Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 2306 ความลับของกองทัพราตรี (1)
จวินอู๋เสียแค่เหลือบมองฉินเกอ และไม่มีปฏิกิริยาอื่นอีก
”เนี่ย ก็เป็นแบบนี้ ต่างจากเมื่อกี้คนละเรื่องเลย” ฉินเกอหัวเราะเบาๆ จวินอู๋เสียเป็นเช่นนี้มาตลอดห้าปี ความอ่อนโยนในแววตาที่เห็นเมื่อกี้ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย
จวินอู๋เสียไม่สนใจคำพูดของฉินเกอ นางก้าวถอยหลังและปิดประตู
ฉินเกอจ้องมองประตูที่ปิดใส่หน้าเขา แล้วถูจมูกตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
ดูเหมือนว่า……เขาจะไม่เป็นที่ชื่นชอบเท่าไรนัก
พวกเฉียวฉู่อยู่ในอาณาจักรแห่งความมืดเป็นเวลาห้าวัน ในช่วงนี้ นอกจากไปเยี่ยมชมสถานที่พิเศษๆในอาณาจักรแห่งความมืดแล้ว พวกเขาใช้เวลาที่เหลือผลัดกันอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย ไม่ว่านางจะไปที่ไหน พวกเขาก็ตามติดนางเหมือนเงา จวินอู๋เสียทำได้แค่ยอมอย่างช่วยไม่ได้ แต่มันทำให้พวกเย่ฉาดูมีความสุขมาก
การได้เห็นความรู้สึกอื่นๆที่นอกเหนือจากความเย็นชาบนใบหน้าของนาง แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้พวกเขาปลื้มใจอย่างล้นเหลือแล้ว
แม้ว่าหลงฉีจะตื่นเต้นที่ได้เจอจวินอู๋เสีย แต่ในฐานะแม่ทัพของกองทัพรุ่ยหลิน เขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอยู่มากมาย มากกว่าที่พวกเฉียวฉู่มี การที่พวกเขาได้มาที่อาณาจักรแห่งความมืดนั้นเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ไม่ต้องพูดถึงว่ามีทหารหมื่นนายมากับพวกเขาในการเดินทางครั้งนี้ด้วย หลงฉีจึงกระตือรือร้นมากที่จะขอวิธีการฝึกให้ทหารของเขา
กองทัพรุ่ยหลินเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งในอาณาจักรล่าง ขณะที่กองทัพราตรีคือกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรกลาง ในฐานะทหาร หลงฉีมองครั้งเดียวก็บอกได้ทันทีว่าพวกเขามีระเบียบวินัยอย่างยิ่งและสามารถเข้าถึงทรัพยากรการฝึกแบบพิเศษได้ ช่วงนี้เขาจึงทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อขอให้เย่กูแบ่งปันวิธีการฝึกกับเขา ความพากเพียรของหลงฉีทำให้เย่กูได้แต่ยอมรับ ยังไงซะกองทัพรุ่ยหลินก็เป็นของวังหลินอ๋องซึ่งก็เท่ากับเกี่ยวข้องกับจวินอู๋เสีย กองทัพราตรีถูกสร้างขึ้นโดยจวินอู๋เหยา และก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้บอกเอาไว้แล้วว่าพวกเขาจะถูกส่งมอบให้กับจวินอู๋เสีย ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วกองทัพทั้งสองก็นับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
แน่นอนว่าพวกเฟยเหยียนก็ไม่พลาดโอกาสดีๆเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะพัฒนาขึ้นมาก แต่ถ้าเทียบกับกองทัพราตรีพวกเขาก็ยังห่างชั้นในแง่ของประสบการณ์การต่อสู้ ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีเวลาว่าง พวกเขาจะลากเย่เม่ยกับเย่ฉามาช่วยฝึก แต่ในระหว่างฝึกฝน พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งคนหนึ่งคนไปติดตามจวินอู๋เสีย ราวกับกลัวว่าอยู่ดีๆนางจะหายตัวไป สิ่งที่เฉียวฉู่ชอบทำมากที่สุดในอาณาจักรแห่งความมืดคือการพักอยู่ในวังของจวินอู๋เสีย ดูนางก้มหน้าก้มตาอยู่กับกองเอกสารไปพร้อมๆกับนอนเอกเขนกกินผลไม้อยู่บนเก้าอี้ยาว
