Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1958-1960
ตอนที่ 1958 มุ่งสู่เส้นทางวิญญาณ (4)
หรงรั่วมองเฟยเหยียนอย่างสับสน จวินอู๋เหยาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วริมฝีปากก็ปรากฏรอยยิ้มบาง
“ได้”
เมื่อได้คำตอบที่พอใจแล้ว เฟยเหยียนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะรีบวิ่งไปซ่อนตัวในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง
ก็เหมือนกับเฉียวฉู่ ตอนที่วิญญาณพวกเขาออกจากร่าง ก็ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้น
หรงรั่วเดินตามจวินอู๋เหยาเข้าไปในห้อง ขณะที่พวกเฉียวฉู่พากันซ่อนตัวอย่างหมดหนทาง พวกเขาไม่สามารถสัมผัสอะไรได้เลย จึงไม่มีทางเลือกนอกจากโป๊ต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน จวินอู๋เหยาก็เดินออกจากห้อง หรงรั่วก้าวตามหลังเขาออกมา จวินอู๋เสียได้กลิ่นอะไรบางอย่างไหม้อยู่จางๆ
“เสี่ยวรั่ว?” จวินอู๋เสียมองร่างของหรงรั่ว พูดไปก็แปลก แต่วิญญาณของหรงรั่วดูต่างจากร่างกายของนางเล็กน้อย ดูสูงกว่า ใบหน้าค่อนไปทางหล่อมากกว่า และสิ่งที่จวินอู๋เสียอยากรู้มากที่สุดก็คือการที่หรงรั่วสวมเสื้อผ้า
“อืม” หรงรั่วยิ้มน้อยๆ
เฟยเหยียนเอนตัวออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองดูข้างนอก เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหรงรั่ว และอดรู้สึกไม่ได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก่อนที่เขาจะคิดให้ลึกไปกว่านั้น เฉียวฉู่ที่อยู่ข้างๆก็ตะโกนออกมาสุดเสียง
“เสี่ยวรั่ว! ทำไมเจ้ามีเสื้อผ้า!?”
ร่างวิญญาณของหรงรั่วโปร่งแสงเหมือนพวกเขา แต่นางสวมเสื้อผ้าด้วย แม้ว่ามันจะโปร่งแสงเหมือนกัน แต่ก็ปกปิดร่างกายของนางได้ ไม่ต้องโป๊เหมือนพวกเฉียวฉู่
“เย่เจี๋ยทำให้ข้า” หรงรั่วก้มหน้ามองเสื้อผ้าของตนแล้วยิ้มออกมา
ร่างเล็กๆร่างหนึ่งเดินออกจากห้อง หลังจากเย่กูได้รับบาดเจ็บ เย่เจี๋ยก็ปรากฏตัว นางยืนหลบอยู่ข้างประตู มองคนข้างนอกด้วยความอาย
“หือ? เย่เจี๋ย!! ข้าเอาด้วย! ข้าเอาด้วย!” เฉียวฉู่ประท้วงทันที แม้ว่าเขาจะไม่สามารถรู้สึกถึงสัมผัสใดๆได้ แต่เขาก็รู้จักอายเป็นนะ!! ล่อนจ้อนอยู่แบบนี้ อย่าว่าแต่ไปโลกวิญญาณเลย เขาไม่กล้าก้าวออกนอกประตูด้วยซ้ำ!ไอรีนโนเวล
เย่เจี๋ยมองเฉียวฉู่ แล้วมองไปที่จวินอู๋เหยา
เมื่อเห็นจวินอู๋เหยาพยักหน้า เย่เจี๋ยก็อุ้มหนูนรกเดินออกมา
หนูนรกอ้าปากและคายชุดเครื่องเขียนกับกระดาษปึกใหญ่ออกมา เย่เจี๋ยกางกระดาษที่ใหญ่กว่าตัวนางลงบนพื้น แล้วคุกเข่าลง จุ่มพู่กันลงในหมึก จากนั้นก็เริ่มต้นวาดลงบนกระดาษสีขาว ชุดเสื้อผ้าถูกวาดออกมาอย่างรวดเร็ว เย่เจี๋ยวาดได้เร็วมากและมีรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม ชุดด้านนอก, ชุดด้านใน, กางเกง, รองเท้า, ถุงเท้า, กระทั่งเครื่องประดับศีรษะหยกก็ถูกวาดได้สมจริงมาก หลังจากวาดเสร็จ เย่เจี๋ยก็หยิบกรรไกรออกมาตัดชุดกระดาษที่นางวาดอย่างระมัดระวัง
เย่ฉานำกระถางไฟขนาดเล็กออกมา หลังจากเย่เจี๋ยตัดกระดาษเสร็จ นางก็มองไปทางเฉียวฉู่
“วันและเวลาเกิด”
เฉียวฉู่บอกข้อมูลอย่างรวดเร็ว เย่เจี๋ยเขียนรายละเอียดลงบนกระดาษ ก่อนจะหย่อนพวกมันทั้งหมดลงในกระถางไฟ
