Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 289
บทที่ 289
ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเทศมนตรีกู่
เจียงซิ่วเป็นกังวลว่าเขาจะไม่มีวิธีตามจับตัวเทพปีศาจงู แต่เมื่อได้คำพูดของเย่ปิง มันได้ทำให้เค้าสะดุดใจอะไรบางอย่าง เจียงซิ่วกล่าว “เทศมนตรีเจียงหนาน พวกเค้าอยู่ที่ไหน ฉันอยากพบเขา”
เย่ปิงดูคล้ายหงุดหงิดเธอกลอกตาไปมา “เจียงซิ่ว นายจะบ้าหรอ”
เจียงซิ่วย้อนใช้คำของเธอ “เธอนั้นแหละ ควรกินยาบ้างนะ”
ถ้าไม่ใช่อยู่ในที่ๆ คนระดับสูงอยู่เช่นนี้ เย่ปิงจะต้องตีเขาอย่างแน่นอน เขาทำให้เธอโกรธแทบตาย “นากยกเทศมนตรีเจียงหนาน เขาเป็นคนที่น่าเคารพนับถือมาก และนั้นก็คนที่นายอยากไปพบ แล้วนายจะได้พบเขาไหม?”
ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาสามัญที่อยากพบเทศมนตรีเจียงหนาน ขนาดรองเสมียนหรือแม้แต่เสมียนชั้นสูงเองก็ยังไม่เคยพบเจอเขาเลย
“ฉันขอล่ะเจียงซิ่ว นายพอได้แล้ว เมื่อก่อนฉันรู้มาว่านายไม่วุ่นวายเท่านี้นี่?”
เจียงซิ่วกล่าว “ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะรู้นี่”
เย่ปิงกลอกตา มองเขาแล้วกล่าว “เทศมนตรีเจียงหนานไม่อยู่แล้ว ถ้านายต้องการสร้างสัมพันธไมตรีกับเขาจริงๆ ฉันจะให้เจียหย่งแนะนำลูกพี่ลูกน้องและลุงของเขาให้นายรู้จัก ลุงของเขาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการของเจียงหนาน แม้เขาจะไม่ได้มาเข้าร่วมงานบ่อยๆ แต่เค้าก็เป็นคนที่ร่ำรวยมาก คำพูดของเค้าแค่ประโยคเดียวทำให้ชีวิตนายสุขสบายได้แบบไม่ต้องกังวลอะไรเลย”
คำว่ารองเสมียนที่หญิงสาววัยรุ่นกล่าวออกมาไม่ใช่สิ่งที่ต้องพูดถึงตอนนี้เลย
เมื่อเห็นเจียงซิ่วและเย่ปิงกำลังคุยกันอยู่ เจียหย่งที่อยู่ไกลๆ เริ่มอารมณ์ไม่ดีเล็กน้อย เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เดินเข้สไปแทรกระหว่างกลางทั้งคู่ พร้อมกับกล่าวว่า “พวกเธอสองคนกำลังคุยอะไรกันอยู่ อย่ายืนตรงกลางแบบนี้ ขยับไปข้างๆ อีกนิดจะดีกว่า”
ตำแหน่งนี้โดดเด่นเกินไป ส่วนใหญ่มีไว้ให้กับบุคคลสำคัญแน่นอน
เย่ปิงกล่าว “เจียงซิ่วเค้าอยากพบกับลุงของนาย นายช่วยแนะนำเขาให้รู้จักหน่อยได้ไหม?”
คนที่เป็นระดับรองเสมียน ไม่ใช่บุคคลที่จะสามารถแนะนำให้ใครก็ได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนมีระดับอยู่บ้าง หรือไม่ก็เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ หรือองค์กรที่มีความโดดเด่น เป็นไปไม่ได้ที่คนไม่มีดีอะไรเลยกลับขออยากเจอคนนู้นนี่ไปทั่ว เจียงซิ่วเป็นท็อปในการสอบเข้าวิทยาลัยในปีนั้น และก็เป็นแค่นักศึกษาของมหาวิทยาจักรพรรดิด้วย มันเป็นพื้นหลังที่ดูต่ำต้อย
ซิวเจียหย่งมองไปที่เจียงซิ่ว:”เขา?!” น้ำเสียงกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ
เขาพึ่งหาโอกาสถามหลิวเสี่ยวหยุนมา และเธอก็ยังอยากมีความสัมพันธ์อันดีกับลูกชายเศรษฐีอย่างเขาอยู่ เพียงไม่กี่นาทีเธอขายเพื่อนอย่างเจียงซิ่วและเย่ปิงไปซะแล้ว แม้ว่าหลิวเสี่ยวหยุนเองก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคน แต่ถึงอย่างนั้น ในมุมมองของหลิวเสี่ยวหยุน อยู่ในห้องด้วยกันแบบนั้น ยังจะมีความสัมพันธ์อื่นได้อีกหรอ?
