Gate of God - ตอนที่ 997 อสูรชั้นต่ำ
ตอนที่ 997 อสูรชั้นต่ำ
…
ฟางเจิ้งจือไม่มั่นใจว่าหลับไปนานแค่ไหนบางทีอาจจะเป็นหนึ่งวันหรือสองวัน หรือบางทีอาจจะเป็นเพียงแค่ชั่วลมหายใจเดียว
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาลืมตาตื่น เขายังคงอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสีแดงจากลาวา
แต่ร่างของเขาไม่ได้ถูกเผาไหม่อีกต่อไป
ราวกับเขาแช่อยู่ในน้ำอุ่นๆ
ร่างกายของเขาผสานกลายเป็นหนึ่งเดียวกับลาวารอบๆ
หรือก็คือเขาควบคุมมัน!
เขาควบคุมลาวาที่อยู่รอบๆ!
รู้สึกสบายเหลือเกิน! ฟางเจิ้งจือบิดตัวด้วยความขี้เกียจและกระโดดออกจากลาวาพร้อมกับเสียงระเบิดดังลั่น
เจ้าสามารถควบคุมมันได้ทั้งหมดหลังจากทำเพียงครั้งเดียว! หญิงสาวในชุดขาวลืมตาขึ้น
แม้แต่คนที่นิ่งสงบเช่นนางยังต้องตกใจ
นางมองฟางเจิ้งจือหัวจรดเท้า
มีแสงสีทองไหลผ่านสัญลักษณ์อันซับซ้อนบนร่างฟางเจิ้งจือแต่เทียบกับก่อนหน้านี้สัญลักษณ์ที่ปรากฎในครั้งนี้หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ราวกับสายน้ำสีทอง
ครืน!เสียงดังขึ้นพร้อมกับกงล้อแห่งการจุติที่เหนือหัวของฟางเจิ้งจือ
แสงสีทองไหลผ่านกงล้อแห่งการจุติ
แดงฟ้า ดำ เงิน เขียว สีสันอันสดใสทั้งห้าหมุนวนอยู่ในกงล้อแห่งการจุติ ราวกับดาวเคราะห์ที่หมุนวนรอบจุดศูนย์กลาง
เต๋าสวรรค์เต๋าอาชูร่า เต๋านรก เต๋าชีวิตและเต๋าวิญญาน!
ฟางเจิ้งจือเงยหน้าขึ้นมองพวกมันและยิ้มออกมาเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขา มหาสมุทรในมิติพิเศษของเขากว้างใหญ่จนไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เรื่องสำคัญคือไม่มีดอกไม้อัศจรรย์ห้าสีลอยอยู่เหนือมหาสมุทรที่เหลืออยู่คือผลไม้สีทอง
ผลจากต้นไม้เทพเจ้า!
ฟางเจิ้งจือไม่รู้ว่ามันคือผลของอะไรกันแน่แต่นอกจากมัน ดอกไม้อัศจรรย์ห้าสีได้หลอมรวมกับมหาสมุทรและกงล้อแห่งการจุติบนหัวของเขา
การหลอมรวมและการควบคุมของเขาเกือบจะเข้าขั้นสมบูรณ์
โอ้! ฟางเจิ้งจืออุทานด้วยความตื่นเต้น ปีกสีดำคู่หนึ่งกางออก
แสงสีทองจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากมันขณะเดียวกันกล้ามเนื้อบนแขนขยายใหญ่ขึ้น เส้นเลือดทุกเส้นกลายเป็นสีทอง
มันสมบูรณ์แบบมากจนฟางเจิ้งจือแทบจะทนไม่ไหว
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอยู่
เอ่อ.. ฟางเจิ้งจือกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาสัมผัสได้ว่าดวงตาคู่นั้นมองมาที่เขาแปลกๆ จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลง
และพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เสื้อผ้าเสื้อผ้าของเขาหายไป!
บัดซบ!
ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำสำเร็จได้ในครั้งเดียว หญิงสาวในชุดขาวเลิกมองฟางเจิ้งจือ
เสื้อผ้าของข้าอยู่ที่ไหน?
