Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 2131 แล้วพบกันใหม่ (1)
แม้ว่าจวินอู๋เสียจะอยากกลับให้เร็วกว่านี้เพื่อตรวจสอบว่ามีโทเทมอยู่ในสิบสองวิหารหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 1-2 เดือนกว่าร่างกายของพวกเฉียวฉู่จะฟื้นตัวเต็มที่ และถ้าจวินอู๋เหยาและจวินอู๋เสียจากไป มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเฉียวฉู่ในการออกจากโลกวิญญาณ
แล้วจวินอู๋เหยาก็คิดหาทางแก้ปัญหานี้ได้ เขาออกจากโลกวิญญาณก่อนชั่วคราว และมอบหมายงานในการค้นหาโทเทมให้กับพวกเย่เม่ย
ในช่วงเวลานั้น พวกจวินอู๋เสียใช้เวลาในการฝึกฝนต่อไปเพื่อเพิ่มพลังวิญญาณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีเพียงการเสริมความแข็งแกร่งให้จิตวิญญาณเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาไร้คู่ต่อกรมากขึ้น
วิญญาณของจ้าววิญญาณอ่อนแอลง แต่จวินอู๋เสียสามารถใช้อักขระเสริมวิญญาณทำให้จ้าววิญญาณฝึกพลังวิญญาณได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นางแบ่งปันวิธีการนี้ให้กับจ้าววิญญาณด้วย สิ่งนี้ทำให้จ้าววิญญาณรู้สึกเหมือนได้รับสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด เขาสัญญาทันทีว่าจะจัดหาสภาพแวดล้อมในการฝึกที่ดีที่สุดให้พวกจวินอู๋เสีย
สองสามเดือนผ่านไปในพริบตา พลังของพวกจวินอู๋เสียได้มาถึงจุดสูงสุด แม้แต่จ้าววิญญาณก็ประทับใจกับระดับพลังของพวกเขาในตอนนี้
เวลาหนึ่งปีดูเหมือนยาวนาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็แค่ช่วงเวลาที่แสนสั้นจนไม่มีใครสังเกตหรือรู้สึกเลยตอนที่ 2131 แล้วพบกันใหม่ (1)
แม้ว่าจวินอู๋เสียจะอยากกลับให้เร็วกว่านี้เพื่อตรวจสอบว่ามีโทเทมอยู่ในสิบสองวิหารหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 1-2 เดือนกว่าร่างกายของพวกเฉียวฉู่จะฟื้นตัวเต็มที่ และถ้าจวินอู๋เหยาและจวินอู๋เสียจากไป มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเฉียวฉู่ในการออกจากโลกวิญญาณ
แล้วจวินอู๋เหยาก็คิดหาทางแก้ปัญหานี้ได้ เขาออกจากโลกวิญญาณก่อนชั่วคราว และมอบหมายงานในการค้นหาโทเทมให้กับพวกเย่เม่ย
ในช่วงเวลานั้น พวกจวินอู๋เสียใช้เวลาในการฝึกฝนต่อไปเพื่อเพิ่มพลังวิญญาณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีเพียงการเสริมความแข็งแกร่งให้จิตวิญญาณเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาไร้คู่ต่อกรมากขึ้น
วิญญาณของจ้าววิญญาณอ่อนแอลง แต่จวินอู๋เสียสามารถใช้อักขระเสริมวิญญาณทำให้จ้าววิญญาณฝึกพลังวิญญาณได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นางแบ่งปันวิธีการนี้ให้กับจ้าววิญญาณด้วย สิ่งนี้ทำให้จ้าววิญญาณรู้สึกเหมือนได้รับสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด เขาสัญญาทันทีว่าจะจัดหาสภาพแวดล้อมในการฝึกที่ดีที่สุดให้พวกจวินอู๋เสีย
