Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 252
บทที่ 252
คลื่นลมเยือกแข็ง
เลือดไหลซึมลงมาจากนิ้วของเขา และเขาไม่สามารถได้ยินเสียงอะไรเลยยกเว้นเสียงเลือดไหล สายตาของเขาเริ่มเบลอขึ้นอย่างช้าๆ
บุคคลที่ดูผ่านดาวเทียม มันไม่ใช่แค่ประเทศจีนที่กำลังชมดูอยู่ แต่นอกจากนี้ยังมีผู้ดำเนินการเกมทางเมืองที่สำคัญมาดูด้วยเช่นกัน ตระกูลลีจากเกาหลีก็กำลังเฝ้าดูอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นเซียนจากเกาหลีปิกคอของตัวเอง เลือดก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ละคนที่ดูผ่านดาวเทียมอยู่ก็เริ่มเกร็งตัว
“เขาจะไม่เป็นไร ใช่ไหม?”
เซียนจากเกาหลีมีตำนานมากมายที่เขาได้สร้างมา เขาเป็นคนเคร่งศาสนาที่ให้ความมั่นใจและความกล้าหาญแก่พวกเขา
นามที่ยิ่งใหญ่ของเขาคือ ลีแจซู!
“อาวุโสแจซู!”
นักบินอวกาศของเกาหลีร้องออกมาด้วยเสียงแหลมสูง
พวกเขาทั้งหมดเชื่อว่าลีแจซูได้เสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน และสนับสนุนเหล่าผู้นำตระกูลลีจากความมืดมิดราวกับเงาเช่นนี้
แต่ตอนนี้ มันอาจจะเป็นไปได้ว่าลีแจซูโดนชายวัยรุ่นผู้นั้นปลิดชีวิตไปแล้ว นี่เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับ พวกเขาต้องการให้ลีแจซูตายในสนามรบมากกว่ามาตายในลักษณะที่ไร้สาระเช่นนี้
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อไป การแสดงออกของพวกเขาก็กลายเป็นเหยเก ขณะที่พวกเขาเข้ามาใกล้กับจอใหญ่อย่างเป็นกังวล ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของลีแจซูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอย่างช้าๆ มันคล้ายกับสัตว์ร้าย ขนสีทองสง่างามเริ่มปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา
บาดแผลที่คอของเขาก็เริ่มหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
แปลงพระเจ้า!
ยิ่งไปกว่านั้น รูปแบบการแปลงพระเจ้านี้ ยังมีความสามารถการรักษาที่ยอดเยี่ยม
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของลีแจซูก็ขยายใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผมของเขาหลุดออกไป แทนที่ด้วยขนสีทองที่กำลังงอกขึ้นมา ฟันของเขาแหลมคมและร่างกายเต็มไปด้วยพลัง มันดูมีพลังอำนาจที่น่าเกรงขาม
“นี่คือ…”
ผู้คนที่รับชมภาพจากดาวเทียมเกาหลีนั้นกลายเป็นหวาดกลัว ก็ในเมื่อพวกเขาเคยเห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรก
“แปลงพระเจ้า! อาวุโสแจซูสามารถยกตัวเองเป็นเทพเจ้าได้แล้ว!”
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในเกาหลีตะโกนอย่างตื่นเต้น
“เป็นเทพเจ้า?”
“ใช่!”
