Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 2319 ล้างเก้าอารามด้วยเลือด (6)
แม้ว่าภายนอกทุกคนจะสงบนิ่ง แต่เมล็ดพันธุ์แห่งความกลัวได้งอกขึ้นในหัวใจพวกเขาแล้ว แม้ว่าจะพยายามทำเป็นสงบนิ่ง แต่แววตาก็ทรยศพวกเขา ความกลัวและกังวลใจแสดงออกมาอย่างที่ไม่สามารถปกปิดได้
เหลือแค่อารามหลิงซวีแล้ว……นี่ก็หมายความจวินอู๋เสียกับกองทัพราตรีจะมาที่นี่เร็วๆนี้น่ะสิ?
ทุกคนดูเหมือนกำลังคาดเดาถึงหายนะที่ใกล้เข้ามา
พวกคนที่มาจากอาณาจักรบนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า พวกเขาจะได้เจอคนที่น่ากลัวในสถานที่กันดารห่างไกลเช่นนี้ การที่สามารถกำจัดผู้ใช้พลังวิญญาณสีทอง 8 หมื่นคนได้ กระทั่งพวกเขาเองที่ถือว่าเป็นหัวกะทิของอาณาจักรบนก็ยังรู้สึกหวาดหวั่น
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่ละวินาทีที่ผ่านไปดูเหมือนจะยาวนานเหลือเกิน สีหน้าของหนานกงเล่ยดูน่าเกลียดอย่างที่สุด แต่เขาไม่สามารถวิตกกังวลต่อไปได้
“ถ่ายทอดคำสั่งข้า ทุกคนรวมตัวเตรียมพร้อมต้อนรับศัตรู! ฆ่าพวกที่พยายามหลบหนีซะ!” เขาตะโกนออกมา
ทุกคนในห้องโถงได้สติกลับมา ต้าฮั่นหันหน้าไปมอง ขณะที่เขากำลังจะก้าวออกจากประตูนั่นเอง พลังอันรุนแรงก็กระแทกเขากระเด็นกลับเข้าไปในห้องโถง เขารู้สึกว่าตัวเองกระแทกลงบนพื้นหินอ่อนอย่างแรง พื้นเป็นรอยแตกร้าวราวใยแมงมุม
แรงกระแทกส่งผลกระทบไปทั่วห้องโถงกว้าง ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และพากันหันไปมองที่ทางเข้าเป็นตาเดียว
สิ่งที่พวกเขาเห็นคือสาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้พร้อมด้วยสีหน้าเย็นชาก้าวเข้ามาในห้องโถง พวกเขาไม่รู้ว่าด้านหลังมีรอยเลือดเป็นทางตั้งแต่เมื่อไร พื้นด้านล่างที่นางยืนอยู่มีเลือดไหลนองเป็นสายน้ำราวกับพรมแดง ภาพที่น่ากลัวนั้นทำให้ทุกคนตกใจมาก ทหารที่เฝ้าอารามล้มลงบนพื้น พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะตาย พวกเขาล้มลงบนกองเลือดด้วยสีหน้าตกตะลึง
ทุกคนในห้องโถงสูดหายใจเฮือกทันที พวกเขามองหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาอย่างเหลือเชื่อ สายตาหวาดกลัวราวกับเห็นเทพแห่งความตายจุติลงมา
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน ชายกระโปรงสีขาวลากผ่านเลือดจนกลายเป็นสีแดง สีแดงที่น่าสยดสยองนั้นซึมผ่านชายกระโปรงขึ้นไป ราวกับดอกไม้ค่อยๆบานขึ้นบนชายกระโปรงของนาง
กลิ่นคาวเลือดที่พุ่งเข้าใส่หน้าทำให้ทุกคนหายใจแทบไม่ออก พวกเขาได้แต่จ้องมองฝันร้ายที่ใกล้เข้ามาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
หนานกงเล่ยที่นั่งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดจ้องมองหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถงอย่างตกตะลึง แม้ว่านางจะเข้ามาเผชิญหน้าตรงๆเช่นนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกถึงลมหายใจของนาง นางเหมือนผีที่ไม่มีใครสัมผัสถึงการมีตัวตนของนางได้
มองแวบเดียว หนานกงเล่ยก็เดาตัวตนของผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว
“จวินอู๋เสียหรือ?” การหายใจของเขาช้าลงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ สายตาเย็นชากวาดมองไปรอบๆ ไม่ว่าสายตาของนางจะมองไปที่ใด คนที่อยู่แนวสายตาของนางก็พากันกลั้นหายใจ แม้ว่านางจะดูงดงามชวนตะลึง แต่ด้วยกลิ่นอายของความตายเช่นนี้ จะงดงามเพียงใดก็น่ากลัวอยู่ดี
“นี่เป็นที่สุดท้ายแล้วสินะ” จวินอู๋เสียพูดเสียงเบา แต่คำพูดที่ออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวมาก
ที่สุดท้าย?
