Girl, I’ll Teach You Cultivation – ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - ตอนที่ 248
บทที่ 248
มาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เนื่องจากการระเบิด นอกเหนือจากหน้าต่าง ดูเหมือนว่ารถทั้งคันจะได้รับผลกระทบทั้งหมด หลังจากขับไปได้ประมาณ 10 กิโลเมตร มันก็สั่นอย่างรุนแรง จากนั้นก็ก่อเกิดควันขึ้น หลงหยิงชิงพยายามบิดกุญแจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไร้ประโยชน์ เธอส่ายหัวอย่างไม่สามารถทำอย่างไรได้ไปให้เจียงซิ่ว “รถสตาร์ทไม่ติด”
เธอเปิดประตูออกไป กระโดดออกจากรถอย่างงดงาม จากนั้นก็เปิดฝากระโปรงรถ ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ค่อยรู้เรื่องรถยนตร์มากนัก แต่เธอก็ไม่ต้องการทำให้ผิดแผน เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก
ใบหน้าที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
ในวันนี้เธอสวมเสื้อแดง ซึ่งคู่กับกางเกงยีนส์สีดำ มันได้ขับเน้นก้นและเอวของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมทั้งยังมีเรียวขาที่สง่างามของเธอก็ถูกมันขับเน้นออกมาเหมือนกัน ก็นเมื่ออโกล์อากาศค่อนข้างหนาวเย็น เธอเลยใส่เสื้อขนสัตว์สีขาวคอสูงไว้ด้านใน สีแดงดำสดใสตัดกับสีขาวด้านใน ส่งผลทำให้เสน่ห์ที่ไม่อาจหาเปรียบที่ใดได้ขับเน้นออกมาจากตัวเธอ
เธอปิดฝากระโปรงด้วยความโกรธ “เครื่องยนต์เสียแล้ว!”
ในคราวนี้ ถ้าหลงหยิงชิงต้องการเธอก็จะสามารถหลอกลวงเขาได้โดยสมบรูณ์ เจียงซิ่วเป็นคนจนในชีวิตก่อนหน้านี้ จากนั้นเขาก็ย้ายไปยังทวีปการต่อสู้นิรันดร์ ดังนั้นเขาจึงมีจุดบอดมากมายในช่วงชีวิตนี้ ตัวอย่างเช่น เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการซ่อมรถยนต์
มีคนไม่กี่คนที่จะมาในอโกลล์ และพวกเขาก็ยังอยู่ห่างไกลออกไปจากเมือง พวกเขาติดอยู่ตรงกลางโดยที่ไม่มียานพาหนะใดๆ ผ่าน มันค่อนข้างลำบากเล็กน้อย
“ฉันผิดเอง!” เจียงซิ่วพูด
เพื่อออมพลังไว้ เขาเลยไม่ได้ต่อต้านแรงระเบิดเกิดขึ้นเนื่องจากกามิสไซ และปล่อยให้มันเข้ามากระแทกรถได้ เขาเสียใจมากที่เขาไม่ได้หลีกเลี่ยงมันโดยการทำให้รถบินขึ้น ก็ในเมื่อเขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้
หลงหยิงชิงรู้สึกงงงันหลังจากได้ยินสิ่งนี้ เธอขมวดคิ้ว “นายหมายถึงอะไร?”
“ฉันไม่ผิดหรือไง ที่ต้องทำให้หญิงสาวที่งดงามต้อมมายืนอยู่ข้างถนนแบบนี้ และต้องยังมาอดทนกับลมหนาว แสงแดดก็เหมือนกัน แบบนี้มันไม่ได้เรียกว่าไร้มนุษย์ธรรมเกินไป? มันเป็นความผิดพลาดร้ายแรง”
หลงหยิงชิงไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หัวเราะ เธอไม่ได้คาดหวังว่าบุคคลผู้ย็นชาอย่างเจียงโหลวเซี่ยจะมาหยอกล้อเธอแบบนี้ หัวใจของเธอดูเหมือนจะหวั่นไหวไปชั่วขณะหนึ่ง “นายมันเลว!”
