Gate of God - ตอนที่ 929 ความโกรธของเทพปีศาจ
เขาเจ็บปวดจนถึงกระดูกลึก
ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ใบหน้าซีดขาว
เขาเตะ…เตะตรงนั้นใช่ไหม?
เป็นไปได้ยังไง?
ไป่ฉือและราชาอสูรทั้งหมดต่างไม่เชื่อ
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญเพราะฟางเจิ้งจือได้เตะเข้าเป้าไปแล้วจริงๆยิ่งไปกว่านั้นเขาเตะด้วยแรงทั้งหมดที่มี
ยิ่งไปกว่านั้นเทพปีศาจไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้
เพราะตอนที่เขากำลังจะป้องกันพลังอันทรงพลังบางอย่างทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหว แม้มันจะเป็นเพียงชั่วเวลาขณะหนึ่งก็ตาม
ตูม!ในเวลาเดียวเดียวกันเสียงระเบิดได้ดังขึ้นเพราะฝ่ามือขนาดมหึมาตบลงไปที่ฟางเจิ้งจือแล้ว มันปะทะเข้ากับดาบไร้ร่องรอยจนคลื่นกระแทกแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทางรอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฎที่พื้น อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือกลับถูกปกป้องอยู่ในโล่สีม่วงแปลกๆ
เขาป้องกันได้?! ไม่ใช่แค่ฝ่ายปีศาจและอสูรเท่านั้นที่ตกตะลึง แม้แต่ตัวของฟางเจิ้งจือเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน หรือว่ามันจะเป็นพลังของดาบไร้ร่องรอย?
แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ได้สำคัญอีกต่อไป
ถ้ามีโอกาสใครจะไม่คว้าไว้?
หลังจากการโจมตีจากเทพปีศาจถูกป้องกันเขาไม่ลังเลที่จะชกไปที่มือของเทพปีศาจในทันที
ตูม!หมัดของเขาอัดเข้าหน้าของเทพปีศาจอย่างจัง
เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากริมฝีปากของเทพปีศาจสีหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมา
ฟางเจิ้งจือนั้นมีพลังพอๆกับไป่ฉือ ดังนั้นเทพทีปีศาจที่ไร้การป้องกันไม่มีทางไม่ได้รับอันตรายใดๆเลย
อีกอย่างเขาต้องขอบคุณฉือกูเหยียนพลังของนางนั้นแม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับเซียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางโดยเฉพาะเวลาที่นางใช้พลังขีดจำกัดสายเลือดของตัวเอง
แต่เพราะฉือกูเหยียนยังไม่ได้อยู่ในระดับเซียนทำให้นางยังใช้พลังได้อย่างไม่เต็มที่มากนัก
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บสาหัส
ดังนั้นฟางเจิ้งจือจึงมั่นใจว่าสภาพในปัจจุบันของนางไม่มีทางตรึงร่างเทพปีศาจไว้ได้นานแน่นอนแม้แต่วินาทีเดียวก็เป็นเรื่องยากลำบากสำหรับนางแล้ว
แต่ทำไมเทพปีศาจถึงกลับถูกตรึงร่างไว้ได้จริงๆแม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาทีก็ตาม
หรือว่า…
ฉือกูเหยียนเข้าสู่ระดับเซียนแล้ว! เมื่อคิดถึงตรงนี้ฟางเจิ้งจือก้มลงมองร่างในชุดสีชมพูที่ยืนอยู่ท่ามกลางราชาอสูร
ความงามของฉือกูเหยียนทำให้ทั้งโลกตกตะลึงแม้นางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของนางกลับไม่ได้หายไป
เมื่อรวมกับเงาลึกลับขนาดใหญ่ด้านหลังนางโดยเฉพาะหางงูห้าสีสว่างสดใสราวกับไม่ใช่สิ่งที่ควรมีอยู่บนโลกมนุษย์ใบนี้
น่าเสียดายที่…
บนหน้าผากของนางไม่มีเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นเซียนหน้าของนางยังคงซีดขาวเช่นเดิม
เห็นได้ชัดว่าฉือกูเหยียนยืนหยัดได้ถึงตอนนี้เพราะแรงใจของนางล้วนๆ
มารดาแห่งโลก?! ทันใดนั้นฟางเจิ้งจือได้ยินเสียงที่แสดงถึงความหวาดกลัว
มันเป็นเสียงของเทพปีศาจ!
มารดาแห่งโลก? ฟางเจิ้งจือมองไปยังใบหน้าของเทพปีศาจด้วยความประหลาดใจก่อนจะหันไปมองฉือกูเหยียนอีกครั้ง
นอกเหนือจากเขาแล้วแม้แตไป่ฉือและหยุนชิงวูรวมถึงราชาอสูรทั้งหมดเองก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อได้ยินคำพูดของเทพปีศาจ
มารดาแห่งโลก?