สองสามเดือนผ่านไปในพริบตา พลังของพวกจวินอู๋เสียได้มาถึงจุดสูงสุด แม้แต่จ้าววิญญาณก็ประทับใจกับระดับพลังของพวกเขาในตอนนี้
เวลาหนึ่งปีดูเหมือนยาวนาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็แค่ช่วงเวลาที่แสนสั้นจนไม่มีใครสังเกตหรือรู้สึกเลย
ในวันสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะจากไป จ้าววิญญาณได้เหมาทั้งร้านหุนหุนโหลวเพื่อจัดงานเลี้ยงให้กับพวกจวินอู๋เสีย เขายังลากน่าหลานเยว่ จงจง มังกรเพลิง และครูวิญญาณมาร่วมงานเลี้ยงด้วย
“พวกเจ้าจะไปจริงๆหรือ?” จงจงนั่งอยู่บนเก้าอี้พิเศษเนื่องจากร่างกายของมันใหญ่โตเกินไป เมื่อมันก้มหน้าลงมองจวินอู๋เสีย มันก็เป็นเหมือนยักษ์ตัวหนึ่ง แต่ภายในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจที่จะแยกจากกัน ดูเจ็บปวดน้อยใจอย่างมากราวกับเด็กเล็กๆ
แม้ว่าจงจงจะได้พลังของหมีวิญญาณกลับมาแล้วและสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ แต่ในใจมันยังคงมีความอาลัยอาวรณ์อย่างมากต่อพวกจวินอู๋เสียที่ได้ช่วยเหลือตนเอาไว้ พูดถึงอายุของหมีวิญญาณ จงจงยังเป็นวิญญาณที่อายุน้อยมาก ขนาดของหมีวิญญาณที่โตเต็มที่จะใหญ่กว่าหมีหยินหยางถึงสองเท่า
อาจเป็นเพราะการตายของพวกเสือชีตาห์ที่ทำให้จงจงรู้สึกผิดและไม่สบายใจอย่างมาก แม้ว่าความสงบสุขจะกลับคืนสู่โลกวิญญาณแล้ว แต่ความไม่สบายใจก็ไม่ได้ลดลง
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นลูบหัวจงจง สัมผัสขนนุ่มนิ่มที่มือทำให้นางปรือตาอย่างรู้สึกสบาย
“ไม่ไปไม่ได้หรือ?” จงจงมองจวินอู๋เสียอย่างน่าสงสาร น่าหลานเยว่ที่อยู่ข้างจงจงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เด็กสาวที่ชื่อจวินอู๋เสียคนนี้ ยิ่งเขารู้จักนางมากเท่าไร เขาก็ยิ่งประหลาดใจกับนางมากเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะนางมาที่โลกวิญญาณ แผนชั่วของอูจิ่วคงประสบความสำเร็จในสักวัน
ราวกับว่าจวินอู๋เสียคือของขวัญที่สวรรค์มอบให้กับโลกวิญญาณ
“วันหน้าข้าจะกลับมาที่นี่อีก” แววตาของจวินอู๋เสียอ่อนลง นางเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เหยาเป็นเชิงถาม
จวินอู๋เหยาพยักหน้าเล็กน้อย ราวกับตอบตกลงความคาดหวังของนาง
“จริงหรือ? แล้วพวกเจ้าจะมาอีกเมื่อไร?” จงจงถามด้วยแววตาเป็นประกาย
เมื่อถูกจงจงจ้องตาแป๋วน่ารัก จวินอู๋เสียก็ถึงกับจนปัญญา
พวกเขาจะกลับมาที่โลกวิญญาณเมื่อไรน่ะหรือ? นางเองก็ไม่แน่ใจ ถ้าเป็นไปได้ นางก็อยากกลับมาหลังจากที่ทำลายวงเวทย์บูชายัญของอาณาจักรบนแล้ว มีเพียงตอนนั้นที่นางจะมีเวลาเยี่ยมชมถิ่นเก่าได้อย่างสบายๆไม่ต้องรีบร้อน
แต่เมื่อมองดูดวงตากระตือรือร้นที่เต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างมากของจงจงแล้ว นางก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
