Gate of God - ตอนที่ 930 รวมพลัง
เข้ามาแสดงพลังที่เรียกว่าพระเจ้าออกมา! เสียงดังขึ้นจากชุดเกราะ
นี่เป็นฉากที่น่าตกใจ
ไม่มีใครคิดเลยว่าฟางเจิ้งจือสามารถส่งเทพปีศาจลอยออกไปด้วยหมัดที่ลุกท่วมไปด้วยเพลิง
นี่ไม่ใช่เพราะฟางเจิ้งจือเร็วกว่าเทพปีศาจแต่มันเป็นเพราะเขาตัดสินใจถูกต้องว่าเทพปีศาจจะปรากฎตัวที่ไหน
ราชาอสูรนิ่งงัน
นอกจากพวกเขาแล้วทั้งไป่ฉือ เหยียนเฉียนหลี่ เซียนสวรรค์พักพิงและวู่จวี้เอ๋อที่มองดูต่างก็ประหลาดใจ
ฟางเจิ้งจือไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเขามองฉือกูเหยียนที่กำลังหน้าซีด เขาเหยียดแขนออกไปและหยุดค้างตรงหน้านาง
ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของเขา ร่างของฉือกูเหยียนสั่นเทานางมองที่ฝ่ามือตรงหน้าก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่หน้าของฟางเจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามนางมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะเกราะสีดำปกปิดใบหน้าของฟางเจิ้งจืออยู่
สิ่งเดียวที่นางเห็นคือดวงตาของเขา
มันเป็นแค่ตาคู่หนึ่งที่แสดงถึงความโกรธนอกจากแสงสีม่วงแล้วยังมีดวงแสงของเต๋าทั้งหกหมุนวนไปมา แดง ฟ้า เขียวและดำ แสงสีทั้งสี่ส่องประกายออกมา
ฉือกูเหยียนไม่ได้ถามฟางเจิ้งจือว่าเขาคิดจะทำอะไรนางรู้ถึงการตัดสินใจของเขาหลังจากได้เห็นดวงตาคู่นั้น
มือของทั้งสองจับกัน
เชื่อใจข้าไหม? ฟางเจิ้งจือพูดออกมาจิตสังหารเปล่งออกมาพร้อมกับน้ำเสียงที่จริงจัง
ในขณะเดียวกันใบหน้าที่ซีดขาวของนางก็เริ่มแดงขึ้นราวกับว่าไม่ได้รู้สึกถึงจิตสังหารแม้แต่น้อย
แน่นอน ฉือกูเหยียนพยักหน้า
นางโน้มเข้าหาฟางเจิ้งจือจนไหล่ของนางสัมผัสกับร่างของฟางเจิ้งจือ
ไปฆ่าพระเจ้ากัน! ฟางเจิ้งจือจับมือฉือกูเหยียนแน่นและยิ้มอย่างแผ่วเบา
ฮ่าฮ่า… ฉือกูเหยียนเผยยิ้มเช่นกัน แม้จะไม่ได้ตอบฟางเจิ้งจือออกไปแต่ท่าทีของนางเผยให้เห็นถึงความโล่งใจ
ชุดยาวสีชมพูเปื้อนเลือดโบกสะบัดตามสายลมเสียงของมันราวกับท่วงทำนองแห่งความสุข
เลิกพูดไร้สาระโฮก! ในตอนนั้นราชาอสูรที่ยืนข้างฉือกูเหยียนเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง
ในขณะเสียงคำรามดังขึ้นกรงเล็บแหลมคมที่ใหญ่ยักษ์ก็ฟาดใส่พวกเขาด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า ลำแสงสีม่วงส่องสว่างตัดท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน
กรงเล็บของราชาอสูรใกล้ถึงตัวพวกเขา
แครก!แต่เมื่อกรงเล็บของราชาอสูรปะทะกับชุดเกราะมันก็แตกออกทันที
ความประหลาดใจเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดสีหน้าของราชาอสูรเต็มไปด้วยความกลัวและควาไม่เชื่อ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ร่างของเขาถูกแยกออกเป็นสองส่วนด้วยลำแสงสีม่วงในขณะเดียวกันไข่มุกอสูรลอยออกมาบนท้องฟ้า
อึก!ในตอนที่ไข่มุกอสูรปรากฎขึ้น ฟางเจิ้งจือก็กลืนมันลงไป
อึกอึก…
หลังจากกลืนไข่มุกอสูรฟางเจิ้งจือก็เช็ดปากและหันมองราชาอสูรโดยรอบด้วยสายตาที่หิวโหยของนักล่า
รสชาติไม่เลวมีอีกไหม? …
…
ไม่มีราชาอสูรตนใดตอบกลับฟางเจิ้งจือพวกเขาเพียงนึกถึงคำว่า ‘สัตว์ร้ายที่น่ากลัวกว่าอสูร’
ฮ่าฮ่าฮ่าน่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ! เสียงของเทพปีศาจดังขึ้นแตกต่างกับครั้งก่อนๆ มันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ในขณะเดียวกันร่างหนึ่งปรากฎขึ้นตรงหน้าฟางเจิ้งจือ อยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงสิบก้าว
ข้าคิดมาตลอดว่าคนที่ยืนต่อหน้าข้านั้นอ่อนแอเหมือนมดปลวกดูเหมือนว่าตอนนี้ข้าต้องยอมรับว่าประเมิณพลังของเจ้าต่ำเกินไป เจ้าเชี่ยวชาญสี่ในหกเต๋าแห่งการจุติ? หายาก หายากจริงๆ! เทพปีศาจหัวเราะจนร่างกายสั่นไหว เพื่อตอบแทนสิ่งนี้ ก่อนฆ่าเจ้าข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นพลังที่แท้จริงของพระเจ้า!