ดังนั้น ในตอนนี้ ซิวเจียหย่งได้ระบุว่าเจียงซิ่วคือคนที่มาก่อนเขาแน่นอน คนที่คิดจะช่วยแฟนเก่าของตัวเองถึงขนาดนี้ ในใจของเขาจะรู้สึกสบายใจอยู่หรอ? บางครั้ง ผู้ชายเวลาเผชิญหน้ากับอะไรก็ต้องทำหน้าให้ปกติโดยทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไร ต้องรักษาภาพพจน์ แนะนำแล้วยังไงล่ะ เธอได้ประโยชน์อะไรบ้าง?
ขณะที่กำลังเปิดปากพูด แต่ไม่ทันไรก็โดนเจียงซิ่วชิงพูดไปก่อน “เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเจอฉัน!”
พรู๊ดด!
เย่ปิงที่กำลังดื่มน้ำอยู่ ทันทีน้ำในปาก็พุ่งออกมา “นายพูดไร้สาระอะไรออกมา?”
เจียงซิ่วกล่าว “ข้าราชการระดับนั้นไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาเจอฉัน”
หลิวเสี่ยวหยุนและคนอื่นๆ ก็เห็นพวกเขากำลังคุยกันอยู่ตรงกลางงาน พวกเธอจึงเข้าไปรวมตัวกัน และยังมีผู้คนบางส่วนที่อยากรู้อยากเห็นจึงเข้าไปร่วมด้วย หลังจากท้งหมดแล้วการกระทำของเย่ปิงก็ออกไปทางค่อนข้างเสียมารยาทเล็กน้อย
สีหน้าของซิวเจียหย่งค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ เนื่องจากความโกรธ: “นายมีคุณสมบัติอะไรถึงพูดออกมาแบบนี้?”
บ้านขายผลไม้เนี่ยนะ?
เขาโกรธจนมันขึ้นสมอง รู้สึกสูญเสียการควบคุม ที่นายสามารถเข้ามาที่นี่ได้นั้นก็เป็นเพราะฉัน แต่ตอนนี้นายกำลังเสแสร้งทำเป็นรู้สึกไม่พอใจได้จริงๆ
“เชื่อหรือเปล่า ว่าตอนนี้ฉันสามารถเรียกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพานายออกไปจากที่นี่ได้”
เย่ปิงหันไปมองเจียงซิ่วด้วยความตะลึงเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขาก็ยังดูสงบไม่เปลี่ยนแปลง ถอนหายใจข้างในหัวใจของเธอ เขาโกรธที่ฉันมาลงเอยกับซิวเจียหย่งใช่รึเปล่า? มันเป็นความผิดของฉันหรอ? ฉันเคยให้โอกาสนายไปแล้ว แต่ตัวนายกลับเลือกที่จะยอมแพ้เอง อีกทั้งซิวเจียหย่งก็ยังเป็นคนที่ทางบ้านแนะนำให้รู้จัก ในฐานะที่เป็นลูกย่อมต้องเชื่อฟังพ่อแม่ เธอไม่เคยขัดคำสั่งหรือข้อตกลงของที่บ้านได้เลย
เจียงซิ่วกล่าว “ไม่เชื่อ!”
ซิวเจียหย่งทั้งโกรธและก็อยากจะหัวเราะดังๆ ออกมา
คนที่อยู่ข้างๆ ผานโปวกล่าว “เจียงซิ่ว นายทำเกินไปแล้วนะ เจียหย่งทั้งใจดีและมอบโอกาสให้นายขนาดนี้แล้ว นายก็แค่ขอบคุณเขาก็เท่านั้นเอง แต่นายยังอยู่ที่นี่และทำตัวเป็นผู้ดีจอมปลอมต่อไป ศักดิ์ศรีของนายไม่มีบ้างเลยรึไง?”