เฉียวฉู่สังเกตเห็นความลำบากใจของจวินอู๋เสีย เขายิ้มกว้างออกมาทันทีและยกเท้าขึ้นสะกิดหมีหยินหยางที่ซุกตัวเคี้ยวไผ่อยู่ข้างๆเขาอย่างมีความสุข
ในวันสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะจากไป จ้าววิญญาณได้เหมาทั้งร้านหุนหุนโหลวเพื่อจัดงานเลี้ยงให้กับพวกจวินอู๋เสีย เขายังลากน่าหลานเยว่ จงจง มังกรเพลิง และครูวิญญาณมาร่วมงานเลี้ยงด้วย ไอลีนโนเวล
“พวกเจ้าจะไปจริงๆหรือ?” จงจงนั่งอยู่บนเก้าอี้พิเศษเนื่องจากร่างกายของมันใหญ่โตเกินไป เมื่อมันก้มหน้าลงมองจวินอู๋เสีย มันก็เป็นเหมือนยักษ์ตัวหนึ่ง แต่ภายในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจที่จะแยกจากกัน ดูเจ็บปวดน้อยใจอย่างมากราวกับเด็กเล็กๆ
แม้ว่าจงจงจะได้พลังของหมีวิญญาณกลับมาแล้วและสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ แต่ในใจมันยังคงมีความอาลัยอาวรณ์อย่างมากต่อพวกจวินอู๋เสียที่ได้ช่วยเหลือตนเอาไว้ พูดถึงอายุของหมีวิญญาณ จงจงยังเป็นวิญญาณที่อายุน้อยมาก ขนาดของหมีวิญญาณที่โตเต็มที่จะใหญ่กว่าหมีหยินหยางถึงสองเท่า
อาจเป็นเพราะการตายของพวกเสือชีตาห์ที่ทำให้จงจงรู้สึกผิดและไม่สบายใจอย่างมาก แม้ว่าความสงบสุขจะกลับคืนสู่โลกวิญญาณแล้ว แต่ความไม่สบายใจก็ไม่ได้ลดลง
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นลูบหัวจงจง สัมผัสขนนุ่มนิ่มที่มือทำให้นางปรือตาอย่างรู้สึกสบาย
“ไม่ไปไม่ได้หรือ?” จงจงมองจวินอู๋เสียอย่างน่าสงสาร น่าหลานเยว่ที่อยู่ข้างจงจงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เด็กสาวที่ชื่อจวินอู๋เสียคนนี้ ยิ่งเขารู้จักนางมากเท่าไร เขาก็ยิ่งประหลาดใจกับนางมากเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะนางมาที่โลกวิญญาณ แผนชั่วของอูจิ่วคงประสบความสำเร็จในสักวัน
ราวกับว่าจวินอู๋เสียคือของขวัญที่สวรรค์มอบให้กับโลกวิญญาณ
“วันหน้าข้าจะกลับมาที่นี่อีก” แววตาของจวินอู๋เสียอ่อนลง นางเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เหยาเป็นเชิงถาม
จวินอู๋เหยาพยักหน้าเล็กน้อย ราวกับตอบตกลงความคาดหวังของนาง
“จริงหรือ? แล้วพวกเจ้าจะมาอีกเมื่อไร?” จงจงถามด้วยแววตาเป็นประกาย
เมื่อถูกจงจงจ้องตาแป๋วน่ารัก จวินอู๋เสียก็ถึงกับจนปัญญา
พวกเขาจะกลับมาที่โลกวิญญาณเมื่อไรน่ะหรือ? นางเองก็ไม่แน่ใจ ถ้าเป็นไปได้ นางก็อยากกลับมาหลังจากที่ทำลายวงเวทย์บูชายัญของอาณาจักรบนแล้ว มีเพียงตอนนั้นที่นางจะมีเวลาเยี่ยมชมถิ่นเก่าได้อย่างสบายๆไม่ต้องรีบร้อน
แต่เมื่อมองดูดวงตากระตือรือร้นที่เต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างมากของจงจงแล้ว นางก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
เฉียวฉู่สังเกตเห็นความลำบากใจของจวินอู๋เสีย เขายิ้มกว้างออกมาทันทีและยกเท้าขึ้นสะกิดหมีหยินหยางที่ซุกตัวเคี้ยวไผ่อยู่ข้างๆเขาอย่างมีความสุข