เหมือนกับที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้
”เสี่ยวเสีย ข้าสังเกตเห็นอะไรแปลกๆอย่างหนึ่ง” เฉียวฉู่กัดลูกสาลี่แล้วถามขึ้นพร้อมสาลี่เต็มปาก
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารและมองไปที่เฉียวฉู่ซึ่งนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์จนน่าหมั่นไส้ด้วยสายตาสงสัย
”ข้าสังเกตเห็นว่าทุกคนในอาณาจักรแห่งความมืดใช้พลังวิญญาณปีสาจกันหมดเลย……พลังนี้มันคืออะไรกันแน่? เจ้ารู้รึเปล่า? ข้ารู้สึกว่าพลังวิญญาณปีศาจแข็งแแกร่งกว่าพลังวิญญาณซะอีก” เฉียวฉู่ลุกขึ้นนั่ง คำถามนี้อยู่ในใจเขามาหลายปี แต่เขาไม่กล้าถามจวินอู๋เหยา
ว่ากันว่ากองทัพราตรีแห่งอาณาจักรแห่งความมืดควบคุมพลังที่แตกต่างซึ่งเหนือกว่าพวกที่ใช้พลังวิญญาณ พวกเฉียวฉู่มีโอกาสแลกเปลี่ยนฝีมือกับพวกเขา และมันก็เป็นเหมือนกับข่าวลือ พวกเฉียวฉู่พบว่าเป็นความจริงที่พลังวิญญาณปีศาจนั้นน่ากลัวกว่าพลังวิญญาณธรรมดาที่พวกเขามีมาก
จวินอู๋เสียลดสายตาลงต่ำและเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นช้าๆว่า “ทุกคนจากอาณาจักรแห่งความมืดได้รับเลือดของจวินอู๋เหยามาก่อน เลือดของเขาสามารถเปลี่ยนพลังวิญญาณในตัวพวกเขาได้ และ……สมาชิกส่วนใหญ่ของกองทัพราตรีไม่อาจถือว่าเป็นคนธรรมดาได้อีกแล้ว”
”เนี่ย ก็เป็นแบบนี้ ต่างจากเมื่อกี้คนละเรื่องเลย” ฉินเกอหัวเราะเบาๆ จวินอู๋เสียเป็นเช่นนี้มาตลอดห้าปี ความอ่อนโยนในแววตาที่เห็นเมื่อกี้ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย
จวินอู๋เสียไม่สนใจคำพูดของฉินเกอ นางก้าวถอยหลังและปิดประตู
ฉินเกอจ้องมองประตูที่ปิดใส่หน้าเขา แล้วถูจมูกตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
ดูเหมือนว่า……เขาจะไม่เป็นที่ชื่นชอบเท่าไรนัก
พวกเฉียวฉู่อยู่ในอาณาจักรแห่งความมืดเป็นเวลาห้าวัน ในช่วงนี้ นอกจากไปเยี่ยมชมสถานที่พิเศษๆในอาณาจักรแห่งความมืดแล้ว พวกเขาใช้เวลาที่เหลือผลัดกันอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย ไม่ว่านางจะไปที่ไหน พวกเขาก็ตามติดนางเหมือนเงา จวินอู๋เสียทำได้แค่ยอมอย่างช่วยไม่ได้ แต่มันทำให้พวกเย่ฉาดูมีความสุขมาก
การได้เห็นความรู้สึกอื่นๆที่นอกเหนือจากความเย็นชาบนใบหน้าของนาง แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้พวกเขาปลื้มใจอย่างล้นเหลือแล้ว
แม้ว่าหลงฉีจะตื่นเต้นที่ได้เจอจวินอู๋เสีย แต่ในฐานะแม่ทัพของกองทัพรุ่ยหลิน เขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอยู่มากมาย มากกว่าที่พวกเฉียวฉู่มี การที่พวกเขาได้มาที่อาณาจักรแห่งความมืดนั้นเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ไม่ต้องพูดถึงว่ามีทหารหมื่นนายมากับพวกเขาในการเดินทางครั้งนี้ด้วย หลงฉีจึงกระตือรือร้นมากที่จะขอวิธีการฝึกให้ทหารของเขา