อีกสองคนที่เหลือเองก็กล่าว “ใช่”
“เจียงซิ่ว นายกลับไปเถอะ อย่าให้งานหมดสนุกไปมากกว่านี้เลย”
ในขณะนั้นเอง ก็มีชายหนุ่มรูปร่างอ้วนท้วนเดินเข้ามา ซึ่งนั้นก็คือลูกพี่ลูกน้องของซิวเจียหย่ง “พวกนายกำลังทำอะไรกันอยู่ รีบไปเร็ว อีกสักพักเทศมนตรีกู่ก็จะออกมาแล้วนะ”
ใบหน้าของเขาดูกังวลเล็กน้อย ตำแหน่งที่พวกเขายืนอยู่ตอนนี้คือยืนอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของงาน เทศมนตรีกู่กำลังเดินมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับทุกคน
ซิวเจียหย่งกล่าว “ไง พี่ชาย มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย คนคนนี้เข้ามาสร้างปัญหา แต่ฉันกำลังให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาไล่เขาออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขามาวุ่นวายเทศมนตรีกู่”
เย่ปิงมองไปที่ซิวเจียหย่งด้วยความตกตะลึง แต่ไม่นานเธอก็พบว่าสีหน้าของคนข้างหลังเธอนั้นดูซีดเซียวและมีสีหน้าที่ดูมืดมนอย่างความน่ากลัว ดูเหมือนว่าเจียงซิ่วกำลังโกรธเขาอยู่ และเย่ปิงก็ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน เธอกำลังจะเปิดปากพูด แต่ดูเหมือนว่านั้นจะเป็นการทำให้เขากลัวจนหนีกลับไปก่อนได้
ซิวเจียเชิงได้ยินเสียงที่ดูเหมือนจะหงุดหงิด ดวงตาของเขากวาดมองไปที่เจียงซิ่ว
“ฉลาดพอที่จะไปด้วยตัวเอง หรือจะให้ฉันเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาจับนายโยนลงในทะเลสาบตะวันตก”
เจียงซิ่วกล่าว “ถ้ากล้าก็ลองดู……”
“ฮึ่ม…” ซิวเจียเชิงคิดไม่ถึงว่าเจียงซิ่วกล้าที่จะยั่วยุเขา อารมณ์โกรธของเขากำลังจะระเบิดออกมา แต่ขณะนั้นเองโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขากลับดังขึ้นมาซะก่อน เมื่อมองแวบแรกว่าเป็นพ่อโทรมาก็รีบหยิบขึ้นมากดรับสายทันที: “โอเค โอ้ โอ้…”
ขณะที่ได้รับโทรศัพท์สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที พร้อมกับนั้นเขากล่าว “เทศมนตรีกู่ออกมาแล้ว”
เห็นคนกลุ่มหนึ่งจากที่ไกลๆ และล้อมรอบไปด้วยชายวัยกลางคนซึ่งกำลังเดินมาที่นี่ ทุกๆ ที่ที่เขาไปจะต้องมีเหล่าผู้คนเดินเบียดเสียดอยู่รอบๆ มันมีคนดังจากทุกสาขาอาชีพ แต่เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับผู้ที่มีอิทธิพลของเจียงหนาน ในความเป็นจริงแล้วตำแหน่งเหล่านั้นก็คล้ายกับภาพลวงตา มีบางคนกล่าวทักทาย “เทศมนตรีกู่ เทศมนตรีกู่…”
ลักษณะดูเหมือนพวกแฟนคลับ
กู่เต๋อชี่สง่างามมาก การก้าวเดินไม่เร็วและไม่ช้าเกินไป ไม่นานทุกๆ คนที่อยู่ใน
งานก็ยกมือขึ้นมาปองมือให้เขา ซึ่งดูแล้วเขาราวกับเป็นผู้นำ เป็นบุคคลที่พึงปรารถนาของผู้คนอย่างแท้จริง
รากฐานเขาเป็นชายวัยกลางคนที่ดูคนธรรมดาๆ แต่ด้วยสถานะทางสังคมของเขา ทุกคนทั้งหมดก็มองไปที่ร่างของเขาด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
อิทธิพลคือยาพิษที่ร้ายแรงถึงขั้นทำทำลายชีวิตได้!
วันนี้กู้เต๋อจืออารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาไม่รู้ว่าอิทธิพลของเจียงซิ่วนั้นยิ่งใหญ่มากแค่ไหน แต่เขารู้ว่า เจียงซิ่วมีกองทัพบกอยู่แถวพื้นที่ราบทางชายฝั่งทะเลทราย คนพื้นที่อยู่ใต้อาณัติเขาในเจียงหนานก็รับฟังคำสั่งจากเขา ห่างไกลออกไปถึงฝั่งยุโรปประตูสวรรค์ก็ถูกจัดการลงด้วยฝีมือของเขา และสาขาหลายสาขาของประตูสวรรค์หลายแห่งก็ตกอยู่ในอำนาจของเขาอีกด้วย บางทีอิทธิพลของคุณเจียงก็สามารถแพร่ขยายมาจนถึงอาชีพทางการเมืองของเขาได้
นอกจากนี้ เจียงซิ่วยังสนับสนุนตระกูลกู่ของเขาให้เป็นคนดูแลจัดการที่เจียงหนานต่อไปได้อีกต่างหาก
ถ้าเรื่องนี้เป็นจริงอย่างที่คิดไว้ล่ะก็ ตระกูลกู่มีโอกาสกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนตอนที่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ได้แน่
“อั๊ยย๊า สวัสดี สวัสดี”
เนื่องจากการปรากฏตัวของกู่เต่อชี่ ผู้คนที่อยู่ในงานทั้งหมดดูตื่นเต้นมาก ทำให้ในงานมีความวุ่นวายเล็กน้อย โดยทั่วไปแล้วสถานการณ์นี้เหมาะกับเป็นโอกาสดีอันดีที่จะหลบหนี ดังนั้นเจียงซิ่วจึงดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้
ครั้งนี้ถ้าเทพปีศาจงูปรากฎตัวออกมา เขาจำเป็นต้องฆ่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อีกทั้งสติปัญญาของเทพปีศาจงูนั้นน่าอัศจรรย์อย่างมาก ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเกิดขึ้น จนถึงตอนนี้มันยังไม่ปรากฏตัวออกมา และซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน สายตาของเจียงซิ่วกำลังมองค้นหาภายในฝูงชน ทุกคนดูเหมือนตื่นเต้นมากกับการปรากฏตัวที่สมบูรณ์แบบนั้น
“พวกนายมุงดูอะไรกันอยู่ เปิดทางเดี๋ยวนี้!”
