลินมู่ไป่คือลูกหลานของจักรพรรดิฮวงนั่นเพราะตระกูลหลินผิดสัญญาของพวกเขา หลังจากมีการโต้เถียงกันหลายครั้งบรรพบุรุษของพวกเราก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป การต่อสู้ครั้งนั้น ตระกูลของจักรพรรดิหยานออกไปต่อสู้ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ อย่างไรก็ตามหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ตระกูลของจักรพรรดิฮวงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ครั้งหนึ่งอาณาจักรเซี่ยได้ขึ้นปกครองโลกจนกระทั่งวันนี้มันกลายเป็นเรื่องเล่าในอดีต!
หนานกงเทียนเศร้าเล็กน้อยเมื่อเขาพูดออกมาอย่างไรก็ตามเขาพอใจและภูมิใจอย่างมาก
ในทางกลับกันเหล่าศิษย์ต่างอ้าปากแข็งค้าง
โลกที่พวกเขารู้จักมีเพียงราชวงศ์เดียว นั่นคือเซี่ย ในยุคที่ราชวงศ์เซี่ยปกครองนั้นยังไม่มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตามราชวงศ์เซี่ยกับอดีตที่รุ่งโรจน์นั้นพังทลายลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียงเรื่อเล่าขานของประวัติศาสตร์ หนานกงเทียนเจ้ากำลังพูดจาสามหาว! หลินมู่ไป่ไม่สามารถระงับความโกรธไว้ได้
ฮ่าฮ่าฮ่าไม่ว่าข้าจะพูดอะไรก็ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่าลูกหลานของจักรพรรดิฮวงจะน่าสมเพชถึงขนาดเปลี่ยนชื่อของชิ้นส่วนแผนที่สู่สวรรค์เป็นศิลาเซียน และใช้มันแลกเปลี่ยนกับกองทัพรวมไปถึงม้า เพื่อสร้างอาณาจักรขึ้นอีกครั้ง! หนานกงเทียนหัวเราะเสียงดัง
เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นในหลายพันปีที่ผ่านมา? หลินมู่ไป่ไม่เชื่อเขา
ฮ่าฮ่าแน่นอนว่าข้าไม่รู้ ยังไงก็ตามลูกหลานของตระกูลหนานกงรู้ทุกอย่าง ทำไมเจ้าถึงคิดว่าตระกูลหนานกงตั้งรกรากอยู่ภายใต้ความน่ากลัวของอาณาจักรเซี่ยกัน? ทำไมเจ้าถึงคิดว่าพวกเราไม่ส่งคนไปเป็นเจ้าหน้าที่? เจ้าไม่รู้ แต่จักรพรรดิไทซูแห่งอาณาจักรเซี่ยรู้! ถ้าข้าคิดถูก จักรพรรดิไทซูต้องการถ่ายทอดความตั้งใจเกี่ยวกับตระกูลหนานกงหลังจากที่เขาตายไปแล้วใช่ไหม? ……………………………………..