ทันทีที่เสื้อผ้ากระดาษพวกนั้นไหม้ไฟจนหมด เสื้อผ้าชุดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเฉียวฉู่ แม้แต่ผมของเขาก็ถูกมัดไว้ด้วยเครื่องประดับศีรษะหยก
เฉียวฉู่มองเสื้อผ้าของตนอย่างประหลาดใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาสวมเสื้อผ้าแล้วจริงๆ
เมื่อมีเฉียวฉู่เป็นตัวอย่าง เฟยเหยียน, ฮัวเหยา, และฟ่านจั๋วก็พากันอ้อนวอนเย่เจี๋ยให้วาดเสื้อผ้าให้พวกเขาด้วย
หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าที่ถูก “เผา” ไปให้แล้ว พวกผู้เยาว์ที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องไม่กล้าออกมา ในที่สุดก็ก้าวออกจากห้อง พวกเขาประเมินเสื้อผ้าของตัวเองและพบว่ามันน่าทึ่งและน่าสนใจมาก
“เอ๋? งั้นก็หมายความว่าพวกเราจะไม่สามารถใช้ของวิเศษได้แล้วน่ะสิ?” เฉียวฉู่มองข้อมือของตน เขาไม่เห็นกำไลคู่ที่เป็นถุงมือมังกรเพลิงอยู่บนนั้น
“ของวิเศษไม่สามารถนำไปที่โลกวิญญาณได้ เว้นแต่ว่ามันจะเป็นของวิเศษจากโลกวิญญาณ” เย่เจี๋ยกล่าวจากด้านข้าง
ตอนที่ 1959 มุ่งสู่เส้นทางวิญญาณ (5)
เฟยเหยียนเดินมายืนข้างๆหรงรั่ว และมองดูหรงรั่วที่สูงเท่ากันกับเขาด้วยความรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย
“เสี่ยวรั่ว วิญญาณเจ้ากับร่างกายของเจ้าดูต่างกันนิดหน่อยนะ……” เฟยเหยียนมองใบหน้าที่คุ้นเคย เขาเห็นใบหน้านั้นมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่แม้ว่าเขาจะรู้สึกคุ้นเคย ขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
หรงรั่วเบนสายตาออกไปเล็กน้อยราวกับไม่ได้สนใจ และพูดว่า “งั้นหรือ……”
“เจ้าสูงขึ้นด้วย” เฟยเหยียนเทียบความสูงของพวกเขา เดิมทีเขาสูงกว่าหรงรั่วอยู่ครึ่งศีรษะ แต่ตอนนี้พวกเขากลับสูงเท่ากัน
หรงรั่วไม่พูดอะไรอีก แค่มองไปด้านข้างราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง
“ตาข้าแล้วใช่ไหม?” จวินอู๋เสียถามพลางมองไปที่จวินอู๋เหยา
วิญญาณของนางแตกต่างจากคนอื่นๆ
จวินอู๋เหยาหัวเราะ จากนั้นก็ดึงจวินอู๋เสียเข้ามากอด และเดินโอบนางเข้าไปในห้อง “เย่เจี๋ย เตรียมเสื้อผ้าให้เสี่ยวเสียเอ๋อร์หนึ่งชุด” พูดจบเขาก็เดินเข้าไปข้างในและปิดประตู
“เจ้าค่ะ” เย่เจี๋ยรับคำ แล้วตบเบาๆที่ท้องของหนูนรก เจ้าหนูนรกคายกล่องหมึกเล็กๆออกมาหนึ่งกอง
“นี่อะไร?” เฉียวฉู่นั่งยองๆที่ด้านข้าง มองข้าวของต่างๆอย่างสงสัย นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าสามารถเผาสิ่งของส่งไปให้วิญญาณใช้ได้จริงๆ
เย่เจี๋ยไม่สนใจเขา เอาแต่จดจ่ออยู่กับการวาดชุด เทียบกับชุดที่วาดให้พวกเฉียวฉู่แล้ว ครั้งนี้เย่เจี๋ยวาดอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ ทุ่มเทวาดกระทั่งลวดลายและลายปักอย่างละเอียด หลังจากวาดเสร็จ เย่เจี๋ยก็เอื้อมมือไปหยิบกล่องหมึกเล็กๆ ในกล่องหมึกพวกนั้นมีสีอยู่หลากหลาย เย่เจี๋ยจุ่มสีอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ลงสีบนกระดาษ
“นี่……มันจะปฏิบัติแตกต่างกันมากเกินไปหน่อยไหม?” เฉียวฉู่อดมองไม่ได้ เขามองเย่เจี๋ยที่วาดชุดอย่างพิถีพิถัน นี่จะเรียกว่าเป็นแค่เสื้อผ้าได้อย่างไร? ละเอียดประณีตราวกับงานปักของจริง!
