Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1601-1602
ตอนที่ 1601 แขกจากวิหารมารโลหิต (4)
เทียนเจ๋อขมวดคิ้วแต่ไม่พูดอะไรเขาหันหลังและเดินเข้าไปในสำนัก ตอนที่เทียนเจ๋อหมุนตัวกลับไปนั้นเอง กู่อิ่งก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย
สำนักธาราเมฆเขากลับมาแล้ว
เทียนเจ๋อพากู่อิ่งตรงไปที่ห้องของกู่ซินเยียนตลอดทางที่มาเขาไม่ยอมออกห่างจากกู่อิ่งเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่ไม่สามารถทำได้ เขาไม่แน่ใจว่าหลังจากเขาไปแล้ว กู่อิ่งจะสร้างปัญหาอะไรขึ้นในสำนักอีก
“นี่คือห้องของกู่ซินเยียน”เทียนเจ๋อยืนอยู่หน้าประตูและพูดอย่างเย็นชา
กู่อิ่งยิ้มและพูดว่า“ลำบากท่านแล้ว”
เทียนเจ๋อยังไม่ยอมทำหน้าดีๆใส่เขา
กู่อิ่งเองไม่รู้สึกรู้สาอะไรเขายกมือขึ้นเคาะประตูห้อง
ไม่มีเสียงตอบจากในห้องแต่กู่อิ่งและเทียนเจ๋อก็ยังรออยู่นอกห้อง
ทันใดนั้นกู่อิ่งก็ได้กลิ่นหอมรุนแรงของเหล้า เขาหันหน้าเล็กน้อยมองหาที่มาของกลิ่นเหล้า แล้วก็เห็นร่างเล็กๆกำลังเดินมาทางเขา
นั่นคือเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาอย่างมากร่างกายผอมบางนั้นอยู่ในเครื่องแบบหลวมๆของสำนักธาราเมฆ เด็กหนุ่มผอมมากจนเหมือนทำมาจากกระดาษ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของกู่อิ่งกลับเป็นดวงตาของเขา
ใสกระจ่างราวสายน้ำแต่เหมือนซ่อนน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกเอาไว้ภายใน
ดวงตาคู่นั้นทำให้เขานึกถึงคนผู้หนึ่งคนที่เขาจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต
เทียนเจ๋อสังเกตสายตาของกู่อิ่งเขาเงยหน้าขึ้นมอง และพบว่าคนที่กู่อิ่งกำลังมองอยู่ก็คือจวินอู๋เสีย!
ทันใดนั้นระฆังเตือนภัยในใจของเขาก็ส่งเสียงดังลั่น เขาขมวดคิ้วและพูดขึ้นทันทีว่า “กู่อิ่ง จำจุดประสงค์ที่มาในครั้งนี้ให้ดี”
รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของกู่อิ่งเขาหันหน้ามาช้าๆ มองดูเทียนเจ๋อที่กำลังวิตกกังวล
“ไม่ต้องกังวลถึงขนาดนั้นข้าแค่คิดว่าน้องชายคนนี้ตาสวยเท่านั้นเอง”
คำพูดของกู่อิ่งทำให้เทียนเจ๋อขนลุกและเย็นวาบไปทั้งตัวทันทีตอนที่กู่อิ่งควักลูกตาของเด็กสาวคนนั้น เขาก็พูดแบบเดียวกันนี้
ขณะนั้นเองประตูตรงหน้าทั้งสองก็เปิดออกช้าๆ กู่ซินเยียนที่หน้าซีดเล็กน้อยยืนอยู่หลังบานประตู พอเห็นกู่อิ่ง นางก็หลบตาวูบอย่างไม่อาจควบคุมได้
“ซินเยียนไม่ได้เจอนาน คิดถึงข้ารึเปล่า?” ความสนใจของกู่อิ่งหันกลับมาที่กู่ซินเยียนอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงร่าเริงและเอ็นดูนั้นฟังเหมือนเป็นพี่ชายที่แสนดี
