Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 235
บทที่ 234
ความซื่อสัตย์ หือ?
เฮลิคอปเตอร์ใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการเดินทางระยะทาง 200 กม. โดยที่มีปลายทางเป็นปราสาทขนาดใหญ่ในอโกลล์
เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงจอด ฝนก็ยิ่งหนัก รถคันหนึ่งออกมาจากคฤหาสน์ขนาดใหญ่และไปยังจุดลงจอดของเฮลิคอปเตอร์ สามคนลงจากเครื่องบินแล้วนั่งในรถ หลังจากนั้นมันก็เคลื่อนตัวกลับคฤหาสน์
ความมั่งคั่งของตระกูลหลง เช่นเดียวกับสไตล์ มันเกินความคาดหมายของจิตนาการเขาไปมาก การจัดอันดับของฟอร์ลั่มส์ความมั่งคั่ง ไม่สามารถเปรียบเทียบตระกูลชั้นนำที่แท้จริงได้ แต่ปราสาทแห่งนี้ รวมถึงคฤหาสน์ไวน์แดงอันกว้างใหญ่ มูลค่าเพียงลำพังของมันก็มากกว่าพันล้านเหรียญแล้ว
มีคนมากมายในปราสาทดื่มไวน์แดงอยู่ ขณะชื่นชมทิวทัศน์ของสายฝนด้านนอก ชายวัยกลางคนนำหลงหยิงชิงและเจียงซิ่วเข้าไป “หัวหน้ากลับมาแล้ว”
อารมณ์เขาค่อนข้างแปลก แม้ว่าคนเหล่านี้ได้ตระหนักถึงการมาถึงของพวกเขาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครหันมามองพวกเขา และคำนึงถึงธุรกิจของตนเอง จิบไวน์แล้วมองดูสายฝนที่ตกลงมาข้างนอก
หลังจากนั้น ลุงของหลงหยิงชิงก็เรียกคนรับใช้ “นำคุณคนนี้ไปที่ห้องรับรองแขก”
เจียงซิ่วเหนื่อยมาก ดังนั้นเขาจึงตามไป ห้องพักของเขาอยู่บนชั้น 2 เป็นที่ที่ซึ่งเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ล็อบบี้ในปราสาทผ่านหน้าต่างได้ ใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์ของเขา เขาไม่เพียงแต่เห็นอย่างชัดเจน แต่เขาก็ยังได้ยินบทสนทนาของพวกเขาได้ชัดมากเช่นกัน
“หยิงชิง!” ผู้หญิงคนหนึ่งวางแก้วไวน์ลงและมองมาที่หยิงชิง “ตอนนี้เธออายุเท่าไหร่? เธอยังทำท่าทีแบบนี้อยู่อีก เธอรู้รึเปล่าว่าผลที่ตามจากการกระทำของเธอจะเป็นยังไง?”
หลงหยิงชิงยังคงนิ่งเงียบ
“เธอรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากตระกูลลีในเกาหลีได้ยินเรื่องนี้? เราฟังเธอเมื่อตอนที่เธอบอกว่าอยากออกไปจากเกาหลี เรายอมรับเธอเมื่อเธอบอกว่าตัวเองต้องการเรียนในเมืองหลวงจักรพรรดิ และตอนนี้ เธอกลับบ้านมาพร้อมกับผู้ชายแบบนี้นะหรอ?”
บรรยากาศอารมณ์กลายเป็นนิ่งเงียบ การแสดงออกของทุกคนค่อนข้างจริงจังในขณะนี้
หลงหยิงชิงยังคงไม่พูดอะไร
“ญาติสาวตัวเล็กของฉัน ในวันนั้น คุณปู่บอกว่าในอนาคต คำพูดของเธอจะเป็นสิ่งสุดท้ายในตระกูลหลง ดังนั้นแล้วเธอก็เลยคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าตระกูลแล้ว? อย่าไร้เดียงสาให้มากนัก เพียงเพราะเจ้าชายแห่งตระกูลลีเฝ้าฝันถึงเธอ มันก็แคนั้น ไม่ใช่ว่าคุณปู่เกลี้ยกล่อมให้เธอหมั้นกับเขาหรอ?”
“ตอนนี้ เธอให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับคนในตระกูลลีไปแล้ว เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้สามารถรับผลกระทบได้?”
