Gate of God - ตอนที่ 931 พลังที่จะตัดสินผู้แพ้ชนะ
เทพปีศาจรู้สึกสูญเสีย….
ในฐานะปีศาจผู้ทรงพลังเขาควรเป็นผู้ที่ควบคุมผืนดินและผืนน้ำเขาควรจะได้รับความเคารพสูงสุด อย่างไรก็ตามเขากลับถูกมนุษย์ธรรมดาเหยียบหน้า
โดนดูถูก?แค่คำนี้มันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของเขาได้
นั่นเพราะเขาถูกฟางเจิ้งจือโจมตีใส่ด้วยวิธีที่ยิ่งกว่าการดูถูกเขาเห็นความรังเกียจได้ในสายตาของฟางเจิ้งจือ
เขากำลังถูกดูหมิ่น!
ด้วยฐานะพระเจ้าเขากำลังถูกดูหมิ่น?แม้แต่ตอนก่อนสุดท้ายที่เขากำลังจะตะโกนคำว่า ตาย ออกมา เท้าของฟางเจิ้งจือกลับทำให้เขาไม่สามารถพูดออกมาได้
… ปากของเขาถูกปิดผนึกโดยเท้าของฟางเจิ้งจือ มันเกิดขึ้นได้ยังไง?
เทพปีศาจไม่สามารถเข้าใจได้เขาไม่เข้าใจว่าฟางเจิ้งจือคิดแผนออกมาได้ยังไง? แล้วยังมีความเชื่อมั่นจากก้นเบื้องของหัวใจ
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญอีกต่อไป
เขารู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้าจริงๆฟางเจิ้งจือเหยียบใส่หน้าของเทพปีศาจด้วยพลังทั้งหมด
ตูม!หัวของเทพปีศาจเอียงไปด้านหลัง ก่อนที่ทั้งร่างจะล้มลงไปกระแทกกับกิ่งต้นไม้เทพเจ้าอย่างเต็มกำลัง
มันฉากที่ใครเห็นก็ต้องตกใจ
อย่างไรก็ตามบรรยากาศกลับเงียบเชียบนั่นเพราะทุกคนตกใจจนพูดไม่ออก!ไม่มีใครสามารถเชื่อสายตาของตัวเองได้
เวลาราวกับถูกหยุดลงจนเทพปีศาจลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งเขาถ่มเลือดในปากลงพื้น
ฟางเจิ้งจือข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!!! รัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างเทพปีศาจ กิ่งไม้ใบไม้ที่ถูกพลังนั้นล้วนฉีกขาด
เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจกำลังโกรธถึงขีดสุด
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือยังคงมีความดูถูกอยู่บนใบหน้าเคยมีคำโบราณบอกไว้ว่าคนที่เก่งในการไล่ล่าผู้อื่นจะไม่มีความสามารถพอในการป้องกันตัวเองได้ยังไง?’ แต่เทพปีศาจที่ดีแต่จะไล่ฆ่าฟางเจิ้งจือกลับไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของฟางเจิ้งจือได้
ฟางเจิ้งจือชูนิ้วกลางใส่เทพปีศาจจากนั้นเขาก็หันไปหาฉือกูเหยียน เจ้ากลัวไหม?
ไม่ ฉือกูเหยียนส่ายหน้า
เจ้าไม่ต้องกลัวเพราะเจ้าไม่ใช่คนที่เขาต้องการจะฉีกเป็นชิ้นๆ
แน่นอน ฉือกูเหยียนยิ้ม แก้มของนางเป็นสีชมพูราวกับดอกท้อ
ใครที่เห็นย่อมเกิดความต้องการในใจ
ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าฉือกูเหยียนในสภาพเช่นนี้ทำให้เขานึกถึงฉือกูเหยียนตอนที่เขาหลอกเอาทองแท่งจากนางที่หมู่บ้านภูเขาทางใต้
ตอนนั้นเขารู้ถึงสถานะที่แท้จริงของนาง
ธิดาของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์เจ้าหญิงของอาณาจักรเซี่ย นางเป็นชนชั้นสูง คำพูดของนางสามารถตัดสินความเป็นความตายของคนได้
ตลอดเวลาเขานึกเสมอว่าทำไมฉือกูเหยียนถึงต้องการให้เขาทะเยอะทะยานเป็นเพราะนางเคยถูกเขาเตะ?
หากเขาถูกนางจับได้ในตอนนั้นหรือเขาเปิดเผยความจริงว่าเขาสามารถไขปริศนาภาพแห่งการสรรค์สร้าง เขาจะกลายเป็นสมาชิกของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์? แล้วผลลัพธ์ในตอนนี้จะต่างออกไปไหม?