หลงหยิงชิงมองเข้าไปในรถ และพบขวดน้ำแร่อยู่ด้านใน เธอหยิบมันออกมา และส่งไปให้กับเจียงซิ่ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้ผ่อนคลายมากขึ้นในเวลานี้เอง “ไม่ต้องกังวล ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาพุ้มลาเบลในอโกลล์นี้ ซึ่งตรงนั้นมันเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แม้ว่ามันจะค่อนข้างไกล แต่มันคนก็ไปชมดูมันอยู่มากมายไม่ขาดสาย”
“คงไม่มีใครมาในเร็วๆ นี้ได้แน่”
สายตาของเจียงซิ่วและการได้ยินที่ถูกยกไปอีกระดับนึง ไม่มีรถคันใดมาทางนี้
“คงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ!”
โดยธรรมชาติแล้ว มันอาจจะเป็นไปได้ถ้าที่จะโทรหาใครสักคนให้มารับพวกเขา แต่พวกเขาเดินทางมา 4-5 ชั่วโมงแล้ว มันต้องใช้เวลาที่เท่ากันเพื่อให้บางคนมารับ
เจียงซิ่วจ้องมองเธอ เขาพบว่าหญิงสาวนางนี้ดูงดงามเมื่อตอนที่เธอไม่ได้แสดงความหยิ่งออกมา โดยเฉพาะอย่างความงดงามของเธอจะทวีคูณมากขึ้นเมื่อตอนเธอกำลังอาย ผิวที่ขาวซีดของเธอดูอ่อนโยนขึ้น
หลงหยิงชิงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เมื่อตอนที่เห็นเขาจ้องมองมายังเธอ เธอม้วนผมของเธอไว้ข้างหลังหู ไม่มีใครอยู่ที่นี่ มีแค่เธอและเขาเท่านั้น เมื่อกี้เจ้านี้หยอกล้อเราด้วย หรือว่าเขาจะ… เธอหน้าแดง เมื่อเธอคิดถึงสิ่งนี้ สิ่งนี้ส่งผลทำให้หน้าอกของเธอดูกระชับขึ้น (หลังตั้งตรง)
“ฉันจำได้เธอแข็งแกร่ง และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญเทควันโดสายดำ?”
หลงหยิงชิงตอบอย่างกระดากขี้อาย “ก็แค่สายดำ ฉันไม่ต่างจากเด็กเมื่ออยู่ต่อหน้านาย” ตอนนี้เธอกลายเป็นกังวล จะทำยังไงดี? ถ้าเขาใช้กำลังล่ะ? ความแข็งแกร่งของฉันไม่แม้แต่จะใกล้เคียงเขาเลย เขาจะลงมือทำลายความบริสุทธิ์ของฉันหรอ?
เธอบีบขวดด้วยความประหม่า ส่งผลทำให้มันเปลี่ยนรูปร่าง
“ความแข็งแกร่งของเธอน่าจะพอ ไปดันรถ เดี๋ยวฉันจะลองไปบิดกุญแจดู…”
ดวงตาที่สวยงามของหลงหยิงชิงเกือบจะโผล่ออกมา นายเป็นผู้ชายอยู่ไหม?! นายจะยังอารมณ์ที่จะไปนั่งในรถ และให้สาวน้อยอย่างฉันไปดันรถเนี่นะ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันจะมีความสุขมาก ถ้านายทำสิ่งนี้แทนฉัน
ไม่แปลกใจเลยที่นายทำดีกับฉันมาก และยังมีหยอกล้อฉันอีก กับดักของนายเพื่อสิ่งนี้เอง นาย… ไอชั่ว ฉันควรจะนึกนิสัยของนายออกตั้งแต่ก่อนหน้านี้ นายมันไอ้ปืนเกลี้ยว
แต่หลังจากนึกได้ว่าเขาก็คือเจียงโหลวเซี่ย เธอก็ทำได้แต่ตกลงเท่านั้น “โอเค”
ความแข็งแกร่งของเทควันโดสายดำที่นายหญิงหลงได้มา เป็นการประเมินตามทักษะที่เธอมีจริงๆ มันทรงพลังมากและยังดุร้าย เจียงซิ่วพยายามสตาร์ทรถอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับรถยนต์ แต่เขาก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้เรื่องราวโดยสมบรูณ์ มันมีให้ดูในละครตามทีวีบ่อยๆ การสตาร์ทแต่ละครั้งต่างกันออกไปนิดหน่อย เครื่องกำลังพยายามทำให้ตัวเองติดขึ้นมา
หลงหยิงชิงเดินเข้ามา “เจียงซิ่วทำไมนายไม่ไปขับรถ ฉันจะลองเอง!”
เจียงซิ่วดันสัญญากับเธอจริงๆ “เอาล่ะ งั้นเธอนั่ง และฉันจะไปผลักมัน!”