กองทัพรุ่ยหลินเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งในอาณาจักรล่าง ขณะที่กองทัพราตรีคือกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรกลาง ในฐานะทหาร หลงฉีมองครั้งเดียวก็บอกได้ทันทีว่าพวกเขามีระเบียบวินัยอย่างยิ่งและสามารถเข้าถึงทรัพยากรการฝึกแบบพิเศษได้ ช่วงนี้เขาจึงทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อขอให้เย่กูแบ่งปันวิธีการฝึกกับเขา ความพากเพียรของหลงฉีทำให้เย่กูได้แต่ยอมรับ ยังไงซะกองทัพรุ่ยหลินก็เป็นของวังหลินอ๋องซึ่งก็เท่ากับเกี่ยวข้องกับจวินอู๋เสีย กองทัพราตรีถูกสร้างขึ้นโดยจวินอู๋เหยา และก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้บอกเอาไว้แล้วว่าพวกเขาจะถูกส่งมอบให้กับจวินอู๋เสีย ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วกองทัพทั้งสองก็นับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
แน่นอนว่าพวกเฟยเหยียนก็ไม่พลาดโอกาสดีๆเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะพัฒนาขึ้นมาก แต่ถ้าเทียบกับกองทัพราตรีพวกเขาก็ยังห่างชั้นในแง่ของประสบการณ์การต่อสู้ ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีเวลาว่าง พวกเขาจะลากเย่เม่ยกับเย่ฉามาช่วยฝึก แต่ในระหว่างฝึกฝน พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งคนหนึ่งคนไปติดตามจวินอู๋เสีย ราวกับกลัวว่าอยู่ดีๆนางจะหายตัวไป สิ่งที่เฉียวฉู่ชอบทำมากที่สุดในอาณาจักรแห่งความมืดคือการพักอยู่ในวังของจวินอู๋เสีย ดูนางก้มหน้าก้มตาอยู่กับกองเอกสารไปพร้อมๆกับนอนเอกเขนกกินผลไม้อยู่บนเก้าอี้ยาว
เหมือนกับที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้
”เสี่ยวเสีย ข้าสังเกตเห็นอะไรแปลกๆอย่างหนึ่ง” เฉียวฉู่กัดลูกสาลี่แล้วถามขึ้นพร้อมสาลี่เต็มปาก
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารและมองไปที่เฉียวฉู่ซึ่งนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์จนน่าหมั่นไส้ด้วยสายตาสงสัย
”ข้าสังเกตเห็นว่าทุกคนในอาณาจักรแห่งความมืดใช้พลังวิญญาณปีสาจกันหมดเลย……พลังนี้มันคืออะไรกันแน่? เจ้ารู้รึเปล่า? ข้ารู้สึกว่าพลังวิญญาณปีศาจแข็งแแกร่งกว่าพลังวิญญาณซะอีก” เฉียวฉู่ลุกขึ้นนั่ง คำถามนี้อยู่ในใจเขามาหลายปี แต่เขาไม่กล้าถามจวินอู๋เหยา
ว่ากันว่ากองทัพราตรีแห่งอาณาจักรแห่งความมืดควบคุมพลังที่แตกต่างซึ่งเหนือกว่าพวกที่ใช้พลังวิญญาณ พวกเฉียวฉู่มีโอกาสแลกเปลี่ยนฝีมือกับพวกเขา และมันก็เป็นเหมือนกับข่าวลือ พวกเฉียวฉู่พบว่าเป็นความจริงที่พลังวิญญาณปีศาจนั้นน่ากลัวกว่าพลังวิญญาณธรรมดาที่พวกเขามีมาก
จวินอู๋เสียลดสายตาลงต่ำและเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นช้าๆว่า “ทุกคนจากอาณาจักรแห่งความมืดได้รับเลือดของจวินอู๋เหยามาก่อน เลือดของเขาสามารถเปลี่ยนพลังวิญญาณในตัวพวกเขาได้ และ……สมาชิกส่วนใหญ่ของกองทัพราตรีไม่อาจถือว่าเป็นคนธรรมดาได้อีกแล้ว”