ฟางเจิ้งจือไม่รู้อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขารู้สึกว่าบางอย่างก็ไม่สามารถอธิายออกมาเป็นคำพูดได้
เจ้ารู้สึกดีขนาดนั้นเลยรึ? ฉือกูเหยียนถาม
ใช่แล้วแต่จะดีถ้าเจ้าสุภาพและเชื่อฟังข้ากวานี้! ฟางเจิ้งจือยิ้มอย่างสดใส
อืมข้าก็คิดเช่นนั้น ฉือกูเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจงใจ เจ้าคิดว่าวู่จวี้เอ๋อร์จะได้ยินที่พวกเราคุยกันไหม?
… รอยยิ้มของฟางเจิ้งจือแข็งค้างทันที
ด้านของเทพปีศาจเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกมองข้าม
เขาไม่เข้าใจว่าฟางเจิ้งจือยังมีอารมณ์พูดคุยกับฉือกูเหยียนได้ยังไง
พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่?
เวลาเป็นของมีค่า ฟางเจิ้งจือยกดาบไร้ร่องรอยขึ้น แสงที่เปล่งออกมาทำให้ท้องฟ้าเป็นสีม่วง
คนชอบถามกันว่า’คุณจะทำอะไรในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต?’
แน่นอนว่าต้องมีคำตอบมากมาย คำตอบของฟางเจิ้งจือคือ…
ได้พูดคุยสบายๆกับใครบางคน
นี่คือสิ่งที่ฟางเจิ้งจือคิดในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าฉือกูเหยียนคิดยังไง แต่เห็นนางกำลังยิ้มอย่างสบายใจ นางก็น่าจะคิดแบบเดียวกันเขา
หนี?
หากได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังก่อนหน้านี้เขาคงจะหนีแน่นอน แต่ตอนนี้เขาไม่คิด
อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มที่เบ่งบานของฉือกูเหยียนอาจจะเป็นเพราะวู่จวี้เอ๋อที่ยืนรออยู่ด้านล่าง
นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของฟางเจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามวู่จวี้เอ๋อไม่ได้คิดแบบเดียวกับเขาท่าทีของนางแสดงถึงความโกรธ
ไร้ยางอายไร้ยางอายที่สุด! ใบหน้าของนางแดงเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะความโกรธหรือรู้สึกผิด
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้เคลื่อนไหวนางเพียงยืนกัดริมฝีปากแน่น แต่สิ่งหนึ่งคือเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่นอนถ้าฟางเจิ้งจือมีชีวิตรอดเพราะสิ่งที่เขาพูด
แต่ฟางเจิ้งจือจะรอดไปได้ไหม?
วู่จวี้เอ๋อไม่แน่ใจอย่างไรก็ตามนางต้องการจะเฝ้าดูความตายของเขา นางต้องการจะพาร่างที่ตายแล้วของเขาไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ จากนั้นนางจะหาสถานที่ฝังเขาใกล้ๆแม่น้ำบนเนินเขาเพื่อให้ทั้งหมู่บ้านมองเห็นได้
แน่นอนว่านางจะวางเก้าอี้ไว้ตัวหนึ่งเพื่อที่นางจะนั่งอยู่เคียงข้างกับเขาได้…
เจ้าจะตายจริงใช่ไหม? ยิ่งคิดเท่าไร วู่จวี้เอ๋อก็ไม่สามารถระงับความรู้สึกผิดในใจของตัวเองได้ สายตาของนางเริ่มพร่ามัว
บางทีอาจจะท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยแสงสีม่วงหรือว่าเพราะความมืดที่โจมตีใส่แสงสีม่วงนั้นรุนแรงเกินไป
วู่จวี้เอ๋อพบว่านางไม่สามารถมองสิ่งที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน นางพยายามที่จะเปิดตาโดยไม่เอามือไปถูหรือกระพริบตา
มีเสียงดังก้องทั่วท้องฟ้าแต่นางมองเห็นเพียงแสงจางๆเคลื่อนไหวเท่านั้น
จวี้เอ๋อเจ้าร้องไห้… เสียงของเซียนสวรรค์พักพิงดังขึ้นเบาๆมันเป็นเสียงที่กังวลมาก
อา?ข้ากำลังร้องไห้งั้นหรือ? วู่จวี้เอ๋อส่ายหัวและพบน้ำตาที่กำลังไหลริน
นางตื่นตระหนกทันทีที่รู้ว่าเงาที่ตัวเองกำลังจ้องมองได้หายไปตอนที่นางกระพริบตา
หายไปไหนกัน?!