เจ้าหน้าที่อธิบายอย่างภาคภูมิใจ “แกรู้รึเปล่าว่าเซียนหมายถึงอะไร? เซียนที่แท้จริงคือคนธรรมดาที่กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นเทพเจ้า ดังนั้นพวกเขาจึงมีรูปร่างที่แตกต่างจากไปจากมนุษย์ มันเป็นการมอบพลังที่หาใดเปรียบให้แก่พวกเขา”
“มันก็เป็นเช่นเดียวกับอาวุโสลีแจซู แม้ว่าคอของเขาจะถูกตัด เขาสามารถกู้คืนตัวเองจากการบาดเจ็บได้”
เกาหลีมีตำนานมากมายที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้า และเทพเจ้าเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างกันออกไปทุกรูปแบบ บางคนดูเหมือนวิญญาณ และคนอื่นๆ ดูเหมือนสัตว์ประหลาด ดังนั้นพวกเขาจึงปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของลัแจซูได้อย่างรวดเร็ว
ความประหลาดใจในสายตาของพวกเขาค่อยๆกลายเป็นความบ้าคลั่ง “อาวุโสลีแจซูจะต้องฆ่าเขาได้แน่นอน”
พวกเขาต้องการให้อาวุสีแจซูโจมตีเจียงซิ่ว
“ทำให้เจ้าลิงจีนตัวนั้น ได้สัมผัสกับพลังที่แข็งแกร่งของเกาหลี!”
การแสดงออกของลีแจซูตอนนี้กลายเป็นบิดเบี้ยว เสียงของการรักษากระดูกที่แตกหักดังออกมาจากลำคอของเขา ในขณะเดียวกันที่เขาตะโกนออกมาด้วยเสียงที่เหมือนกับสัตว์ร้าย “เจียงโหลวเซีย แกทำให้ฉันโกรธแล้ว!”
เสียงที่เปล่งออกมาจากตัวเขาราวกับเสียงคำรามจากสัตว์ร้าย
อย่างไรก็ตามเจียงซิ่วก็สามารถเข้าใจมันได้ มันเป็นภาษาสวรรค์ระดับต่ำ แต่เขาก็ได้แต่ดูถูกแต่เพียงเท่านั้น ก็ในเมื่อบุคคลนี้ก็เป็นอีกคนนึงที่บ่มเพาะสู่การเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์แบบผิดๆ และเขาก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดอย่างสมบรูณ์หากเขายังบ่มเพาะต่อไป
“รูปแบบศักดิ์สิทธิ์ที่ 2!”
หลงไซ๋ซงตกตะลึง สำหรับความประทับที่มีต่อเขา เขาคิดว่าลีแจซูทำได้เพียงแค่รูปแบบที่ 1 ดูเหมือนว่าเขาจะซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้ ความแตกต่างของระหว่างช่องว่างของพลังมันก็เพียงพอที่จะทำลายคู่ต่อสู้ได้อย่างหมดจด ยิ่งห่างมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งแตกต่างสำหรับเหล่านักสู้
“เขาสามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของเจียงโหลวเซี่ยได้”
หลังจากเห็นว่าลีแจซูสามารถอยู่รอดจากการโจมตีของเจียงโหลวเซี่ยได้ พวกเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจเช่นกัน เขาทำลายภาพลักษณ์ที่ลงมือหนึ่งครั้งเท่ากับฆ่าไปหนึ่งคนของเจียงโหลวเซี่ยออกไป และทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าเจียงโหลวเซี่ยนั้นไม่ได้ทรงพลังอะไรเลย
ลีแจซูกล่าว “เจียงโหลวเซี่ย แกไม่อ่อนแอเลยจริงๆ แต่แกเลือกคู่ต่อสู้ได้ที่ไม่ถูกควร วันนี้จะเป็นวันแห่งความตายของแก!”
กรรรรรรรช์!
แก๊สเบาบาง ก่อตัวขึ้นราวกับลิงยักษ์อยู่ที่ด้านหลังเขา มันอยู่ในลักษณะที่ปล่อยเสียงคำรามออกมาอย่างโกรธเกี้ยว
“หมัดพฤกษา!”
พร้อมกับเสียงคำรามของสัตว์ร้าย ลีแจซูก็พุ่งทะยานขึ้นสูงในอากาศและปล่อนหมัดอันทรงพลังออกมา พร้อมกับสิ่งที่เขากระทำ ลิงที่อยู่ด้านเขาเองก็ทำท่าทางแบบเดียวกัน
ดูเหมือนว่าหมัดจะครอบครองพละกำลังมหาศาลราวกับภูเขาไทซาน
“ทรงพลังมาก!”
