Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1625-1626
ตอนที่ 1625 ของขวัญตอบแทน (2)
สีหน้าของหลินเฮ่าอวี่ยิ่งไม่น่าดูมากขึ้นทุกทีเสียงกระซิบจากพวกผู้เยาว์ที่รายล้อมอยู่ ทำให้จิตใจของเขาอ่อนแอมากขึ้น สายตาที่มองคนที่มุงอยู่รอบๆดูตื่นตระหนกและลุกลี้ลุกลน ในดวงตาที่ห่างเหินเย็นชาจำนวนมากนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย หลินเฮ่าอวี่พยายามหาตัวคนร้าย แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าทุกคนน่าสงสัยไปหมด
กองเลือดเนื้อนั่นเป็นเหมือนบ่วงเชือกที่รัดคอเขาไว้จนแทบหายใจไม่ออก
[ใช่เฉียวฉู่แห่งวิหารปีศาจเพลิงรึเปล่า?]
[หรือเป็นคนจากวิหารอื่น?]
[พวกนั้นอยากฆ่าเขาหรือ?]
[ไม่……]
[เขาไม่อยากตาย……]
ความวิตกกังวลและความตึงเครียดที่ได้รับทำให้หลินเฮ่าอวี่ตาเหลือกและเป็นลมสลบไปหลินเฮ่าอวี่ผู้โชคร้าย ขนาดล้มก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปรับ แต่กลับปล่อยให้ร่างกายของเขาล้มฟาดลงมาข้างหน้าใส่กองเลือดเนื้อเข้าเต็มๆ เลือดและเนื้อกระเด็นใส่ผู้เยาว์หลายคนที่ยืนอยู่ใกล้ คราบเลือดเนื้อที่น่าขยะแขยงทำให้เกิดเสียงกรีดร้องดังขึ้นทันที
ท่ามกลางความโกลาหลนั้นร่างเล็กๆร่างหนึ่งเดินผ่านไปอย่างเงียบๆ นางมองผ่านช่องว่างในฝูงชนและเห็นหลินเฮ่าอวี่สลบอยู่กลางกองเลือดเนื้อ
เมื่อคืนหลังจากที่จวินอู๋เสียและพรรคพวกของนางจัดการกับพวกคนชุดดำแล้วนางก็ได้รู้ทุกอย่างจากปากพวกเขา นางเคยพบกับกู่อิ่งมาก่อนและเดาว่ากู่อิ่งอาจสงสัยตัวตนของนาง แต่การที่กู่อิ่งหันมาสนใจนางต้องเป็นเพราะการกระตุ้นของหลินเฮ่าอวี่แน่
เมื่อพิจารณาจากเรื่องที่หลินเฮ่าอวี่“ดูแล” นางอย่างดีอยู่หลายครั้งตั้งแต่เข้าสำนักธาราเมฆ จวินอู๋เสียก็คิดว่านางควรส่ง “ของขวัญตอบแทน” ให้กับเขา พลังของหน้ากากภูติไม้นั้นเพียงพอจะฉีกผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงไม่กี่คนให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ และผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ผู้คนให้ความเคารพนับถือพวกนั้น บัดนี้ได้กลายเป็นกองเนื้อบดที่หน้าห้องของหลินเฮ่าอวี่ ส่วนเรื่องที่กองเนื้อนั้นเป็นอะไรมาก่อนและพวกมันมาจากไหนยังไงนั้น ใครจะไปรู้ได้?