เทพปีศาจหมายถึงฉือกูเหยียนงั้นหรือ?
ฉือกูเหยียนคือมารดาแห่งโลก!
เป็นไปได้ยังไง?
ทุกคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างรู้วาฉือกูเหยียนนั้นมีพลังที่ทรงพลังรวมถึงมีพลังขีดจำกัดทางสายเลือด
และฉือกูเหยียนเองก็มีอายุไม่เท่าไรนักยุคของมารดาแห่งโลกหรือเจ้าแม่หนี่วานั้นผ่านมานานมากแล้ว มันเป็นเรื่องราวที่เคยมีบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามสำหรับเทพปีศาจนั้นต่างออกไปสำหรับตัวตนในตำนานเช่นเขาแล้วย่อมมีความคุ้นเคยกับมารดาแห่งโลก
ท่านเทพปีศาจชื่อของนางคือฉือกูเหยียนนางอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น แม้นางจะทรงพลังแต่ก็ไม่ใช่มารดาแห่งโลก! หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ปีศาจอาวุโสได้แก้ไขความเข้าใจผิดของเทพปีศาจ
ฉือกูเหยียนงั้นหรือ? ปีศาจอสูรมองฉือกูเหยียนพร้อมขมวดคิ้ว
ขณะที่เขาขมวดคิ้วอยู่ลำแสงสีม่วงสว่างขึ้นจากนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณหน้าอก
มันเกิดขึ้นเร็วมากไม่มีใครตอบสนองได้ทัน
อย่างไรก็ตามดาบถูกแทงเข้าไปที่หน้าอกของเทพปีศาจแม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกแทงเข้าไปลึกแต่เลือดที่ไหลออกมาก็ไม่ใช่น้อยๆ
ทั่วทั้งสนามรบต่างอยู่ในความตกตะลึง
ฟางเจิ้งจือเองก็ตกใจเช่นกันเขาเลือกโจมตีเทพปีศาจตอนที่ความสนใจของเขากำลังอยู่ที่ฉือกูเหยียน เขาคว้าดาบไร้ร่องรอยและแทงเข้าไปที่หน้าอกของเทพปีศาจ อย่างไรก็ตามมีพลังอันแข็งแกร่งบางอย่างขวางเอาไว้ทำให้ดาบไร้ร่องรอยแทงเข้าไปได้ไม่ลึกมาก
อ้าก!!! เสียงคำรามดังก้องจากนั้นพลังมหาศาลได้พุ่งเข้าหาหน้าอกของฟางเจิ้งจือ
เทพปีศาจกำลังโกรธมาก!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเทพปีศาจโกรธตั้งแต่ที่เขาออกมาจากประตู
โดยไม่คิดเรื่องอื่นเทพปีศาจพุ่งเข้าใส่ฟางเจิ้งจือเกราะสีม่วงส่องสว่างเป็นพิเศษ
ตึง!พลังมหาศาลทำให้ฟางเจิ้งจือรู้สึกเหมือนถูกภูเขาลูกยักษ์พุ่งชน เขาถอยไปด้านหลังอย่างควบคุมไม่ได้
วินาที่ต่อมาเขารู้สึกถึงพลังบางอย่างกำลังพุ่งมาหาเขามันเป็นลำแสงที่ซ่อนอยู่ในเงามือ มันทั้งรวดเร็วแหละแหลมคม
ฟางเจิ้งจือไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่ามันคือกริชดำอาวุธของเทพปีศาจเช่นนั้นเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความอันตรายที่เข้ามาใกล้ร่างของเขาเปล่งแสงสีฟ้าออกมาทันที
ฟุ่บ!ร่างของฟางเจิ้งจือปรากฎขึ้นห่างจากเดิมไปประมาณสามก้าว อย่างไรก็ตามที่มือซ้ายของเขามีบาดแผลเกิดขึ้น
มันเป็นแผลเล็กๆแต่ลึกมากเลือดไหลทะลักออกมาทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
บัดซบ!… เหงื่อเย็นเฉียบไหลออกมาจากหน้าผากของฟางเจิ้งจือหากเขาไม่เลือกใช้เต๋าสวรรค์ในช่วงวินาทีสุดท้ายคงเป็นหัวใจของเขาแทนที่จะเป็นฝ่ามือ
มันเร็วเกินไป!
