Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1791-1792
ตอนที่ 1791 คิดฆ่า (5)
“แต่ยังไงเจ้านั่นก็ยังเด็กเกินไปไม่ว่าจะละเอียดรอบคอบแค่ไหน แต่ก็ยังอ่อนหัด เขาอาจจะหลบเลี่ยงการลงโทษไปได้ แต่สุดท้ายก็กินหมั่นโถวที่มีพิษเข้าไปอยู่ดี ฮ่าๆ……” ผู้อาวุโสเยว่รู้สึกพอใจกับแผนการของตัวเองอย่างมาก
เขามีวิธีมากมายในการทำให้คนตายอย่างไร้ร่องรอย
“หมั่นโถวมีพิษ?แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงมีพลังต้านทานพิษได้ในระดับหนึ่ง……” ในใจของเยว่อี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาลอบกำหมัดแน่น แต่ไม่ยอมให้ใบหน้าแสดงความกังวลออกมาแม้แต่น้อย
ยิ่งฝึกฝนพลังวิญญาณสูงขึ้นเรื่อยๆพลังวิญญาณที่แทรกซึมอยู่ในอวัยวะทั่วร่างกายจะทำให้พวกเขามีพลังป้องกันมีแข็งแกร่ง ต่อให้กินของที่มีพิษเข้าไป ผลของพิษนั้นก็จะอ่อนลงมากกว่าคนทั่วไป
เหตุผลที่พลังวิญญาณขั้นสีม่วงถือเป็นพลังที่แข็งแกร่งมากนั้นนอกจากความสามารถในการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆอีกมากมายที่มาพร้อมกัน อายุขัยที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงในร่างกายคือการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมาก
ดังนั้นหากต้องการสังหารผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง ถ้าอยากจะใช้ยาพิษก็จะมีโอกาสเพียงแค่หายาพิษที่ร้ายแรงมากมาเท่านั้น มิฉะนั้น พิษทั่วๆไปไม่เพียงพอที่จะฆ่าผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงได้เลย!
ผู้อาวุโสเยว่เหลือบมองเยว่อี้และพูดว่า“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องนั้นรึไง? พิษที่ข้าให้เขาไม่ใช่ยาพิษธรรมดาทั่วไป แต่เป็นพิษที่ปรุงจากดอกสลายวิญญาณ อย่าว่าแต่ผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงเลย ต่อให้เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงิน หากกินยาพิษนั้นเข้าไป เกรงว่าคงไม่สามารถรอดชีวิตออกจากคุกใต้ดินนั่นได้แล้ว”
“ดอกสลายวิญญาณ……”แววตาของเยว่อี้สั่นไหวด้วยความตกใจ!
ดอกสลายวิญญาณเป็นดอกไม้มีพิษที่ขึ้นในอาณาจักรกลางไม่เพียงแต่กลีบดอกเท่านั้นที่มีพิษ รากของมันก็มีพิษร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องพูดถึงการกินดอกไม้ชนิดนี้ ต่อให้ดื่มแค่น้ำที่มีกลีบของมันแช่ลงไปก็ทำให้เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดเสียชีวิตได้!
ในสถานที่ที่มีดอกสลายวิญญาณงอกขึ้นมานอกจากดอกสลายวิญญาณเหมือนกันแล้ว พืชชนิดอื่นไม่สามารถอยู่รอดได้ จำเป็นจะต้องปลูกดอกสลายวิญญาณหนึ่งดอกไว้ในป่า และใช้เวลาไม่นานพืชทั้งหมดที่อยู่ใกล้ดอกสลายวิญญาณจะเหี่ยวแห้งอย่างรวดเร็ว……
แต่เนื่องจากดอกไม้ชนิดนี้ร้ายกาจน่ากลัวเกินไปแม้แต่ในอาณากลางก็หายากมาก เยว่อี้เคยได้ยินแต่ชื่อมันเท่านั้น
แต่เขาไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสเยว่จะใช้ดอกสลายวิญญาณจัดการกับจวินอู๋เสีย!