ท่านพูดเรื่องอื่นบ้างได้ไหม?ท่านพูดแต่เรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟางเจิ้งจือค่อยๆยกดาบชี้ไปที่คอของเทพปีศาจ
ฮ่าฮ่าฮ่าจริงรึ?! รอยยิ้มปรากฎอีกครัง เทพปีศาจเบิกตา ได้ งั้นข้าขอพูดใหม่ …เจ้าอยากตายยังไง?
ฟุ่บ!
หลังสิ้นเสียงของเทพปีศาจกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกจากร่างเทพปีศาจ รู้สึกราวกับกลิ่นอายของทั้งกองทัพในสนามรบ มันรุนแรงจนพื้นดินแตกออก
ในขณะเดียวกันรอยแผลสีทองบนหน้าผากค่อยเปิดออกเผยลวดลายที่ซับซ้อนขนาบข้าง
ดวงตาปีศาจ!
ดวงตาปีศาจคือสัญลักษณ์ของเผ่าพันธุ์อย่างไรก็ตามดวงตาปีศาจของเทพปีศาจไม่ใช่สีแดงหรือสีทอง มันไม่มีความสดใสของดวงตา กลับกันมันคือความมืดสนิท
แต่ทันทีที่ดวงตาปีศาจปรากฎขึ้นฟางเจิ้งจือก็รู้สึกว่ามันคือของจริงและนั่นทำให้เขาสับสน
อย่างไรก็ตามควาสับสนไม่ได้อยู่กับเขานานนักความจริงแล้วเขาได้สติกลับมาเกือบทันทีเพราะฉือกูเหยียนถูกโจมตีทันทีที่ดวงตาปีศาจเปิดออก
ทันใดนั้นเอง
แม้แต่ไป่ฉือก็ตกใจ
คนที่บาดเจ็บย่อมโจมตีช้าลงแต่ทว่าฉือกูเหยียนไม่เป็นเช่นนั้นนางฟาดหางงูใส่เทพปีศาจอย่างไม่ลังเล
สิ่งสำคัญที่สุดคือเงาจางๆด้านหลังของนางเกล็ดทั้งห้าสีเปล่งประกายสดใสบนหางงูยักษ์
หืม?นางฟื้นตัวได้แล้วงั้นหรือ?! ไป่ฉือประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าฟางเจิ้งจือมีวิธีทำให้ฉือเหยียนฟื้นตัวได้เร็วเขาต้องทำนานแล้ว ถ้าพูดให้ถูกเขาต้องใช้วิธีบางอย่างเพื่อให้ฉือกูเหยียนยืมพลัง หยุนชิงวูส่ายหน้าเบาๆ
เต๋า? ไป่ฉือขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันมองฟางเจิ้งจือกับฉือกูเหยียน มันคือเต๋าหยินหยาง!
เต๋าหยินหยาง?ฮึ่ม…อาจจะใช่ หยุนชิงวูพยักหน้า น้ำเสียงของนางค่อนข้างสับสนและประหลาดใจเล็กน้อย
…
ในขณะที่ไป่ฉือคุยกับหยุนชิงวูเทพปีศาจก็ป้องกันการโจมตีของฉือกูเหยียนได้สำเร็จ
เทพปีศาจไม่ได้หลบแม้แต่น้อย
เขาไม่ต้องกังวลอะไรอีกหลังจากเปิดใช้ดวงตาปีศาจอย่างไรก็ตามเขาประหลาดใจเล็กน้อยตอนที่ป้องกันการโจมตีของฉือกูเหยียน
เต๋าหยินหยาง? เทพปีศาจตระหนักถึงพลังที่เปลี่ยนไปของฉือกูเหยียนเพราะมันชัดเจนเกินไป
เงาจางๆด้านหลังฉือกูเหยียนกลิ่นอายที่งดงาม ใบหน้าที่บ่งบอกว่านางกำลังใช้พลังขั้นสูงสุด
แน่นอนว่าฟางเจิ้งจือเป็นคนเดียวที่ทำให้เทพปีศาจตกตะลึง
ในขณะที่ฉือกูเหยียนใช้พลังสูงสุดพลังของฟางเจิ้งจือก็ไม่ได้ลดลงเลย ความจริงแล้วมันเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ
เจ้าเด็กมีพลังเก็บซ่อนไว้แค่ไหนกัน? เทพปีศาจรู้ว่าเต๋าหยินหยางทำให้พวกสร้างปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถ้าเต๋าหยินหยางทำให้ฉือกูเหยียนแข็งแกร่งมันจะทำให้ฟางเจิ้งจืออ่อนแอลง
แต่ทว่า
ฟางเจิ้งจือมีแก่นพลังมากพอที่จะทำให้ทั้งเขาและฉือกูเหยียนอยู่ในจุดสูงสุดของพลังที่มี
ตาย! หลังจากตะโกนสุดเสียงเทพปีศาจก็พุ่งเข้าหาพวกเขา
เขาเร็วมากจนไม่มีใครสามารถตอบสนองได้ทัน