แต่ดวงตาของกู่ซินเยียนไม่มีวี่แววของความดีใจอยู่เลยสักนิดนางฝืนยิ้มเล็กน้อยและเอ่ยปากเรียกอย่างขลาดกลัวว่า
“พี่”
เมื่อเห็นสองพี่น้องพบกันเทียนเจ๋อก็โล่งอก เขากระตุ้นให้ทั้งสองคุยกันและเตือนกู่อิ่งว่าห้ามไปไหนมาไหนในสำนักธาราเมฆตามใจชอบ ถ้าเขาต้องการไปที่ไหนก็ตาม จะต้องมีครูคนหนึ่งตามไปด้วย
กู่อิ่งยอมฟังแต่โดยดี
แต่ไม่ว่าเขาจะแสดงท่าทางเป็นมิตรแค่ไหนเทียนเจ๋อก็ยังไม่มองว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่ใจดี
ตอนที่กู่อิ่งเข้ามาในห้องกู่ซินเยียนเม้มปากและกำลังจะปิดประตู แต่นางเหลือบไปเห็นจวินอู๋เสียที่อยู่ห้องตรงข้ามเข้า สีหน้าของนางจึงผิดปกติไปเล็กน้อย วินาทีที่นางสบสายตาเย็นชาของจวินอู๋เสีย กู่ซินเยียนอดหวั่นไหวไม่ได้ นางรีบก้มหน้าปิดประตูทันที
จวินอู๋เสียยืนอยู่นอกประตูด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกนางเห็นอย่างชัดเจนว่าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องของกู่ซินเยียนคือกู่อิ่งจากตอนที่เกิดเรื่องที่สำนักวายุประจิม!
นางไม่พลาดบทสนทนาระหว่างกู่อิ่งและกู่ซินเยียนเป็นอย่างที่นางคาดเดาเอาไว้จริงๆ
พวกเขาเป็นพี่น้องกัน
ตอนที่ 1602 ปีศาจ (1)
แต่มีอย่างหนึ่งที่จวินอู๋เสียรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยในแววตาของกู่ซินเยียน นางไม่เห็นความดีใจที่พี่น้องได้มาพบกันหลังแยกจากกันไปนานเลยสักนิด เห็นแต่ความไม่สบายใจและความหวาดกลัว
จวินอู๋เสียไม่รู้ว่าปฏิกิริยาแบบนี้เป็นเรื่องปกติหรือไม่แต่นางรู้สึกได้ว่าการมาของกู่อิ่งได้นำปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงมาด้วย
แม้ว่าพวกเฉียวฉู่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปบ้างหลังจากเข้ามาในอาณาจักรกลางแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก พวกเขายังคงมีรูปลักษณ์เดิมให้เห็นอยู่มาก จวินอู๋เสียไม่แน่ใจว่ากู่อิ่งจะจำพวกเฉียวฉู่ได้หรือไม่ แต่ถ้ากู่อิ่งรู้เข้า เรื่องคงยุ่งยากมากขึ้น
ตอนที่จวินอู๋เสียออกค้นหาแผนที่ไปทั่วดินแดนนางก็ปลอมแปลงรูปร่างหน้าตาของตนมาตลอดตั้งแต่แรก ด้วยความกลัวว่าหลังจากที่นางเอาแผนที่ไป คนของสิบสองวิหารที่เหลือจะจำนางได้ หากวันหนึ่งสิบสองวิหารพบว่าแผนที่ที่สูญหายไปทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับนาง พวกเขาคงพยายามกำจัดนางโดยไม่จำเป็นต้องรู้ด้วยซ้ำว่านางค้นพบสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดแล้ว
หลังจากกลับเข้าห้องของตัวเองจวินอู๋เสียก็ให้เย่ฉาและเย่กูนำข้อความไปให้พวกเฉียวฉู่ทันที บอกให้พวกเขาหยุดแกล้งคนของวิหารมารโลหิตชั่วคราว และใช้เวลาอยู่ข้างนอกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ไม่ไปดึงดูดความสนใจของกู่อิ่ง