เฉียวฉู่มองชุดผู้หญิงที่วิจิตรตระการตาสีสันสดใสสวยงาม แล้วมองดูชุดสีขาวเรียบๆของตนเอง เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที
“จงพอใจเถอะว่ายังมีเสื้อผ้าใส่” เฟยเหยียนไม่สนใจเลยสักนิด เย่เจี๋ยวาดชุดผู้ชายให้กับเขา และเขาพอใจกับมันมาก
เฉียวฉู่หุบปากทันที รู้ว่าเป็นเพราะจวินอู๋เสีย เขาถึงได้มีเสื้อผ้าใส่ และยังมีโอกาสฝึกฝนต่อด้วย
ภายในห้อง จวินอู๋เสียยืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เหยา รอคอยให้เขาลงมือ
จวินอู๋เหยายื่นมือออกมาช้าๆ มืออุ่นๆของเขาเคลื่อนเข้าใกล้หน้าอกของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียรอเวลาที่วิญญาณจะออกจากร่างอย่างสงบ ความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่านางไม่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ เมื่อชาติก่อนตอนที่นางหลอมรวมเข้ากับเจ้าแมวดำ นางเคยมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว และรู้ว่ามันรู้สึกอย่างไรตอนที่วิญญาณออกจากร่าง
เมื่อเห็นมือของจวินอู๋เหยาใกล้เข้ามา ความทรงจำของความรู้สึกไม่สบายในตอนนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัว ทำให้นางหลับตาลงอย่างไม่รู้ตัวขณะที่กำลังรอให้วิญญาณออกจากร่าง
แต่……
ความเจ็บปวดที่เคยเจอไม่ได้ปรากฏ นางไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆในตอนที่วิญญาณออกจากร่างเลย ความอบอุ่นบนหน้าอกค่อยๆเพิ่มขึ้น ทำให้จวินอู๋เสียลืมตาขึ้นมา
ฝ่ามือใหญ่วางอยู่บนหน้าอกที่นูนขึ้นเล็กน้อยของนาง
“………..” จวินอู๋เสียมองมือนั้นอย่างพูดไม่ออก มือข้างนั้นไม่มีความคิดที่จะผ่านทะลุหน้าอกของนางเข้าไปเลย มีแต่ความหื่นที่จะสัมผัสส่วนที่นุ่มนิ่มของนางเท่านั้น จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เหยา
จวินอู๋เหยายิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย เขาเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย และหรี่ตาพูดว่า
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์โตขึ้นแล้วนะ”
ขณะที่จวินอู๋เสียกำลังพิจารณาว่าจะตีมือจอมทะลึ่งนี้ออกไปดีหรือไม่……
ตอนที่ 1960 มุ่งสู่เส้นทางวิญญาณ (6)
ทันใดนั้น มือของจวินอู๋เหยาก็จมเข้าไปในหน้าอกของจวินอู๋เสีย ราวกับมือทั้งมือแหวกหน้าอกของจวินอู๋เสียเข้าไป แต่นางไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่เลือดสักหยด
ความรู้สึกแปลกๆที่วิญญาณถูกสัมผัส ทำให้ร่างกายของจวินอู๋เสียสั่นสะท้าน ราวกับสิ่งที่ไร้รูปร่างในตัวนางถูกจับยึดเอาไว้ และค่อยๆถูกดึงออกจากร่างทีละนิด ความรู้สึกนี้ไม่นับว่าเป็นความเจ็บปวด แต่มันทำให้รู้สึกไม่สบายอย่างมาก และจวินอู๋เหยาก็แค่ดึงวิญญาณของจวินอู๋เสียออกทีละนิดเท่านั้น
ทันใดนั้น จวินอู๋เสียก็รู้สึกว่าโลกหมุน ความรู้สึกคลื่นไส้ที่ไม่สามารถระงับพุ่งขึ้นมา ใบหน้าของนางซีดขาวทันที ร่างกายพยายามจะอาเจียนออกมา
จวินอู๋เหยาปล่อยวิญญาณของจวินอู๋เสียทันที และรีบกอดนางซึ่งเกร็งจนหน้าเขียวเอาไว้ในอ้อมแขน
แขนขาของจวินอู๋เสียเย็นเฉียบราวกับแช่อยู่ในน้ำเย็นจัด
“ไม่เป็นไรแล้ว……ไม่เป็นไรแล้ว……” จวินอู๋เหยากอดจวินอู๋เสียแน่น มือใหญ่และอบอุ่นของเขากุมมือเล็กที่เย็นเฉียบที่ของนางเอาไว้ คิ้วของเขาขมวดเป็นปม ดวงตาฉายแววงุนงง
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดกับพวกเฉียวฉู่
ตอนที่พวกเฉียวฉู่ถูกดึงวิญญาณออกมา สติของพวกเขาจะเลือนราง และไม่ได้แสดงอาการไม่สบายใดๆ แต่จวินอู๋เสียกลับมีปฏิกิริยาที่รุนแรง!