ทว่าดาบสีม่วงส่องสว่างออกมาอีกครั้งในตอนนั้นเองเทพปีศาจหายตัวไป ฟางเจิ้งจือเริ่มเคลื่อนไหวดาบไร้ร่องรอย
เขาไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเทพปีศาจได้
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ส่งผลต่อการโจมตีของเขาดาบสีม่วงส่องสว่างบนท้องฟ้าอีกครั้ง
แกร้ง!ดาบไร้ร่องรอยปะทะกับกริชดำเปล่งเสียงที่คมชัดดังสนั่น รอยแตกสีดำปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า
ในขณะเดียวเปลวเพลิงสีดำทั้งแปดก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวฟางเจิ้งจือ
ตูม!กริชดำพุ่งเข้าหาฟางเจิ้งจือ
คลื่นปะจากพลังที่รุนแรงทำลายเกราะของฟางเจิ้งจือทำให้เขารู้สึกว่าร่างกายกำลังจะระเบิด
อย่างไรก็ตามเขายังคงจับดาบแน่น
ถุย!ฟางเจิ้งจือพ่นเลือดออกมาเล็กน้อยเลือดสีแดงสาดลงบนตัวดาบและถูกกลืนกินเข้าไป
มาดูกันว่าใครจะเป็นคนที่ต้องตาย! ฟางเจิ้งจือเบิกตากว้างทั่วทั้งร่างปกคุลมไปด้วยเพลิงสีดำและแสงสีทองไหลไปตามชุดเกราะที่แตกร้าว
ในขณะที่พูดแสงสีแดงก็ส่องสว่างบนตัวดาบไร้ร่องรอยพร้อมปล่อยกลิ่นอายที่เยือกเย็นออกมา
เขาต้องการฆ่าพระเจ้าอย่างไรก็ตามมันจะง่ายเช่นนั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือรู้มาตลอดว่าเขาไม่อาจเทียบได้ในเรื่องของพลังดังนั้นเขาจึงใช้พลังใจ พลังใจที่มุ่งมั่นในชัยชนะ
หืม?! เทพปีศาจตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเขาคิดว่าฟางเจิ้งจือน่าจะถูกส่งลอยออกไปด้วยการโจมตี
แต่ไม่ใช่แค่ไม่ลอยออกไปเขาไม่ถอยไปแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้โจมตีสวนมาได้อีก
เทพปีศาจจับกริชดำแน่นขณะที่เขากำลังโจมตีอีกครั้ง แสงดาบก็มาถึงลำคอของเขาแล้ว
มันคือดาบของฉือกูเหยียน
ขณะที่ฟางเจิ้งจือโจมตีเขาฉือกูเหยียนก็โจมตีด้วยดาบของนางเช่นกัน นางฟาดหางไปที่หลังหัวของเทพปีศาจ
เทพปีศาจหรี่ตาลง
ในเรื่องของระดับพลังเขาชนะฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนแน่นอน อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ต้องการพ่ายแพ้
เขาเคลื่อนไหว
เทพปีศาจหายไปในอากาศอีกครั้ง
ถ้าเขาไม่สามารถโจมตีจากด้านหน้าได้เขาก็ควรโจมตีจากด้านหลัง อย่างไรก็ตามเทพปีศาจจะเลือกทำหรือไม่?
ไม่! นั่นเพราะเขาคือปีศาจที่มีประสบการณ์มากมายอีกเหตุผลหนึ่งเพราะหางงูขนาดยักษ์ออกมาจากด้านหลังฉือกูเหยียน
ดังนั้นเขาจต้องหลอกล่อเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามลดการป้องกันอย่างไรก็ตามเหตุผลหลักคือแก้แค้นที่ฟางเจิ้งจือเตะเขาก่อนหน้านี้
เขาเล็งไปที่ส่วนล่างของร่างกาย…ที่ขา!
มันคือตำแหน่งที่ไม่มีมนุษย์คนไหนนึกถึง!
อย่างไรก็ตามเทพปีศาจไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขารู้สึกเจ็บที่ใบหน้าทันใดนั้นเขาพบว่าร่างของเขาปรากฎอยู้ใต้เท้าของฟางเจิ้งจือ
มันเจ็บ!
อย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้! เสียงของฟางเจิ้งจือดังขึ้นชัดเจนและเสียงพึมพำ ‘โง่เง่า โง่…’ ก็ดังขึ้นซ้ำไปซ้ำมา
……………………………………..
��