ตอนนี้หัวใจของเยว่อี้หล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
“พอฉางฮวนตายข้าอยากเห็นนักว่าผู้อาวุโสอิ่งจะเหลิงได้ใจไปได้นานแค่ไหน!” ผู้อาวุโสเยว่หรี่ตาอย่างน่ากลัว “เจ้าสุนัขเฒ่านั่นฉลาดนัก รู้ว่าต้องให้ฉางฮวนซ่อนพลังเอาไว้ ทำตัวเป็นไอ้โง่หลอกทุกคนในวิหาร”
ผู้อาวุโสเยว่ไม่เคยสงสัยเลยว่า“ฉางฮวน” จะถูกคนแอบอ้างปลอมตัวเป็นเขา
ความคิดของเยว่อี้หมุนวนจากสิ่งที่ได้ยินเขาไม่สามารถพูดอะไรได้แม้แต่คำเดียว
“ผู้อาวุโสเยว่ท่านประมุขเรียกหาท่านขอรับ” ตอนนั้นเอง ผู้คุ้มกันของวิหารเงาจันทราก็เข้ามาในห้องหนังสือของผู้อาวุโสเยว่
“รู้แล้ว”ผู้อาวุโสเยว่พยักหน้าและลุกขึ้นทันที
“ข้าจะไปหาท่านประมุขเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ อาการบาดเจ็บเจ้ายังไม่หายดี เพราะงั้นอย่าเพิ่งไปที่เรือนของเย่เอ๋อร์ เดี๋ยวนางเห็นเจ้าอยู่ในสภาพนี้แล้วจะกังวลใจ” ผู้อาวุโสเยว่สั่ง
“ขอรับ……”เยว่อี้ข่มความโกรธที่พุ่งขึ้นมาและตอบรับเสียงเบา
ผู้อาวุโสเยว่มองเยว่อี้และไม่เห็นอะไรผิดปกติเขาจึงลุกขึ้นเดินตามผู้คุ้มกันออกไป เท้าของผู้อาวุโสเยว่ก้าวพ้นประตูห้องไปได้ไม่นาน เยว่อี้ก็ค้นหาไปทั่วห้องหนังสืออย่างบ้าคลั่ง หลังจากพบกล่องไม้กล่องหนึ่ง เขาก็กอดมันเอาไว้และพุ่งตรงไปที่คุกใต้ดินทันที!
ตอนที่ 1792 คิดฆ่า (6)
เยว่อี้วิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปจนถึงด้านนอกคุกใต้ดินก่อนที่เขาจะเข้าไปในคุกใต้ดิน เขาฝืนทำสีหน้าให้สงบนิ่งและซ่อนกล่องไม้ให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“ศิษย์น้องเยว่อี้เจ้ามาที่นี่ทำไม?” เมื่อผู้คุมเห็นเยว่อี้ก็รีบเข้ามาทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
คนในวิหารเงาจันทรามีใครบ้างไม่รู้ว่าเยว่อี้เป็นหลานบุญธรรมของผู้อาวุโสเยว่?
ผู้อาวุโสเยว่ไม่มีลูกของตัวเองมีเพียงหลานบุญธรรมสองคนเยว่อี้กับเยว่เย่เท่านั้น คนจำนวนมากที่อยากจะได้รับความโปรดปรานจากผู้อาวุโสเยว่ก็จะปฏิบัติต่อเยว่อี้อย่างสุภาพ
เยว่อี้พยักหน้าอย่างเย็นชา
“ท่านปู่สั่งให้ข้ามาดูถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าให้คนเข้ามารบกวนข้า” เยว่อี้กล่าว
“ได้ได้ ศิษย์น้องเยว่อี้ เชิญเจ้าตามสบายเลย ข้าจะไปที่ดูต้นทางให้ที่ทางเข้า ถ้ามีคนของผู้อาวุโสอิ่งมา ข้าจะช่วยกันไว้ให้” ผู้คุมคิดว่าเยว่อี้มาตามคำสั่งของผู้อาวุโสเยว่เพื่อดูว่าจวินอู๋เสียอยู่ในสภาพน่าสังเวชเพียงใด เขาจึงรีบปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว
เยว่อี้พึมพำตอบรับจากนั้นก็เดินตรงไปยังห้องขังของจวินอู๋เสีย
ในคุกใต้ดินที่อับชื้นและมืดมิดกลิ่นเหม็นอบอวลอยู่ในอากาศ เยว่อี้ไม่คุ้นเคยกับสถานที่นี้ เนื่องจากมีผู้อาวุโสเยว่อยู่ เขาจึงแทบไม่เคยมาที่คุกใต้ดินเลย