เจ้าใช้ใบไม้หรือมือปิดก็ได้
…
ที่นี่ไม่มีเรื่องอื่นที่ข้าสามารถช่วยเจ้าได้เมื่อเราเจอกันครั้งหน้าอย่าลืมสวมใส่เสื้อผ้าด้วย หลังจากพูดหญิงสาวในชุดขาวหันหลังและเดินกลับไปในที่ที่นางจากมา ท่านหมายความว่ายังไง?…ตอนข้ามาข้าก็สวมเสื้อผ้าปกติ! ฟางเจิ้งจือต้องการจะสบถออกไป เสื้อผ้าของเขาถูกลาวาหลอมละลาย มันไม่ยุติธรรมที่นางจะกล่าวหาเขาเช่นนี้
เดี๋ยวก่อน!ยังมีผลจากต้นไม้เทพเจ้าอยู่ในมิติพิเศษของข้า! ฟางเจิ้งจือถามขึ้นมาก่อนที่ร่างของหญิงสาวในชุดขาวจะหายไป
ข้ารู้ หญิงสาวในชุดเขาไม่หยุดและหายตัวไปทันที
รู้?แล้ว…ยังไงต่อ? ฟางเจิ้งจืออ้าปากค้าง เขารู้สึกพูดไม่ออกขณะมองไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยลาวารอบๆ
รู้แต่ไม่คิดจะอธิบายอะไรให้เขาฟังหน่อยหรือ?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
…
ปิงหยางยังคงเงยหน้าและไม่มีท่าทีจะต่อต้าน
อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่สามารถอธิบายความรู้สึกของฉินเซียนในตอนนี้ได้
นั่นเพราะหลังจากเขายกหน้ากากผ้าสีดำขึ้นเขาพบเรื่องที่น่าหวาดหวั่นเพราะมีหน้ากากอีกอันซ้อนอยู่ด้านล่าง
หน้ากากที่เขียนคำว่า’เทพเจ้า’
เรื่องบัดซบอะไรกัน?!
นางบ้าหรือเปล่าที่ใส่หน้ากากซ้อนทับกันสองชั้น?
สีหน้าของฉินเซียนกลายเป็นอัปลักษณ์ทันทีแต่เขายังคงใช้มือยกหน้ากากชั้นที่สองออก
จากนั้น…
ชั้นที่สาม!
เจ้า… ฉินเซียนอยากจะสบถออกมา แต่มือของเขายังคงยกหน้ากากชั้นที่สาม
มันเป็นการเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาน
เหมือนกับการถอดเสื้อผ้าของผู้หญิงถ้าผู้หญิงไม่ต่อต้านผู้ชายย่อมถอดต่อไปเรื่อยๆ เขาคิดอย่างเดียวคือต้องเห็นใบหน้าของปิงหยางให้ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อฉินเซียนเอื้อมมือออกไปปิงหยางก็ลดใบหน้าลงอย่างกระทันหัน
หืม?! ฉินเซียนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างทันที
อย่างไรก็ตามเขาไม่ถอยเพราะปิงหยางนั้นอ่อนแอเกินไปด้วยพลังและสิ่งที่นางทำก่อนหน้านี้ ฉินเซียนรู้สึกว่าปิงหยางก็เป็นแค่มนุษย์ไร้ประโยชน์
ทำไมเขาต้องถอยด้วย?
เขาเลือกที่จะโจมตีโดยการเอื้อมแขนทั้งสองข้างไปที่ปิงหยาง
ล้มไปซะ! ฉินเซียนเตรียมจะใช้มือทั้งสองข้างตบปิงหยาง
เขามั่นใจว่าอีกฝั่งไม่มีทางต่อต้านได้
อย่างไรก็ตามแทนที่ปิงหยางจะล้มลงพลังอันรุนแรงกลับบังคับให้เขาต้องถอยออกมาแทน เกิดอะไรขึ้น?
ขณะฉินเซียนกำลังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเขารู้สึกราวกับถูกสายฟ้าผ่าเข้ากลางหลัง
เขาจำสิ่งที่ปิงหยางกล่าวได้ดี
มือหนึ่งของนางอุ้มร่างของเทพสงครามเมิ่งเทียนเอาไว้อีกข้างก็ถือเมล็ดพันธุ์
นางมีมือที่สามอีกหรือไง?
งั้นมือที่โจมตีใส่เขามาจากไหน?
ใบหน้าของฉินเซียนซีดขาวรอยยิ้มของเขาหายไป
นั่นเป็นเพราะมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาไม่กระพริบจากนั้นมันก็ขยิบตาให้เขา
ราวกับจะทักทาย…
ว่าไง!