ในหมู่พวกเขาสิ่งที่จวินอู๋เสียเป็นห่วงมากที่สุดก็คือกลัวว่าฟ่านจั๋วจะควบคุมตัวเองไม่ได้
พ่อบุญธรรมของฟ่านจั๋วตายด้วยน้ำมือของกู่อิ่งจวินอู๋เสียไม่แน่ใจว่าฟ่านจั๋วรู้รึเปล่าว่ากู่อิ่งยังมีชีวิตอยู่และมาปรากฏตัวที่สำนักธาราเมฆแล้ว เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากรู้เรื่องนี้
การมาของกู่อิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมเป็นพิเศษของสำนักธาราเมฆมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ และหนึ่งในนั้นก็คือหลินเฮ่าอวี่
หลินเฮ่าอวี่รีบพุ่งไปที่ห้องของกู่ซินเยียนอย่างทนรอไม่ไหวหลังจากเคาะประตูห้อง เขาก็เห็นใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มของกู่อิ่งอยู่ที่ประตู
“พี่ใหญ่กู่อิ่งท่านมาแล้ว” ทันทีที่หลินเฮ่าอวี่เห็นกู่อิ่ง เขาก็อดสะดุ้งไม่ได้ ใบหน้ายิ้มแย้มนั้นนำความทรงจำมืดมัวที่ฝังลึกของเขาออกมา
กู่อิ่งมองหลินเฮ่าอวี่ที่กำลังเครียดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและพูดว่า“เป็นเจ้านี่เอง เข้ามาซิ”
หลินเฮ่าอวี่เดินเข้าไปอย่างเชื่อฟังเตือนตัวเองในใจซ้ำๆว่าตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ภายในห้องกู่ซินเยียนนั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าซีดขาวปราศจากสีเลือด ริมฝีปากงามเม้มแน่น ทั้งร่างดูเครียดเกร็งไปหมดจากความกังวลและไม่สบายใจ
บรรยากาศภายในห้องแปลกๆอยู่บ้างหลินเฮ่าอวี่เตรียมคำที่อยากจะพูดกับกู่อิ่งมาเต็มที่ แต่พอเห็นรอยยิ้มสดใสของกู่อิ่งและใบหน้าซีดขาวของกู่ซินเยียน คำพูดเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะติดอยู่ในลำคอของเขา
ปีศาจร้ายเช่นนี้จะไว้ใจได้จริงหรือ?
ในใจของหลินเฮ่าอวี่เกิดความขัดแย้งขึ้นครั้งใหญ่
ในห้องเงียบกริบหลินเฮ่าอวี่ยืนตัวแข็งอยู่ในห้อง ไม่กล้าแม้แต่จะนั่ง กู่ซินเยียนเหลือบตาขึ้นมองเขาแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงอีกครั้ง ไม่รู้จะทำยังไงดี มีเพียงกู่อิ่งที่ยังยิ้มอยู่ราวกับว่าไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย
“หลินเฮ่าอวี่”จู่ๆกู่อิ่งก็พูดออกมาขณะมองหลินเฮ่าอวี่ที่ตัวแข็งทื่อ หลินเฮ่าอวี่สะดุ้ง แล้วรีบมองไปที่กู่อิ่ง
“พี่ใหญ่กู่อิ่ง”หลินเฮ่าอวี่เสียงสั่นเล็กน้อย
“ข้าจำได้ว่าข้าบอกเจ้าแล้วว่าถ้ามองน้องสาวข้าด้วยสายตาแบบนั้นอีก ข้าจะควักตาเจ้าออกมา เจ้าจำไม่ได้แล้วหรือ?” กู่อิ่งเอามือข้างหนึ่งเท้าคางพลางพูดถ้อยคำที่น่ากลัวด้วยน้ำเสียงเนือยๆสบายๆ