หลังจากชื่นชมปฏิกิริยาของหลินเฮ่าอวี่แล้วจวินอู๋เสียก็เดินผ่านฝูงชนไปอย่างไม่รีบร้อน นางเดินตรงไปยังสาขาจ้าววิญญาณด้วยท่าทางสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลินเฮ่าอวี่ล้มป่วยป่วยแบบกระทันหันและไม่มีสาเหตุใดๆ
หลังจากได้รับความหวาดกลัวอย่างหนักจากกองเลือดเนื้อในตอนเช้าและล้มหน้าคว่ำใส่มันเขาก็ถูกแบกออกไปด้วยคำสั่งของกู่ซินเยียนที่มีคนรีบไปพามา จากนั้นเขาก็ล้มป่วย หรือควรพูดว่า……เขาเสียสติไปแล้วจะถูกต้องกว่า
หลินเฮ่าอวี่ป่วยหนักจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ร่างกายของเขาเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน เขามีอาการเพ้อคลั่งและพูดอะไรแปลกๆอยู่เป็นระยะ ตอนที่กู่ซินเยียนจะถามเขาบางอย่าง เขาก็หวาดกลัวจนเริ่มตะโกนและกรีดร้องออกมา แล้วไปขดตัวอยู่ที่มุมเตียงพร้อมกับตัวสั่นระริก
ตอนที่หลินเฮ่าอวี่เพิ่งเข้าสำนักธาราเมฆใหม่ๆเขามีความกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยความฮึกเหิม แต่หลังจากนั้นเขาต้องเผชิญกับความกลัวอย่างไม่หยุดหย่อน ถูกเฉียวฉู่ทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นก็ต้องตกใจกลัวกับเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้เขากลายเป็นบ้าไป
เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าตัวเขาจะต้องมาพบจุดจบที่น่าสังเวชเช่นนี้
กู่ซินเยียนรู้สึกอับจนหนทางกับอาการของหลินเฮ่าอวี่ขนาดขอให้ครูสาขาผู้เชี่ยวชาญยาของสำนักธาราเมฆมาช่วยรักษาเขาก็ยังไม่ได้ผล นางจึงทำได้แค่ทิ้งเขาไว้ให้เป็นบ้าและซ่อนตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา
เมื่อไม่มีทางเลือกกู่ซินเยียนจึงต้องเขียนจดหมายไปที่วิหารมารโลหิตเพื่อให้คนมาพาหลินเฮ่าอวี่กลับไปรักษา
สำหรับสถานการณ์ของหลินเฮ่าอวี่สำนักธาราเมฆก็ไม่ได้ทำให้เรื่องยุ่งยาก รีบตกลงปล่อยศิษย์กลับบ้านอย่างรวดเร็ว
แต่พวกเขาจำต้องลบหลินเฮ่าอวี่ออกจากการเป็นศิษย์ของสำนักธาราเมฆ
ถึงยังไงด้วยสภาพอาการของหลินเฮ่าอวี่ เขาก็ไม่สามารถฝึกฝนในสำนักธาราเมฆได้อีกต่อไปแล้ว
ตอนที่ 1626 ตาเฒ่าตัวร้าย (1)
การต่อสู้นองเลือดในคืนนั้นดูเหมือนไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆไว้ในสำนักธาราเมฆนอกจากรู้ว่าหลินเฮ่าอวี่เสียสติไปแล้ว พวกเขาก็ไม่รู้อะไรอีก หลังจากถกเถียงกันอย่างดุเดือดช่วงหนึ่ง พวกผู้เยาว์ทุกคนก็กลับเข้าสู่วิถีชีวิตปกติ เรียนรู้และฝึกฝนต่อไป ทำงานเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายของพวกเขา
และจวินอู๋เสียก็ฝึกฝนต่อไปอย่างที่เคยทำที่สาขาจ้าววิญญาณได้รับการชี้แนะสั่งสอนจากซูหย่า
สภาพอารมณ์ของซูหย่าดูเหมือนจะว้าวุ่นใจเล็กน้อยและดูเหมือนจะยิ่งเกียจคร้านมากขึ้นแม้ว่านางจะยังดื่มจนเมามายทุกวัน แต่นางพูดน้อยลงมาก เวลาส่วนใหญ่ก็มักจะหมกตัวอยู่ในห้องเก็บเหล้าเพื่องีบหลับแทน
จวินอู๋เสียก็ไม่กล้าถามมากได้แต่ฝึกฝนด้วยตัวเองต่อไป
จวินอู๋เสียชินกับการฝึกฝนอย่างเงียบๆและสงบสุขเช่นนี้แต่ใครบางคนก็มาทำลายความสงบสุขของนาง
มันเพิ่งจะเลยเที่ยงมานิดหน่อยจวินอู๋เสียเพิ่งกินข้าวกลางวันเสร็จ นางกำลังจะไปฝึกฝนต่อ ก็มีร่างหนึ่งยืนเด่นอยู่ในสาขาจ้าววิญญาณ
“เฮ้!เจ้าหนู! ข้ามาแล้ว!” ชายชราตัวเล็กยิ้มพลางมองจวินอู๋เสียด้วยสายตากระตือรือร้น
จวินอู๋เสียชะงักเท้าทันที
[ตาคนนี้มาทำอะไรที่นี่อีก!!]