หลงหยิงชิงรู้สึกเหมือนกับว่าคำพูดของชายคนนี้มีความหมายอื่นแฝงอยู่ นี้ส่งทำให้ใบหน้าของเธอกลายเป็นแดงก่ำ เธอสาปแช่งเขาอยู่ภายใน คนขี้โกง หลังจากที่ไล่เขาออกไปเร็วๆ เธอก็คิดว่าวิธีการนี้อาจจะเป็นการป้องกันในบางเรื่อง ตามที่ผู้เชี่ยวชาญงี่เง่าบางคนได้เคยกล่าวไว้ หากผู้หญิงอยู่กับผู้ชายและหากพวกเธอค้นพบว่าความคิดของตัวเองลอยไปในทิศทางนั้น มันก็หมายความว่าเธอชอบเขา
อ๋า หลงหยิงชิง เธอไม่ได้หลงรักเขา ใช่มั้ย?
เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้แน่!
เขาน่ารำคาญ และยังชอบข่มขู่คนไปทั่ว เขาเองก็ยังข่มขู่ตระกูลหลงด้วยเหมือนกัน ฉันจะไปชอบเขาได้ยังไง? อันที่จริงแล้ว ผู้หญิงที่หยิ่งผยองเช่นเธอทุกคนย่อมต้องปรารถนาที่จะพิชิตหัวใจของเขา เธอเพิ่งตระหนักว่าทั้งจิตใจและจิตวิญญาณของเธอ ถูกพิชิตแล้วโดยเจียงซิ่วแล้ว และในจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุดของเธอ เธอต้องการให้ร่างกายของเธอถูกพิชิตเช่นกัน
เจียงซิ่วดันรถ ในขณะที่หลงหยิงชิงพยายามสตาร์ทรถอยู่หลายครั้ง แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เป็นไปได้ว่าเครื่องยนต์อาจจะมีปัญหาจริงๆ
พวกเขาทำได้แค่รอให้รถผ่านมา!
“นายมีเงินไหม?” หลงหยิงชิงถามเขา
“เธอคิดว่าฉันต้องพกเงินติดตัวออกไปข้างนอกไหมล่ะ?” เจียงซิ่วตอบเธอ
หลงหยิงชิงดูเศร้าสลด เธอทำได้แค่ยกมือขึ้นและขอนั่งฟรีแต่เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รถก็เร่งความเร็วหนีไปอย่างไรหัวใจเมื่อตอนที่มันเห็นพวกเขา
ในฐานะเจ้าหญิงของตระกูล เธอเองก็ไม่ได้พกเงินติดตัวเช่นเดียวกัน
พวกเขาใช้เวลา 30 นาทีในการพยายามเดินไปตมเส้นทางของภูเขา ในขณะเดียวกันก็มีรถยนต์มากกว่า 10 คันผ่านไป แต่ก็ไม่มีแม้แต่คันเดียวที่จะจอดรับพวกเขา เจียงซิ่วขมวดคิ้ว หากรถคันต่อไปไม่หยุด เขาวางแผนที่จะใช้กำลังเพื่อครอบครองมัน
รถคันต่อไปคือเบนซ์ออฟโรดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มันเข้ามาจอดข้างๆ ในทิศทางของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะได้ยกนิ้วซะอีก หลังจากลดหน้าต่างลง ใบหน้าของหญิงสาวชาวจีนที่งดงามก็โผล่ออกมา “เฮ้ คุณเป็นคนจีนเหรอ?”
“ใช่แล้ว!” หลงหยิงชิงกล่าว “รถยนต์ของเราเสีย คุณช่วยรับเราขึ้นไปได้ไหม?”
“แน่นอน” หญิงสาวตอบ
หลงหยิงชิงกลายเป็นหึกเฮิม และยังทำหน้าใหญ่ให้เจียงซิ่วดูเล็กน้อย เป็นไงเล่า ฉันสามารถหยุดรถได้ หลังจากนั้น เธอก็เปิดประตูหลังออกและเข้าไปข้างใน
ภายในรถดูค่อนข้างกว้างขวาง และดูเหมือนว่าจะเป็นคันที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ภายในรถมีเพียงสองคน อีกคนเป็นผู้ชายที่สวมแว่นกันแดด ความประทับใจที่มีต่อเขาเช่นเดียวกับบุคคลที่ทำงานเป็นพนักงาน เขาดูมีสีหน้าที่เฉื่อยชา
หญิงสาวดูอายุประมาณ 20 ปี และค่อนข้างงดงาม ด้วยใบหน้าของชาวต่างประเทศ สายตาของเธอตกลงไปยังเจียงซิ่ว “คนหล่อ นายก็กำลังจะไปสนุดที่ภูเขาพุ้มลาเบลเหมือนกันใช่ไหม?”