ผู้คนในประเทศเกาหลีที่ดูฉากนี้จากจอมอนิเตอร์โห่ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เจ้าหน้าที่ในเกาหลีก็พยักหน้าเช่นกัน พลังที่อยู่เบื้องหลังหมัดนี้ให้ความรู้สึกว่ามันสามารถทำลายภูเขาขนาดเล็กได้อย่างง่ายดาย
“มหัศจรรย์จริงๆ!”
“เชื้อสายเทพเจ้าโบราณ…” การจ้องมองที่เฉยชาของเจียงซิ่วกวาดผ่านตัวเขา ในขณะที่เขาหัวเราะเบาๆ “ขยะไร้ประโยชน์อย่างแกถึงกับกล้าสร้างความยุ่งยากให้ที่นี่”
เขาเปล่งเสียง “บทที่หนึ่งของคัมภีร์วิญญาณ – กระบี่ลับรูปแบบแสง ทลายวิญญาณในฉับพลัน ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หลอกลวง!”
“ฆ่า…”
“พวกแกทุกคนจะเทียบกับเต๋ากระบี่ของฉันได้อย่างไร?”
เจียงซิ่วเมินลีแจซูที่กำลังปล่อยหมัดออกมาด้วยความโกรธอย่างหน้ามืดตามัว เสียงของเขาเปลี่ยนจากภาษาจีนเป็นภาษาของเทพเจ้าซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับและยากหยั่งถึง คนที่ได้ยินว่ามัน รู้สึกตื่ตะลึงอย่างไม่รู้จบเช่นเดียวกับความเย็นที่เข้ามาเกาะกุมในหัวใจ
“วิญญาณหวนคืน!”
สายตาของลีแจซูที่อยู่กลางอากาศนั้นกลายเป็นว่างเปล่าทันที
“แช่แข็ง”
ร่างกายของลีแจซูส่งเสียงแตกร้าวออกมา ก็ใยเมื่อน้ำแข็งกำลังเข้าปกคลุมร่างของเขาด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“สลายวิญญาณ!”
เจตจำนงกระบี่พุ่งออกมาจากร่างของลีแจซูพร้อมกับเสียงดัง ปั๊ง ฉากน้ำแข็งระเบิดออกก็ปรากฏสู่สายตา แสงจากเจตจำนงกระบี่มากมายหลายอันออกจากมาในนั้น
ร่างกายของเขาถูกตีแตกในครั้งเดียว!
ทุกคนที่เห็นฉากนี้ตื่นตะลึงอย่างแท้จริง
นายทหารอาวุโสของจีนที่เห็นสิ่งนี้กระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ดี ดี ดี…”
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอะไรดี แต่สามารถในการฆ่าศัตรูที่ทรงพลังได้ทั้งหมดก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น
สำหรับชาวเกาหลีที่เห็นฉากนี้บนจอมอนิเตอร์ พวกเขาสวมความโศกเศร้าเสียใจและเช่นเดียวกับความโง่เง่าไว้อยู่บนใบหน้าของพวกเขา แต่ละคนต่างก็สับสนกับข้อเท็จจริงที่ว่าอาวุโสลีแจซูซึ่งพวกเขามองว่าเป็นเทพเจ้ากลับถูกฆ่าตาย สำหรับคนที่แสดงความคิดเห็นว่าอาวุโสลีแจซูจะทำให้เจียงซิ่วต้องได้รับบทเรียนจากเกาหลี ปากของเขากลายเป็นรูปวงลีไปแล้ว ริมฝีปากของเขาสั่นสะเทือนไปด้วยความตกใจ
“ชายจากจีนคนนั้น ไม่มีใครสามารถอยู่ต่อหน้าเขาได้จริงๆ?”
