Gate of God - Gate of God - ตอนที่ 748 สวรรค์ที่แท้จริง
เก็บ!
เก็บ!
เก็บ!!!
ฟางเจิ้งจือ ตะโกนอย่างบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดหายนะทั้งเก้าก็ถูกดูดเข้าไปในกล่องสีดำ
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเร็วเกินไปมาก
เมื่อหายนะทั้งเก้าหายไปสวรรค์ชั้นเก้าที่แท้จริงก็ปรากฎต่อหน้าเขา
ฝนตกปอยๆลงมาจากฟ้ากระทบเสาสีขาวทั้งเก้าต้นที่ตั้งตระหง่านอยู่
ที่สำคัญที่สุด… มีแท่นบูชาอยู่ตรงกลางเสาเก้าต้น มีบันไดทอดยาวจากเท้าของเขาไปถึงมัน
นี่คือ… สวรรค์ชั้นที่เก้างั้นหรือ? ฟาง เจิ้งจือ เงยหน้ามองแสงอาทิตย์ที่สว่างจ้าด้วยความยินดี
ฉือกูเหยียน ไม่ได้พูดอะไรเลย นางเพียงจ้องไปที่แท่นบูชาเท่านั้น
มีสมบัติอีกงั้นหรือ? ความสนใจของ ฟาง เจิ้งจือ ถูกดึงดูดด้วยแสงที่ส่องออกมาจากแท่นบูชา มันทำให้เขาเดินขึ้นไปบนบันไดโดยไม่ตั้งใจ
แท่นที่จะหยุดฟาง เจิ้งจือ ฉือ กูเหยียน กลับตามเขาขึ้นไป
ฟางเจิ้งจือ พบต้นตอของแสงในไม่ช้า
มันเป็นแท่นบูชาหินทรงกลมที่มีการแกะสลักภาพวาดผู้หญิงสวมชุดกระโปรงยาวอยู่
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สนใจมันมากนัก เพราะสายตาของเขาถูกดึงดูดด้วยอัญมณีแปลกๆที่ลอยอยู่กลางแท่น
มันไม่ได้มีรูปร่างเหมือนอัญมณีธรรมดาแทนที่จะเป็นทรงกลม หรือรูปสี่เหลี่ยมมันมีรูปร่างเหมือนหยดน้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นมันลอยอยู่บนอากาศ ผิวของมันเป็นประกายสีเหลืองทองข้างในนั้นดูเหมือนมีบางสิ่งไหลเวียนอยู่ มันดูเหมือนจะเป็นภาพวาด แต่มันก็พร่ามัวกว่าที่จะมองเห็นชัดเจน
มีวิธีแก้ไขปัญหานี้อย่างง่ายๆ … เอามันกลับบ้านเพื่อศึกษาดูอย่างละเอียด!
นี่คือความคิดและสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ กำลังจะทำอยู่ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าต้องระวังมากขึ้นในการเอาอัญมณี
เขาอ่านเรื่องราวมากพอที่จะรู้ว่าสมบัติต่างๆล้วนได้รับการปกป้องจากสัตว์ร้ายที่ทรงพลัง แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันมันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้
ที่นี่อาจจะแค่มีกับดักวางอยู่รอบๆ
ดังนั้นเขาจึงคิดจะปรึกษากับฉือ กูเหยียน ในเรื่องนี้ก่อน อย่างน้อยนางก็มีความรู้เรื่องพวกนี้มากกว่าเขา
เจ้าต้องการมันไหม? ฟาง เจิ้งจือ เอ่ยถาม แล้วเจ้าล่ะ? ฉือ กูเหยียน ตอบกลับด้วยคำถาม
… ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อย เมื่อมองใบหน้าอันงดงามของนาง ใจของ ฟาง เจิ้งจือ ถึงกับลอยออกไปจากร่างชั่วครู่
ฟางเจิ้งจือ รีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ข้าคิดว่าอัญมณีนี้อาจจะเป็นรางวัลของผู้ที่มาถึงชั้นเก้าได้ เจ้าคิดว่ายังไง?