ในที่สุดหลงหยิงชิงก็เปิดปากของเธอ “อย่ามาใส่ร้ายฉัน!”
“ฉันใส่ร้ายเธอ?” ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะ “เธอแม้แต่กระทั่งถูกพาไปที่สถานีตำรวจด้วยซ้ำ แม้ว่าฉันจะกล่าวหาเธอจริงๆ ก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่เกี่ยวข้องเหล่านั้น กล้ากล่าวหาเธออย่างผิดๆ หรือเปล่าล่ะ?”
“ฉันก็คิดไว้แล้วว่าทำไมตำรวจถึงมาปรากฏตัวในทันที”
“งั้นแล้วเรื่องนี้ถูกจัดฉากขึ้น!”
ผู้หญิงคนนั้นกล่าว “มันก็แค่คำพูดปากเปล่า เธอมีหลักฐานรึไง? ไม่ ใช่ไหม? เธอไม่ แต่เรามี ชายคนนั้นเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด”
หน้าของหลงหยิงชิงกลายเป็นบิดเบี้ยว ไม่น่าแปลกใจที่ลุงพาเจียงซิ่วกลับมาด้วยแม้ว่าฉันจะบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขาแล้วก็ตาม พวกเขารอฉันที่นี่อยู่ก่อนแล้ว เจียงซิ่ว ไอชั่ว นายมันเป็นหายนะของฉันจริงๆ
อย่างแรก นายสาดน้ำซุปใส่ฉันที่ห้องอาหาร จากนั้นก็โยนถัง*ติ๊ด*ใส่ฉัน ทำให้ฉันอับอายบนเครื่องบิน ทำให้ถูกกล่าวหาว่าค้าประเวณีในห้องพักของโรงแรม และตอนนี้ก็ยังถูกคนเหล่านี้ใช้เป็นหลักฐาน หายนะที่บรรพบุรุษของฉันพบมา จะแร้ายแรงเท่ากับปีศาจที่ฉัน หลงหยิงชิงพบอยู่รึเปล่า?
“หลงซิ่วหยิน เธอต้องการอะไร?”
หลงหยิงชิงเลิกขึ้นที่สวยงามของเธอขึ้นด้วยความโกรธ
“ฉันต้องการอะไร?”
“เอาหุ้นที่เธอถือครองอยู่ให้ฉัน ครอบครัวของเธอมีความสุขกับผลประโยชน์เหล่านั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นมัถึงเวลาที่จะต้องผลัดเปลี่ยนแล้ว พวกเรามีกันอยู่มากมาย แต่การแบ่งปันผลประโยชน์ครอบครัวของเธอกลับได้สูงกว่าของคนอื่น เธอคิดว่านี่ยุติธรรมไหม?” หลงซิ่วหยินกล่าว
“ถ้าไม่ให้แล้วจะเป็นยังไงหล่ะ?”
“ถ้าเป็นงั้น ข่าวที่ว่าเธออยู่ด้วยกันกับชายที่ไร้หัวนอนปลายเท้าคนนี้ก็จะไปถึงตระกูลลี ตระกูลลีก็จะยกเลิกการหมั้น และเธอคิดว่าปู่สามารถทนการโจมตีจากสิ่งนี้ได้ด้วยสภาพร่างกายปัจจุบันของเขา? ฉันพนันได้เลยว่าเขาจะไม่สามารถทนมันได้ ในกรณีที่เขาเสียชีวิต… เธอคงรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะพูดถึงเรื่องนี้”
ใบหน้าของหลงหยิงชิงกลายเป็นซีดเซียว
“เธอ…”
หลงซิ่วหยินมาอยู่ด้านข้างของหลงหยิงชิงและตบไหล่เธอ “เธอไม่ควรคิดนาน ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นผู้หญิง ตระกูลของคู่หมั้นเธอคือตระกูลลี เนื่องจากเธอจะแต่งงานกับเขาในไม่ช้าก็เร็วนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าทีดื้อดึงอยู่ตลอดเวลาแบบนี้อีกแล้ว ว่าไง?”
หลงหยิงชงสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
เจียงซิ่วได้ยินมันทั้งหมดและเข้าใจสถานการณ์ของหลงหยิงชิง ตระกูลของชนชั้นสูงนั้นไร้ความรัก และน้ำก็ลึกแถมยังขุ่นมัว ตระกูลเจียงเองก็เป็นแบบนี้ และตระกูลหลงอย่างก็เช่นกัน ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงวางแผนที่จะดักสาวน้อยนี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์
ในขณะนี้เอง เจียงซิ่วก็เห็นตัวตนเดิมของเขา ตอนที่เข้าไปในตระกูลเจียงแรกๆ ในตัวของหลงหยิงชิง เจียงซิ่วไม่สนใจที่จะรู้ว่าเธอจะส่งมอบหุ้นให้หรือไม่ ก็ในเมื่อเรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา มันเป็นเรื่องบังเอิญในวันนี้เขาอยู่กับเธอ มันจะเหมือนเดิมถ้าเป็นคนอื่น ดังนั้นเขาจึงไม่มีความรู้สึกผิด
เขาเดินไปที่เก้าอี้แล้วนั่งลง คนใช้เปิดขวดไวน์แดงให้เขาและก็เตรียมเค้กที่เขากินได้ให้อย่างช้าๆ
“คุณค่ะ นายท่านของเราต้องการพูดคุยด้วย!”
“หืมม?”
หลังจากผ่านไปประมาณ 45 นาที ชายวัยกลางคนที่เป็นลุงของหลงหยิงชิงก็เชิญเจียงซิ่วเข้ามาในห้อง ลมและฝนข้างนอกทำให้อากาศชื้นและเย็น ดังนั้น เขาจึงจุดฟืนในห้องเพื่อให้ความร้อนแก่สภาพแวดล้อมนี้
“นั้นลงก่อน!”
เจียงซิ่วนั่งลงอย่างเฉื่อยชา
ชายคนนั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเจียงซิ่ว ในสายตาของเขา เจียงซิ่วเป็นเพียงตัวตนเล็กที่ไม่สำคัญ “หลังจากนั่งเฮลิคอปเตอร์และมาที่ปราสาทยุโรปแบบนี้ เธอคงจะต้องรู้แล้วว่าตระกูลหลงของฉันไม่ใช่ตระกูลธรรมดา”
แน่นอน ตระกูลหลงไม่ใช่ตระกูลธรรมดา
“จริงๆ แล้วมีสิ่งนึงที่ทำให้ฉันค่อนข้างตกใจ นั้นก็คือความแข็งแกร่งทางจิตใจของเธอค่อนข้างสูง”คนธรรมดาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้หลังจากรู้ว่าครอบครัวของแฟนสาวอาศัยอยู่ในวิลล่า และขับรถแข่ง นับประสาอะไรกับการที่ถูกพาตัวมาที่ปราสาทโดยเฮลิคอปเตอร์
เจียงซิ่วยิ้มให้คนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“คุณเรียกฉันมาที่นี่เพื่ออะไร?”
ชายคนนั้นกล่าวต่อ “เธอควรเดาได้แล้ว ดังนั้นฉันคงไม่จำเป็นต้องพูด มันจะทำให้ทุกคนที่มีฐานะอับอายแต่เพียงเท่านั้น มันจะดีกว่าไหมถ้าจากกันไปด้วยความสัมพันธ์ที่ดี? เราไม่สนใจว่าเธอมีความสัมพันธ์กับหลงหยิงชิง เธอสามารถมาหาเราได้หากเธอประสบปัญหาหลังจากนี้ แต่อย่าคิดว่าจะได้อะไรนอกเหนือจากนี้”
“เธอเป็นคนฉลาด ดังนั้นเธอควรรู้ว่าจะต้องทำอะไร”
“เราเป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆ ไม่ พวกเราไม่แม้แต่ถูกมองว่าเป็นเพื่อน…” มันจะแม่นยำกว่าที่จะบอกว่าพวกเขาเป็นศัตรูกัน
ชายคนนั้นหัวเราะ “เป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ได้คุยกับคนฉลาด”
กล่าวได้แบบนี้ เขาหยิบเช็คออกมาแล้วผลักมันไปทางเจียงซิ่วที่อยู่ฝั่งตรงข้างโต๊ะ เจียงซิ่วอยากรู้อยากเห็นจริงๆ ว่าพี่ชายที่รักคนนี้เอาอะไรใส่มา
อย่างไรก็ตาม ขณะมี่เขากำลังจะทำมัน เสียงอันโกรธแค้นก็ดังมาจากด้านหลัง “เจียงซิ่ว ออกมากับฉัน!”