มันน่าตกใจจริงๆ!
มันทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นเร็วขึ้น!
มันไม่ใช่แค่เขาและเซียนทั้งหมดที่อยู่ในที่เกิดเหตุตกใจ แต่คนอื่นๆ ทุกคนก็ตกใจเช่นกัน
แม้แต่ชายชุดคลุมงูเก้าหัวเองก็ยังตกตะลึง
“ฮึ่ม!” เจียงซิ่วถอนสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของเขากลับมา การฆ่าศัตรูเช่นนี้ก็เหมือนกับการฆ่าหมูสำหรับเขา เขาจ้องมองเซียนคนอื่นๆ “ตอนนี้จะทำอะไรอีก?”
“ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน เราก็สามารถฆ่าเขาได้แน่นอน”
“ทุกคน ประสานพลังกัน และล้อมเขาไว้!”
ทันทีที่มีคนพูดแบบนี้ พวกเซียนก็กระโดดไปข้างหน้า และล้อมเจียงซิ่วไว้
“เวรเอ้ย!” การแสดงออกของเจ้าหน้าที่อาวุโสกลายเป็นเหยเก “พวกเขาคงจะไม่ลงมืออย่างไร้ยางอายแบบนั้นหรอก ใช่ไหม?”
“เซียนอย่างพวกเขาถึงกับต้องละลิ้งนามของตัวเองแบบนี้?”
เสียงเล็กๆ มาจากระยะไกล มองมาในที่ที่กำลังล้อมรอบเจียงซิ่วอยู่
“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มกันไปแล้ว!”
นักสู้คนแรกที่วิ่งอยู่ด้านหน้า เห็นฉากที่เจียงซิ่วถูกล้อมรอบไปด้วยเซียน 20 คน สถานการณ์มีความรุนแรงเป็นพิเศษ ผู้คนมากมายที่วิ่งมาที่นี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก็ในเมื่อพวกเขาต้องการเห็นการต่อสู้ที่น่าตื่นตกใจนี้ด้วยตาของพวกเขาเอง
“นี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว เซียน 20 คน วางแผนที่จะโจมตีเจียงโหลวเซี่ยพร้อมกัน?”
“ประตูสวรรค์ยังมีหน้าเหลืออยู่ไหม?”
คนที่กล่าวคำนี่คือเซียนจากจีน ผู้นำนิกายธาตุทองแดง หลิวหยุนไห่
“ฮ่าๆๆๆๆ เหมือนคำพูดของแกจะผิดไปนะ!” ชายร่างผอมบางข้างๆเขาแสดงความคิดเห็น เขามีใบหน้าของชาวตะวันออกและพูดภาษาจีนออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อย จากเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนญี่ปุ่น “อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ระหว่างการต่อสู้เป็นตาย ถ้าเป็นซุนวูของจีนก็คงจะพูดคำนี้ – ไม่ความยุติธรรมในสงคราม”
อันหลงก็รีบเข้ามาที่นี่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
1 ต่อ 20 มันยังมีโอกาสชนะอยู่ไหม?
อันหลงเชื่อว่าจะไม่มีใครในประตูสวรรค์เป็นคู่ต่อสู้ของเจียงโหลวเซี่ย หากพวกเขาสู้กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แต่นี่ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อจัดอันดับ แต่มันเป็นการฆ่ากัน
“เจียงโหลวเซี่ยหยิ่งยะโสและบ้าคลั่ง เขาเป็นเขามาในประตูสวรรค์ด้วยตัวคนเดียว และสุดท้สยก็ถูกล้อมกรอเอาไว้”
“นับตั้งแต่สมัยโบราณ วีรบุรุษมักถือกำเนิดขึ้นจากการกระทำเพียงคนเดียวเสมอ!”