หลังจากนั้นเขาก็ยินคำทักทายนั้นจริงๆมันมาพร้อมกับคำพูดอื่นที่ค่อนข้างหยาบคาย
ว่าไงเจ้าอสูรชั้นต่ำ!
… ฟางเจิ้งจือรู้สึกดีเล็กน้อยหลังจากที่ได้หลอมรวมดอกไม้อัศจรรย์ห้าสีเข้าสู่ร่างกาย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับคำตอบเกี่ยวกับผลจากต้นไม้เทพเจ้าจากหญิงสาวในชุดสีขาวแต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตามแม้เขาจะตื่นเต้นแต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นและเห็น’อสูรชั้นต่ำ’ มันทำให้เขารู้สึกซับซ้อนเล็กน้อยโดยเฉพาะเมื่ออสูรตรงหน้ากำลังจะเอามือมาตบหน้าเขา
ฟางเจิ้งจือเลยเอามือของเขาปะทะกับมือของอสูรส่งผลให้ร่างของมันกระเด็นออกไป
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือในเวลาเดียวกันร่างกายของเขากลับถูกปิงหยางโยนออกไปใส่อสูรตรงหน้า
จากนั้นเมื่อเขาก็เห็นผงปูนขาวในมือของปิงหยาง
…?! ในที่สุดฉินเซียนก็ได้สติ เขาเห็นผงสีขาวลอยมาตรงหน้าเขาแต่มันสายเกินไปที่จะถอย
ปัง!ผงสีขาวเลอะเต็มหน้าและดวงตาของเขาในทันที
ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้ปิงหยางมีความสุขมาก
อย่างไรก็ตามนางไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่ามือของฉินเซียนถึงไม่โดนร่างของนาง?
มันแปลกมาก
ตอนนั้นนางตัดสินใจโยนฟางเจิ้งจือลงพื้นเพื่อไม่ให้เขาบาดเจ็บ
นางต้องการจะรับการโจมตีนั้นด้วยตัวเอง
ปิงหยางค่อยๆหันไปมองที่พื้นและเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย
ว่าไงเจ้าอสูรชั้นต่ำ!
…
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเกินกว่าที่จะอธิบายทุกอย่างได้ละเอียด
ปิงหยางใช้แผนเพื่อล่อให้ฉินเซียนอยากรู้อยากเห็นจากนั้นเมื่อสบโอกาสนางก็จะทำให้เขาตาบอดด้วยผงปูนขาว
อย่างไรก็ตามนางไม่คิดว่าฟางเจิ้งจือจะตื่นขึ้นมาในตอนนี้
แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ออกมาดี…เอ่อ…อาจจะยกเว้นสำหรับคนบางคน
เจ้าสนุกกับการโยนข้าทิ้งหรือเปล่า? ฟางเจิ้งจือตีก้นของปิงหยางพร้อมกับถลึงตามองนาง
ด้านของปิงหยางนางไม่อยากจะเชื่อเรื่องตรงหน้า
ไม่ใช่ว่าเขาใกล้ตาย?
ไม่ใช่ว่าเขาพึ่งถูกพิษงั้นหรือ?
หรือเขาแค่เล่นละครหลอกนางมาตลอด?
ปิงหยางอาจจะไม่คิดแบบนั้นถ้าเป็นคนอื่นแต่นี่เป็นฟางเจิ้งจือผู้แสนไร้ยางอาย! อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านั้นไม่สำคัญอีกต่อไป
เพราะฉินเซียนดูเหมือนกำลังจะเป็นบ้า
เขากำลังเป็นบ้าจริงๆ
อ้าก!!พวกมนุษย์ชั้นต่ำ ข้าจะเปลี่ยนพวกแกเป็นปุ๋ย! ฉินเสียนคำรามพร้อมกับพลังที่หลั่งไหลออกมาปกคลุมตัวเองรวมถึงฝ่ายมนุษย์ แม้แต่หยุนชิงวูและตัวตนเทพเจ้าอื่นๆก็ไม่เว้น
ครืน!พื้นดินสั่นสะเทือน
ทันใดนั้นหญ้าและดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งเติบโตขึ้นอย่างฉับพลันราวกับได้รับชีวิตใหม่
ฟางเจิ้งจือตกใจกับสิ่งที่เห็นก่อนจะหันไปถามปิงหยาง เจ้าอสูรชั้นต่ำนี่คือใคร?
……………………………………..