ยิ่งไปกว่านั้นเทพปีศาจยังขยับออกจากจุดเดิมพร้อมกับใช้อาวุธ
ข้อตกลงในการเดิมพันล่ะ?เขาไม่สนใจแล้วงั้นหรือ? ตาย! เสียงของเทพปีศาจดังขึ้นอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจเรื่องการเดิมพันอะไรทั้งสิ้นแล้ว สิ่งเดียวที่เขาสนใจตอนนี้คือฆ่าฟางเจิ้งจือ!
เนื่องจากการโจมตีแรกไม่สามารถฆ่าฟางเจิ้งจือได้เทพปีศาจเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาหายไปจากจุดเดิมราวกับหายไปในความมืดมิด
เจ้าไร้ยางอายระวัง! เมื่อเห็นเทพปีศาจหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หางงูของฉือกูเหยียนกลายเป็นลำแสงและปรากฎขึ้นด้านหลังฟางเจิ้งจือ
ตูม!
ฟางเจิ้งจือล้มไปด้านหน้าเพราะถูกหางโจมตีใส่ดาบในมือของเขาแทบจะหลุดออกจากมือ
… ฟางเจิ้งจืออยากสบถออกมา
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำได้เพราะลำแสงสีดำได้ผุ่งผ่านจุดที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ จากนั้นเทพปีศาจก็ปรากฎตัวขึ้นในจุดที่ลำแสงนั้นพุ่งผ่านเลือดบนหน้าอกของเขาแข็งตัว แต่ความโกรธบนใบหน้าของเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนเจ้าจะไม่ใช่มารดาแห่งโลกจริงๆ! เทพปีศาจมองฉือกูเหยียนอย่างเย็นชา มารดาแห่งโลกได้ตายไปแล้ว ดังนั้น…เจ้าก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้เช่นกัน!
ขณะที่เขาพูดความมืดรอบตัวกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
จากนั้นเขาก็หายตัวไปอีกครั้ง
หายไปอย่างแท้จริง
วินาทีต่อมาลำแสงสีดำก็ปรากฎขึ้นใกล้ๆฉือกูเหยียน
ไม่นะ!หลบเร็วเข้า! เหยียนเฉียนหลี่และเซียนสวรรค์พักพิงที่ยืนอยู่ด้านล่างตะโกนขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นแสงสีดำ
อย่างไรก็ตามแสงสีดำพุ่งมาเร็วเกินไปยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครคาดคิดว่าอยู่ดีๆเทพปีศาจจะโจมตีฉือกูเหยียน
โจมตี ฉือกูเหยียนกล่าวเบาๆ ในเวลาเดียวกันเงาด้านหลังนางสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมปล่อยพลังอันรุนแรงออกมา
ตูม!
พลังทั้งส้องปะทะกันลำแสงสีดำสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จะหายไป
ดูเหมือนว่าฉือกูเหยียนจะป้องกันการโจมตีได้สำเร็จแต่ทุกคนรู้ว่าเมื่อแสงสีดำปรากฎขึ้นอีกครั้ง นั่นหมายถึงความตายของฉือกูเหยียน
จากนั้น…
แสงสีดำปรากฎขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้มันปรากฎขึ้นตรงตำแหน่งหัวใจฉือกูเหยียน
ราวกับเวลาได้หยุดนิ่ง
อย่างไรก็ตามเรื่องน่าประหลาดคือแสงสีดำไม่สามารถทะลุเข้าไปในหัวใจของฉือกูเหยียนได้มันหยุดอยู่ด้านหน้าฉือกูเหยียน นั่นเป็นเพราะมีโซ่สีแดงขดรอบลำแสงสีดำ
มันคือโซ่ชีวิต!
แกร้ง!โซ่สีแดงเกิดรอยร้าวและแตกออกทันที อย่างไรก็ตามกลับมีโซ่สีเขียวปรากฎขึ้นอีกครั้งและรัดลำแสงสีดำเอาไว้
ทันทีที่โซ่สีเขียวปรากฎขึ้นร่างสีดำขนาดใหญ่ได้ปรากฎขึ้นบนอากาศเช่นกัน
เจ้าไม่ใช่คนโง่แต่เจ้ากลับไม่รู้จักการประเมิณพลังของศัตรูงั้นรึ?! เสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นหมัดภายใต้ชุดเกราะที่ล้อมรอบไปด้วยเปลวเพลิงสีดำได้ปรากฎขึ้น
ตูม!คลื่นพลังอันรุนแรงราวกับพายุทำให้ชุดสีชมพูของฉือกูเหยียนโบกสะบัด
ณตำแหน่งที่เกิดพายุร่างของเทพปีศาจได้ปรากฎขึ้นอีกครั้ง
ไม่นานจากนั้นร่างหนึ่งได้ปรากฎขึ้นด้านหน้าฉือกูเหยียนเช่นกันร่างที่ปกคลุมด้วยชุดเกราะสีดำลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง ……………………………………..