จวินอู๋เหยามองใบหน้าซีดขาวของจวินอู๋เสีย นางคลื่นไส้อย่างมากและรู้สึกอยากอาเจียน แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา ริมฝีปากของนางเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากอาการเกร็ง
หลังจากนั้นไม่นาน อาการคลื่นไส้ของจวินอู๋เสียก็เริ่มหายไป ทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรง ได้แต่ให้จวินอู๋เหยากอดเอาไว้ ไม่มีแม้แต่แรงจะขยับนิ้ว
“เกิดอะไรขึ้น?” จวินอู๋เสียกุมท้อง ความรู้สึกคลื่นไส้นั้นไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ มันไม่ใช่ความเจ็บปวด และไม่เชิงว่าคลื่นไส้ แต่เหมือนความไม่สบายที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้นางควบคุมการกระทำของตนไม่ได้
“ไม่มีอะไร” จวินอู๋เหยากอดจวินอู๋เสียแน่น นวดขมับนางเบาๆ แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอาใจ แต่ที่ซ่อนอยู่ภายในความรักใครเอาใจนั้นคือความรู้สึกที่แปลกประหลาด
“อีกเดี๋ยวค่อยลองใหม่” จวินอู๋เสียพูดด้วยแววตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
จวินอู๋เหยาลูบหัวเล็กของนางอย่างอ่อนโยนและพูดยิ้มๆว่า “ของเจ้าเป็นลักษณะวิญญาณคู่ ดึงออกมาไม่ง่าย พักสักวันแล้วค่อยลองใหม่พรุ่งนี้”
จวินอู๋เสียอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่คิดว่าตนไม่เข้าใจเรื่องนี้มากนัก ในเมื่อจวินอู๋เหยาพูดเช่นนั้น นางก็จะเชื่อเขา เด็กสาวไม่พูดอะไรอีกและพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ความรู้สึกนั้นทรมานเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้ ไม่ว่านางจะพยายามไม่สนใจมันเท่าไร มันก็สลักลงไปในกระดูกจารึกในหัวใจนางแล้ว อาจเป็นเพราะนางรู้สึกเหนื่อยจึงผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของจวินอู๋เหยา
จนกระทั่งจวินอู๋เสียหลับสนิท จวินอู๋เหยาจึงวางนางลงบนเตียงและเดินออกจากห้องไป คิ้วของเขายังคงขมวดมุ่นไม่คลาย
“นายท่านเจว๋ ข้าวาดเสร็จแล้ว” ที่ด้านนอกประตู เย่เจี๋ยถือกองเสื้อผ้าที่นางวาด นางวาดมันอย่างจริงจังและใส่ทุกอย่างที่จำเป็นตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยความกังวลว่าจวินอู๋เสียจะมีชุดไม่พอใส่ นางจึงวาดเอาไว้หลายชุด
“วันและเวลาเกิดของคุณหนู……”
“ยังไม่ต้อง” จวินอู๋เหยาพูด
เย่เจี๋ยไม่ถามต่อ แค่พยักหน้าแล้วเก็บของไว้อย่างดี คิดในใจว่าเมื่อมีเวลาเพิ่มนางก็จะได้วาดเพิ่ม
“หือ? เราจะไม่เผามันให้เสี่ยวเสียทันทีหรอกหรือ?” เฉียวฉู่ไม่กล้าหันหน้าไปมองในห้อง กลัวว่าจวินอู๋เหยาจะบีบคอเขาจนตาย