ไม่ขอให้ทุกอย่างไม่จบลงแบบนี้!
วู่จวี้เอ๋อเปิดตาอีกครั้งและพบว่าเงานั้นยังคงอยู่เหมือนเดิม
นอกจากสายตาของนางกลับมาชัดเจนฟางเจิ้งจือกำลังถือดาบอยู่
อย่างไรก็ตาม… ทำไมบนร่างกายของถึงมีเลือดมากมาย!
ดวงตาของวู่จวี้เอ๋อเบิกกว้างอีกครั้งเพราะนางต้องการมองสิ่งที่เกิดขึ้นในชัดเจน และนางก็พบว่าไม่ใช่แค่เลือด แต่ฟางเจิ้งจือได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าแผลจะไม่ใหญ่แต่มีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง เกราะสีดำของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด
ในเวลาเดียวกันรอยร้าวจำนวนมากปรากฎขึ้นราวกับทั้งเกราะกำลังแตกสลาย
ไม่!เจ้าจะตายไม่ได้!
…
เหนือต้นไม้เทพเจ้าฟางเจิ้งจือยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าตัวเองทนได้ไม่เกินสิบห้านาที
ดูเหมือนว่าท่านจะใช้พลังไม่พอ ฟางเจิ้งจือมองเทพปีศาจด้วยความดูถูก
ข้าบอกไปแล้วข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าตายง่ายๆ! มีเลือดอยู่บนฝ่ามือและร่างของเขาเช่นกัน และเลือดของฟางเจิ้งจือที่กริชสีดำในมือ
พลังไม่พอก็คือไม่พอไม่มีใครเชื่อที่ท่านอ้างหรอก ฟางเจิ้งจือยิ้มพร้อมชี้ไปที่ปลายดาบไปที่ลำคอของเทพปีศาจ
หึ! เทพปีศาจส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา เขาไม่คิดจะคุยไร้สาระกับฟางเจิ้งจือ จากนั้นกริชสีดำในมือของเขาหายไปในอากาศ
ในเวลาเดียวกันแสงสีม่วงได้ส่องสว่าง
อย่างไรก็ตาม…
ไม่ว่าแสงจะสว่างมากแค่ไหนดาบจะเร็วแค่ไหนก็ไม่สามารถกันแสงสีดำได้ กริชปรากฎขึ้นที่ด้านล่างของต้นขาซ้ายของฟางเจิ้งจือ
ฉึก!
กริชสีดำแทงทะลุต้นขาฟางเจิ้งจือและกลับสู่มือของเทพปีศาจ
ในเวลาเดียวกันเทพปีศาจเอามือจับแสงดาบสีม่วงที่พุ่งมาหาเขา
ด้วยพลังกายอันทรงพลังเขาบีบพลังแสงสีม่วงออกเป็นเสี่ยงๆ
ร่างกายของฟางเจิ้งจือเซเล็กน้อยอย่างไรก็ตามเขาจับดาบในมือแน่น
เจ้าเป็นมนุษย์ไม่ว่าเจ้าจะเก่งและโชคดีแค่ไหนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะพระเจ้าเจ้าเข้าใจไหม? หลังจากเขาพูดกริชสีดำหายไปจากมือเขาอีกครั้ง
คราวนี้แทนที่มันจะปรากฎใกล้ๆฟางเจิ้งจือมันปรากฎใกล้หน้าอกของฉือกูเหยียน
แกร้ง!
ในเวลาไล่เลี่ยกันแงสีม่วงก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า
เหอะไร้เดียงสา! ฟางเจิ้งจือยิ้ม
เทพปีศาจขมวดคิ้ว
นี่เป็นครั้งที่ห้าที่เขาโจมตีใส่ฉือกูเหยียนอย่างไรก็ตามมันล้มเหลวเพราะการป้องกันของฟางเจิ้งจือ
ทำไมเขาถึงเดาได้? อะไรคือสาเหตุ?
เขาไม่รู้ว่าทำไมฟางเจิ้งจือที่ไม่ได้เร็วหรือมีพลังมากไปกว่าเขาถึงสามารถป้องกันการโจมตีได้
เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่?
ท่านถามคำถามได้ถูกต้องแล้วข้าบอกไปแล้วไงว่าข้าเป็นจักรพรรดิฮวงกลับชาติมาเกิด ลองดูที่ตาข้าสิ เห็นไหมว่าจริงใจขนาดไหน! ฟางเจิ้งจือกระพริบตาพูดด้วยความจริงใจ
……………………………………..