คิดว่ากำจัดชายชราคนนี้ไปได้แล้วซะอีกจู่ๆจวินอู๋เสียก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเมื่อเห็นชายชราตัวเล็ก
พูดกันตามจริงนางสื่อสารกับชายชราที่สติไม่ค่อยดีคนนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายกระตือรือร้นที่จะรีดเอาความรู้ทางการแพทย์จากนาง
การก้าวเท้าของจวินอู๋เสียสะดุดไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกตินางเหลือบมองชายชราแวบหนึ่งแต่ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
แต่ดูเหมือนชายชราตัวเล็กจะชินกับท่าทางเย็นชาของจวินอู๋เสียแล้วเขายิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้โดยถือขวดยาเอาไว้ในมือ
“แหะแหะเจ้าหนู ของที่เจ้าให้ข้ามายอดเยี่ยมจริงๆ ข้าเพิ่งปรุงยานี้สำเร็จก็เลยเอามาให้เจ้าดู มาเร็ว ช่วยข้าดูหน่อยว่ามันสมบูรณ์แบบรึเปล่า?” ชายชราไม่สนใจปฏิกิริยาของจวินอู๋เสียเลย แต่กลับยัดขวดยาใส่มือของจวินอู๋เสียแทน ปากก็ยังเอ่ยชมเชย ‘ความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม’ ของตัวเองไม่หยุด
จวินอู๋เสียพูดอะไรไม่ออกขณะมองชายชราที่ดีอกดีใจอย่างมากนางเขียนรายละเอียดทุกขั้นตอนที่จำเป็นในการปรุงยาลงบนกระดาษพวกนั้นแล้ว โดยพื้นฐานแล้วใครก็ตามที่อ่านและทำตามขั้นตอนพวกนั้นก็ต้องทำสำเร็จโดยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว นางจึงไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจอะไรเลย
แต่เมื่อได้เห็นแววตาที่เร่าร้อนของชายชราตัวเล็กจวินอู๋เสียก็รู้สึกว่าหากนางไม่พูดอะไรสักอย่าง ชายชราคนนี้ก็คงไม่ปล่อยนางไปแน่
เมื่อไม่มีทางเลือกจวินอู๋เสียก็ทำได้แค่เปิดขวดยาออกมาแสร้งทำเป็นดม
ไม่มีปัญหาในเรื่องคุณภาพของยามันเป็นอย่างที่ควรจะเป็น
“ใช้ได้”จวินอู๋เสียกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
แต่การประเมินค่าปานกลางของนางแค่คำเดียวนั้นทำให้ใบหน้าของชายชราเปล่งประกายด้วยความดีใจอย่างที่สุดเขาหยิบขวดยาจากมือของจวินอู๋เสีย แล้วไม่รู้ว่าควรจะถือขวดยาอันล้ำค่านั้นยังไงดี ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงใบหู
“ข้าบอกแล้ว!ข้าจะปรุงยาที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาไม่ได้ได้ยังไง! ข้าทำได้แล้ว ข้านี่ช่างมีพรสวรรค์ซะจริงๆ……ลองแค่ 3 ครั้งก็ทำสำเร็จแล้ว!!” เสียงของชายชราเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
แต่จวินอู๋เสียแทบจะกระอักเลือดออกมา!
[สามครั้ง!]
นางเขียนทุกขั้นตอนไว้อย่างละเอียดชนิดที่เด็กก็สามารถทำได้แล้ว!แต่ชายชราคนนี้ก็ยังต้องทำถึง 3 ครั้งถึงจะสำเร็จเนี่ยนะ……