อาจจะ ฉือ กูเหยียน ไม่ได้ส่ายหน้าหรือพยักหน้า หรือมีท่าทีอะไร นางเพียงยืนอยู่ข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ เงียบๆ
ข้าควรเอามันมาก่อนไหม?จากนั้นข้าจะพยายามแยกมันเป็นสองส่วนที่หลัง ฟาง เจิ้งจือ แนะนำ
อืม ฉือ กูเหยียน ตอบโดยไม่ได้มีท่าทีจะแย่งอัญมนีเม็ดนี้กับเขา
ฟางเจิ้งจือ อาจจะไร้ยางอาย แต่เขาทำแบบนั้นกับศัตรูเท่านั้น เขาไม่คิดจะเอาเปรียบคนที่เป็นเพื่อน
ไม่มีเวลาเหลือแล้วก่อนที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จะปิดลง ข้าอยาจะถามบางอย่างกับเจ้าก่อน! ฉือ กูเหยียน ไม่คิดจะพูดถึงเรื่องอัญมณีอีกต่อไป นางเงยหน้ามองท้องฟ้าเล็กน้อย ราวกับนางกำลังคิดบางอย่างอยู่
โอ้?่พูดมาได้เลย! ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาอย่างใจกว้าง
ระหว่างข้ากับเจ้าคิดว่าใครชนะการเดิมพันครั้งนี้? ฉือ กูเหยียน กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง
อืม…ชื่อของข้าถูกประกาศออกมาก่อนใช่ไหม? ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดว่านางจะถามเรื่องนี้
เขายังคงยึดหลักการเดิมของเขาในเมื่อชื่อที่ประกาศออกมาเป็นชื่อแรกคือชื่อของเขา มันก็ชัดเจนว่าเขาชนะ มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดเจน Aileen-novel
เจ้าต้องการออกจากศาลาเต๋าสวรรค์จริงๆงั้นหรือ? ฉือ กูเหยียน ดูเหมือนจะคาดเดาคำตอบของ ฟาง เจิ้งจือ ได้อยู่แล้ว แทนที่จะเถียงกันว่าใครชนะ นางเปลี่ยนหัวข้อเป็นเรื่องอื่น
แน่นอน! ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่านางพยายามจะพูดอะไร แต่เขาก็พิจรณาถึงคำตอบด้วยความระมัดระวัง ก่อนที่จะตอบออกมาอย่างไม่ลังเล
เจ้าจะไปไหนหลังจากออกจากที่นี่? นางถามอีกครั้ง
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นกว้างใหญ่มากข้าต้องเดินทางไปรอบๆก่อนจะตัดสินใจได้ ฟาง เจิ้งจือ ตอบ
อืมดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นกว้างใหญ่มาก ว่านเล่ย จากศาลาหยินหยางนั้นตายด้วยน้ำมือของพวกเรา การที่ผู้นำเก้าขุนเขาหายตัวไปนั้นก็เกี่ยวข้องกับพวกเราไม่มากก็น้อย แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้มีความขัดแย้งกับหุบเขาฟู่ซี่ แต่ข้าเชื่อว่า กู่ หยาน ต้องกระจายข่ายเรื่องของพวกเราไปทั่วแล้วแน่นอนสำหรับหอคอยหลิงหยุน… ฉือ กูเหยียน หยุดพูดอย่างกระทันหัน
ข้าไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับนิกายทั้งห้าตอนที่ข้ามาที่นี่ถ้าข้ารู้ว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ ข้าคงไม่ทำตัวให้โดดเดน ตอนนี้ข้าคงไม่มีที่ไหนให้ไปแล้วจริงๆ ฮ่าฮ่า… อย่างที่ ฉือ กูเหยียน สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีที่ไหนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เขาจะไปได้
เจ้าไร้ยางอายพวกเรารู้จักกันมากว่าสิบปีแล้วใช่ไหม? น้ำเสียงของ ฉือ กูเหยียน นั้นเปลี่ยนไป
ใช่สิบปีแล้ว ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า มันผ่านมาสิบปีแล้วตั้งแต่ตอนที่เขาถีบ ฉือ กูเหยียน ลงไปในแม่น้ำ
พูดตามตรงถ้าเจ้ายังมีเวลามากกว่านี้ ต่อให้แค่หนึ่งปีก็ตาม ข้าจะหยุดไม่ให้เจ้าออกไปจากศาลาเต๋าสวรรค์ และข้าจะไม่แข่งกับเจ้าในการเข้าสู่สวรรค์ชั้นเก้า ฉือ กูเหยียน พูดต่อ
อืมข้ารู้ อย่างที่นางพูดพวกเขารู้จักกันมาสิบปีแล้ว หากนางมีทางเลือกอื่น นางคงไม่ยอมสูญเสียความภูมิใจของตัวเอง
แลกด้วยศักดิ์ศรีของนางนางวางแผนทุกอย่างไว้ก่อนที่จะเข้ามาในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นางพยายามทำให้ ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจผิดและลอบโจมตี ฟาง เจิ้งจือ ในชั้นที่แปด
ฉือกูเหยียน ทำทั้งหมดนั้น!