มองเห็นกู่เต๋อชี่กำลังเดินมาทางนี้ ซิวเจียหย่งและคนอื่นๆ ก้าวถอยหลังออกไป รวมถึงลูกพี่ลูกน้องของเขาและเย่ปิงด้วย แต่ทว่าเจียงซิ่วยังยืนอยู่ที่เดิมตรงนั้น และที่ยืนอยู่ก็ยังเป็นจุดศูนย์กลาง
“บ้าอะไรว่ะนั้น!”
“เอาเขาออกห่างจากเทศมนตรีกู่เดี๋ยวนี้ คนของเทศมนตรีกู่นำตัวเขาออกไปเร็ว ไม่รู้จักมารยาท!”
ซิวเจียเชิงหันกลับไปมองซิวเจียหย่งด้วยหางตา ขณะที่เปรยเป็นนับๆ ว่าตัวปัญหานี้ให้เขาจัดการเอง
ซิวเจียหย่งเริ่มโกรธมากยิ่งขึ้น
“เจียงซิ่ว นายรีบออกมาเร็วๆ”
กู่เต๋อชี่กำลังเดินเข้ามาแล้ว แต่เจียงซิ่วยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง ทำให้แต่ละคนกลัวจริงๆ เขาจะต้องชนเข้ากับเทศมนตรีของเจียงหนานแน่ ในช่วงเวลานั้นเอง หัวใจของก็เย่ปิงเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมา เธอหลับตาลงและไม่กล้ามอง พวกเขายังไม่เคยออกจากประตูโรงเรียนเลย สถานการณ์แบบนี้จึงไม่เคยพบเห็นมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเหตุการณ์ที่มีการปะทะกันแบบนี้
“แกรนหาที่ตาย!” ดวงตาของซิวเจียหย่งมองดูอย่างรังเกียจ
ในเวลานี้ทุกคนสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เพราะทุกคนเปิดทางให้กู่เต๋อชี่เดินมาตรงกลาง แต่กลับเห็นชายหนุ่มผมสั้นคนหนึ่งยืนอยู่ และแสดงท่าทางอย่างจองหอง เขายืนนิ่ง ทว่าอย่างไรก็ตาม เทศมนตรีกู่กลับหยุดอยู่ตรงนั้น ลักษณะนี้คล้ายกับอีกฝ่ายดูยิ่งใหญ่กว่าเทศมนตรีกู่มาก
“เขาเป็นใครกันนะ?”
“เขากำลังจะทำอะไร?”
ผู้คุ้มกันของเทศมนตรีกู่เห็นว่าท่าไม่ดี จึงเร่งรีบกำลังจะเข้ามาจัดการ แต่กู่เต๋อชี่หันหน้ามาพร้อมกับพยักหน้าบอกว่าไม่มีเรื่องอะไร สายตาเขาดูมึนงง ไม่ใช่ว่าเขาไปวัดหนานซานหรอกหรอ? ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่? หรือว่าอยากมาเพื่อประกาศตัวเอง? ทันใดนั้นใบหน้าเขาก็ปรากฏรอยยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับวิ่งเหยาะๆ ไปหาเจียงซิ่ว
ด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้นของเขา เขาจึงคว้าจับมือของเจียงซิ่ว
อย่างสุภาพ พร้อมกับก้มโค้งตัวคำนับ : “คุณเจียง……”
คราวนี้เหมือนการวางระเบิดลูกใหญ่
เย่ปิง ซิวเจียหย่ง และทุกคนในงานกลายเป็นโง่งม