เส้นทางภายในคุกใต้ดินนั้นสั้นมากแต่เยว่อี้รู้สึกเหมือนทุกย่างก้าวคือความทรมานอย่างแท้จริง เขากลัว กลัวว่าจะเจอกับภาพที่ทำให้เขาใจสลาย
“เจ้ามาทำไม?”เสียงเย็นชาดังขึ้นในคุกใต้ดินที่เงียบสงัด
เยว่อี้สูดหายใจเข้าลึกและหันหน้าไปรอบๆเพื่อหาที่มาของเสียง
ในห้องขังที่ไหม้เกรียมเยว่อี้เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย
จวินอู๋เสียนั่งอยู่บนกองฟางนางปลอดภัยดี และกำลังมองมาที่เยว่อี้อย่างสงบนิ่ง
“เจ้าไม่เป็นไรหรือ?”เยว่อี้ตกใจเล็กน้อย เขามองจวินอู๋เสียที่ปลอดภัยดีด้วยแววตาประหลาดใจ
พิษดอกสลายวิญญาณออกฤทธิ์เร็วมากตอนนี้จวินอู๋เสียน่าจะออกอาการที่ได้รับพิษแล้ว แต่เขาไม่เห็นวี่แววความผิดปกติใดๆจากจวินอู๋เสียเลย
“ข้าจะเป็นอะไรได้ล่ะ?”จวินอู๋เสียเลิกคิ้วเล็กน้อยขณะมองใบหน้าซีดขาวของเยว่อี้
เยว่อี้เดินไปที่ลูกกรงทันทีและนั่งยองๆถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เจ้ากินหมั่นโถวที่ผู้คุมให้มารึเปล่า?”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
เยว่อี้สูดหายใจเข้าลึกและเอากล่องไม้ที่ซ่อนไว้ออกมาทันที จากนั้นก็ผลักมันไปบนพื้นจนถึงข้างเท้าของจวินอู๋เสีย
“ผู้คุมนั่นเป็นคนของผู้อาวุโสเยว่เขารับคำสั่งผู้อาวุโสเยว่ให้วางยาพิษในอาหารของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถด้านการรักษา แต่พิษนั่นไม่ใช่พิษธรรมดาทั่วไป มันปรุงจากดอกสลายวิญญาณที่มีพิษร้ายแรงมากขนาดที่ผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงินก็ยังไม่สามารถต้านทานพิษของมันได้ ข้าไม่รู้ว่าเขาซ่อนยาแก้พิษไว้ที่ไหน ในนี้มีขวดยาอยู่เยอะ ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องยา งั้นก็รีบหาเร็วๆ ดูว่ามียาแก้พิษอยู่รึเปล่า” แม้ว่าเยว่อี้จะลดเสียงลงมากแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถซ่อนความกังวลและร้อนใจเอาไว้ได้
จวินอู๋เสียมองใบหน้าเคร่งเครียดเยว่อี้แล้วก้มหน้าลงเปิดกล่องไม้ที่อยู่ตรงเท้า ในกล่องไม้มีขวดยาอยู่จำนวนหนึ่ง นางเปิดออกดมทีละขวดก่อนจะวางกลับลงไป
“เป็นยังไง?มียาแก้พิษรึเปล่า?” เยว่อี้ถามอย่างกังวล
“ไม่มียาแก้พิษแต่ข้าเจอยาพิษที่เจ้าพูดถึง” จวินอู๋เสียหยิบเอาขวดยาสีแดงออกมา
เยว่อี้แทบเข่าทรุดลงตรงหน้าจวินอู๋เสีย
“เจ้าจะหาเยาพิษไปทำไม?เจ้า……ในนั้นไม่มียาแก้พิษจริงๆหรือ?” เยว่อี้ร้อนใจจนแทบบ้า ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าพิษในร่างกายของจวินอู๋เสียจะออกฤทธิ์เมื่อไร เขารู้สึกกังวลใจมากจริงๆ
“ไม่มี”จวินอู๋เสียยักไหล่
“งั้นข้าจะกลับไปหาอีกครั้งเจ้ารอที่นี่นะ!” เยว่อี้กำลังจะลุกขึ้น
“ไม่จำเป็น”จวินอู๋เสียพูดขึ้นทันที