“ไปสนุก? ใช่ ฉันจะไปสนุก!” เจียงซิ่วตอบกลับ
หญิงสาวถาม “นายมาที่อโกลล์เป็นครั้งคราว หรืออยู่ที่นี่มาตลอดทั้งปีแล้ว?” ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจเจียงซิ่วมาก
ใบหน้าของผู้ชายเริ่มดูข่มอมเปรี้ยว “หยิงน้อย ทำไมเธอถึงถามมากมาย?”
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่า หยิงน้อย ตอบกลับ “ก็ฉันอยากถาม!”
“นายควรโฟกัสไปที่การขับรถเถอะ คนหล่ออย่าไปสนใจเขาเลย แล้วคำตอบคืออะไรล่ะ?”
“ฉันมาที่อโกลล์เป็นครั้งคราว …”
หยิงน้อยพูดคุยกับเจียงซิ่วอย่างกระตือรือร้น เธอคนนี้เป็นหญิงสาวที่หน้าตาค่อนข้างสวยในหมู่คนทั่วไป แต่เธอก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมากมาย เมื่อเปรียบเทียบกับหญิงสาวทุกคนที่เจียงซิวคุ้นเคย
สายตาของเธอตกลงไปยังหลงหยิงชิง และพบว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก มันมากพอที่จะทำให้ทุกคนในโลกรู้สึกประหลาดใจ “ว๊าว ช่างเป็นผู้หญิงที่งดงามอะไรแบบนี้ เจียงซิ่ว เธอเป็นแฟนของนายเหรอ?”
เจียงซิ่วกล่าว “ไม่! เราเป็นแค่… เป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นธรรมดา!”
หลงหยิงชิงไม่ได้ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับมัน เธอดูกำลังมองดูหยิงน้อยที่ทำทุกอย่างเพื่อหยอกล้อเจียงซิ่ว หยิงน้อยกล่าว “นายมีแฟนแล้วหรือยัง?”
เจียงซิ่วกล่าวว่า “ฉันไม่มีแฟน!”
หลงหยิงชิงเยาะเย้ย นายสนิทสนมกับเฉิงหลิงหรานมาก เธอจะเป็นอะไรได้ ถ้าไม่ใช่เป็นแฟนของนาย? ท้ายที่สุดแล้ว นายก็ยังเป็นผู้ชาย มองผู้หญิงสวยๆ หน่อยก็โผล่หางออกมาแล้ว
หยิงน้อยถาม “อย่ามาล้อเล่นนา ทำไมนายถึงยังไม่มีแฟน ก็ในเมื่อนายหล่อมากขนาดนี้”
เจียงซิ่วตอบด้วยรอยยิ้ม
สิ่งหนึ่งที่ควรสังเกต ก็คือหน้าตาของเขาในปัจจุบันนี้ช่างดูแปลกพิกล ตอนนี้เขาคือเทพเจ้า และโดยธรรมชาติแล้วตามปกติเขาจะต้องถูกบูชา นอกเหนือจากสายตาเขาที่ยังปกติอยู่ ทุกอย่างของเขาก็ดูคล้ายกับเทพเจ้าโบราณ และหล่อเกินไปที่จะมีเพื่อน
มันอาจเป็นไปได้ว่าหลงหยิงชิงอาจจะไม่ชอบการถูกล้อ ใบหน้าของเธอจึงดูไร้อารมณ์
หลังจากนั่งรถนานมา 3 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงภูเขาพุ้มลาเบล ในตอนที่เจียงซิ่วและหลงหยิงชิงเตรียมจะลง หยิงน้อยถามพวกเขาว่า “พวกเราจะไปด้วยกันไหม? จะได้ไปสนุกกับคนเยอะๆ กว่านี้…”
เจียงซิ่วส่ายหัว “ขอโทษด้วย แต่เรามีธุรกิจอื่นที่ต้องทำ ขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของเธอ ฉันขอคำแนะนำ สถานที่นี้ไม่ปลอดภัย ออกห่างไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ตาย”