ไม่จำเป็นต้องเดาตัวตนของบุคคลนั้น มันไม่ใช่ใครอื่นนอกซะจากคงงามมหาลัยหลงของเรา เธอไปหาเจียงซิ่ว แต่ก็หาเขาไม่พบ หลังจากถามคนรับใช้ เธอก็พบว่าลุงของเธอเชิญเขาให้ไปพูดคุย ดังนั้นเธอจึงรีบไปยังสถานที่และมองไปที่ฉากปัจจุบัน
ในตอนนี้เอง หลงหยิงชิงคล้ายกับเป็นไดโนเสาร์ที่บ้าคลั่ง สายตาที่เธอจ้องมองไปยังเจียงซิ่วเต็มไปด้วยความดูถูก เกลียดชังและรังเกลียด ทั้งหมดรวมเข้ากับดูถูกครั้งนี้ เธอคว้าแขนของเขา “มากับฉัน”
เจียงซิ่วถูกจับโดยเธอ
หลงหยิงชิงไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเท่านี้มาก่อนตลอดชีวิตของเธอ เมื่อกี้ เขาเอื้อมมือออกไปหยิบเช็คจริงๆ เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายกำลังทำอะไรอยู่ที่นั่น?”
“ลุงของเธอขอให้ฉันไปหาเขาเพื่อพูดคุย ดังนั้นฉันเลยไปคุยกับเขา”
“นายคิดว่าฉันตาบอด? อะไรอยู่บนโต๊ะ?”
“เช็ค!”
หลงหยิงชิงกล่าว “เจียงซิ่วโอ้เจียงซิ่ว แม้ว่าฉันจะคิดว่านายน่ารังเกียจ แต่ฉันก็ชื่นชมความกล้าหาญที่นายแสดงออกมาเมื่อตอนที่นายปกป้องเฉิงหลิงหราน แต่ฉันไม่เคยคาดหวังว่านายจะเป็นคนแบบนั้นเลย ทำไมนายถึงหยิบเช็คขึ้นมา? นายมีคุณสมบัติอะไรที่จะหยิบมาขึ้นมา?”
“คนไร้ยางอาย!”
เจียงซิ่วตอบกลับอย่างบริสุทธิ์ใจ “ลุงของเธอมอบให้ฉัน เมื่อมีคนให้เงินกับเธอ มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ ถูกไหม? การไม่ทำสิ่งนี้สิ ถึงไร้ยางอายจริงๆ”
“นาย…”
การโต้เถียงกับคนอย่างเจียงซิ่ และการพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับศักดิ์ศรี ไม่ได้ดีไปกว่าการเทศนาฟังธรรม
“เจียงซิ่ว ฉันกำลังเตือนนาย ฉันไม่เคยมีความสัมพันธ์กับนายมาก่อน งั้นนายก็อย่าคิดว่าตัวเองจะสามารถใช้ประโยชน์จากตระกูลของฉันได้ นายมีคุณสมบัติอะไรบ้างต้องที่หยิบเช็คนั้นขึ้นมา? ตั้งแต่ที่ข้างนอกฝนตก ฉันจะไม่ขอให้นายออกไป แต่พรุ่งนี้อากาศจะแจ่มใส และนายก็สามารถออกไปจากนรกนี้ได้ อย่าปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก! นายเข้าใจไหม? หรือถ้าไม่นายอย่าเดาเลยว่าฉันจะทำอะไร”
ไออ้านี่คือกรรมของฉัน มันจะดีกว่าถ้าให้เขาออกไปไกลๆ เท่าที่จะทำได้
“หลังจากทั้งหมดแล้ว เราก็เป็นคนแปลกหน้าที่มาพบกันด้วยความบังเอิญ ฉันจะออกไปพรุ่งนี้เช้า โอเคไหม? ยังไงก็เถอะ ฉันหมดตัวแล้ว ดังนั้นมันจะดีมาก หากเธอให้ฉันยืมเงินสักสองสามร้อยยูโร”
ปิส!
คนงามหลงเกือบจะออกเจียนออกมาเป็นเลือด!