นางมีเพียงเป้าหมายเดียวนางยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อจะได้ชนะ!
เจ้าเหลือเวลาน้อยกว่าสามเดือนหลังจากเจ้าออกไปจากที่นี่ต้องมีคนมาหาเจ้าแน่นอน เจ้าจะตัดสินใจแบบนั้นจริงๆงั้นหรือ? ฉือ กูเหยียน ถามอีกครั้งหลังจากเงียบไปชั่วครู่
อืมข้าได้ตัดสินใจแล้ว! ฟาง เจิ้งจือ ได้เลือกแล้ว
เพราะศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายงั้นหรือ?หากเป็นเพราะแบบนั้นข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้และเป็นคนใช้ของเจ้าก็ได้ สิ่งที่เจ้าต้องทำคือฝึกฝนอย่างสงบอยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์..
มันไม่ใช่เพราะศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายจริงๆแล้วหากข้าไม่ชนะการต่อสู้ครั้งนี้ ข้าก็คงจะหนีไป อย่างไรก็ตามครั้งนี้มันต่างออกไป
อะไรงั้นหรือ?
เจ้าเพราะเจ้า ข้านั้นสามารถไร้ยางอายได้ แต่ข้าไม่ไร้ยางอายพอที่จะดูเจ้าเสียงอันตรายเพื่อข้า ขณะที่ข้าซ่อนอยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์อย่างขึ้ขลาด!
… ฉือ กูเหยียน เงียบไป นางเพียงจ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ เงียบๆ
อย่าเครียดไปข้าได้รับประโยชน์มากมายตลอดเวลาที่อยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์ ข้าจำตำแหน่งที่ซ่อนสมบัติต่างๆที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ นอกจากนี้ข้ายังรู้วิธีพัฒนาความแข็งแกร่ง บางทีข้าอาจจะเข้าสู่ระดับเซียนได้ภายในสามเดือน! ฟาง เจิ้งจือ ยังคงพูดต่อ ข้าเข้าใจแล้วเจ้าไร้ยางอาย เจ้าชนะการเดิมพันครั้งนี้โดยการทำลายหายนะทั้งเก้า มันหมายความว่าเจ้าได้ผ่านการทดสอบของสวรรค์ชั้นเก้าอย่างแท้จริง ทิ้งที่เหลือให้ข้าจัดการเอง เจ้าเตรียมตัวออกจากที่นี่เถอะ! ฉือ กูเหยียน พยักหน้า
ที่เหลือ? ฟาง เจิ้งจือ ดูงุนงง
เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเอาศิลาเซียนทั้งหมดกับมณีวิญญานไปได้ง่ายๆงั้นหรือ?หลังจากออกไปจากที่นี่ข้าจะบอกท่านอาจารย์ว่าเจ้าพนันกับข้า ข้าไม่สามารถโจมตีเจ้าได้ และเจ้าได้เอาศิลาเซียนไปขณะที่ข้าไม่เห็นข้าคิดว่า…มันคงไม่เป็นปัญหาสำหรับเจ้าถ้าพวกเขาจะไล่ตามเจ้า เพราะเจ้าไม่คิดจะกลับมาที่ศาลาเต๋าสวรรค์อีกแล้วใช่ไหม? ฉือ กูเหยียน พูดออกมา สีหน้าของนางไม่ได้กังวลอีกต่อไป นางขยิบตาให้ ฟาง เจิ้งจือ พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างพอใจ
……………………………………..