ที่สุดท้ายในการล้างเก้าอารามด้วยเลือดใช่ไหม!
ต้าฮั่นที่ลงไปกองอยู่บนพื้นพยายามจะลุกขึ้น แต่ความเจ็บปวดทั่วร่างทำให้เขาล้มลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้ง
เหลือแค่อารามหลิงซวีแล้ว……นี่ก็หมายความจวินอู๋เสียกับกองทัพราตรีจะมาที่นี่เร็วๆนี้น่ะสิ?
ทุกคนดูเหมือนกำลังคาดเดาถึงหายนะที่ใกล้เข้ามา
พวกคนที่มาจากอาณาจักรบนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า พวกเขาจะได้เจอคนที่น่ากลัวในสถานที่กันดารห่างไกลเช่นนี้ การที่สามารถกำจัดผู้ใช้พลังวิญญาณสีทอง 8 หมื่นคนได้ กระทั่งพวกเขาเองที่ถือว่าเป็นหัวกะทิของอาณาจักรบนก็ยังรู้สึกหวาดหวั่น
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่ละวินาทีที่ผ่านไปดูเหมือนจะยาวนานเหลือเกิน สีหน้าของหนานกงเล่ยดูน่าเกลียดอย่างที่สุด แต่เขาไม่สามารถวิตกกังวลต่อไปได้
“ถ่ายทอดคำสั่งข้า ทุกคนรวมตัวเตรียมพร้อมต้อนรับศัตรู! ฆ่าพวกที่พยายามหลบหนีซะ!” เขาตะโกนออกมา
ทุกคนในห้องโถงได้สติกลับมา ต้าฮั่นหันหน้าไปมอง ขณะที่เขากำลังจะก้าวออกจากประตูนั่นเอง พลังอันรุนแรงก็กระแทกเขากระเด็นกลับเข้าไปในห้องโถง เขารู้สึกว่าตัวเองกระแทกลงบนพื้นหินอ่อนอย่างแรง พื้นเป็นรอยแตกร้าวราวใยแมงมุม
แรงกระแทกส่งผลกระทบไปทั่วห้องโถงกว้าง ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และพากันหันไปมองที่ทางเข้าเป็นตาเดียว
สิ่งที่พวกเขาเห็นคือสาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้พร้อมด้วยสีหน้าเย็นชาก้าวเข้ามาในห้องโถง พวกเขาไม่รู้ว่าด้านหลังมีรอยเลือดเป็นทางตั้งแต่เมื่อไร พื้นด้านล่างที่นางยืนอยู่มีเลือดไหลนองเป็นสายน้ำราวกับพรมแดง ภาพที่น่ากลัวนั้นทำให้ทุกคนตกใจมาก ทหารที่เฝ้าอารามล้มลงบนพื้น พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะตาย พวกเขาล้มลงบนกองเลือดด้วยสีหน้าตกตะลึง
ทุกคนในห้องโถงสูดหายใจเฮือกทันที พวกเขามองหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาอย่างเหลือเชื่อ สายตาหวาดกลัวราวกับเห็นเทพแห่งความตายจุติลงมา
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน ชายกระโปรงสีขาวลากผ่านเลือดจนกลายเป็นสีแดง สีแดงที่น่าสยดสยองนั้นซึมผ่านชายกระโปรงขึ้นไป ราวกับดอกไม้ค่อยๆบานขึ้นบนชายกระโปรงของนาง
กลิ่นคาวเลือดที่พุ่งเข้าใส่หน้าทำให้ทุกคนหายใจแทบไม่ออก พวกเขาได้แต่จ้องมองฝันร้ายที่ใกล้เข้ามาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
หนานกงเล่ยที่นั่งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดจ้องมองหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถงอย่างตกตะลึง แม้ว่านางจะเข้ามาเผชิญหน้าตรงๆเช่นนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกถึงลมหายใจของนาง นางเหมือนผีที่ไม่มีใครสัมผัสถึงการมีตัวตนของนางได้
มองแวบเดียว หนานกงเล่ยก็เดาตัวตนของผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว
“จวินอู๋เสียหรือ?” การหายใจของเขาช้าลงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ สายตาเย็นชากวาดมองไปรอบๆ ไม่ว่าสายตาของนางจะมองไปที่ใด คนที่อยู่แนวสายตาของนางก็พากันกลั้นหายใจ แม้ว่านางจะดูงดงามชวนตะลึง แต่ด้วยกลิ่นอายของความตายเช่นนี้ จะงดงามเพียงใดก็น่ากลัวอยู่ดี
“นี่เป็นที่สุดท้ายแล้วสินะ” จวินอู๋เสียพูดเสียงเบา แต่คำพูดที่ออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวมาก
ที่สุดท้าย?
ที่สุดท้ายในการล้างเก้าอารามด้วยเลือดใช่ไหม!
ต้าฮั่นที่ลงไปกองอยู่บนพื้นพยายามจะลุกขึ้น แต่ความเจ็บปวดทั่วร่างทำให้เขาล้มลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้ง