ในปัจจุบัน ผมยาวของเจียงโหลวเซี่ยเริ่มลอยขึ้น และสายฟ้าก็ดูเหมือนจะกระพริบอยู่ภายในดวงตาของเขา อ่อร่าของเขาดูเหมือนจะครอบคลุมได้ทั้งสวรรค์ ในทันที สายตาของทุกคนก็จ้องมองไปยังเขา รูปลักษณ์ที่กล้าหาญของเขาทำให้พวกเขาตกใจยิ่ง
อย่างไรก็ตาม …
“เจียงโหลวเซี่ยเป็นบุคคลที่น่าทึ่ง แต่ในท้ายที่สุดแล้ว พวกนั้นก็มีจำนวนมากกว่า!” ชาวต่างชาติที่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนกล่าว เขารู้สึกสงสารเจียงโหลวเซี่ย
แต่แค่มีความมากกล้าพอที่มายังประตูสวรรค์คนเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเคารพเขาแล้ว
อารมณ์ของเจ้าหน้าที่อาวุโสเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลังจากที่ดูฉากบนจอภาพ “บอกคนของเราที่นั่นเพื่อเตรียมพร้อมการสนับสนุน พวกเขาจะต้องทำงานให้สำเร็จ แม้ว่าจะมีโอกาสสำเร็จแค่หนึ่งในล้านล้าน เราก็ต้องทำมัน!
“เข้าใจแล้ว!”
…
“เจียงโหลวเซี่ย เจ้าค่อนข้างแข็งแกร่ง และทักษะของเจ้าเองก็น่าประหลาดใจเหมือนกัน แต่เจ้าดูถูกประตูสวรรค์มากเกินไป พวกเรามีเซียนมากกว่า 20 คน และในหมู่พวกเขา มีหลายคนที่บ่มเพาะทักษะนอกรับและทักษะลึกลับ”
“ทุกคน โจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี!”
เหล่าเซียนรู้สึกกดดัน หากพวกเขาไม่รีบฆ่าเจียงโหลวเซี่ย พวกเขาอาจกลายเป็นลีแจซูคนต่อไป
“เพลิงสีชาด!”
“กฎอนันทกาล!”
“เครื่องรางมังกรหยินหยาง”
“…”
คาถาที่น่ากลัวนับไม่ถ้วนยิงเข้าหาเจียงซิ่ว แสงพราวเต็มไปทั่วท้องฟ้า ภาพติดตาที่คลุมเครือถูกยิงเข้าหาเขา
แสงหลากสีทั้งหมดถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันและพุ่งตรงไปยังเจียงซิ่ว
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!”
เจียงซิ่วหัวเราะเย้ยหยัน ราวกับเป็นบอสตนสุดท้ายที่อยู่ในเกม มีแสงสว่างส่องผ่ายออกมาจากหน้าผากเขา ในขณะเดียวกัน เม็ดกระบี่ก็พุ่งออกมาจากจุดกำเนิดศักดิ์สิทธิ์ของเขา ตามมาด้วยเสียงกึกก้องกังวานในทั่วทุกื้นที่
“บทที่สองของคัมภีร์วิญญาณ – จักรวาลโมฆียะนิรันดร์ ว่างเปล่าไร้คลืบคลาน!”
“คลื่นลมเยือกแข็ง!”
วูสสสส!
แสงเย็นยะเยือกถูกส่องผ่านออกมา และเมื่อมันปรากฏ ใบไม้ที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้าก็หยุดลงกลางอากาศ หญ้าบนพื้นก็หยุดโบกสพัด เซียนทุกคนที่กำลังอยู่ในท่าโจมตีต่างๆ ในอากาศ เช่นเดียวกับฝูงชนที่เฝ้าดูจากระยะไกลต่างก็หยุดนิ่ง
ขณะนี้เวลาเหมือนจะหยุดลงไป
มีเพียงแสงระยิบระยับที่กำลังเคลื่อนไหว